ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์"
Jadenarong (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 250: | บรรทัด 250: | ||
* [http://www.thaihoo.com/Olympiad/APhO/APhO4/thai/profile_thai.htm thaihoo.com ชีวประวัติ] |
* [http://www.thaihoo.com/Olympiad/APhO/APhO4/thai/profile_thai.htm thaihoo.com ชีวประวัติ] |
||
* [http://www.hrh84yrs.org สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์] |
* [http://www.hrh84yrs.org สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์] |
||
* [http://www1.matichonmultimedia.com/~matichon/news_detail.php?id=15408 พระอัจฉริยภาพด้านการประพันธ์ ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ] |
|||
* [http://www1.matichonmultimedia.com/~matichon/news_detail.php?id=15402 ประมวลพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ] |
|||
{{รางวัลนราธิป}} |
{{รางวัลนราธิป}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:19, 3 มกราคม 2551
บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตามสถานการณ์ การแก้ไขล่าสุดบนหน้านี้อาจไม่ได้แสดงข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่สุด |
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ | |
---|---|
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ | |
พระนามเต็ม | ศาสตราจารย์ พลเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง พลเรือเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ |
ประสูติ | 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 |
สิ้นพระชนม์ | 2 มกราคม พ.ศ. 2551 |
พระบิดา | สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก |
พระมารดา | สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี |
พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้า
|
ศาสตราจารย์ พลเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง พลเรือเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ประสูติ: 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 ณ กรุงลอนดอน [1] สิ้นพระชนม์: 2 มกราคม พ.ศ. 2551 เวลา 02.54 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร สิริพระชนมายุ 84 พรรษา) ทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา)
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจมากมายแก่ประเทศชาติ เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีโครงการในพระอุปถัมภ์หลายร้อยโครงการ ทั้งด้านการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การแพทย์และการสาธารณสุข การต่างประเทศ การศาสนา และอื่น ๆ ทั้งนี้พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการเขียน ด้านการกีฬา และด้านการถ่ายภาพ
พระประวัติ
พระประสูติกาล
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ[2] เป็นพระธิดาพระองค์แรกใน สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระนามแรกประสูติตามที่โรงพยาบาลตั้งถวาย คือ May ซึ่งเป็นเดือนที่พระองค์ประสูติ ต่อมา เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามว่า หม่อมเจ้าหญิงกัลยาณิวัฒนา มหิดล (คำว่า "วัฒนา" ในพระนาม ทรงตั้งตามพระนามาภิไธยของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี) หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณิวัฒนา[3]
การศึกษา
ในปี พ.ศ. 2469 สมเด็จพระบรมราชชนกเสด็จพร้อมด้วยครอบครัวมหิดลไปยัง บอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสมเด็จพระบรมราชชนกทรงศึกษาวิชาการแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ณ ที่นั้น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงเข้าศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียนพาร์ค (Park School) หลังจากสมเด็จพระบรมราชชนกทรงสำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์แล้ว ทรงนำครอบครัวกลับประเทศไทย และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก็ทรงเข้ารับการศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนราชินี
