ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โจฮอง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Book Bachelor (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''เฉา ฟาง''' ({{zh|c=曹芳|p=Cáo Fāng}}; [[ภาษาจีนฮกเกี้ยน|ฮกเกี้ยน]]: โจฮอง; ค.ศ. 232–274) พระนามรองว่า '''หลานชิง''' (蘭卿) เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 3 แห่ง[[วุยก๊ก|รัฐเฉาเว่ย์]] (曹魏; ฮกเกี้ยน: โจวุย) ในช่วง[[สามก๊ก]]ของ[[ประวัติศาสตร์จีน]] เป็นพระโอรสบุญธรรมของ[[โจยอย|เฉา รุ่ย]] (曹叡; ฮกเกี้ยน: โจยอย) จักรพรรดิพระองค์ที่ 2 ของรัฐเฉาเว่ย์ ครองราชย์ต่อจากเฉา รุ่ย ตั้งแต่ ค.ศ. 239 จนถูก[[สุมาสู|ซือหม่า ชือ]] (司馬師; ฮกเกี้ยน: สุมาสู) ผู้สำเร็จราชการ ถอดออกจากราชสมบัติใน ค.ศ. 254
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ขาดอ้างอิง}}
{{กล่องข้อมูล ตัวละครสามก๊ก
| royalty = yes
| Name = โจฮอง
| Title = จักรพรรดิ
| Kingdom = [[วุยก๊ก|ราชวงศ์วุย]]
| Image =
| Caption =
| Born = [[พ.ศ. 774]]
| Birth_place =
| Died = [[พ.ศ. 817]] (อายุ 43 ปี)
| Death_place =
| Reign = [[พ.ศ. 782]] - [[พ.ศ. 797]]
| Predecessor = [[โจยอย]]
| Successor = [[โจมอ]]
| First =
| Simp = 曹芳
| Trad = 曹芳
| Pinyin = Cáo Fāng
| WG = Ts'ao Fang
| Putonghua = เฉาฟาง
| Minnan = โจฮอง
| Zi = หลันชิง
| Post =
| Temple =
| Other =
}}


==ภูมิหลัง==
'''โจฮอง หรือเฉาฟาง''' (ค.ศ. 232 - ค.ศ. 274) ชื่อรอง '''หลันชิง''' เป็น[[จักรพรรดิ]]องค์ที่สามของ[[วุยก๊ก]]ในยุค[[สามก๊ก]] โจฮองเป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า[[โจยอย]] จักรพรรดิองค์ที่สองของวุยก๊ก โจฮองครองราชย์ระหว่างปี 239 ถึง 254 ก่อนจะถูก[[สุมาสู]]ปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากราชวงศ์วุยล่มสลายในปี 265 โจฮองถูกแต่งตั้งเป็น "Duke of Shaoling" โดย[[สุมาเอี๋ยน|พระเจ้าจิ้นอู่]]แห่ง[[ราชวงศ์จิ้น]] โจฮองเสียชีวิตในปี 274 และได้รับชื่อย้อนหลังว่า "Li" ชื่อยศย้อนหลังของโจฮองแบบเต็มคือ "Duke Li of Shaoling"


ภูมิหลังเกี่ยวกับพระกำเนิดของเฉา ฟาง นั้นยังสรุปไม่ได้ เอกสาร ''เว่ย์ชื่อชุนชิว'' (魏氏春秋) ว่า เฉา ฟาง เป็นพระโอรสของเฉา ข่าย (曹楷) ผู้ดำรงตำแหน่งเริ่นเฉิงหวัง (任城王; "องค์ชายเริ่นเฉิง") แต่จักรพรรดิเฉา รุ่ย ทรงรับเฉา ฟาง เป็นพระโอรสบุญธรรมตั้งแต่เฉา ฟาง ยังเยาว์ และจักรพรรดิเฉา รุ่ย ทรงตั้งเฉา ฟาง เป็นฉีหวัง (齐王; "องค์ชายฉี") ใน ค.ศ. 235
== ประวัติ ==
ว่ากันว่าโจฮองน่าจะเป็นบุตรชายของ Cao Kai (Prince of Rancheng) และเป็นหลานของ[[โจเจียง]] พระเจ้าโจยอยทรงรับโจฮองมาเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่ยังเด็ก โจฮองขึ้นรับตำแหน่ง Prince of Qi ในปี 235


ราว ค.ศ. 239 จักรพรรดิเฉา รุ่ย ประชวร และตกลงพระทัยจะมอบราชสมบัติให้เฉา ฟาง สืบต่อ จึงทรงตั้งคณะผู้สำเร็จราชการให้คอยอภิบาลเฉา ฟาง ประกอบด้วย พระญาติ คือ เฉา อฺวี่ (曹宇) กับเฉา จ้าว (曹肇) และขุนนาง คือ เซี่ยโหฺว เซี่ยน (夏侯獻) กับฉิน หล่าง (秦朗) แต่เฉา จ้าว กับเซี่ยโหฺว เซี่ยน ขัดแย้งกับหลิว ฟ่าง (劉放) และซุน จือ (孫資) ขุนนางคนสนิทของจักรพรรดิเฉา รุ่ย หลิว ฟ่าง กับซุน จือ ทูลจักรพรรดิเฉา รุ่ย ให้ถอดเฉา อฺวี่, เฉา จ้าว, และฉิน หล่าง ออกจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ และตั้ง[[โจซอง|เฉา ฉฺว่าง]] (曹爽; ฮกเกี้ยน: โจซอง) ผู้เป็นพระญาติ และ[[สุมาอี้|ซือหม่า อี้]] (司馬懿; ฮกเกี้ยน: สุมาอี้) ผู้เป็นขุนนาง เป็นคณะผู้สำเร็จราชการชุดใหม่แทน
ประมาณปี 239 เมื่อพระเจ้าโจยอยประชวรหนัก พระองค์ทรงต้องการที่จะให้โจฮองขึ้นครองราชย์ต่อ พระองค์ต้องการที่จะฝากฝังโจฮองไว้กับ Cao Yu (曹宇) ผู้เป็นลุง ผู้ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับ Xiahou Xian (夏侯獻), [[โจซอง]], Cao Zhao (曹肇) และ Qin Lang (秦朗) อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาที่พระเจ้าโจยอยทรงไว้ใจ Liu Fang (劉放) และ Sun Zi (孫資) ไม่ถูกกับ Xiahou Xian และ Cao Zhao พวกเขาเกรงกลัวหากสองคนนี้จะมาเป็นผู้สำเร็จราชการ ท้ายที่สุด พระเจ้าโจยอยทรงแต่งตั้งเพียงแค่โจซองและ[[สุมาอี้]]


