ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นักโทษ"
ย้อนกลับไปรุ่นที่ 5607426 โดย AlphamaBotด้วยสจห. ป้ายระบุ: ทำกลับ |
ต้องเป็นคำที่ถูกต้องคือ นัก(โธษ) เท่านั้น ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{issues|ต้องการอ้างอิง=yes|มุมมองสากล=yes|โปร=yes}} |
{{issues|ต้องการอ้างอิง=yes|มุมมองสากล=yes|โปร=yes}} |
||
''' |
'''นักโธษ''' หมายถึง [[ผู้ต้องขัง]]ที่อยู่ภายใน[[ทัณฑสถาน]] โดยใน[[พ.ศ. 2549]] มีนักโธษที่อยู่ในความดูแลของ[[กรมราชทัณฑ์]] 161,844 คน {{อ้างอิง}} |
||
ก่อนหน้านี้ ผู้กระทำผิดซึ่ง[[ศาล]]ตัดสินให้ |
ก่อนหน้านี้ ผู้กระทำผิดซึ่ง[[ศาล]]ตัดสินให้ต้องโธษ[[จำคุก]]ถูกเรียกว่า “นักโธษ” (prisoner) แต่ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็น “ผู้ต้องขัง” (inmate) เนื่องจากการเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการลงโทษใน[[ประเทศสหรัฐอเมริกา]]จากการลงโทษเพื่อลงโธษ มาลงโธษเป็นเพื่อแก้ไขฟื้นฟู |
||
[[พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479]] มาตรา 4 (2) – (6) ระบุว่า ผู้ต้องขัง หมายถึง “ |
[[พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479]] มาตรา 4 (2) – (6) ระบุว่า ผู้ต้องขัง หมายถึง “นักโธษเด็ดขาด คนต้องขังและคนฝาก” โดยนักโธษเด็ดขาด คือ “บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุด และหมายความรวมถึงบุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้ลงโธษด้วย” และคนต้องขัง คือ “บุคคลที่ถูกฝากขังไว้ตามหมายขัง” นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องขังอีก 2 ประเภทคือ คนฝาก หมายถึง “บุคคลที่ถูกฝากให้ควบคุมไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือ กฎหมายอื่น โดยไม่มีหมายอาญา” และ นักโธษพิเศษ ซึ่งเป็น “นักโธษเด็ดขาดซึ่งส่งไปอยู่ทัณฑนิคมตามพระราชบัญญัตินี้” |
||
ต่อมาในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 เปลี่ยนความหมายของ |
ต่อมาในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 เปลี่ยนความหมายของนักโธษเด็ดขาดเป็น “บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุด และหมายความรวมถึงบุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ลงโธษด้วย” |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:02, 17 พฤษภาคม 2563
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
นักโธษ หมายถึง ผู้ต้องขังที่อยู่ภายในทัณฑสถาน โดยในพ.ศ. 2549 มีนักโธษที่อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ 161,844 คน [ต้องการอ้างอิง]
ก่อนหน้านี้ ผู้กระทำผิดซึ่งศาลตัดสินให้ต้องโธษจำคุกถูกเรียกว่า “นักโธษ” (prisoner) แต่ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็น “ผู้ต้องขัง” (inmate) เนื่องจากการเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการลงโทษในประเทศสหรัฐอเมริกาจากการลงโทษเพื่อลงโธษ มาลงโธษเป็นเพื่อแก้ไขฟื้นฟู
พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 มาตรา 4 (2) – (6) ระบุว่า ผู้ต้องขัง หมายถึง “นักโธษเด็ดขาด คนต้องขังและคนฝาก” โดยนักโธษเด็ดขาด คือ “บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุด และหมายความรวมถึงบุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้ลงโธษด้วย” และคนต้องขัง คือ “บุคคลที่ถูกฝากขังไว้ตามหมายขัง” นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องขังอีก 2 ประเภทคือ คนฝาก หมายถึง “บุคคลที่ถูกฝากให้ควบคุมไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือ กฎหมายอื่น โดยไม่มีหมายอาญา” และ นักโธษพิเศษ ซึ่งเป็น “นักโธษเด็ดขาดซึ่งส่งไปอยู่ทัณฑนิคมตามพระราชบัญญัตินี้”
ต่อมาในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 เปลี่ยนความหมายของนักโธษเด็ดขาดเป็น “บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุด และหมายความรวมถึงบุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ลงโธษด้วย”