ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี 2020"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ciwat (คุย | ส่วนร่วม)
Ciwat (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 724: บรรทัด 724:


===นัดชิงอันดับ 3===
===นัดชิงอันดับ 3===
ทีมชนะเลิศได้สิทธิ์ [[กีฬาฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 – ทีมชาย|โอลิมปิกฤดูร้อน 2020]]. ส่วนทีมผู้แพ้ก็มีลุ้นได้สิทธิ์เข้ารอบถ้าญี่ปุ่นเป็นทีมที่ตืดสามอันดับสูงสุด.
ทีมชนะเลิศได้สิทธิ์ [[กีฬาฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 – ทีมชาย|โอลิมปิกฤดูร้อน 2020]]


{{Football box
{{Football box

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:31, 14 มกราคม 2563

ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี 2020
รายละเอียดการแข่งขัน
ประเทศเจ้าภาพประเทศไทย
วันที่8–26 มกราคม พ.ศ. 2563[1]
ทีม16 (จาก 1 สมาพันธ์)
สถานที่(ใน 4 เมืองเจ้าภาพ)
สถิติการแข่งขัน
จำนวนนัดที่แข่งขัน14
จำนวนประตู35 (2.5 ประตูต่อนัด)
ผู้ชม46,281 (3,306 คนต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุดไทย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (3 ประตู)
2018
2022
ปรับปรุงสถิติทั้งหมด ณ วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563

ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี (หรือ เอเอฟซี ยู-23 เอเชียนคัพ; อังกฤษ: 2020 AFC U-23 Championship) เป็นการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ครั้งที่ 4 ซึ่งการแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันฟุตบอลแบบจำกัดอายุระดับนานาชาติ จัดขึ้นโดยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) สำหรับทีมชาติชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปีในทวีปเอเชีย การแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-26 มกราคม พ.ศ. 2563 โดยมีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ สนามแข่งขันกระจายใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี บุรีรัมย์ และสงขลา มี 16 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน

ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี จะเป็นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อนโดย 3 อันดับแรกของการแข่งขันนี้ จะได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นตัวแทนของโซนเอเชีย[2] ซึ่งทีมชาติญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมการแข่งขันอัตโนมัติเนื่องจากเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 หากทีมชาติญี่ปุ่นเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในครั้งนี้ ทีมอื่นๆที่เข้ารอบรองชนะเลิศอีก 3 ทีม จะได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ทั้งหมด[3]

โดยทีมชาติอุซเบกิสถาน เป็นผู้ชนะเลิศในปีล่าสุด

การคัดเลือกเจ้าภาพ

ประเทศหลายประเทศซึ่งสนใจเป็นเจ้าภาพเดี่ยวในการแข่งขันนี้ ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย, ประเทศมาเลเซีย, ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม[4][5] โดยประเทศไทยได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพในการประชุมคณะกรรมการการแข่งขันของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียที่ โตเกียว เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561[6]

รอบคัดเลือก

รอบคัดเลือกจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22–26 มีนาคม พ.ศ. 2562 ตามปฏิทินการแข่งขันนานาชาติฟีฟ่า[7]

ทีมที่เข้ารอบ

รายชื่อ 16 ทีมที่เข้ารอบในการแข่งขันรอบสุดท้าย

ทีม เข้ารอบในฐานะ จำนวนครั้งที่เข้าร่วม ผลงานที่ดีที่สุดที่เคยเข้าร่วมแข่งขัน
 ไทย เจ้าภาพ ครั้งที่ 3 รอบแบ่งกลุ่ม (2016, 2018)
 กาตาร์ ทีมชนะเลิศ กลุ่มเอ ครั้งที่ 3 อันดับ 3 (2018)
 บาห์เรน ทีมชนะเลิศ กลุ่มบี ครั้งที่ 1 ครั้งแรก
 อิรัก ทีมชนะเลิศ กลุ่มซี ครั้งที่ 4 แชมเปียนส์ (2013)
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมชนะเลิศ กลุ่มดี ครั้งที่ 3 รอบ 8 ทีมสุดท้าย (2013, 2016)
 จอร์แดน ทีมชนะเลิศ กลุ่มอี ครั้งที่ 4 อันดับ 3 (2013)
 อุซเบกิสถาน ทีมชนะเลิศ กลุ่มเอฟ ครั้งที่ 4 แชมเปียนส์ (2018)
 เกาหลีเหนือ ทีมชนะเลิศ กลุ่มจี ครั้งที่ 4 รอบ 8 ทีมสุดท้าย (2016)
 เกาหลีใต้ ทีมชนะเลิศ กลุ่มเอช ครั้งที่ 4 รองชนะเลิศ (2016)
 ญี่ปุ่น ทีมชนะเลิศ กลุ่มไอ ครั้งที่ 4 แชมเปียนส์ (2016)
 จีน ทีมชนะเลิศ กลุ่มเจ ครั้งที่ 4 รอบแบ่งกลุ่ม (2013, 2016, 2018)
 เวียดนาม ทีมชนะเลิศ กลุ่มเค ครั้งที่ 3 รองชนะเลิศ (2018)
 ออสเตรเลีย ทีมรองชนะเลิศ กลุ่มเอช[note 1] ครั้งที่ 4 รอบ 8 ทีมสุดท้าย (2013)
 อิหร่าน ทีมรองชนะเลิศ กลุ่มซี[note 1] ครั้งที่ 3 รอบ 8 ทีมสุดท้าย (2016)
 ซีเรีย ทีมรองชนะเลิศ กลุ่มอี[note 1] ครั้งที่ 4 รอบ 8 ทีมสุดท้าย (2013)
 ซาอุดีอาระเบีย ทีมรองชนะเลิศ กลุ่มดี[note 1] ครั้งที่ 4 รองชนะเลิศ (2013)