ราวครึ่งเดือนให้หลัง จักรพรรดิเฉา รุ่ย ประชวรหนัก ประทับอยู่บนพระที่ ไม่อาจเสด็จออกว่าราชการได้ รับสั่งให้ซือหม่า อี้ เข้าเฝ้าถึงห้องพระบรรทม ทรงฝากฝังเฉา ฟาง ไว้กับซือหม่า อี้ ให้เฉา ฟาง นับถือซือหม่า อี้ เสมือนเป็นบิดา พร้อมทรงตั้งเฉา ฟาง เป็นรัชทายาท วันเดียวกันนั้น จักรพรรดิเฉา รุ่ย เสด็จสวรรคต เฉา ฟาง จึงขึ้นครองราชย์ต่อ เวลานั้น เฉา ฟาง มีพระชันษาราว 9 ปี
ครึ่งเดือนต่อมา เมื่อพระเจ้าโจยอยใกล้จะสิ้นพระชนม์ สุมาอี้ก็เดินทางมาถึงลกเอี๋ยง พระเจ้าโจยอยทรงจับมือสุมาอี้และทรงเรียกโจฮองและ[[โจหุ้น]] (บุตรบุญธรรมอีกคนของพระองค์) เข้ามาใกล้เตียง พระองค์ตรัสให้โจฮองกอดสุมาอี้เหมือนกับที่กอดพ่อ จากนั้น พระเจ้าโจยอยทรงแต่งตั้งโจฮองเป็นมกุฎราชกุมารและสิ้นพระชนม์ในวันเดียวกัน


==การครองราชย์==
== รัชสมัย ==
ถึงแม้ว่าพระเจ้าโจฮองจะครองราชย์นานที่สุดในวุยก๊ก พระองค์ก็ไม่เคยมีอำนาจปกครองเองเลย


เนื่องจากเฉา ฟาง ขึ้นครองราชย์ขณะทรงพระเยาว์ รัชกาลของเฉา ฟาง จึงดำเนินไปผ่านคณะผู้สำเร็จราชการที่ประกอบด้วยเฉา ฉฺว่าง กับซือหม่า อี้ กระทั่งซือหม่า อี้ ยึดอำนาจทางการเมืองจากเฉา ฉฺวั่ง ได้ใน ค.ศ. 249 ซือหม่า อี้ จึงได้สำเร็จราชการแต่ผู้เดียว ครั้นซือหม่า อี้ เสียชีวิตใน ค.ศ. 251 ซือหม่า ชือ บุตรของซือหม่า อี้ ก็เข้าสืบตำแหน่งผู้สำเร็จราชการต่อ จักรพรรดิเฉา ฟาง ทรงพยายามจะนำอำนาจปกครองกลับคืนมาจากผู้สำเร็จราชการ แต่ไม่สำเร็จ และซือหม่า ชือ ถอดจักรพรรดิเฉา ฟาง ออกจากราชสมบัติ
=== ภายใต้โจซองเป็นผู้สำเร็จราชการ ===
โจซองและสุมาอี้ในช่วงแรกยังแบ่งอำนาจกันปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป โจซองก็ค่อย ๆ ตัดอำนาจสุมาอี้ โจซองร้องขอให้มีการเลื่อนยศให้สุมาอี้ แต่ยศเหล่านั้นไม่มีอำนาจ หลังจากนั้น โจซองตัดสินใจในเรื่องสำคัญเองทั้งหมดโดยไม่ปรึกษาสุมาอี้ คนของโจซองเช่น [[:en:Deng_Yang|เตงเหยียง]] [[:en:Li_Sheng_(Three_Kingdoms)|หลีซิน]] [[โฮอั๋น]] และ[http://kongming.net/encyclopedia/Ding-Mi เตงปิด] ถูกแต่งตั้งเป็นข้าราชการระดับสูง คนที่ไม่ใช่พรรคพวกของโจซองถูกห้ามไม่ให้มีตำแหน่งในราชสำนัก สุมาอี้ได้รับอำนาจทางการทหาร แต่ไม่มีอำนาจที่แท้จริงในการปกครอง


ช่วงแรก เฉา ฉฺว่าง กับซือหม่า อี้ บริหารอำนาจในฐานะผู้สำเร็จราชการร่วมกัน แต่ภายหลัง เฉา ฉฺว่าง พยายามถอดซือหม่า อี้ ออกจากอำนาจ โดยให้ซือหม่า อี้ ไปดำรงตำแหน่งชั้นสูงที่มีอำนาจแต่ในนามแทน เฉา ฉฺว่าง จึงได้ใช้อำนาจผู้สำเร็จราชการแต่ผู้เดียว และตั้งคนสนิทของตน เช่น เติ้ง หยาง (鄧颺), หลี่ เชิ่ง (李勝), เหอ ย่าน (何晏), และติง มี่ (丁謐) ขึ้นเป็นขุนนางผู้ใหญ่
ในปี 243 พระเจ้าโจฮองสมรสกับ [[:en:Empress_Zhen_(Cao_Fang)|Empress Zhen]] ซึ่งเป็นหลานสาวของ Zhen Yan (甄儼) พี่ชาย/น้องชายของนาง[[เอียนสี]]


