ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
<br /> |
|||
{{ล็อก}} |
|||
#Prototype |
|||
{{กล่องข้อมูล หน่วยงานของรัฐ 2 |
{{กล่องข้อมูล หน่วยงานของรัฐ 2 |
||
| ชื่อหน่วยงาน = |
| ชื่อหน่วยงาน = สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ |
||
| ชื่อในภาษาแม่_1= |
| ชื่อในภาษาแม่_1 = |
||
| ชื่อในภาษาแม่_2 = |
| ชื่อในภาษาแม่_2 = |
||
| ชื่อในภาษาแม่_ท = |
| ชื่อในภาษาแม่_ท = |
||
| สัญลักษณ์ = |
| สัญลักษณ์ = |
||
| สัญลักษณ์ |
| สัญลักษณ์_กว้าง = |
||
| สัญลักษณ์ |
| สัญลักษณ์_บรรยาย = |
||
| ตรา = |
| ตรา = |
||
| ตรา_กว้าง = |
| ตรา_กว้าง = |
||
| ตรา_บรรยาย = |
| ตรา_บรรยาย = |
||
| ภาพ = |
| ภาพ = |
||
| ภาพ_กว้าง = |
| ภาพ_กว้าง = |
||
| ภาพ_บรรยาย = |
| ภาพ_บรรยาย = |
||
| วันก่อตั้ง = พ.ศ. 2499 <br> 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 <small> (โอนมาสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) </small> |
|||
| |
| ผู้ก่อตั้ง = |
||
⚫ | |||
| สืบทอดจาก_ |
| สืบทอดจาก_1 = สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ |
||
| สืบทอดจาก_ |
| สืบทอดจาก_2 = |
||
| สืบทอดจาก_ |
| สืบทอดจาก_3 = |
||
| สืบทอดจาก_ |
| สืบทอดจาก_4 = |
||
| สืบทอดจาก_ |
| สืบทอดจาก_5 = |
||
⚫ | |||
| วันยุบเลิก = |
| วันยุบเลิก = |
||
| สืบทอดโดย = |
| สืบทอดโดย = |
||
| เขตอำนาจ = ทั่วราชอาณาจักรประเทศไทย |
|||
| เขตอำนาจ = |
|||
| กองบัญชาการ = แดนประหารวิธีปัจจุบัน (ฉีดยา) ณ.เรือนจำบางขวาง สุดแต่พิจารณาตามผู้มีอำนาจเต็มสำเร็จโทษ |
|||
| กองบัญชาการ = 196 [[ถนนพหลโยธิน]] [[แขวงลาดยาว]] [[เขตจตุจักร]] [[กรุงเทพมหานคร]] |
|||
| latd= |latm= |lats= |latNS= |
|||
| |
| latd= |latm= |lats= |latNS= |
||
| longd= |longm= |longs= |longEW= |
|||
| รหัสภูมิภาค = |
| รหัสภูมิภาค = |
||
| บุคลากร = จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษกรรมสูงสุด |
|||
| บุคลากร = |
|||
| งบประมาณ = 259.75 บาท / ครั้ง |
|||
| งบประมาณ = 2,644.0443 ล้านบาท <small>([[พ.ศ. 2559]])</small><ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/091/17.PDF พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559] เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558</ref> |
|||
| รัฐมนตรี1_ชื่อ = รมต.1 ( ผู้ต้องหาระหว่างพิจรณา1) [[ดร.ธงชัย นรสาร]] [[ดร.เฉลียว ทุมรี]] [[ดร.ประคิน เทพเสนา]] [[ร้อยตำรวจเอกปรีชา ทิพกุล]] [[แพทย์หญิง ลักขณา นรสาร]] [[นายแพทย์ อุลัย กลยนี]] |
|||
| รัฐมนตรี1_ชื่อ = |
|||
| รัฐมนตรี1_ตำแหน่ง = นักโทษคดีขัดขวางพระราชกรณียกิจพระมหากษัตริย์2 |
|||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี1_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี2_ |
| รัฐมนตรี2_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี2_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี3_ |
| รัฐมนตรี3_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี3_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี4_ |
| รัฐมนตรี4_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี4_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี5_ |
| รัฐมนตรี5_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี5_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี6_ |
| รัฐมนตรี6_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี6_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี7_ |
| รัฐมนตรี7_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี7_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี8_ |
| รัฐมนตรี8_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี8_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี9_ |
| รัฐมนตรี9_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี |
| รัฐมนตรี9_ตำแหน่ง = |
||
| รัฐมนตรี10_ |
| รัฐมนตรี10_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี10_ตำแหน่ง = |
|||
| หัวหน้า1_ชื่อ = |
| หัวหน้า1_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า1_ตำแหน่ง =รู้สึกผิดจริงจากใจ รายชื่อ รมต.1 ( สั่งสอนให้กระผมได้ไหม ถือว่าไถ่โทษคืนช่วยงานพระราชกรณียกิจพระมหากษัตริย์2) ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ |
|||
| หัวหน้า1_ตำแหน่ง = ผู้อำนวยการ |
|||
| หัวหน้า2_ชื่อ = |
| หัวหน้า2_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า2_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า2_ตำแหน่ง = |
||
| หัวหน้า3_ชื่อ = |
| หัวหน้า3_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า3_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า3_ตำแหน่ง = รองเลขาธิการ |
||
| หัวหน้า4_ชื่อ = |
| หัวหน้า4_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า4_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า4_ตำแหน่ง = |
||
| หัวหน้า5_ชื่อ = |
| หัวหน้า5_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า5_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า5_ตำแหน่ง = |
||
| หัวหน้า6_ชื่อ = |
| หัวหน้า6_ชื่อ = |
||
บรรทัด 67: | บรรทัด 64: | ||
| หัวหน้า7_ชื่อ = |
| หัวหน้า7_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า7_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า7_ตำแหน่ง = |