จนกระทั่ง เกิดเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 นั้น สมเด็จพระราชชนนีได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการที่จะทรงนำพระโอรส และพระธิดาไปประทับที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จึงทรงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเมียร์มองต์ (Miremont) จนจบระดับประถมศึกษา หลังจากนั้น สมเด็จพระราชชนีได้ย้ายมาพักที่เมืองปุยยี โดยพระองค์ทรงศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสตรีชื่อ École Supérieure de Jeunes Filles de la Ville de Lausanne ณ ที่นั้น พระองค์ได้เรียนภาษาเยอรมันและภาษาละตินด้วย ต่อมา ทรงย้ายมาเรียนที่ International School of Geneva ณ กรุงเจนีวา ทรงสอบผ่านชั้นสูงสุดของระดับมัธยมศึกษาเป็นที่ 1 ของโรงเรียน และที่ 3 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากนั้น พระองค์ทรงเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยโลซานน์ ในระหว่างนั้น พระองค์ก็ทรงศึกษาหลักสูตรของสังคมศาสตร์ Diplime de Sciences Sociales Podagogiques อันประกอบด้วยวิชาต่าง ๆ ในสาขาวิชาการศึกษา วรรณคดี ปรัชญา และจิตวิทยา ด้วย เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตร์ สาขาเคมีซึ่งพระองค์ทรงได้รับ Diplôme de Chimiste A พระองค์ยังคงศึกษาวิชาวรรณคดีและปรัชญาต่อไปอีกด้วยความสนพระหฤทัย[4]
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ คณะรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรจึงได้อัญเชิญเสด็จพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันมหิดลขึ้นทรงราชย์สืบพระราชสันตติวงศ์พระนามว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณิวัฒนา ในฐานะที่ทรงเป็นพระราชโสธรเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลจึงประกาศเฉลิมพระเกียรติยศขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2478[5] [6]
ทรงเสกสมรส
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการเสกสมรสแห่งเจ้านายในพระราชวงศ์[7] เพื่อสมรสกับ พันเอก อร่าม รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ เมื่อ พ.ศ. 2487[6] พระองค์มีพระธิดา คือ ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม (สมรสกับนายสินธู ศรสงคราม มีบุตรชาย คือ คุณจิทัศ ศรสงคราม
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นครองราชย์ ด้วยทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงว่า พระพี่นางกัลยาณิวัฒนาทรงเป็นพระโสทรเชษฐภคินีอันสนิทและทรงมีอุปการคุณแด่พระองค์ ดังนั้น พระองค์จึงมีพระราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาพระเจ้าพี่นางกัลยาณิวัฒนากลับทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ตามเดิมทุกประการ[8]
ต่อมา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงเสกสมรสอีกครั้งกับ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช (พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย และหม่อมระวี ไกยานนท์)
ทรงกรม
ในวโรกาสสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงเป็นพระโสทรเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึง 2 พระองค์ ด้วยทรงรับราชการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์มาโดยลำดับ รวมทั้ง ทรงเป็นที่รักเทิดทูนของปวงชนชาวไทยทั่วไป[9] จึงมีพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฎว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์[10] ซึ่งนับเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายในที่ได้รับการสถาปนาเป็นพระองค์แรกในรัชกาล โดยมีการพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยศักดิ์และบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุ 6 รอบ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ภายในพระบรมมหาราชวัง
ทรงเจริญพระชันษาครบ 84 ปี
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ทรงเจริญพระชันษาครบ 84 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกุรณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชันษา 84 ปี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นอกจากนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ได้จัดทำนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน โดยใช้ชื่อนิทรรศการว่า แสงหนึ่งคือรุ้งงาม[11]
สิ้นพระชนม์
ในวันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2551 เวลา 02.54 น. สิ้นพระชนม์ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช หลังจากเข้ารับการรักษาพระองค์จากโรคมะเร็งและอาการพระสมองตายนับตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550 สิริพระชันษา 84 ปี [12][13][14][15]
พระกรณียกิจ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจมากมายแก่ประเทศชาติ เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีโครงการในพระอุปถัมภ์หลายร้อยโครงการ ทั้งด้านการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การแพทย์และการสาธารณสุข การต่างประเทศ การศาสนา และอื่น ๆ
ด้านการศึกษา