Notes:

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 สี่ทีม ทีมรองชนะเลิศที่ดีที่สุด ได้สิทธิ์สำหรับรอบสุดท้าย.

สนามแข่งขัน

เบื้องต้นสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เสนอไปจำนวนทั้งหมด 7 สนามทั่วประเทศ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียเลือกสนามที่จะใช้ในการแข่งขันครั้งนี้จำนวน 4 สนาม ดังนี้[8]

กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี
ราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต
ความจุ : 49,722 ที่นั่ง ความจุ : 20,000 ที่นั่ง
จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสงขลา
ช้างอารีนา สนามกีฬาติณสูลานนท์
ความจุ : 32,600 ที่นั่ง ความจุ : 45,000 ที่นั่ง

การจับสลาก

การจับสลากสำหรับรอบสุดท้ายได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562, 15:00 ICT (UTC+7), ที่โรงแรมสวิสโอเท็ล แบงค็อก รัชดา ใน กรุงเทพมหานคร.[9][10][11] 16 ทีมได้ถูกจับสลากอยู่ในสี่กลุ่มที่มีสี่ทีม. แต่ละทีมเป็นทีมวางตามผลงานประสิทธิภาพของพวกเขาใน ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี 2018 รอบสุดท้าย และ รอบคัดเลือก, กับชาติเจ้าภาพ ประเทศไทย ได้สิทธิ์เป็นทีมวางโดยอัตโนมัติและถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่ง A1 ในการจับสลาก.[12]

โถ 1 โถ 2 โถ 3 โถ 4

ผู้เล่น

รอบแบ่งกลุ่ม

สองทีมที่ดีที่สุดของแต่ละกลุ่มจะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย.

เวลาทั้งหมดคือเวลาท้องถิ่น, ICT (UTC+7).

ตารางการแข่งขัน
แมตช์เดย์ วันที่แข่งขัน การประกบคู่
แมตช์เดย์ 1 8–10 มกราคม พ.ศ. 2563 1 v 4, 2 v 3
แมตช์เดย์ 2 11–13 มกราคม พ.ศ. 2563 4 v 2, 3 v 1
แมตช์เดย์ 3 14–16 มกราคม พ.ศ. 2563 1 v 2, 3 v 4

กลุ่ม เอ

อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1  ออสเตรเลีย (Q) 3 1 2 0 4 3 +1 5 รอบแพ้คัดออก
2  ไทย (H, Q) 3 1 1 1 7 3 +4 4
3  อิรัก (E) 3 0 3 0 4 4 0 3
4  บาห์เรน (E) 3 0 2 1 3 8 −5 2
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2563. แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
(E) ตกรอบ; (H) เจ้าภาพ; (Q) ผ่านเข้าสู่รอบที่ระบุ.

ออสเตรเลีย 2–1 ไทย
D'Agostino Goal 43'76' รายงาน อานนท์ Goal 24'

กลุ่ม บี

อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1  ซีเรีย 2 1 1 0 4 3 +1 4 รอบแพ้คัดออก
2  ซาอุดีอาระเบีย 2 1 1 0 2 1 +1 4
3  กาตาร์ 2 0 2 0 2 2 0 2
4  ญี่ปุ่น 2 0 0 2 2 4 −2 0
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563. แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม


กลุ่ม ซี

อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1  เกาหลีใต้ 2 2 0 0 3 1 +2 6 รอบแพ้คัดออก
2  อุซเบกิสถาน 2 1 1 0 3 1 +2 4
3  อิหร่าน 2 0 1 1 2 3 −1 1
4  จีน 2 0 0 2 0 3 −3 0
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563. แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
อุซเบกิสถาน 1–1 อิหร่าน
Kobilov Goal 40' (ลูกโทษ) รายงาน Dehghani Goal 58'
ผู้ชม: 4,180 คน
ผู้ตัดสิน: Khamis Al-Marri (กาตาร์)


กลุ่ม ดี

อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 1 1 0 2 0 +2 4 รอบแพ้คัดออก
2  จอร์แดน 2 1 1 0 2 1 +1 4
3  เวียดนาม 2 0 2 0 0 0 0 2
4  เกาหลีเหนือ 2 0 0 2 1 4 −3 0
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563. แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม


รอบแพ้คัดออก

สายการแข่งขัน

 
รอบ 8 ทีมสุดท้ายรอบรองชนะเลิศรอบชิงชนะเลิศ
 
          
 