ระหว่างนั้น ใน ค.ศ. 243 จักรพรรดิเฉา ฟาง เสกสมรสกับเจินชื่อ (甄氏; ฮกเกี้ยน: จินสี; แปลว่า "นางเจิน/จิน") หลานสาวของเจิน หย่าน (甄儼) พระอนุชาของ[[เอียนสี|เจินโฮ่ว]] (甄后; ฮกเกี้ยน: จินเฮา; แปลว่า "เทวีเจิน/จิน") พระอัยยิกาของเฉา ฟาง เอง เจินชื่อได้รับแต่งตั้งเป็นพระมเหสีเรียก หฺวายหฺวังโฮ่ว (懷皇后; แปลว่า "ราชเทวีหฺวาย")
ในปี 244 โจซองนำทัพบุก[[ฮั่นจง]]โดยหวังว่าจะได้รับชื่อเสียงทางการทหาร ศึกจบลงโดยโจซองต้องถอยทัพหลังจากเสบียงหมด กระนั้น โจซองก็ยังกุมอำนาจไว้เหมือนเดิม ในปี 247 สุมาอี้ปลดเกษียณ โดยอ้างว่าป่วย


ใน ค.ศ. 244 เฉา ฉฺว่าง นำทัพไปตี[[ฮั่นจง]] (漢中; ฮกเกี้ยน: ฮันต๋ง) เมืองชายแดนของ[[จ๊กก๊ก|รัฐฉู่ฮั่น]] (蜀漢; ฮกเกี้ยน: จ๊กฮั่น) แม้ผลการรบจะไม่แพ้ไม่ชนะ แต่กองทัพของเฉา ฉฺว่าง ประสบความสูญเสียอย่างหนัก ประกอบกับขาดเสบียง จึงต้องถอยกลับไป แม้จะไม่สามารถมีชัยในสมรภูมิได้ดังหวัง แต่เฉา ฉฺว่าง ก็ยังมีอำนาจมั่นคงในฐานะผู้สำเร็จราชการต่อไป
ในปี 249 สุมาอี้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากโจซอง ระหว่างที่พระเจ้าโจฮองและโจซองออกจากเมืองหลวงลกเอี๋ยงเพื่อไปเยี่ยมหลุมศพพระเจ้าโจยอย สุมาอี้รวบรวมกลุ่มคนที่ต่อต้านโจซองและปิดประตูเมืองทุกด้าน สุมาอี้ส่งพระบรมราชโองการในนามของ [[:en:Empress_Guo_(Cao_Rui's_wife)|Empress Dowager Guo]] โดยกล่าวหาว่าโจซองโกงกินบ้านเมือง และต้องการให้โจซองและพี่น้องของเขาออกจากตำแหน่ง โจซองไม่ฟังคำทัดทานของ[[ฮวนห้อม]]และตัดสินใจยอมแพ้ สุมาอี้สัญญากับโจซองว่าโจซองจะยังมียศดังเดิม อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน สุมาอี้สั่งประหารโจซองและครอบครัวรวมไปถึงพรรคพวกของโจซองในข้อหากบฏ สุมาอี้กุมอำนาจโดยสมบูรณ์หลังจากนั้น


ครั้น ค.ศ. 247 ซือหม่า อี้ ลาออกจากราชการ อ้างเหตุป่วย
=== ภายใต้สุมาอี้เป็นผู้สำเร็จราชการ ===
หลังจากสุมาอี้กลายเป็นผู้สำเร็จราชการ เขาค่อย ๆ กำจัดศัตรูทางการเมืองอย่างไม่ปรานี พระเจ้าโจฮอง ภายใต้แรงกดดันจากคนของสุมาอี้ ต้องการจะมอบ[[:en:Nine_bestowments|สิ่งของพระราชทานเก้าระดับ]]ให้กับสุมาอี้ แต่สุมาอี้ปฏิเสธ ภายใต้การปกครองของสุมาอี้ สุมาอี้กำจัดการทุจริตที่เกิดขึ้นในช่วงโจซอง และข้าราชการซื่อสัตย์หลายคนถูกเลื่อนยศโดยคำแนะนำของสุมาอี้


ใน ค.ศ. 249 ขณะที่จักรพรรดิเฉา ฟาง กับผู้สำเร็จราชการเฉา ฉฺว่าง ออกนอกพระนคร[[ลั่วหยาง]] (洛阳; ฮกเกี้ยน: ลกเอี๋ยง) ไปยังสุสานเกาผิง (高平陵) เพื่อเซ่นไหว้พระศพของจักรพรรดิเฉา รุ่ย นั้น ซือหม่า อี้ ระดมกำลังกลุ่มผู้ต่อต้านเฉา ฉฺว่าง เข้ายึดพระนคร แล้วอ้างพระเสาวนีย์ของ[[จักรพรรดินีกัว (โจยอย)|กัวหฺวังโฮ่ว]] (郭皇后; แปลว่า "ราชเทวีกัว") พระมเหสีของจักรพรรดิเฉา รุ่ย ออกประกาศประณามเฉา ฉฺว่าง ว่า ฉ้อราษฎร์บังหลวง และเรียกร้องให้ถอดเฉา ฉฺว่าง กับญาติพี่น้อง ออกจากอำนาจ เฉา ฉฺว่าง ยอมคืนอำนาจเมื่อซือหม่า อี้ สัญญาว่า จะให้เฉา ฉฺว่าง คงอยู่ในบรรดาศักดิ์ตามเดิม แต่ไม่ช้าหลังได้อำนาจจากเฉา ฉฺว่าง แล้ว ซือหม่า อี้ ก็ให้ประหารเฉา ฉฺว่าง ทั้งโคตรด้วยข้อหากบฏ ทำให้ซือหม่า อี้ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแต่ผู้เดียว เหตุการณ์นี้เรียกว่า [[อุบัติการณ์ที่สุสานเกาผิง]] (高平陵之變)
ในปี 249 [[:en:Wang_Ling_(Three_Kingdoms)|อองเหลง]]ที่ดูแลเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Shouchun (ปัจจุบันคือ [[:en:Shou_County|Shou Country]], [[:en:Lu'an|Lu'An]], [[มณฑลอานฮุย]]) วางแผนก่อกบฏพร้อมกับ[[โจเปียว]] ในปี 251 เมื่ออองเหลงพร้อมจะก่อกบฏ คนของอองเหลง [http://kongming.net/encyclopedia/Huang-Hua Huang Hua (黃華]) และ Yang Hong (楊弘) ทรยศเขาและไปบอกสุมาอี้ สุมาอี้นำทัพมา Shouchun ก่อนที่อองเหลงจะก่อกบฏ และสัญญากับอองเหลงว่าจะให้อภัยโทษ อองเหลงยอมแพ้และถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายพร้อมกับโจเปียวในภายหลัง ตระกูลอองและผู้ติดตามของอองเหลงก็ถูกประหาร สุมาอี้เสียชีวิตในปีเดียวกันและสุมาสูผู้เป็นลูกชายรับช่วงต่อ