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงก่อตั้งสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทยขึ้นในปีพุทธศักราช 2520 ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเป็นเอนกประการทั้งในด้านการศึกษา สังคมสงเคราะห์และสาธารณสุขจนเป็นที่ประจักษ์ชัดในวงการศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวน 10 กว่าแห่งและองค์การระหว่างประเทศ จึงถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์และเหรียญสดุดีพระเกียรติคุณแด่พระองค์ และทรงได้รับการเทิดทูนพระเกียรติจากรัฐบาลและองค์กรต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ รัฐบาลฝรั่งเศส และองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) [16]
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาต่างประเทศที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ อาทิเช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[17] โดยเฉพาะที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระองค์ทรงเป็นพระอาจารย์ประจำนานถึง 8 ปี โดยทรงเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาต่างประเทศเอง และทรงเป็นผู้ดูแลและจัดทำหลักสูตรการสอนของอาจารย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทรงจัดทำหลักสูตรปริญญาตรีสาขาภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศสสำเร็จ ด้วยการผสมผสานความรู้ด้านภาษาและวรรณคดีให้เข้ากันอย่างเหมาะสม[18]
ทั้งยังทรงสนพระทัยโครงการจัดส่งเยาวชนไทยไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ตั้งแต่ปี 2532 ถึงปัจจุบัน โดยพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินกองทุนสมเด็จย่าเพื่อช่วยเหลือ ทรงติดตามความเคลื่อนไหวทุกขั้นตอนการแข่งขัน พระราชทานกำลังใจ และแสดงความยินดีแก่เยาวชนไทยที่ได้รับรางวัลและใบประกาศเกียรติคุณจากการแข่งขันในทุกๆ ครั้ง[16]
ด้านการสังคมสงเคราะห์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้านสังคมสงเคราะห์ พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายในการพัฒนาท้องถิ่นชนบท และการศึกษา โดยเฉพาะในพื้นที่ยากจน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ[19] ทรงตระหนักถึงปัญหาชุมชนแออัด จึงทรงเสด็จเยี่ยมชุมชนแออัดหลายแห่ง ในกรุงเทพมหานครเป็นการส่วนพระองค์ เช่น ชุมชนคลองเตย ชุมชนวัดพระยายัง ชุมชนย่านสวนลุมพินี ชุมชนกองขยะซอยอ่อนนุช และชุมชนเพชรเกษม 104 เป็นต้น ทรงห่วงใยเด็กและครอบครัวในชุมชนแออัด ทรงรับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมให้อยู่ในพระอุปถัมภ์[20] มีผลให้เกิดโครงการพัฒนาเด็กเพิ่มขึ้นหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาเด็กในชุมชนและโครงการสาธารณสุขมูลฐานสำหรับแม่และเด็ก กองทุนนมและอาหารเสริม และ กองทุนงบฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ยากไร้ในชุมชนแออัดให้พ้นสภาวะขาดสารอาหาร นอกจากนั้นยังช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอัคคีภัย อุบัติภัย และภัยจากเคมี[21]
ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
พระองค์ยังทรงเป็นประธานของมูลนิธิต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (ชื่อย่อ พอ.สว.) หรือ หมอกระเป๋าเขียว รวมทั้งมูลนิธิโรคไต และทรงเป็นประธานมูลนิธิหม่อมเจ้าบุญจิราธร (ชุมพล) จุฑาธุช ซึ่งมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้ทุนการศึกษาแพทย์ตามโครงการแพทย์ชนบท ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพยาบาลที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และให้ทุนการศึกษาสำหรับผู้ที่จะสมัครเป็นอาจารย์วิชาการพยาบาล ทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิถันยรักษ์ในพระบรมราชูประถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี[22]
นอกจากนี้ยังได้ทรงรับมูลนิธิและกองทุนการกุศลต่างๆ ไว้ในพระอุปถัมภ์อีกหลายหน่วยงานอาทิเช่น สมาคมพยาบาลสาธารณสุขไทย มูลนิธิเด็กโรคหัวใจแห่งประเทศไทย มูลนิธิส่งเสริมสวัสดิภาพสตรีและเยาวชน กองทุนหมอเจ้าฟ้า มูลนิธิโลกสีเขียว มูลนิธิสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา ฯลฯ
ด้านการต่างประเทศ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงเสด็จเยือนต่างประเทศ ๆ ตามคำกราบทูลเชิญเสด็จอย่างเป็นทางการ และเสด็จเยือนเป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศแล้ว ก็ยังเป็นโอกาสที่ทรงแนะนำให้ชาวไทยรู้จักประเทศในแง่มุมต่าง ๆ อย่างถ่องแท้ด้วย โดยทรงศึกษาข้อมูล ศิลปวัฒนธรรม ของประเทศที่จะทรงเสด็จเยือน รวมถึงเรื่องข่าวสารเสด็จเยือนต่างประเทศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ทรงให้ข้อมูลด้านต่างๆ เกี่ยวกับประเทศนั้นกับผู้จัดทำ อีกทั้งตรวจแก้บทโทรทัศน์ด้วยพระองค์เองก่อนการเสนอข่าวทุกครั้งเพื่อความถูกต้อง[23]
ด้านการศาสนา