18 มกราคม – กรุงเทพมหานคร
 
 
 ออสเตรเลีย
 
22 มกราคม – ปทุมธานี
 
รองชนะเลิศ กลุ่ม บี
 
ผู้ชนะ QF1
 
19 มกราคม – ปทุมธานี
 
ผู้ชนะ QF3
 
ชนะเลิศ กลุ่ม ซี
 
26 มกราคม – กรุงเทพมหานคร
 
รองชนะเลิศ กลุ่ม ดี
 
ผู้ชนะ SF1
 
18 มกราคม – ปทุมธานี
 
ผู้ชนะ SF2
 
ชนะเลิศ กลุ่ม บี
 
22 มกราคม – กรุงเทพมหานคร
 
 ไทย
 
ผู้ชนะ QF2
 
19 มกราคม – กรุงเทพมหานคร
 
ผู้ชนะ QF4นัดชิงอันดับ 3
 
ชนะเลิศ กลุ่ม ดี
 
25 มกราคม – กรุงเทพมหานคร
 
รองชนะเลิศ กลุ่ม ซี
 
ผู้แพ้ SF1
 
 
ผู้แพ้ SF2
 

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ชนะเลิศ กลุ่ม บีQF2 ไทย
รายงาน

ออสเตรเลีย QF1รองชนะเลิศ กลุ่ม บี
รายงาน

ชนะเลิศ กลุ่ม ซีQF3รองชนะเลิศ กลุ่ม ดี
รายงาน

ชนะเลิศ กลุ่ม ดีQF4รองชนะเลิศ กลุ่ม ซี
รายงาน

รอบรองชนะเลิศ

ทีมชนะเลิศได้สิทธิ์ โอลิมปิกฤดูร้อน 2020.

ผู้ชนะ QF2SF2ผู้ชนะ QF4
รายงาน

ผู้ชนะ QF1SF1ผู้ชนะ QF3
รายงาน

นัดชิงอันดับ 3

ทีมชนะเลิศได้สิทธิ์ โอลิมปิกฤดูร้อน 2020

ผู้แพ้ SF1vผู้แพ้ SF2
รายงาน

รอบชิงชนะเลิศ

ผู้ชนะ SF1vผู้ชนะ SF2
รายงาน

ผู้ทำประตู

การแข่งขันทั้งหมดมี 37 ประตูที่ทำได้ใน 16 นัด, สำหรับค่าเฉลี่ย 2.31 ประตูต่อนัด. (ณ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563).

3 ประตู
2 ประตู
1 ประตู
1 การทำเข้าประตูตัวเอง
  • ซีเรีย Yosief Mohammad (ในนัดที่พบกับ กาตาร์)

ทีมที่ผ่านเข้ารอบสำหรับโอลิมปิกฤดูร้อน

สี่ทีมต่อไปนี้ที่มาจากเอเอฟซีได้สิทธิ์สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลชายโอลิมปิกฤดูร้อน 2020, ประกอบไปด้วยญี่ปุ่นซึ่งได้สิทธิ์เข้ารอบในฐานะเจ้าภาพ.

ทีม วันที่เข้ารอบ จำนวนครั้งที่เข้ารอบที่ผ่านมาใน โอลิมปิกฤดูร้อน1
ธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น 7 กันยายน 2013 10 (1936, 1956, 1964, 1968, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
TBD 22 มกราคม 2020
TBD 22 มกราคม 2020
TBD 25 มกราคม 2020
1 ตัวหนา หมายถึงแชมเปียนส์สำหรับปีนั้น. ตัวเอียง หมายถึงเจ้าภาพสำหรับปีนั้น.

อ้างอิง

  1. "AFC Competitions Calendar 2020". AFC. 28 February 2018.
  2. "OC for FIFA Competitions approves procedures for the Final Draw of the 2018 FIFA World Cup". FIFA.com. 14 September 2017.
  3. "Competition Regulations AFC U-23 Championship 2020". AFC.
  4. "Việt Nam plans to host U23 champs in 2020". Việt Nam News. 6 February 2018. สืบค้นเมื่อ 22 May 2018.
  5. Rosdi, Aziman (6 February 2018). "Malaysia to bid for the 2020 AFC Under-23 Championship". New Strait Times. สืบค้นเมื่อ 27 March 2018.
  6. "FA Thailand proposed as 2020 AFC U-23 Championship host". AFC. สืบค้นเมื่อ 30 August 2018.
  7. "AFC Competitions Calendar 2019". 28 February 2018.
  8. แนะส่งมาตรฐานการสร้างสนามฟุตบอลให้ ‘สมาคมสถาปนิกสยาม’ ศึกแนวทางแก้ไขรองรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในอนาคต
  9. "AFC issues RFP for EMC service for AFC U23 Championship 2020 Final Draw Ceremony". AFC. 29 July 2019. สืบค้นเมื่อ 2 August 2019.
  10. "Stars of tomorrow set for Thailand 2020 draw". AFC. 25 September 2019.
  11. "Thailand 2020: Draw produces exciting groups". AFC. 26 September 2019.
  12. "#AFCU23 Thailand 2020 - Preview Show (Pre Draw)". YouTube. 25 September 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น