เมื่อได้อำนาจแล้ว ซือหม่า อี้ ก็ใช้อำนาจนั้นขจัดคู่แข่งทางการเมืองจนสิ้น กลุ่มผู้สนับสนุนซือหม่า อี้ บีบให้จักรพรรดิเฉา ฟาง ประทาน[[จิ่วซี|บำเหน็จเก้าอย่าง]] (九錫) ให้แก่ซือหม่า อี้ แต่ซือหม่า อี้ ทำทีปฏิเสธ นอกจากนี้ ซือหม่า อี้ ยังใช้อำนาจปราบปรามการทุจริตในวงราชการ และเกื้อหนุนขุนนางสุจริตหลายคน ทำให้ระบบราชการสะอาดขึ้นกว่ายุคเฉา ฉฺว่าง
=== ภายใต้สุมาสูเป็นผู้สำเร็จราชการ ===
ในปี 252 สุมาสูนำทัพบุก[[ง่อก๊ก]]หลังพระเจ้า[[ซุนกวน]]พึ่งสิ้นพระชนม์โดยมี[[ซุนเหลียง]]ขึ้นครองราชย์ภายใต้[[จูกัดเก๊ก]]เป็นผู้สำเร็จราชการ สุมาสูพ่ายแพ้แต่ก็รักษาหน้าได้โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ต่อสาธารณชนและเลื่อนยศให้นายทหารที่คัดค้านการทำศึกครั้งนี้ ในปี 253 สุมาสูเอาชนะจูกัดเก๊กได้และได้รับชื่อเสียงทางการทหาร


ใน ค.ศ. 249 นั้นเอง [[หวัง หลิง]] (王淩) ผู้ปกครองเมือง[[เทศมณฑลโช่ว|โช่วชุน]] (壽春) พยายามยึดอำนาจจากซือหม่า อี้ แต่ไม่สำเร็จ เพราะลูกน้อง คือ หฺวัง หฺวา (黃華) กับหยาง หง (楊弘) นำแผนการมาแถลงแก่ซือหม่า อี้ ทำให้ซือหม่า อี้ ยกทัพไปยึดเมืองโช่วชุนได้ก่อนที่หวัง หลิง จะดำเนินการสำเร็จ ซือหม่า อี้ สัญญาจะอภัยโทษให้หวัง หลิง ทำให้หวัง หลิง ยอมจำนน แต่ภายหลัง ก็บีบให้หวัง หลิง ฆ่าตัวตาย ทั้งประหารครอบครัวกับบริวารของหวัง หลิง ทั้งสิ้น
ในปี 254 สุมาสูระแวงว่าพระเจ้าโจฮองทรงสมคบคิดกับ [[:en:Li_Feng_(Cao_Wei)|Li Feng (李豐)]] ในการจะกำจัดสุมาสู เขาจึงเรียก Li Feng มาสอบสวน เมื่อ Li Feng ไม่ยอมตอบว่าคุยอะไรกับพระเจ้าโจฮอง สุมาสูจึงจัดการฆ่า Li Feng ด้วยด้ามดาบ หลังจากนั้นจึงกล่าวหาว่า Li Feng [[แฮหัวเทียน]] และ [[:en:Zhang_Ji_(Derong)|Zhang Ji (張緝)]] เป็นกบฏและสั่งประหารพร้อมทั้งครอบครัว พระเจ้าโจฮองถูกบังคับให้ปลด Empress Zhang ผู้เป็นภรรยา และเป็นลูกสาวของ Zhang Ji ออก พระเจ้าโจฮองทรงพิโรธจากการตายของ Li Feng และ Zhang Ji มาก และในปลายปี 254 ที่ปรึกษาของพระเจ้าโจฮองบอกพระเจ้าโจฮองเกี่ยวกับแผนที่จะให้ฆ่าสุมาเจียวที่จะเดินทางมาที่วังเพื่อยึดกองกำลังไปโจมตีสุมาสู พระเจ้าโจฮองไม่ได้ตัดสินใจทำตามแผนนั้น เมื่อสุมาสูทราบถึงแผนดังกล่าวจึงปลดพระเจ้าโจฮองออกแต่ก็ไม่ได้ฆ่าและคืนยศเดิม (Prince of Qi) ให้


ปีเดียวกันนั้น ซือหม่า อี้ ถึงแก่กรรม บุตรชาย คือ ซือหม่า ชื่อ จึงสืบอำนาจในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนจักรพรรดิเฉา ฟาง
== ชีวิตในช่วงหลังและเสียชีวิต ==
หลังจากถูกปลด โจฮองย้ายไปอยู่วังใน [[:en:Henei_Commandery|Henei]] (ปัจจุบันคือ [[:en:Jiaozuo|Jiaozo]], [[มณฑลเหอหนาน]]) เมื่อสุมาเอี๋ยนล้มราชวงศ์วุยในปี 265 และก่อตั้ง[[ราชวงศ์จิ้น]] โจฮองและเจ้าชายสกุลโจถูกลดยศไปเป็นดยุค โจฮองเสียชีวิตในปี 274 และได้รับยศย้อนหลังเป็น "Duke Li of Shaoling" พร้อมกับถูกฝังศพในฐานะดยุค ไม่ใช่จักรพรรดิ โจฮองไม่มีบุตรธิดา