||
| หัวหน้า8_ชื่อ = |
| หัวหน้า8_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า8_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า8_ตำแหน่ง = |
||
| หัวหน้า9_ชื่อ = |
| หัวหน้า9_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า9_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า9_ตำแหน่ง = |
||
| หัวหน้า10_ชื่อ = |
| หัวหน้า10_ชื่อ = |
||
| หัวหน้า10_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า10_ตำแหน่ง = |
||
| ประเภทหน่วยงาน = |
|||
|commander2_ชื่อ = |
|||
| ต้นสังกัด = |
|||
| ประเภทหน่วยงาน = โทรแล้วหมดทุกข์/ลานประหารนักโทษ |
|||
| กำกับดูแล = [[กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม]] |
|||
| ต้นสังกัด = โทรแล้วหมดทุกข์ 02-502-8222 จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษสูงสุดผู้มีอำนาจวินิจฉัยเต็ม กระทรวงยุติธรรม |
|||
| ลูกสังกัด_1 = |
| ลูกสังกัด_1 = |
||
| ลูกสังกัด_2 = |
| ลูกสังกัด_2 = |
||
| ลูกสังกัด_3 = |
| ลูกสังกัด_3 = |
||
| ลูกสังกัด_4 = |
| ลูกสังกัด_4 = |
||
| ลูกสังกัด_5 = |
| ลูกสังกัด_5 = |
||
| ลูกสังกัด_6 = |
| ลูกสังกัด_6 = |
||
| ลูกสังกัด_7 = |
| ลูกสังกัด_7 = |
||
| ลูกสังกัด_8 = |
| ลูกสังกัด_8 = |
||
| ลูกสังกัด_9 = |
| ลูกสังกัด_9 = |
||
| เอกสารหลัก_1= |
| เอกสารหลัก_1= |
||
| เอกสารหลัก_2= |
| เอกสารหลัก_2= |
||
| เอกสารหลัก_3= |
| เอกสารหลัก_3= |
||
| เอกสารหลัก_4= |
| เอกสารหลัก_4= |
||
| เอกสารหลัก_5= |
| เอกสารหลัก_5= |
||
| เอกสารหลัก_6= |
| เอกสารหลัก_6= |
||
| เว็บไซต์ = [ |
| เว็บไซต์ = [http://www.nrct.go.th www.nrct.go.th] |
||
| หมายเหตุ = |
| หมายเหตุ = |
||
| แผนที่ = |
| แผนที่ = |
||
| แผนที่_กว้าง = |
| แผนที่_กว้าง = |
||
| แผนที่_บรรยาย = |
| แผนที่_บรรยาย = |
||
}} |
}} |
||
'''สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ''' (วช.) เป็นส่วนราชการสังกัด[[กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม]] มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัย และมีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนการวิจัยทั้งด้าน[[วิทยาศาสตร์]]และ[[สังคมศาสตร์]] |
|||
<br /> |
|||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
บรรทัด 103: | บรรทัด 100: | ||
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เดิมใช้ชื่อว่า "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" (National Research Council of Thailand) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในชื่อว่า "สภาวิจัยแห่งชาติ" ในปี พ.ศ. 2499 ตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. 2499 โดยแต่งตั้งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์เป็นเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติโดยตำแหน่ง และตั้งสำนักงานเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติขึ้นที่กรมวิทยาศาสตร์เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งได้กำหนดสาขาวิชาการที่จะวิจัยไว้เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์โดยแบ่งออกเป็น 6 สาขา ได้แก่ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เคมีและเภสัชวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เกษตรศาสตร์และวนศาสตร์ และสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรม |
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เดิมใช้ชื่อว่า "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" (National Research Council of Thailand) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในชื่อว่า "สภาวิจัยแห่งชาติ" ในปี พ.ศ. 2499 ตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. 2499 โดยแต่งตั้งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์เป็นเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติโดยตำแหน่ง และตั้งสำนักงานเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติขึ้นที่กรมวิทยาศาสตร์เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งได้กำหนดสาขาวิชาการที่จะวิจัยไว้เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์โดยแบ่งออกเป็น 6 สาขา ได้แก่ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เคมีและเภสัชวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เกษตรศาสตร์และวนศาสตร์ และสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรม |
||
พ.ศ. 2502 รัฐบาลโดย [[จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์]] นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ แทนพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๙ พร้อมทั้งจัดระบบงานและองค์ประกอบของสภาวิจัยแห่งชาติใหม่โดยให้มี "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" ปฏิบัติงานให้กับสภาวิจัยแห่งชาติและเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2502 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางเกี่ยวกับการวิจัยของประเทศ |
|||
พ.ศ. 2507 ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ เพื่อกำหนดหน้าที่ของสภาวิจัยแห่งชาติและสำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติให้เหมาะสมยิ่งขึ้น |
|||
