ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Wedjet (คุย | ส่วนร่วม)
Tony Patt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 12: บรรทัด 12:
| next_election = การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2567
| next_election = การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2567
| next_year = 2567
| next_year = 2567
| votes_for_election = สมาชิก 538 คนของ[[คณะผู้เลือกตั้ง (สหรัฐ)|คณะผู้เลือกตั้ง]]
| votes_for_election = สมาชิก[[คณะผู้เลือกตั้ง (สหรัฐ)|คณะผู้เลือกตั้ง]] 538 คน
| needed_votes = คะแนนเสียงของผู้เลือกตั้ง 270
| needed_votes = คะแนนเสียงของผู้เลือกตั้ง 270
| turnout =
| turnout =
บรรทัด 23: บรรทัด 23:
| title = ประธานาธิบดี
| title = ประธานาธิบดี
| before_election = [[ดอนัลด์ ทรัมป์]]
| before_election = [[ดอนัลด์ ทรัมป์]]
| before_party = พรรคริพับลิกัน (สหรัฐ)
| before_party = [[พรรคริพับลิกัน (สหรัฐ)|พรรคริพับลิกัน]]
| after_election =
| after_election =
| after_party =
| after_party =
}}
}}
'''การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563''' ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 59 ซึ่งจัดทุกสี่ปี ผู้ออกเสียงเลือกตั้งจะเลือกผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 14 ธันวาคม 2563<ref>[https://codes.findlaw.com/us/title-3-the-president/3-usc-sect-7.html "3 U.S.C. § 7 - U.S. Code - Unannotated Title 3. The President § 7. Meeting and vote of electors"], [[FindLaw]].com.</ref> หากไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งใดได้รับเสียงของคณะผู้เลือกตั้งขั้นต่ำ 270 เสียงในการชนะการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเลือกประธานาธิบดีจากผู้สมัครสามคนที่ได้รับเสียงของผู้เลือกตั้งมากที่สุด และวุฒิสภาสหรัฐจะเลือกรองประธานาธิบดีที่ไดร้ับคะแนนรวมสูงสุดสองอันดับ คาดว่าจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมลับในช่วงหกเดือนแรกของปี 2563 กระบวนการเสนอชื่อยังเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมด้วย โดยผู้ออกเสียงเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งในการประชุมเสนอชื่อของพรรคการเมือง ซึ่งจะเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีพรรคของตนและรองประธานาธิบดีที่ร่วมลงสมัครในลำดับถัดไป


'''การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563''' ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 59 ซึ่งจัดทุกสี่ปี ผู้ออกเสียงเลือกตั้งจะเลือก[[คณะผู้เลือกตั้ง (สหรัฐ)|ผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี]]ซึ่งจะเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 14 ธันวาคม 2563<ref>[https://codes.findlaw.com/us/title-3-the-president/3-usc-sect-7.html "3 U.S.C. § 7 - U.S. Code - Unannotated Title 3. The President § 7. Meeting and vote of electors"], FindLaw.com.</ref> หากไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งใดได้รับเสียงของคณะผู้เลือกตั้งขั้นต่ำ 270 เสียงในการชนะการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเลือกประธานาธิบดีจากผู้สมัครสามคนที่ได้รับเสียงของผู้เลือกตั้งมากที่สุด และวุฒิสภาสหรัฐจะเลือกรองประธานาธิบดีที่ได้้รับคะแนนรวมสูงสุดสองอันดับ คาดว่าจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมลับในช่วงหกเดือนแรกของปี 2563 กระบวนการเสนอชื่อยังเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมด้วย โดยผู้ออกเสียงเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งในการประชุมเสนอชื่อของพรรคการเมือง ซึ่งจะเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีพรรคของตนและรองประธานาธิบดีที่ร่วมลงสมัครในลำดับถัดไป
[[ดอนัลด์ ทรัมป์]] ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 และคนปัจจุบัน เริ่มการรณรงค์รับเลือกตั้งใหม่สำหรับการเลือกตั้งขั้นต้นพรรครีพับลิกัน องค์การพรรครีพับลิกันระดับรัฐหลายองค์การยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อแสดงการสนับสนุนการลงสมัครรับเลือกตั้งของเขา ผู้สมัครหลัก 27 คนเริ่มการรณรงค์เพื่อรับการเสนอชื่อของพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นจำนวนผู้สมัครมากที่สุดสำหรับพรรคการเมืองในการเมืองอเมริกันหลังยุคปฏิรูป ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2564