==การพ้นจากราชสมบัติ==
== ชื่อรัชสมัย ==


ใน ค.ศ. 252 จักรพรรดิ[[ซุนกวน|ซุน เฉฺวียน]] (孫權; ฮกเกี้ยน: ซุนกวน) แห่ง[[ง่อก๊ก|รัฐตงอู๋]] (東吳; ฮกเกี้ยน: ตังง่อ) สิ้นพระชนม์ ซือหม่า ชื่อ อาศัยโอกาสนี้นำทัพไปตีรัฐตงอู๋ แต่แพ้
* ''Zhengshi'' (正始) 240–249
* ''Jiaping'' (嘉平) 249–254


ปีรุ่งขึ้น ซือหม่า ชื่อ นำทัพไปรัฐตงอู๋อีกครั้ง ครั้งนี้ ซือหม่า ชื่อ มีชัยเหนือ[[จูกัดเก๊ก|จูเก๋อ เค่อ]] (諸葛恪; ฮกเกี้ยน: จูกัดเก๊ก) ผู้สำเร็จราชการรัฐตงอู๋ ซือหม่า ชื่อ จึงมีชื่อเสียงขึ้นในด้านการทหาร
== พระราชอิสริยยศ ==
''ยศไม่เป็นทางการ''


ครั้น ค.ศ. 254 ซือหม่า ชื่อ พยายามรวบอำนาจในราชสำนัก และสงสัยว่า จักรพรรดิเฉา ฟาง กับขุนนาง[[หลี่ เฟิง]] (李豐) กำลังร่วมกันกำจัดตน ซือหม่า ชื่อ จึงเรียกหลี่ เฟิง มาไต่สวน แต่หลี่ เฟิง ไม่ยอมเปิดเผยว่า ทูลสิ่งไรต่อจักรพรรดิเฉา ฟาง บ้าง ซือหม่า ชื่อ จึงเอาด้ามดาบตีหลี่ เฟิง ถึงแก่ความตาย แล้วสั่งประหารคนสนิทของหลี่ เฟิง คือ [[แฮหัวเทียน|เซี่ยโหฺว เสฺวียน]] (夏侯玄; ฮกเกี้ยน: แฮหัวเทียน]] กับ[[จาง จี]] (張緝) พร้อมครอบครัว ในข้อหากบฏ นอกจากนี้ ซือหม่า ชื่อ ยังบีบให้จักรพรรดิเฉา ฟาง ถอด[[จักรพรรดินีจาง (โจฮอง)|จางหฺวังโฮ่ว]] (張皇后) พระมเหสีซึ่งเป็นธิดาของจาง จี ออกจากตำแหน่ง แล้วตั้ง[[จักรพรรดินีหวัง (โจฮอง)|หวังชื่อ]] (王氏; ฮกเกี้ยน: อองสี; แปลว่า "นางหวัง/ออง") ขึ้นเป็นพระมเหสีพระองค์ใหม่ ทำให้จักรพรรดิเฉา ฟาง คับแค้นพระทัย
* Emperor Shao of Wei (魏少帝; lit. "young emperor of Wei")
* Emperor Fei of Wei (魏廢帝; lit. "deposed emperor of Wei")


ในปีนั้นเอง ผู้สนับสนุนจักรพรรดิเฉา ฟาง ทูลเสนอให้ทรงประหาร[[สุมาเจียว|ซือหม่า เจา]] (司馬昭; ฮกเกี้ยน: สุมาเจียว) น้องชายของซือหม่า ชื่อ ขณะที่ซือหม่า เจา มาเข้าเฝ้าในพระราชวัง จะได้ยึดกองกำลังของซือหม่า เจา เอามาต่อสู้กับซือหม่า ชื่อ ชิงอำนาจกลับคืนมาเป็นของจักรพรรดิ แต่จักรพรรดิเฉา ฟาง ทรงประหวั่นและไม่กล้าลงมือ ทำให้แผนการรั่วไหลไปถึงซือหม่า ชื่อ ซือหม่า ชื่อ จึงถอดจักรพรรดิเฉา ฟาง ออกจากราชสมบัติ ลงเป็นฉีหวังดังเดิม แล้วยก[[โจมอ|เฉา เหมา]] (曹髦; ฮกเกี้ยน: โจมอ) พระญาติ ขึ้นเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่
''ยศย้อนหลัง''


==ปลายพระชนม์==
* Prince Ai of Qi (齊哀王)
*Duke Li of Shaoling (邵陵厲公)


เมื่อถูกถอดลงเป็นฉีหวังแล้ว เฉา ฟาง ต้องทรงย้ายไปประทับที่[[อำเภอเหอเน่ย์]] (河內郡)
== ครอบครัว ==


ต่อมาใน ค.ศ. 265 [[สุมาเอี๋ยน|ซือหม่า หยาน]] (司馬炎; ฮกเกี้ยน: สุมาเอี๋ยน) บุตรของซือหม่า เจา ยึดราชสมบัติจากจักรพรรดิ[[โจฮวน|เฉา ฮฺวั่น]] (曹奐; ฮกเกี้ยน: โจฮวน) และถอดเจ้านายสกุลเฉา ซึ่งรวมถึงเฉา ฟาง ลงเป็นขุนนางบรรดาศักดิ์กง (公)
* '''พ่อแม่'''
** Cao Kai, Prince of Rencheng (任城王 曹楷), ลูกชายของ[[โจเจียง]] (โจเจียงเป็นลูกชายคนที่สามของ[[โจโฉ]])
* '''ภรรยา'''
** [[:en:Empress_Zhen_(Cao_Fang)|Empress Huai]] ของตระกูลเอียน (懷皇后 甄氏; d. 251)
** [[:en:Empress_Zhang_(Cao_Fang)|Empress]] ของตระกูลเตียว (皇后 張氏)
** [[:en:Empress_Wang_(Cao_Fang)|Princess consort]] ของตระกูลออง (王妃 王氏)
{{เริ่มกล่อง}}
{{สืบตำแหน่ง
| ก่อนหน้า = [[โจยอย|พระเจ้าโจยอย]] <br/>
| ตำแหน่ง = [[จักรพรรดิจีน]]<br/>
| ราชวงศ์ = วุยก๊ก
| ปี = [[พ.ศ. 782]] - [[พ.ศ. 797]]
| ถัดไป = [[โจมอ|พระเจ้าโจมอ]] <br/>
}}
{{จบกล่อง}}