พ.ศ. 2515 ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๑๕ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ แก้ไขพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ โดยมีการเปลี่ยนชื่อ "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" เป็น "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" <ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2515/A/190/47.PDF ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๑๕ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒)] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๙ ตอน ๑๙๐ ก พิเศษ หน้า ๔๗ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ </ref> |
|||
พ.ศ. 2522 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "[[กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม]]") เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2535 |
|||
พ.ศ. 2543 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยมีฐานะเป็นกรม ซึ่งไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อให้สำนักงานฯ ได้มีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนการวิจัยทั้ง ด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ได้อย่างแท้จริงตามกฎหมายว่าด้วยสภาวิจัยแห่ง ชาติรวมทั้งสามารถให้คำปรึกษารัฐบาลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการวิจัยได้โดยรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งเพื่อให้สำนักงานฯ ได้อยู่ในสายการบังคับบัญชาเดียว คือ ขึ้นตรงกับประธานสภาวิจัยแห่งชาติ (นายกรัฐมนตรี) ซึ่งตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติได้ระบุให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการทำงานของสำนักงานฯ อยู่แล้ว |
|||
เมื่อวันที่ 3 |
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 รัฐบาลได้ประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับ[[การปฏิรูประบบราชการ]] คือ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งในหมวด 21 ได้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00102282.PDF มาตรา ๔๖ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ]</ref> มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และมีฐานะเป็นกรม อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก [[ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์]]) กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติแทน |
||
วันที่ |
วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ครั้งที่ 3/2559 ที่ [[ตึกสันติไมตรี]] [[ทำเนียบรัฐบาล]] ซึ่งมี [[พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา]] นายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีมติให้ควบรวมคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติและคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศเข้าด้วยกันเรียกว่า '''คณะกรรมการนโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (นวนช.)''' โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อให้นโยบายวิจัยและนวัตกรรมของประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันรวมถึงลดความซ้ำซ้อนในการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 3 คณะ |
||
ต่อมาในวันที่ |
ต่อมาในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้มีการจัดตั้ง [[สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ]] ขึ้นตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 62/2559 ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยให้ยุบสภาวิจัยแห่งชาติรวมถึงคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการสาขาวิชาการและให้โอนอำนาจหน้าที่ไปเป็นของสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ <ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/225/8.PDF คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๒/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ จัดตั้งสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ)] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอน ๒๒๕ ง พิเศษ หน้า ๘ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ </ref> |
||
ต่อมาพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2562 กำหนดให้ ''สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ'' ซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง เป็น ''สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม'' <ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/057/T_0001.PDF พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒], เล่ม 136, ตอนที่ 47 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 1</ref> พร้อมกับโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ ภาระผูกพัน เงินงบประมาณบุคลากรของ ''"สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ"'' ไปเป็นของ ''"สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ"'' ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม เป็นต้นไป<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/057/T_0079.PDF พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒] , เล่ม 136, ตอนที่ 57 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 79</ref> |
