ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยโสธราเถรี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
== พระประวัติ ==
== พระประวัติ ==
=== พระชนม์ชีพช่วงต้น ===
ยโสธราเป็นพระราชธิดาใน[[พระเจ้าสุปปพุทธะ]]แห่งโกลิยะ<ref>{{cite web|url=http://members.tripod.com/~suttanta/khuddhaka/dhammapada/dha105.html |title=IX:12 King Suppabuddha blocks the Lord Buddha's path |publisher=Members.tripod.com |date=2000-08-13 }}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.tipitaka.net/tipitaka/dhp/verseload.php?verse=128 |title=Dhammapada Verse 128 Suppabuddhasakya Vatthu |publisher=Tipitaka.net }}</ref> กับพระนางอมิตาแห่งสักกะ มีพระเชษฐาพระองค์หนึ่งนามว่า[[พระเทวทัต]]<ref>{{cite journal | journal=Chung-Hwa Buddhist Journal|issue=17|date=2004| publisher=Chung-Hwa Institute of Buddhist Studies|issn=1017-7132 |url=http://www.chibs.edu.tw/ch_html/chbj/17/chbj1709.htm | title=''In-laws of the Buddha as Depicted in Pāli Sources''| author=K.T.S. Sarao}}</ref><ref>{{cite web | url=http://www.palikanon.com/english/pali_names/s/suppabuddha.htm|title=Suppabuddha|work=Dictionary of Pali Names}}</ref> พระชนกเป็นพระราชโอรสใน[[พระเจ้าอัญชนะ]]แห่งโกลิยะ<ref>{{cite web|url=http://www.palikanon.com/english/pali_names/ku/koliyaa.htm |title=Koliyā |publisher=Palikanon.com }}</ref> ส่วนพระชนนีเป็นพระขนิษฐาของ[[พระเจ้าสุทโธทนะ]]แห่งสักกะ พระชนกและพระชนนีเป็นเครือญาติกัน สืบสันดานมาแต่[[พระเจ้าโอกกากราช]] (Okkākarāj)<ref name="ประตู">{{cite web|url= http://www.dharma-gateway.com/buddha/buddha-misc/bd-misc-16.htm |title= ศากยวงศ์ |author= พระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ |date=|work= ประตูสู่ธรรม |publisher=|accessdate= 16 กรกฎาคม 2560}}</ref><ref name="พุทธะ">{{cite web|url= https://www.phuttha.com//พระพุทธเจ้า/ปฐมบทเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า/พระญาติฝ่ายพระพุทธบิดาและพระพุทธมารดา |title= พระญาติฝ่ายพระพุทธบิดาและพระพุทธมารดา |author=|date= 2553 |work= พุทธะ |publisher=|accessdate= 16 กรกฎาคม 2560}}</ref><ref name="พุทธะ1">{{cite web|url= https://www.phuttha.com//พระพุทธเจ้า/ปฐมบทเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า/แคว้นสักกะและศากยวงศ์ |title= แคว้นสักกะและศากยวงศ์ |author=|date= 2553 |work= พุทธะ |publisher=|accessdate= 17 กรกฎาคม 2560}}</ref> โดยตระกูลสักกะและโกลิยะจะสมรสกันระหว่างสองตระกูลเท่านั้น<ref>[https://web.archive.org/web/20070209234644/http://www.vri.dhamma.org/publications/webversion/english/sakyakol.html Why was the Sakyan Republic Destroyed? by S. N. Goenka] (Translation and adaptation of a Hindi article by [[S. N. Goenka]] published by the Vipassana Research Institute in December 2003, archived)</ref> ดอนัลด์ เอส. โลเปซ (Donald S. Lopez) ศาสตราจารย์ด้านพุทธศาสนาและทิเบตศึกษา และริชาร์ด เอฟ. กอมบริช (Richard F. Gombrich) นักภารตวิทยาและนักวิชาการด้านภาษาบาลี-สันสกฤตและพุทธศึกษา อธิบายว่าช่วงเวลานั้นอิทธิพลของ[[พระเวท]]ไม่น่าจะเข้าถึงแคว้นทั้งสอง รวมทั้งการเสกสมรสในหมู่เครือญาตินั้นเป็นเรื่องต้องห้ามของสังคม[[อารยัน]] ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าตระกูลทั้งสองนี้อาจมิได้สืบเชื้อสายชาวอารยัน<ref name="ศิลปะ">{{cite web|url= https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_289 |title= พุทธประวัตินอกกระแส (ในไทย): “สิทธัตถะ” เกิดในสังคมแบบชนเผ่า ไม่ได้ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ |author= อดิเทพ พันธ์ทอง |date= 20 พฤษภาคม 2559 |work= ศิลปวัฒนธรรม |publisher=|accessdate= 17 กรกฎาคม 2560}}</ref>