ครั้น ค.ศ. 274 อดีตจักรพรรดิเฉา ฟาง สิ้นพระชนม์ ได้รับพิธีศพตามฐานะขุนนางชั้นกง แทนที่จะเป็นพระราชพิธีศพอย่างจักรพรรดิ และได้รับบรรดาศักดิ์ว่า "เช่าหลิงลี่กง" (邵陵厲公)
{{จักรพรรดิยุคสามก๊ก}}
{{บุคคลสำคัญในวุยก๊ก}}


ไม่ปรากฏว่า เฉา ฟาง มีพระโอรสธิดาหรือไม่
{{birth|231}}{{death|274}}

[[หมวดหมู่:วุยก๊ก]]
==ชื่อรัชศก==

* เจิ้งฉื่อ (正始) กินเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 240 ถึง 249
* เจียผิง (嘉平) กินเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 249 ถึง 254

==อ้างอิง==
* [[Chen Shou]] (3rd century). ''[[Records of the Three Kingdoms]]'' (''Sanguozhi'').
* [[Pei Songzhi]] (5th century). ''[[Annotations to Records of the Three Kingdoms]]'' (''Sanguozhi zhu'').

[[หมวดหมู่:จักรพรรดิวุยก๊ก]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:27, 26 เมษายน 2563

เฉา ฟาง (จีน: 曹芳; พินอิน: Cáo Fāng; ฮกเกี้ยน: โจฮอง; ค.ศ. 232–274) พระนามรองว่า หลานชิง (蘭卿) เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 3 แห่งรัฐเฉาเว่ย์ (曹魏; ฮกเกี้ยน: โจวุย) ในช่วงสามก๊กของประวัติศาสตร์จีน เป็นพระโอรสบุญธรรมของเฉา รุ่ย (曹叡; ฮกเกี้ยน: โจยอย) จักรพรรดิพระองค์ที่ 2 ของรัฐเฉาเว่ย์ ครองราชย์ต่อจากเฉา รุ่ย ตั้งแต่ ค.ศ. 239 จนถูกซือหม่า ชือ (司馬師; ฮกเกี้ยน: สุมาสู) ผู้สำเร็จราชการ ถอดออกจากราชสมบัติใน ค.ศ. 254

ภูมิหลัง

ภูมิหลังเกี่ยวกับพระกำเนิดของเฉา ฟาง นั้นยังสรุปไม่ได้ เอกสาร เว่ย์ชื่อชุนชิว (魏氏春秋) ว่า เฉา ฟาง เป็นพระโอรสของเฉา ข่าย (曹楷) ผู้ดำรงตำแหน่งเริ่นเฉิงหวัง (任城王; "องค์ชายเริ่นเฉิง") แต่จักรพรรดิเฉา รุ่ย ทรงรับเฉา ฟาง เป็นพระโอรสบุญธรรมตั้งแต่เฉา ฟาง ยังเยาว์ และจักรพรรดิเฉา รุ่ย ทรงตั้งเฉา ฟาง เป็นฉีหวัง (齐王; "องค์ชายฉี") ใน ค.ศ. 235

ราว ค.ศ. 239 จักรพรรดิเฉา รุ่ย ประชวร และตกลงพระทัยจะมอบราชสมบัติให้เฉา ฟาง สืบต่อ จึงทรงตั้งคณะผู้สำเร็จราชการให้คอยอภิบาลเฉา ฟาง ประกอบด้วย พระญาติ คือ เฉา อฺวี่ (曹宇) กับเฉา จ้าว (曹肇) และขุนนาง คือ เซี่ยโหฺว เซี่ยน (夏侯獻) กับฉิน หล่าง (秦朗) แต่เฉา จ้าว กับเซี่ยโหฺว เซี่ยน ขัดแย้งกับหลิว ฟ่าง (劉放) และซุน จือ (孫資) ขุนนางคนสนิทของจักรพรรดิเฉา รุ่ย หลิว ฟ่าง กับซุน จือ ทูลจักรพรรดิเฉา รุ่ย ให้ถอดเฉา อฺวี่, เฉา จ้าว, และฉิน หล่าง ออกจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ และตั้งเฉา ฉฺว่าง (曹爽; ฮกเกี้ยน: โจซอง) ผู้เป็นพระญาติ และซือหม่า อี้ (司馬懿; ฮกเกี้ยน: สุมาอี้) ผู้เป็นขุนนาง เป็นคณะผู้สำเร็จราชการชุดใหม่แทน

ราวครึ่งเดือนให้หลัง จักรพรรดิเฉา รุ่ย ประชวรหนัก ประทับอยู่บนพระที่ ไม่อาจเสด็จออกว่าราชการได้ รับสั่งให้ซือหม่า อี้ เข้าเฝ้าถึงห้องพระบรรทม ทรงฝากฝังเฉา ฟาง ไว้กับซือหม่า อี้ ให้เฉา ฟาง นับถือซือหม่า อี้ เสมือนเป็นบิดา พร้อมทรงตั้งเฉา ฟาง เป็นรัชทายาท วันเดียวกันนั้น จักรพรรดิเฉา รุ่ย เสด็จสวรรคต เฉา ฟาง จึงขึ้นครองราชย์ต่อ เวลานั้น เฉา ฟาง มีพระชันษาราว 9 ปี