พระกรณียกิจสำคัญด้านพุทธศาสนา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงเป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์การประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับสากล อักษรโรมัน ฉบับแรกของโลก ทั้งยังทรงเป็นองค์ประธานก่อตั้งและองค์ประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในการแปลและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกสากล อักษรโรมัน เพื่อพระราชทานแด่นานาประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548[24]
นอกจากนี้ยังทรงเจริญพระศรัทธาปสาทะ ในพระบวรพุทธศาสนา ทรงพระกรุณาเสด็จไปในการพระราชกุศลตามคำกราบทูลเชิญอยู่มิเคยขาด โดยมิได้ทรงเลือกว่าเป็นวัดที่ใหญ่โตหรือวัดเล็ก ไม่มีชื่อเสียงแต่ประการใด หรือแม้แต่วัดที่อยู่ในถิ่นธุรกันดารก็ตาม ดังที่ปรากฏเมื่อครั้งที่ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะเยาวชนกลุ่มเยาวชนร่มฉัตรน้อมเกล้าฯ อัญเชิญเครื่องพระกฐินส่วนพระองค์ พร้อมตาลปัตรจารึกอักษรพระนามย่อไปทอดถวายเป็นพุทธบูชา แด่พระสงฆ์ซึ่งจำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ อาวาสวิหารวัดเขาแก้ววิเชียร จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 เป็นต้น[25]
ด้านศิลปวัฒนธรรม
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาศราชนครินทร์ ทรงส่งเสริมงานแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม เช่น ดนตรีคลาสสิค ละครอุปรากร ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์งานแสดงประจำปี และวงดนตรี เช่น วงดุริยางค์เยาวชนไทย และเมื่อครั้งวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา แม้ว่าจะทรงมีอาการประชวรได้ทรงเสด็จชมการแสดง "คอนเสิร์ตพระกรุณาธิคุณทุนดนตรีคลาสสิก แสงหนึ่งคือรุ้งงาม" โดย 19 นักเรียนทุนดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ฯ ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จัดโดยคณะกรรมการทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ฯ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 โดยมี คุณหญิงวงจันทร์ พินัยนิติศาสตร์ เป็นประธานในการจัดงาน และได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม โดย คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.กระทรวงวัฒนธรรม การแสดงคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการรวมตัวครั้งแรกของนักเรียนทุนดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ฯ เพื่อแสดงความกตัญูกตเวทิตาที่ได้รับพระราชทานความเมตตาสนับสนุนทุนในการศึกษาดนตรี โดยทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่เปรียบมิได้ ที่ทรงช่วยเหลือส่งเสริมนักดนตรีคลาสสิกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา [26] ด้านดนตรีทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของ วงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงเสด็จทอดพระเนตรการแสดงในหลายโอกาส [27]
ทั้งทรงพระราชทานชื่อโรงละครโจหลุยส์ว่า “นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก” และได้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โรงละครและศิลปินแห่งชาติครูสาคร ยังเขียวสด ซึ่งคณะละครโจหลุยส์ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาเป็นประธานพิธีเปิดโรงละครที่สวนลุมไนท์บาซาร์เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 [28]
พระอัจฉริยภาพ
พระอัจฉริยภาพด้านพระนิพนธ์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการเขียน ได้ทรงริเริ่มออกวารสาร "รื่นรมย์" โดยได้ชักชวนให้พระสหายในวังสระปทุมเขียนเรื่อง ตั้งแต่พระชนมายุประมาณ 9 ชันษา ทรงทำหน้าที่บรรณาธิการและทรงเขียนบทความลงวารสารด้วย
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงสนับสนุนให้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงอ่านนิทานภาษาอังกฤษ และเรียบเรียงเรื่อง "นิทานสำหรับเด็ก" ซึ่งต่อมาได้จัดพิมพ์แจกในงานวันประสูติของสมเด็จพระศรีสวรินทราบรมราชเทวี พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2475[29]
พระนิพนธ์ที่มีชื่อเสียงเช่น เวลาเป็นของมีค่า แม่เล่าให้ฟัง เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์ จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ มหามงกุฎราชสันตติวงศ์ และพระนิพนธ์สารคดีเชิงท่องเที่ยว เกี่ยวกับประเทศต่างๆ ที่เสด็จประพาส ได้แก่ ยูนนาน ที่ไซบีเรียหนาวไหม จีนตะวันออก ขึ้นเขา ลงทะเลสาบ เข้าวัด จีนอีสานและเสฉวน จากแดนแมนจูสู่ภูง่อไบ๊ เป็นต้น
พระนิพนธ์
- จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรส พระราชธิดา และพระราชนัดดา (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2500) [30]