ยโสธราเป็นหนึ่งในเจ็ดมนุษย์ สัตว์ และสิ่งของที่เกิดวันเดียวกับ[[สิทธัตถะ โคตมะ]]เรียกว่าสหชาติ 7 ได้แก่ นางยโสธราหรือพิมพา [[พระอานนท์]] นาย[[ฉันนะ]] อำมาตย์[[กาฬุทายี]] [[ม้ากัณฑกะ]] ต้น[[พระศรีมหาโพธิ์]] และขุมทรัพย์ทั้งสี่<ref>{{cite web|url= http://www.crs.mahidol.ac.th/thai/buddhist16.htm |title= เกิดเหตุอันอัศจรรย์ เกิดสหชาติทั้ง 7 ในกาลประสูติมีอะไรบ้าง |author=|date= |work= วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล |publisher=|accessdate= 2 มิถุนายน 2562}}</ref><ref>{{cite web|url= https://www.phuttha.com//พระพุทธเจ้า/ประสูติ/สหชาติทั้ง-๗ |title= สหชาติทั้ง ๗ |author=|date= 18 ธันวาคม 2552 |work= พุทธะ |publisher=|accessdate= 2 มิถุนายน 2562}}</ref>

กล่าวกันว่ายโสธรามีพระสิริโฉมงดงาม มีพระสรีระและผิวพรรณงามดุจทองคำชั้นดีที่สุดจึงมีพระนามว่า'''ภัททากัจจานา''' แม้เจ้าหญิงรูปนันทาซึ่งเป็นพระญาติจะทรงงามจนได้สมญาว่าชนบทกัลยาณี ก็ยังงามไม่เทียมเท่า<ref name="ประตู1">{{cite web|url= http://www.dharma-gateway.com/bhikunee/pra-phatta-kajana.htm |title= ประวัติพระภัททากัจจานาเถรี เอตทัคคผู้ได้บรรลุอภิญญาใหญ่ |author=|date=|work= ประตูสู่ธรรม |publisher=|accessdate= 2 มิถุนายน 2562}}</ref>

=== เสกสมรส ===
=== เสกสมรส ===
[[ไฟล์:The newly married couple, Princess Yasodhara and Bodhisatta Wellcome L0030759.jpg|thumb|right|ภาพพระราชพิธีเสกสมรส ศิลปะพม่า]]
[[ไฟล์:The newly married couple, Princess Yasodhara and Bodhisatta Wellcome L0030759.jpg|thumb|right|ภาพพระราชพิธีเสกสมรส ศิลปะพม่า]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:58, 5 มิถุนายน 2563

พระประวัติ

เสกสมรส

ภาพพระราชพิธีเสกสมรส ศิลปะพม่า

ยโสธราเสกสมรสกับสิทธัตถะขณะพระชันษา 16 ปี และได้ประสูติกาลพระโอรสพระองค์แรกและพระองค์เดียวคือราหุล ขณะมีพระชันษา 29 ปี ซึ่งช่วงเวลานั้นสิทธัตถะกำลังตัดสินพระทัยออกบวช หลังพบเทวทูต 4 พระเจ้าสุทโธทนะนำข่าวพระกุมารประสูติใหม่มาแจ้งให้ทราบ สิทธัตถะทรงอุทานออกมาว่า "ราหุลํ ชาตํ พนฺธนํ ชาตํ" แปลว่า "บ่วงเกิดขึ้นแล้ว พันธนาการเกิดขึ้นแล้ว" ทั้ง ๆ ที่พระองค์กำลังตัดห่วงอาลัยอื่นแล้ว แต่กลับมีห่วงใหม่ขึ้นมาผูกมัดมิให้พระองค์ออกผนวช[1]