การครองราชย์

เนื่องจากเฉา ฟาง ขึ้นครองราชย์ขณะทรงพระเยาว์ รัชกาลของเฉา ฟาง จึงดำเนินไปผ่านคณะผู้สำเร็จราชการที่ประกอบด้วยเฉา ฉฺว่าง กับซือหม่า อี้ กระทั่งซือหม่า อี้ ยึดอำนาจทางการเมืองจากเฉา ฉฺวั่ง ได้ใน ค.ศ. 249 ซือหม่า อี้ จึงได้สำเร็จราชการแต่ผู้เดียว ครั้นซือหม่า อี้ เสียชีวิตใน ค.ศ. 251 ซือหม่า ชือ บุตรของซือหม่า อี้ ก็เข้าสืบตำแหน่งผู้สำเร็จราชการต่อ จักรพรรดิเฉา ฟาง ทรงพยายามจะนำอำนาจปกครองกลับคืนมาจากผู้สำเร็จราชการ แต่ไม่สำเร็จ และซือหม่า ชือ ถอดจักรพรรดิเฉา ฟาง ออกจากราชสมบัติ

ช่วงแรก เฉา ฉฺว่าง กับซือหม่า อี้ บริหารอำนาจในฐานะผู้สำเร็จราชการร่วมกัน แต่ภายหลัง เฉา ฉฺว่าง พยายามถอดซือหม่า อี้ ออกจากอำนาจ โดยให้ซือหม่า อี้ ไปดำรงตำแหน่งชั้นสูงที่มีอำนาจแต่ในนามแทน เฉา ฉฺว่าง จึงได้ใช้อำนาจผู้สำเร็จราชการแต่ผู้เดียว และตั้งคนสนิทของตน เช่น เติ้ง หยาง (鄧颺), หลี่ เชิ่ง (李勝), เหอ ย่าน (何晏), และติง มี่ (丁謐) ขึ้นเป็นขุนนางผู้ใหญ่

ระหว่างนั้น ใน ค.ศ. 243 จักรพรรดิเฉา ฟาง เสกสมรสกับเจินชื่อ (甄氏; ฮกเกี้ยน: จินสี; แปลว่า "นางเจิน/จิน") หลานสาวของเจิน หย่าน (甄儼) พระอนุชาของเจินโฮ่ว (甄后; ฮกเกี้ยน: จินเฮา; แปลว่า "เทวีเจิน/จิน") พระอัยยิกาของเฉา ฟาง เอง เจินชื่อได้รับแต่งตั้งเป็นพระมเหสีเรียก หฺวายหฺวังโฮ่ว (懷皇后; แปลว่า "ราชเทวีหฺวาย")

ใน ค.ศ. 244 เฉา ฉฺว่าง นำทัพไปตีฮั่นจง (漢中; ฮกเกี้ยน: ฮันต๋ง) เมืองชายแดนของรัฐฉู่ฮั่น (蜀漢; ฮกเกี้ยน: จ๊กฮั่น) แม้ผลการรบจะไม่แพ้ไม่ชนะ แต่กองทัพของเฉา ฉฺว่าง ประสบความสูญเสียอย่างหนัก ประกอบกับขาดเสบียง จึงต้องถอยกลับไป แม้จะไม่สามารถมีชัยในสมรภูมิได้ดังหวัง แต่เฉา ฉฺว่าง ก็ยังมีอำนาจมั่นคงในฐานะผู้สำเร็จราชการต่อไป

ครั้น ค.ศ. 247 ซือหม่า อี้ ลาออกจากราชการ อ้างเหตุป่วย

ใน ค.ศ. 249 ขณะที่จักรพรรดิเฉา ฟาง กับผู้สำเร็จราชการเฉา ฉฺว่าง ออกนอกพระนครลั่วหยาง (洛阳; ฮกเกี้ยน: ลกเอี๋ยง) ไปยังสุสานเกาผิง (高平陵) เพื่อเซ่นไหว้พระศพของจักรพรรดิเฉา รุ่ย นั้น ซือหม่า อี้ ระดมกำลังกลุ่มผู้ต่อต้านเฉา ฉฺว่าง เข้ายึดพระนคร แล้วอ้างพระเสาวนีย์ของกัวหฺวังโฮ่ว (郭皇后; แปลว่า "ราชเทวีกัว") พระมเหสีของจักรพรรดิเฉา รุ่ย ออกประกาศประณามเฉา ฉฺว่าง ว่า ฉ้อราษฎร์บังหลวง และเรียกร้องให้ถอดเฉา ฉฺว่าง กับญาติพี่น้อง ออกจากอำนาจ เฉา ฉฺว่าง ยอมคืนอำนาจเมื่อซือหม่า อี้ สัญญาว่า จะให้เฉา ฉฺว่าง คงอยู่ในบรรดาศักดิ์ตามเดิม แต่ไม่ช้าหลังได้อำนาจจากเฉา ฉฺว่าง แล้ว ซือหม่า อี้ ก็ให้ประหารเฉา ฉฺว่าง ทั้งโคตรด้วยข้อหากบฏ ทำให้ซือหม่า อี้ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแต่ผู้เดียว เหตุการณ์นี้เรียกว่า อุบัติการณ์ที่สุสานเกาผิง (高平陵之變)

เมื่อได้อำนาจแล้ว ซือหม่า อี้ ก็ใช้อำนาจนั้นขจัดคู่แข่งทางการเมืองจนสิ้น กลุ่มผู้สนับสนุนซือหม่า อี้ บีบให้จักรพรรดิเฉา ฟาง ประทานบำเหน็จเก้าอย่าง (九錫) ให้แก่ซือหม่า อี้ แต่ซือหม่า อี้ ทำทีปฏิเสธ นอกจากนี้ ซือหม่า อี้ ยังใช้อำนาจปราบปรามการทุจริตในวงราชการ และเกื้อหนุนขุนนางสุจริตหลายคน ทำให้ระบบราชการสะอาดขึ้นกว่ายุคเฉา ฉฺว่าง

