ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ท่าเตียน"

พิกัด: 13°44′46.9″N 100°29′27.6″E / 13.746361°N 100.491000°E / 13.746361; 100.491000
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mr.BuriramCN (คุย | ส่วนร่วม)
Teeramath (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 28: บรรทัด 28:
{{ล่าง}}
{{ล่าง}}
==สิ่งสืบเนื่อง==
==สิ่งสืบเนื่อง==
ในเพลงแม่ค้าตาคมที่ครูไพบูลย์ บุตรขันแต่งเพลงนี้ให้ศรคีรี ศรีประจวบเป็นผู้ขับร้องนั้นได้มีการกล่าวถึงท่าเตียนในเพลงดังกล่าว
ในเพลงแม่ค้าตาคมที่ไพบูลย์ บุตรขันแต่งเพลงนี้ให้ศรคีรี ศรีประจวบเป็นผู้ขับร้องนั้นได้มีการกล่าวถึงท่าเตียนในเพลงดังกล่าว
ซึ่งมีเนื้อร้องที่ว่า"คอยดักน้องที่ท่าเตียนทุกเที่ยวเรือเปลี่ยนไม่เห็นหน้าแฟน"และ"พี่หลงคอยคอยน้องเก้อเฝ้าหลงคอยเธอท่าเตียน
ซึ่งมีเนื้อร้องที่ว่า"คอยดักน้องที่ท่าเตียนทุกเที่ยวเรือเปลี่ยนไม่เห็นหน้าแฟน"และ"พี่หลงคอยคอยน้องเก้อเฝ้าหลงคอยเธอท่าเตียนทุกวัน"

ทุกวัน"
==อ้างอิง==
==อ้างอิง==
{{รายการอ้างอิง|2}}
{{รายการอ้างอิง|2}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:06, 14 พฤษภาคม 2563

ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวลงเรือด่วนเจ้าพระยา
ร้านค้าและอาคารพาณิชย์ทางเข้าตลาดท่าเตียน หลังการปรับปรุง

ท่าเตียน เป็นท่าเรือและตลาดแห่งหนึ่ง ในแขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บนถนนมหาราช ด้านตะวันตกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา

ท่าเตียน มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคเริ่มต้นสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ โดยอยู่บริเวณด้านหลังพระบรมมหาราชวัง และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยที่ชื่อ "ท่าเตียน" มีที่มาต่าง ๆ กันไป บ้างก็ว่าเกิดจากในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ที่แถบนี้เคยเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ จนราบเรียบเหี้ยนเตียน หรือเชื่อว่ามาจาก "ฮาเตียน" เมืองท่าแห่งหนึ่งในตอนใต้ของประเทศเวียดนาม (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดเกียนซาง ในต้นกรุงรัตนโกสินทร์เป็นดินแดนของไทย ในชื่อ บันทายมาศ หรือ พุทไธมาศ[1]) เนื่องจากแถบนี้ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวญวนอพยพหนีภัยสงครามจากเว้ ตั้งแต่ยุคกรุงธนบุรี ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และชาวญวนเหล่านี้ได้เรียกชื่อถิ่นฐานนี้ว่าฮาเตียน เนื่องจากมีภูมิทัศน์คล้ายกับฮาเตียนเพื่อคลายความคิดถึงถิ่นฐานตนเอง[2] และได้เรียกเพี้ยนมาเป็นท่าเตียนในที่สุด[3] แต่ทั้งนี้ท่าเตียนปรากฏมาตั้งแต่อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏหลักฐานเป็นนิราศของหม่อมพิมเสนเรียกว่า "บางจีน" สันนิษฐานว่าอาจเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวจีนด้วย[2]

และยังมีตำนานเมืองที่โด่งดังมาก คือ เรื่องของยักษ์เฝ้าประตูวัดสองฟากต่อสู้กัน คือ ยักษ์วัดแจ้ง จากฝั่งธนบุรี ต่อสู้กับ ยักษ์วัดโพธิ์ แห่งฝั่งพระนคร เนื่องจากผิดใจกันเรื่องการขอยืมเงินกัน จนในที่สุดที่บริเวณนี้เหี้ยนเตียนราบเรียบไปหมด[4] ซึ่งในบางตำนานก็มีการเสริมเติมแต่งเข้าไปอีกว่า ที่ยักษ์ทั้งสองตนนั้นหยุดสู้กันเพราะมีโยคีหรือฤๅษีมาห้าม บ้างก็ว่าเป็นยักษ์วัดพระแก้วเข้ามาห้าม[2]