คืนหนึ่งสิทธัตถะลอบเสด็จออกจากพระราชวังในยามวิกาลเพื่อออกผนวชหลังราหุลประสูติเพียง 7 วัน ครั้นรุ่งสางยโสธราเศร้าโศกพระทัยยิ่งที่สวามีหายออกไป ฝ่ายพระเจ้าสุทโธทนะและยโสธราก็เพียรติดตามข่าวสิทธัตถะอยู่เสมอด้วยความรักและนับถือ เมื่อยโสธราทรงทราบว่าสิทธัตถะได้ออกไปแสวงหาสัจธรรมเพื่อตรัสรู้ พระองค์จึงทรงดำเนินพระชนมชีพอย่างเรียบง่ายตามอย่างสิทธัตถะ[2] ยโสธราเมื่อได้ทราบข่าวพระสวามีว่าทรงนุ่งผ้าย้อมน้ำฝาด ก็ทรงนุ่งผ้าย้อมน้ำฝาดบ้าง ทราบว่าพระสวามีเสวยภัตตาหารหนเดียว พระนางก็เสวยพระกระยาหารเพียงหนเดียว ทราบว่าพระสวามีทรงละที่นอนใหญ่ ก็ทรงเอาผ้าปูนอนบนพระแท่นบรรทมขนาดน้อย ทราบว่าพระสวามีเว้นจากเครื่องหอมและดอกไม้ พระนางก็เว้นจากเครื่องหอมและดอกไม้ จนกระทั่งสิทธัตถะบรรลุโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า[3]

ออกบวช

ยโสธราขณะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ศิลปะไทย

หลังพระโคตมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว พระเจ้าสุทโธทนะจึงทูลเชิญให้พุทธองค์เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์ สองปีหลังการตรัสรู้จึงเสด็จไปยังกบิลพัสดุ์ ช่วงแรกยโสธรามิได้ออกไปต้อนรับพุทธองค์ พระพุทธเจ้าจึงถือบาตรเสด็จไปหายโสธรา เมื่อยโสธราเห็นเช่นนั้นจึงรีบเสด็จไปหาพุทธองค์ ทรงจับข้อพระพุทธบาททั้งสองเกลือกบนพระเศียรแล้วถวายบังคม โดยพระพุทธเจ้าทรงตรัสเล่าเรื่องจันทกินรีชาดกจนนางยโสธราบรรลุโสดาปัตติผล[3] ต่อมาจึงให้ราหุลตามเสด็จพุทธองค์ และออกบวชเป็นสามเณรรูปแรกในพุทธศาสนาขณะอายุ 7 ขวบ[4]

ครั้นพระเจ้าสุทโธทนะนิพพานในเศวตฉัตร และพระเจ้ามหานามะขึ้นเสวยราชสมบัติแทน พระนางมหาปชาบดีโคตมีพร้อมด้วยหญิงอีก 500 คนออกบวชเป็นภิกษุณี ต่อมายโสธรามีพระประสงค์ที่จะบวชเป็นภิกษุณีบ้าง เพราะไม่มีกิจอันใดในพระราชวังแล้ว พระมหาปชาบดีโคตมีจึงทรงบวชให้ตามพระประสงค์มีนามว่า "พระภัททากัจจานาเถรี" ขณะบวชก็ทรงบำเพ็ญเพียร เจริญวิปัสสนา เพียงครึ่งเดือนก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าจึงทรงแต่งตั้งให้พระภัททากัจจานาเถรีเป็นเอตทัคคะด้านอภิญญาใหญ่ เพราะสามารถระลึกชาติได้ถึงอสงไขยหนึ่งกับอีกแสนกัปเพียงครั้งเดียว[3]

นิพพาน

พระภัททากัจจานาเถรีนิพพานในพรรษาที่ 43 แห่งพระผู้มีพระภาค ขณะมีพระชนมายุได้ 78 พรรษา ก่อนที่พระนางจะนิพพาน พระนางได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยได้แสดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ และขอขมาในการล่วงเกินพระผู้มีพระภาคเจ้า ทั้งทางกาย วาจา ใจ ในครั้นเมื่อใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหลายกัปในกาลก่อน แล้วทูลลาเสด็จสู่พระนิพพาน[3]

อ้างอิง

  1. "สมุดภาพพระพุทธประวัติ ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนาโดยครูเหม เวชกร ภาพที่ ๑๐ ทรงสรงสนานน้ำในสระ ราชบุรุษไปทูลว่า พระนางพิมพาประสูติพระโอรสแล้ว". 84000.org. 28 ตุลาคม 2545. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. "The Compassionate Buddha". Geocities.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-21. สืบค้นเมื่อ 2009-09-23.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ ประตู1
  4. "สามเณรราหุล". ธรรมะไทย. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น