ใน ค.ศ. 249 นั้นเอง หวัง หลิง (王淩) ผู้ปกครองเมืองโช่วชุน (壽春) พยายามยึดอำนาจจากซือหม่า อี้ แต่ไม่สำเร็จ เพราะลูกน้อง คือ หฺวัง หฺวา (黃華) กับหยาง หง (楊弘) นำแผนการมาแถลงแก่ซือหม่า อี้ ทำให้ซือหม่า อี้ ยกทัพไปยึดเมืองโช่วชุนได้ก่อนที่หวัง หลิง จะดำเนินการสำเร็จ ซือหม่า อี้ สัญญาจะอภัยโทษให้หวัง หลิง ทำให้หวัง หลิง ยอมจำนน แต่ภายหลัง ก็บีบให้หวัง หลิง ฆ่าตัวตาย ทั้งประหารครอบครัวกับบริวารของหวัง หลิง ทั้งสิ้น

ปีเดียวกันนั้น ซือหม่า อี้ ถึงแก่กรรม บุตรชาย คือ ซือหม่า ชื่อ จึงสืบอำนาจในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนจักรพรรดิเฉา ฟาง

การพ้นจากราชสมบัติ

ใน ค.ศ. 252 จักรพรรดิซุน เฉฺวียน (孫權; ฮกเกี้ยน: ซุนกวน) แห่งรัฐตงอู๋ (東吳; ฮกเกี้ยน: ตังง่อ) สิ้นพระชนม์ ซือหม่า ชื่อ อาศัยโอกาสนี้นำทัพไปตีรัฐตงอู๋ แต่แพ้

ปีรุ่งขึ้น ซือหม่า ชื่อ นำทัพไปรัฐตงอู๋อีกครั้ง ครั้งนี้ ซือหม่า ชื่อ มีชัยเหนือจูเก๋อ เค่อ (諸葛恪; ฮกเกี้ยน: จูกัดเก๊ก) ผู้สำเร็จราชการรัฐตงอู๋ ซือหม่า ชื่อ จึงมีชื่อเสียงขึ้นในด้านการทหาร

ครั้น ค.ศ. 254 ซือหม่า ชื่อ พยายามรวบอำนาจในราชสำนัก และสงสัยว่า จักรพรรดิเฉา ฟาง กับขุนนางหลี่ เฟิง (李豐) กำลังร่วมกันกำจัดตน ซือหม่า ชื่อ จึงเรียกหลี่ เฟิง มาไต่สวน แต่หลี่ เฟิง ไม่ยอมเปิดเผยว่า ทูลสิ่งไรต่อจักรพรรดิเฉา ฟาง บ้าง ซือหม่า ชื่อ จึงเอาด้ามดาบตีหลี่ เฟิง ถึงแก่ความตาย แล้วสั่งประหารคนสนิทของหลี่ เฟิง คือ เซี่ยโหฺว เสฺวียน (夏侯玄; ฮกเกี้ยน: แฮหัวเทียน]] กับจาง จี (張緝) พร้อมครอบครัว ในข้อหากบฏ นอกจากนี้ ซือหม่า ชื่อ ยังบีบให้จักรพรรดิเฉา ฟาง ถอดจางหฺวังโฮ่ว (張皇后) พระมเหสีซึ่งเป็นธิดาของจาง จี ออกจากตำแหน่ง แล้วตั้งหวังชื่อ (王氏; ฮกเกี้ยน: อองสี; แปลว่า "นางหวัง/ออง") ขึ้นเป็นพระมเหสีพระองค์ใหม่ ทำให้จักรพรรดิเฉา ฟาง คับแค้นพระทัย

ในปีนั้นเอง ผู้สนับสนุนจักรพรรดิเฉา ฟาง ทูลเสนอให้ทรงประหารซือหม่า เจา (司馬昭; ฮกเกี้ยน: สุมาเจียว) น้องชายของซือหม่า ชื่อ ขณะที่ซือหม่า เจา มาเข้าเฝ้าในพระราชวัง จะได้ยึดกองกำลังของซือหม่า เจา เอามาต่อสู้กับซือหม่า ชื่อ ชิงอำนาจกลับคืนมาเป็นของจักรพรรดิ แต่จักรพรรดิเฉา ฟาง ทรงประหวั่นและไม่กล้าลงมือ ทำให้แผนการรั่วไหลไปถึงซือหม่า ชื่อ ซือหม่า ชื่อ จึงถอดจักรพรรดิเฉา ฟาง ออกจากราชสมบัติ ลงเป็นฉีหวังดังเดิม แล้วยกเฉา เหมา (曹髦; ฮกเกี้ยน: โจมอ) พระญาติ ขึ้นเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่

ปลายพระชนม์

เมื่อถูกถอดลงเป็นฉีหวังแล้ว เฉา ฟาง ต้องทรงย้ายไปประทับที่อำเภอเหอเน่ย์ (河內郡)

ต่อมาใน ค.ศ. 265 ซือหม่า หยาน (司馬炎; ฮกเกี้ยน: สุมาเอี๋ยน) บุตรของซือหม่า เจา ยึดราชสมบัติจากจักรพรรดิเฉา ฮฺวั่น (曹奐; ฮกเกี้ยน: โจฮวน) และถอดเจ้านายสกุลเฉา ซึ่งรวมถึงเฉา ฟาง ลงเป็นขุนนางบรรดาศักดิ์กง (公)

ครั้น ค.ศ. 274 อดีตจักรพรรดิเฉา ฟาง สิ้นพระชนม์ ได้รับพิธีศพตามฐานะขุนนางชั้นกง แทนที่จะเป็นพระราชพิธีศพอย่างจักรพรรดิ และได้รับบรรดาศักดิ์ว่า "เช่าหลิงลี่กง" (邵陵厲公)

ไม่ปรากฏว่า เฉา ฟาง มีพระโอรสธิดาหรือไม่

ชื่อรัชศก

  • เจิ้งฉื่อ (正始) กินเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 240 ถึง 249
  • เจียผิง (嘉平) กินเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 249 ถึง 254

อ้างอิง