- แม่เล่าให้ฟัง (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2523, 204 หน้า)
- พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2524)
- เวลาเป็นของมีค่า (Busy Fingers) (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2527, 150 หน้า)
- เจ้านายเล็กๆ - ยุวกษัตริย์ (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2530, 290 หน้า)
- ไปรษณียบัตรเจ้าฟ้า (Postcard Games) (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2538, 270 หน้า)
- เจ้าฟ้าทหารเรือ พ.ศ. 2454 ถึง พ.ศ. 2458 (1933-1936) (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2535, 215 หน้า)
- ตราแผ่นดิน ตราราชสกุลและสกุล อักษรพระนาม และนามย่อ (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2535, 62 หน้า)
- สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ และงานศิลปะ (Prince Mahidol and Art) (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2538, 59 หน้า)
- จดหมายเหตุชาวบ้าน : ข่าวสมเด็จย่าสวรรคตจากหนังสือพิมพ์ (Popular chronicle From The Press, The Demise of the Princess Mother) (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2539, 600 หน้า)
- ส่งเสด็จสมเด็จย่า ประมวลเรื่องจากหนังสือพิมพ์ (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2539, 464 หน้า)
พระนิพนธ์แปล
- นิทานสำหรับเด็ก (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2475 แจกในงานวันประสูติสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า 10 กันยายน พ.ศ. 2475)
- The Spanish Coronation, Le Couronnement Espagnol, ราชาภิเษกพระเจ้ากรุงสเปน - พระราชนิพนธ์ภาษาอังกฤษในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนิพนธ์แปลเป็นภาษาฝรั่งเศส โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และบทแปลเป็นภาษาไทย โดย หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล [31]
พระนิพนธ์ท่องเที่ยว
- ยูนาน : Yunnan
- 1 โหลในเมืองจีน (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2528, 203 หน้า)
- สายธารอารยธรรมจีน : 7 ธานีแห่งอาณาจักรกลาง (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2531, 377 หน้า)
- จากโคริโอสู่โคเรีย 8 วันในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2531, 168 หน้า)
- ภูฐานเกาะเขียวบนแผ่นดิน : Bhutan : green island on land (2532, 203 หน้า)
- ที่ไซบีเรียหนาวไหม : Is It Cold in Siberia (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2533, 297 หน้า)
- ซินเจียง และกานซู ภาพจากดินแดนสุดหล้าฟ้าเขียว : Xinjiang and Gansu Pictures from far away places (2533, 270 หน้า)
- ตุรกี ดินแดนจักรพรรดิโรมันและล่าสุลต่านออตโตมัน : Turkey land of the Roman emperors and Ottoman sultans (ปีที่พิมพ์ 2533, 438 หน้า)
- จีนตะวันออก ขึ้นเขา ลงทะเลสาบ เข้าวัด (2537, 290หน้า)
- จีนอีสานและเสฉวน จากแดนแมนจูสู่ภูง่อไบ๊ (ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2540, 312 หน้า)
พระอัจฉริยภาพด้านการกีฬา
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีพลังแห่งการสร้างสรรค์ เมื่อทรงพระเยาว์ทรงสนพระทัยและทรงเล่นกีฬาหลายประเภท อาทิ เล่นสกี ,กรรเชียงเรือ ,ตกปลา ,ขี่จักรยาน ,เดินภูเขา และทรงม้าผาดโผน เป็นต้น ส่วนแบดมินตันนั้น ได้ทรงเล่นตามอย่างสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นอกจากทรงร่วมเล่นแล้ว ยังทรงสนับสนุนนักแบดมินตันหลายคนให้เข้าแข่งขันระดับนานาชาติ อีกทั้งยังทรงสนพระทัยเรื่องการขับรถยนต์ เครื่องยนต์กลไก และรถสามล้อ[16]
ทรงมีพระปรีชาสามารถในการขับเครื่องบินปีก 2 ชั้น และทรงขับเฮลิคอปเตอร์ได้อีกด้วย โดยทรงเรียนการบินเป็นนักบินหญิงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย
พระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงสนพระทัยในการถ่ายภาพอย่างจริงจัง ทรงเป็นผู้ใฝ่รู้การใช้กล้องบันทึกภาพ ซึ่งมิใช่เพียงเพื่อเก็บภาพไว้ดูเล่นเท่านั้น แต่ทรงบันทึกภาพโดยมีจุดประสงค์ทั้งในแง่ศิลปะและวิชาการ ไม่ว่าจะทรงเสด็จเยือนสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทรงบันทึกภาพที่สนพระทัยด้วยพระองค์เองเสมอ ภาพที่ทรงบันทึกไว้จะเป็นประโยชน์ เมื่อทรงจัดทำพระนิพนธ์ในภายหลัง แม้แต่การบันทึกภาพด้วยวีดิทัศน์ของผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ในการทำข่าวเสด็จเยือนสถานที่ต่างๆ ก็จะพระราชคำแนะนำแก่ผู้บันทึกภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์และมีความหมายสอดคล้องกับคำบรรยาย[32]
พระเกียรติคุณ
พระอิสริยยศ
- หม่อมเจ้าหญิงกัลยาณิวัฒนา มหิดล (6 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2470)
- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงกัลยาณิวัฒนา (8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2470 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2477)
- สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (2 มีนาคม พ.ศ. 2477 - 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2487)
- พระพี่นางกัลยาณิวัฒนา (ทรงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์) (11 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2493)
- สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (25 มีนาคม พ.ศ. 2493 - มกราคม พ.ศ. 2521)
- ศาสตราจารย์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (มกราคม พ.ศ. 2521 - 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2538)
- ศาสตราจารย์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2540)
- ศาสตราจารย์ พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ร.น. (22 มิถุนายน พ.ศ. 2540 - 2 มกราคม พ.ศ. 2550)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ดังต่อไปนี้[33]
- เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ
- เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 และ 9 ชั้นที่ 1
- เหรียญกาชาดสรรเสริญ
พระยศทางทหาร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระยศทหารและแต่งตั้งนายทหารชั้นพิเศษ เป็นกรณีพิเศษ แก่พระองค์ เป็นลำดับมาดังนี้[34]
- พันโท และ นายทหารพิเศษประจำกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ (27 มีนาคม พ.ศ. 2527)
- ราชองครักษ์พิเศษ (24 พฤษภาคม พ.ศ. 2527)
- นาวาโทหญิง นาวาอากาศโทหญิง และ นายทหารพิเศษ ประจำกองนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ประจำกองบังคับการ กรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ กรมนาวิกโยธิน และประจำกองนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ (3 มิถุนายน พ.ศ. 2527)
- พลตรีหญิง พลเรือตรีหญิง และ พลอากาศตรีหญิง (19 มกราคม พ.ศ. 2532)
- พลโทหญิง พลเรือโทหญิง และ พลอากาศโทหญิง (20 เมษายน พ.ศ. 2538)
- นายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538)
- พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง กับ นายทหารพิเศษ ประจำกรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และประจำกองพันทหารอากาศโยธินรักษาพระองค์ (22 มิถุนายน พ.ศ. 2540)
ปูพระพี่นาง
ปูพระพี่นาง เป็นปูน้ำจืดที่มีสีสันสวยงาม มี 3 สี คือ สีแดงเลือดนก แดงส้ม และสีขาว โดยกระดองมีสีแดงเลือดนก ขอบของกระดอง ขอบเบ้าตา และริมฝีปากเป็นสีแดงส้ม ขาเดินทั้ง 4 คู่ เป็นสีแดงเลือดนก ยกเว้นตรงปลายประมาณ 1 ใน 3 ของก้ามหนีบทั้ง 2 ข้าง เป็นสีขาว กระดองขนาดกว้างประมาณ 4.6 ซม. ค้นพบเป็นปูชนิดใหม่ของโลก ที่บริเวณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยนายมงคล วงศ์กาฬสินธุ์ นักวาดรูปนก เป็นผู้พบและเก็บตัวอย่างปูชนิดใหม่นี้ได้ ที่บริเวณฝั่งลำห้วย ต.ท่าแฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ เมื่อ วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 โดย ศ.ไพบูลย์ นัยเนตร ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ที่ทรงมีที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณแก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นอเนกอนันต์ พระองค์เคยเป็นอาจารย์พิเศษสอนนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบกับทรงเป็นองค์ประธานสนับสนุน การแข่งขันวิทยาศาสตร์โอลิมปิกของประเทศไทย[35]
หลังจากนั้นทาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำหนังสือกราบทูลขอพระราชทานพระอนุญาตอัญเชิญพระนามใน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นชื่อไทยของปูชนิดใหม่นี้ว่า “ปูพระพี่นาง” [36] มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ของปูว่า Potamon galyaniae มีชื่อสามัญว่า Crimson Crab และได้รับพระราชานุญาต เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 โดยจะทำการพิมพ์เผยแพร่ปูที่พบใหม่นี้ในวารสารต่างประเทศชื่อ Crustaceana , International Journal of Crustacean Research[35]
สถานที่ตั้งในพระนาม
- การแพทย์และสาธารณสุข
- ตึกกัลยาณิวัฒนา โรงพยาบาลอานันทมหิดล จังหวัดสิงห์บุรี
- โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
- ศูนย์หัวใจนราธิวาสราชนครินทร์ และอาคารแพทยศาสตร์ศึกษาราชนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์
- สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์
- สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
- โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมา ขอนแก่น นครพนม และสงขลา ซึ่งทั้งสี่แห่งจะมีคำว่า "ราชนครินทร์" ตามหลังชื่อจังหวัด
- การศึกษา
- อาคารกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- โรงเรียนกัลยาณิวัฒนา ๑ จังหวัดพิษณุโลก
- สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา (เดิมชื่อ สถาบันกัลยาณิวัฒนาเพื่อการศึกษาและวัฒนธรรมสัมพันธ์) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
- ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินร์ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
- สถาบันภาษาศาสตร์และวัฒนธรรมศึกษาราชนครินทร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
- มหาวิทยาลัยณิวัฒนา (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
- สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา
- อื่นๆ
- ถนนนราธิวาสราชนครินทร์
- ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส
- เขตวัฒนา
- สวนสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงสงขลานครินทร์ (สวนแม่-สวนลูก) ปัตตานี
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและตราไปรษณียกร
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
กรมธนารักษ์ ออกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ในวโรกาสต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ฉลองพระชนมายุ 6 รอบ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
- เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ฉลองพระชนมายุ 80 พรรษา เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2546
- เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ฉลองพระชนมายุ 84 พรรษา เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
ตราไปรษณียกร
การสื่อสารแห่งประเทศไทย ออกตราไปรษณียากร ที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ในวโรกาสต่าง ๆ ดังต่อไปนี้[37]
- ตราไปรษณียากรที่ระลึก 80 พรรษา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา - เป็นภาพพระสาทิสลักษณ์ ทรงประทับยืน ฉลองพระองค์เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่ง มหาจักรีบรมราชวงศ์
- ตราไปรษณียากรที่ระลึก 84 พรรษา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา - เป็นภาพพระสาทิสลักษณ์
อ้างอิง
- ↑ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฉบับกาญจนาภิเษก, พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
- ↑ ศาสตรจารย์ ดร.สิทธา พินิจภูวดล, พระอัจฉริยภาพด้านการนิพนธ์ นิตยสารสกุลไทยฉบับที่ 2691 ปีที่ 52 ประจำวัน อังคาร ที่ 16 พฤษภาคม 2549
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า, เล่ม ๔๔, ตอน ๐ก, ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๐, หน้า๒๕๓
- ↑ การศึกษา จาก เว็บไซต์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเฉลิมพระเกียรติยศ พระราชปิตุจฉา พระเชษฐภคินีและพระอนุชา, เล่ม ๕๒, ตอน ๐ง, ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๘, หน้า ๑๑๗๘
- ↑ 6.0 6.1 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์. จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรส พระราชธิดา และพระราชนัดดา. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 4, พ.ศ. 2548. 136 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-221-746-7
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, กฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการเสกสมรสแห่งเจ้านายในพระราชวงศ์, เล่ม ๓๕, ตอน ๐ก, ๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๑, หน้า ๑๔๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา, เล่ม ๖๗, ตอน ๑๘ก, ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๓, หน้า ๓๙๖
- ↑ การทรงกรม จาก เวปไซต์ โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, เล่ม ๑๑๒, ตอน พิเศษ ๑๔ ง, วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘, หน้า ๑
- ↑ แสงหนึ่งคือรุ้งงาม
- ↑ กรุงเทพธุรกิจ, สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯสิ้นพระชนม์ เมื่อ 02.54น.วันที่ 2ม.ค., 2 มกราคม พ.ศ. 2550
- ↑ ไทยรัฐ, พระเจ้าพี่นางเธอฯสิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา02.54น.วันที่2ม.ค., 2 มกราคม พ.ศ. 2550
- ↑ CNN News, Sister of Thai king dies at 84 after long illness
- ↑ BCC News,Thais mourn revered king's sister
- ↑ 16.0 16.1 16.2 84 พระชันษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ รายงานพิเศษ : พระประวัติ-พระอัจฉริยภาพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 มกราคม 2551 13:14 น.