ปัจจุบัน ท่าเตียนเป็นทั้งตลาดและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยม มีร้านอาหารและร้านกาแฟเป็นจำนวนมาก[5] ในส่วนของตลาด เป็นตลาดที่นับว่าใหญ่ที่สุดของกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น[6] เป็นตลาดที่มีสินค้าหลากหลายประเภทขายทั้งสินค้าทางการเกษตรหรือข้าวของเครื่องใช้ เนื่องจากเป็นท่าจอดเรือที่มีชัยภูมิเหมาะสม โดยในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์มีชื่อเรียกว่า "ตลาดท้ายวัง" หรือ "ตลาดท้ายสนม" กินอาณาบริเวณตั้งแต่ถนนท้ายวังจนถึงตลาดท่าเตียนในปัจจุบัน เป็นตลาดที่บรรดานางในหรือนางสนมจะออกจากกำแพงพระบรมมหาราชวังมาจับจ่ายซื้อข้าวของต่าง ๆ โดยสินค้าที่นิยมมากที่สุด คือ ดอกไม้ ต่อมาได้รวมเป็นตลาดเดียวกับตลาดท่าเตียน จนกระทั่งถึงรัชสมัยรัชกาลที่ 5 จึงเริ่มมีการสร้างอาคารขึ้นมาอย่างเป็นรูปร่าง โดยวางแนวเป็นรูปตัวยู ด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก และมีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น และกลายมาเป็นแหล่งค้าส่งแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ เช่น วัสดุก่อสร้าง, เครื่องตัดหญ้า, อะไหล่รถยนต์, ผักและผลไม้, น้ำตาล, ลูกอมหรือท็อฟฟี่ รวมถึงอาหารทะเลแห้ง เป็นต้น[7][8]ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ท่าเตียนมีสถานะเป็นตำบลชื่อ "ตำบลท่าเตียน" ขึ้นอยู่กับอำเภอพระราชวัง[1] (เขตพระนครในปัจจุบัน) ปัจจุบันอาคารพาณิชย์ตลอดจนบ้านเรือนต่าง ๆ ได้รับการบูรณะปรับปรุงโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในปี พ.ศ. 2556[7][9] ให้แลดูใหม่และสวยงามยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับที่ท่าช้างที่อยู่ใกล้เคียง โดยทำการปรับปรุงทั้งสิ้น 55 คูหา[10]

ในส่วนที่เป็นท่าเรือ ในอดีตเป็นท่าเรือที่มีเรือเมล์วิ่งไปจนถึงบางบัวทอง, อยุธยา, ชัยนาท, นครสวรรค์ ในปัจจุบันเป็นท่าเรือ (รหัส น8 หรือ N8) สำหรับเรือข้ามฟากไปยังท่าวัดอรุณ ของฝั่งธนบุรี โดยสามารถมองเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯและป้อมวิไชยประสิทธิ์ได้อย่างชัดเจนจากฟากนี้[6] และเป็นท่าเรือที่ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาอีกด้วย เปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์–วันศุกร์ ในเวลา 06:00–19:00 น.[11]

สถานที่สำคัญที่อยู่ใกล้เคียง

สิ่งสืบเนื่อง

ในเพลงแม่ค้าตาคมที่ไพบูลย์ บุตรขันแต่งเพลงนี้ให้ศรคีรี ศรีประจวบเป็นผู้ขับร้องนั้นได้มีการกล่าวถึงท่าเตียนในเพลงดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อร้องที่ว่า"คอยดักน้องที่ท่าเตียนทุกเที่ยวเรือเปลี่ยนไม่เห็นหน้าแฟน"และ"พี่หลงคอยคอยน้องเก้อเฝ้าหลงคอยเธอท่าเตียนทุกวัน"

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "ประวัติศาสตร์การอพยพของชาวเวียดนาม". หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ. 2015-10-19. สืบค้นเมื่อ 2018-02-20.
  2. 2.0 2.1 2.2 "พินิจนคร(Season 2) ตอน ท่าเตียน". พินิจนคร. 2009-12-21. สืบค้นเมื่อ 2018-02-21.
  3. "ชุมชนท่าเตียน". ข้อมูลเกาะรัตนโกสินทร์. สืบค้นเมื่อ 2018-02-20.
  4. พรรณลึก, เฟรม - สลิตา (2017-11-11). ""ท่าเตียน" จากเมือง "ท่า" สู่เมือง "เที่ยว"". เนชั่นทีวี. สืบค้นเมื่อ 2018-02-20.
  5. Time Out Bangkok staff (2017-09-19). "รวมร้านอาหารอร่อยและคาเฟ่น่านั่ง ย่านท่าเตียน-วัดโพธิ์". TimeOut. สืบค้นเมื่อ 2018-02-20.
  6. 6.0 6.1 "ถอดรหัส "ท่าเตียน" ผ่านอดีตสู่ปัจจุบัน ยลเสน่ห์ริมเจ้าพระยา วัดอรุณ - วัดโพธิ์". ผู้จัดการออนไลน์. 2017-11-24. สืบค้นเมื่อ 2018-02-20.
  7. 7.0 7.1 "ย้อนวันวานย่านเก่า "ท่าเตียน" เปิดบันทึกประวัติศาสตร์บางกอก". เดลินิวส์. 2014-10-08. สืบค้นเมื่อ 2018-01-20.
  8. ท่องเที่ยววิถีชุมชน ช้อปปิ้งตลาดนัดชุมชน เที่ยวชมนิทรรศการในงาน “ท่าเตียนซิงตัคลั้ค” by Pira Pira 's Story
  9. "HUMAN WILD" (PDF). ธนาคารไทยพาณิชย์. สืบค้นเมื่อ 2018-02-21.
  10. "ตึกแถวถนนมหาราช บริเวณท่าเตียน". ศูนย์ข้อมูลเกาะรัตนโกสินทร์. สืบค้นเมื่อ 2018-02-20.
  11. "16ท่าเรือข้ามฟาก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าเตียน-ท่าวัดอรุณฯ บริเวณตลาดท่าเตียน เขตพระนคร". สวัสดีดอตคอม. สืบค้นเมื่อ 2018-02-20.

แหล่งข้อมูลอื่น


13°44′46.9″N 100°29′27.6″E / 13.746361°N 100.491000°E / 13.746361; 100.491000