ต่อมาพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2562 กำหนดให้ ''สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ'' ซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง เป็น ''สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม'' <ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/057/T_0001.PDF พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒], เล่ม 136, ตอนที่ 47 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 1</ref> พร้อมกับโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ ภาระผูกพัน เงินงบประมาณบุคลากรของ ''"สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ"'' ไปเป็นของ ''"สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ"'' ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม เป็นต้นไป<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/057/T_0079.PDF พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒] , เล่ม 136, ตอนที่ 57 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 79</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:07, 6 เมษายน 2563
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2499 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 (โอนมาสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) |
หน่วยงานก่อนหน้า |
|
สำนักงานใหญ่ | 196 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร |
งบประมาณประจำปี | 2,644.0443 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1] |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
ต้นสังกัด | กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม |
เว็บไซต์ | www.nrct.go.th |
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นส่วนราชการสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัย และมีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนการวิจัยทั้งด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์
ประวัติ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เดิมใช้ชื่อว่า "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" (National Research Council of Thailand) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในชื่อว่า "สภาวิจัยแห่งชาติ" ในปี พ.ศ. 2499 ตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. 2499 โดยแต่งตั้งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์เป็นเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติโดยตำแหน่ง และตั้งสำนักงานเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติขึ้นที่กรมวิทยาศาสตร์เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งได้กำหนดสาขาวิชาการที่จะวิจัยไว้เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์โดยแบ่งออกเป็น 6 สาขา ได้แก่ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เคมีและเภสัชวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เกษตรศาสตร์และวนศาสตร์ และสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรม
พ.ศ. 2502 รัฐบาลโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ แทนพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๙ พร้อมทั้งจัดระบบงานและองค์ประกอบของสภาวิจัยแห่งชาติใหม่โดยให้มี "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" ปฏิบัติงานให้กับสภาวิจัยแห่งชาติและเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2502 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางเกี่ยวกับการวิจัยของประเทศ
พ.ศ. 2507 ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ เพื่อกำหนดหน้าที่ของสภาวิจัยแห่งชาติและสำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
พ.ศ. 2515 ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๑๕ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ แก้ไขพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ โดยมีการเปลี่ยนชื่อ "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" เป็น "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" [2]
พ.ศ. 2522 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม") เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2535
พ.ศ. 2543 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยมีฐานะเป็นกรม ซึ่งไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อให้สำนักงานฯ ได้มีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนการวิจัยทั้ง ด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ได้อย่างแท้จริงตามกฎหมายว่าด้วยสภาวิจัยแห่ง ชาติรวมทั้งสามารถให้คำปรึกษารัฐบาลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการวิจัยได้โดยรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งเพื่อให้สำนักงานฯ ได้อยู่ในสายการบังคับบัญชาเดียว คือ ขึ้นตรงกับประธานสภาวิจัยแห่งชาติ (นายกรัฐมนตรี) ซึ่งตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติได้ระบุให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการทำงานของสำนักงานฯ อยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 รัฐบาลได้ประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ คือ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งในหมวด 21 ได้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง[3] มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และมีฐานะเป็นกรม อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติแทน
วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ครั้งที่ 3/2559 ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีมติให้ควบรวมคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติและคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศเข้าด้วยกันเรียกว่า คณะกรรมการนโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (นวนช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อให้นโยบายวิจัยและนวัตกรรมของประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันรวมถึงลดความซ้ำซ้อนในการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 3 คณะ
ต่อมาในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้มีการจัดตั้ง สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ขึ้นตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 62/2559 ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยให้ยุบสภาวิจัยแห่งชาติรวมถึงคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการสาขาวิชาการและให้โอนอำนาจหน้าที่ไปเป็นของสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ [4]
ต่อมาพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2562 กำหนดให้ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง เป็น สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม [5] พร้อมกับโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ ภาระผูกพัน เงินงบประมาณบุคลากรของ "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" ไปเป็นของ "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ" ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม เป็นต้นไป[6]
รายชื่อเลขาธิการและผู้อำนวยการหน่วยงาน
รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
ชื่อ | ระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง[7] |
---|---|
1. ดร.จ่าง รัตนะรัต | 19 กันยายน พ.ศ. 2499—1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 |
2. พลเอกเนตร เขมะโยธิน | 16 ธันวาคม พ.ศ. 2502—30 กันยายน พ.ศ. 2512 |
3. ศาสตราจารย์ ดร.ประดิษฐ์ เชี่ยวสกุล | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2512—30 กันยายน พ.ศ. 2516 |
4. ศาสตราจารย์ ดร.สง่า สรรพศรี | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2516—30 กันยายน พ.ศ. 2524 |
5. ศาสตราจารย์ ดร.จุมพล สวัสดิยากร | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2524—30 กันยายน พ.ศ. 2532 |
6. ดร.เจริญ วัชระรังษี | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2532—30 กันยายน พ.ศ. 2533 |
7. ดร.อภิรัต อรุณินท์ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2533—30 กันยายน พ.ศ. 2538 |
8. ดร.สุวิทย์ วิบูลย์เศรษฐ์ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2538—31 ตุลาคม พ.ศ. 2540 |
9. นายจิรพันธ์ อรรถจินดา | 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540—30 กันยายน พ.ศ. 2547 |
10. ศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช | 21 มกราคม พ.ศ. 2548—30 กันยายน พ.ศ. 2552 |
11. ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552—30 กันยายน พ.ศ. 2558 |
12. นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ [8] | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558—30 กันยายน พ.ศ. 2559 |
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [9] | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559—5 ตุลาคม พ.ศ. 2559 |
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [10] | 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559[11]—1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 |
รายชื่อผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยแห่งชาติ
ชื่อ | ระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง[12] |
---|---|
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [13] | 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562—ปัจจุบัน |
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
- ↑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๑๕ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๙ ตอน ๑๙๐ ก พิเศษ หน้า ๔๗ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
- ↑ มาตรา ๔๖ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕
- ↑ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๒/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ จัดตั้งสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอน ๒๒๕ ง พิเศษ หน้า ๘ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒, เล่ม 136, ตอนที่ 47 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 1
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ , เล่ม 136, ตอนที่ 57 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 79
- ↑ รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติในอดีตถึงปัจจุบัน
- ↑ http://www.banmuang.co.th/news/politic/46456
- ↑ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/725450
- ↑ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/725450
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/017/6.PDF
- ↑ รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติในอดีตถึงปัจจุบัน
- ↑ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
แหล่งข้อมูลอื่น