[[ดอนัลด์ ทรัมป์]] ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 และคนปัจจุบัน เริ่มการรณรงค์รับเลือกตั้งใหม่สำหรับ[[การเลือกตั้งขั้นต้นประธานาธิบดีสหรัฐพรรครีพับลิกัน พ.ศ. 2563|การเลือกตั้งขั้นต้นพรรครีพับลิกัน]] องค์การพรรครีพับลิกันระดับรัฐหลายองค์การยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อแสดงการสนับสนุนการลงสมัครรับเลือกตั้งของเขา ผู้สมัครหลัก 27 คนเริ่มการรณรงค์เพื่อรับการเสนอชื่อของพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นจำนวนผู้สมัครมากที่สุดสำหรับพรรคการเมืองในการเมืองอเมริกันหลังยุคปฏิรูป ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2564
== เบื้องหลัง ==


== เบื้องหลัง ==
=== วิธีดำเนินการ ===
=== วิธีดำเนินการ ===
[[รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐ]] มาตรา 2 ระบุว่า บุคคลที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐต้องเป็นพลเมืองสหรัฐโดยกำเนิด มีอายุ 35 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้พำนักในสหรัฐอย่างน้อย 14 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีตรงแบบมองหาการเสนอชื่อของพรรคการเมือต่าง ๆ ของสหรัฐ โดยแต่ละพรรคมีวิธีการของตน (เช่น การเลือกตั้งขั้นต้น) เพื่อเลือกผู้สมัครที่พรรคเห็นว่าเหมาะสมลงรับสมัครเลือกตั้ง การเลือกตั้งขั้นต้นปกติเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรคลงคะแนนเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งที่จะเลือกผู้สมัครคนหนึ่ง ๆ จากนั้นผู้แทนของพรรคจะเสนอชื่อผู้สมัครให้ลงรับเลือกตั้งในนามของพรรคอย่างเป็นทางการ ผู้เสนอชื่อประธานาธิบดีตรงแบบเลือกผู้ร่วมสมัครรับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี ซึ่งผู้แทนพรรคจะให้สัตยาบัน การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมเช่นกัน ซึ่งผู้ออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนให้สมาชิกคณะผู้เลือกตั้ง แล้วผู้เลือกตั้งเหล่านี้จะเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีโดยตรง<ref>{{cite news |url=https://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/us-election/9480396/US-Election-guide-how-does-the-election-work.html |title=US Election guide: how does the election work? |date=November 6, 2012 |work=[[The Daily Telegraph]] |accessdate=October 29, 2015 |archive-url=https://web.archive.org/web/20151110114127/http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/us-election/9480396/US-Election-guide-how-does-the-election-work.html |archive-date=November 10, 2015 |url-status=live }}</ref>
[[รัฐธรรมนูญสหรัฐ]] มาตรา 2 ระบุว่า บุคคลที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐต้องเป็นพลเมืองสหรัฐโดยกำเนิด มีอายุ 35 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้พำนักในสหรัฐอย่างน้อย 14 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีตรงแบบมองหาการเสนอชื่อของพรรคการเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐ โดยแต่ละพรรคมีวิธีการของตน (เช่น การเลือกตั้งขั้นต้น) เพื่อเลือกผู้สมัครที่พรรคเห็นว่าเหมาะสมลงรับสมัครเลือกตั้ง การเลือกตั้งขั้นต้นปกติเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรคลงคะแนนเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งที่จะเลือกผู้สมัครคนหนึ่ง ๆ จากนั้นผู้แทนของพรรคจะเสนอชื่อผู้สมัครให้ลงรับเลือกตั้งในนามของพรรคอย่างเป็นทางการ ผู้เสนอชื่อประธานาธิบดีตรงแบบเลือกผู้ร่วมสมัครรับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี ซึ่งผู้แทนพรรคจะให้สัตยาบัน การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมเช่นกัน ซึ่งผู้ออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนให้สมาชิกคณะผู้เลือกตั้ง แล้วผู้เลือกตั้งเหล่านี้จะเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีโดยตรง<ref>{{cite news |url=https://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/us-election/9480396/US-Election-guide-how-does-the-election-work.html |title=US Election guide: how does the election work? |date=6 พฤศจิกายน 2012 |work=[[เดอะเดลีเทลิกราฟ]] |accessdate=29 ตุลาคม 2015 |archive-url=https://web.archive.org/web/20151110114127/http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/us-election/9480396/US-Election-guide-how-does-the-election-work.html |archive-date=10 พฤศจิกายน 2015 }}</ref>


ในเดือนพฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการแห่งชาติเดโมแครตออกเสียงไม่อนุญาตให้ซูเปอร์เดลีเกตออกเสียงเป็นลำดับแรกในกระบวนการเสนอชื่อ เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2563 ทำให้ผู้สมัครต้องชนะผู้แทนที่ให้สัญญาฝ่ายข้างมากจากการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อให้พรรคเสนอชื่อ<ref>{{cite web |url=https://www.cnn.com/2018/08/25/politics/democrats-superdelegates-voting-changes/index.html |title=DNC changes superdelegate rules in presidential nomination process|date=August 25, 2018 |first=Adam |last=Levy |work=[[CNN]] |accessdate=August 27, 2018 |archive-url=https://web.archive.org/web/20180826232355/https://www.cnn.com/2018/08/25/politics/democrats-superdelegates-voting-changes/index.html |archive-date=August 26, 2018 |url-status=live }}</ref>
ในเดือนพฤศจิกายน 2561 [[คณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครต]]ออกเสียงไม่อนุญาตให้ซูเปอร์เดลีเกตออกเสียงเป็นลำดับแรกในกระบวนการเสนอชื่อ เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2563 ทำให้ผู้สมัครต้องชนะผู้แทนที่ให้สัญญาฝ่ายข้างมากจากการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อให้พรรคเสนอชื่อ<ref>{{cite web |url=https://www.cnn.com/2018/08/25/politics/democrats-superdelegates-voting-changes/index.html |title=DNC changes superdelegate rules in presidential nomination process|date=25 สิงหาคม 2018 |first=Adam |last=Levy |work=[[ซีเอ็นเอ็น]] |accessdate=27 สิงหาคม 2018 |archive-url=https://web.archive.org/web/20180826232355/https://www.cnn.com/2018/08/25/politics/democrats-superdelegates-voting-changes/index.html |archive-date=26 สิงหาคม 2018 }}</ref>


คณะกรรมการระดับรัฐของพรรครีพับลิกันหลายคณะมีรายงานว่าพิจารณายกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้น/การประชุมลับปี 2563 ส่วนอีกหลาคณะดำเนินการไปแล้ว<ref name="politico20190906">{{cite news|title=Republicans to scrap primaries and caucuses as Trump challengers cry foul|url=https://www.politico.com/story/2019/09/06/republicans-cancel-primaries-trump-challengers-1483126|work=Politico|first=Alex|last=Isenstadt|date=September 6, 2019|accessdate=September 6, 2019}}</ref> โดยอ้างข้อเท็จจริงว่ารีพับลิกันเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นหลายรัฐเมื่อ[[จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช]] และ[[จอร์จ ดับเบิลยู. บุช]]ลงสมัครสมัยที่สองในปี 2535 และ 2547 ตามลำดับ ส่วนเดโมแครตเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อ[[บิล คลินตัน]]และ[[บารัค โอบามา]]กำลังรับเลือกตั้งสมัยที่สองในปี 2539 และ 2555 ตามลำดับ<ref>{{cite news|title=GOP plans to drop presidential primaries in 4 states to impede Trump challengers|url=https://www.msn.com/en-us/news/politics/gop-plans-to-drop-presidential-primaries-in-4-states-to-impede-trump-challengers/ar-AAGV0kQ|work=The Boston Globe|publisher=MSN.com|first=Annie|last=Karni|date=September 6, 2019|accessdate=September 7, 2019}}</ref><ref>{{cite news|title=GOP considers canceling at least 3 GOP primaries and caucuses, Trump challengers outraged|url=https://abcnews.go.com/Politics/trump-gop-canceling-gop-primaries-caucuses/story?id=65436462|work=ABC News|first1=Will|last1=Steakin|first2=Kendall|last2=Karson|date=September 6, 2019|accessdate=September 7, 2019}}</ref>