- ↑ พระประวัติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ nationchannel.com
- ↑ สื่อต่างชาติเสนอข่าว "พระพี่นางเธอฯ" สิ้นพระชนม์ ยกย่องพระกรณียกิจ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 มกราคม 2551 09:04 น.
- ↑ "พระพี่นางฯ"มีพระอาการไข้ แพทย์ถวายการรักษาใกล้ชิด matichon.co.th
- ↑ การสังคมสงเคราะห์ จาก เว็บไซต์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
- ↑ การสัมพันธไมตรีต่างประเทศ จาก เว็บไซต์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ พระราชกรณียกิจเผยแผ่พระไตรปิฎกสากลสู่โลก โดย คม ชัด ลึก วัน พุธ ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2551 00:00 น.
- ↑ พระกฐินส่วนพระองค์
- ↑ หนังสือพิมพ์แนวหน้า 25 กรกฏาคม 2550คอนเสิร์ตพระกรุณาธิคุณทุนดนตรีคลาสสิก แสงหนึ่งคือรุ้งงาม
- ↑ จดหมายข่าว จุฬาสัมพันธ์ 24 ตุลาคม 2548 หน้า 12[1]
- ↑ เว็บไซต์ท่องเที่ยว Thailanddives เสมือนจริง เหนือจินตนาการกับหุ่นละครเล็กโจหลุยส์
- ↑ นิทานสำหรับเด็ก school.net.th
- ↑ "พระนิพนธ์" ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
- ↑ มธ.จัดเทิดพระเกียรติพระพี่นางฯ84พรรษา เตรียมเผยแพร่สุดยอดผลงานแปล "ราชาภิเษกพระเจ้ากรุงสเปน"
- ↑ รายงานพิเศษ : “สมเด็จพระพี่นางฯ”...ของปวงชนชาวไทย โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2548 14:33 น.
- ↑ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จาก เว็บไซต์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ พระยศทางทหาร จาก เว็บไซต์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ 35.0 35.1 ปูพระพี่นาง จาก เว็บไซต์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- ↑ มหัศจรรย์...ปูกางร่ม สัตว์ฉลาด..ใช้ใบไม้ปกป้อง กันภัย 26 มิ.ย. 50 - 00:24
- ↑ ตราไปรษณียากร จาก เว็บไซต์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ดูเพิ่ม
- ราชวงศ์จักรี
- รางวัลนราธิป
- รถยนต์พระที่นั่ง ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ อัครราชกุมารี
แหล่งข้อมูลอื่น
- เหตุการณ์ปัจจุบัน
- พระราชวงศ์ไทย
- ราชสกุลมหิดล
- เจ้าฟ้า
- กรมหลวง
- สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
- บุคคลจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ - ศิลปศาสตร์ - มนุษยศาสตร์
- ศาสตราจารย์
- ทหารบกชาวไทย
- ทหารอากาศชาวไทย
- ทหารเรือชาวไทย
- สตรีในประวัติศาสตร์ไทย
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2466
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2551