คณะกรรมการระดับรัฐของพรรครีพับลิกันหลายคณะมีรายงานว่าพิจารณายกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมลับปี 2563 ส่วนอีกหลายคณะดำเนินการไปแล้ว<ref name="politico20190906">{{cite news|title=Republicans to scrap primaries and caucuses as Trump challengers cry foul|url=https://www.politico.com/story/2019/09/06/republicans-cancel-primaries-trump-challengers-1483126|work=[[โพลิติโก]]|first=Alex|last=Isenstadt|date=6 กันยายน 2019|accessdate=6 กันยายน 2019}}</ref> โดยอ้างข้อเท็จจริงว่ารีพับลิกันเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นหลายรัฐเมื่อ[[จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช]] และ[[จอร์จ ดับเบิลยู. บุช]]ลงสมัครสมัยที่สองในปี 2535 และ 2547 ตามลำดับ ส่วนเดโมแครตเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อ[[บิล คลินตัน]]และ[[บารัค โอบามา]]กำลังรับเลือกตั้งสมัยที่สองในปี 2539 และ 2555 ตามลำดับ<ref>{{cite news|title=GOP plans to drop presidential primaries in 4 states to impede Trump challengers|url=https://www.msn.com/en-us/news/politics/gop-plans-to-drop-presidential-primaries-in-4-states-to-impede-trump-challengers/ar-AAGV0kQ|work=เดอะบอสตันโกลบ|publisher=[[เอ็มเอสเอ็น]]|first=Annie|last=Karni|date=6 กันยายน 2019|accessdate=7 กันยายน 2019}}</ref><ref>{{cite news|title=GOP considers canceling at least 3 GOP primaries and caucuses, Trump challengers outraged|url=https://abcnews.go.com/Politics/trump-gop-canceling-gop-primaries-caucuses/story?id=65436462|work=[[เอบีซีนิวส์]]|first1=Will|last1=Steakin|first2=Kendall|last2=Karson|date=6 กันยายน 2019|accessdate=7 กันยายน 2019}}</ref>


วันที่ 26 สิงหาคม 2562 สภานิติบัญญัติรัฐเมนผ่านร่างกฎหมายใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับ (ranked-choice voting) สำหรับทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีขั้นต้นและการเลือกตั้งทั่วไป<ref>{{Cite news|url=https://www.pressherald.com/2019/08/26/maine-senate-passes-ranked-choice-voting-for-march-presidential-primaries/|title=Maine Senate passes ranked-choice voting for March presidential primaries|last=Miller|first=Kevin|date=August 26, 2019|work=[[Portland Press Herald]]|access-date=August 28, 2019}}</ref><ref>{{Cite news|url=https://wgme.com/news/local/maine-might-switch-to-a-ranked-choice-presidential-election-heres-how-it-would-look|title=Maine might switch to a ranked-choice presidential election. Here's how it would look.|last=Shepard|first=Michael|date=August 28, 2019|work=[[CBS]] 13|access-date=August 28, 2019}}</ref> วันที่ 6 กันยายน 2562 ผู้ว่าการรัฐ จาเน็ต มิลส์ อนุญาตให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวโดยไม่ลงนาม ซึ่งทำให้ชะลอเวลามีผลจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งขั้นต้นพรรคเดโมแครตปี 2563 ในเดือนมีนาคม ทำให้รัฐเมนจะเป็นรัฐแรกที่ใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปประธานาธิบดี<ref>{{Cite news|url=https://bangordailynews.com/2019/09/06/politics/maine-will-use-ranked-choice-voting-in-next-years-presidential-election-but-not-the-2020-primaries/|title=Maine will use ranked-choice voting in next year’s presidential election — but not the 2020 primaries|last=Sherpard|first=Michael|date=September 6, 2019|work=[[Portland Press Herald]]|access-date=September 6, 2019}}</ref> กฎหมายยังคงใช้วิธีการเขตเลือกตั้งรัฐสภาสำหรับการจัดสรรผู้เลือกตั้ง โดยรัฐเมนและรัฐเนแบรสกาใช้ในการเลือกตั้งล่าสุด การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจชะลอการทำนายผู้ชนะเสียงผู้เลือกั้งขอรัฐเมนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังวันเลือกตั้ง และยังจะทำให้การตีความคะแนนของประชาชนทั่วประเทศยุ่งยากขึ้นด้วย
วันที่ 26 สิงหาคม 2562 สภานิติบัญญัติรัฐเมนผ่านร่างกฎหมายใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับ (ranked-choice voting) สำหรับทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีขั้นต้นและการเลือกตั้งทั่วไป<ref>{{Cite news|url=https://www.pressherald.com/2019/08/26/maine-senate-passes-ranked-choice-voting-for-march-presidential-primaries/|title=Maine Senate passes ranked-choice voting for March presidential primaries|last=Miller|first=Kevin|date=26 สิงหาคม 2019|work=Portland Press Herald|access-date=28 สิงหาคม 2019}}</ref><ref>{{Cite news|url=https://wgme.com/news/local/maine-might-switch-to-a-ranked-choice-presidential-election-heres-how-it-would-look|title=Maine might switch to a ranked-choice presidential election. Here's how it would look.|last=Shepard|first=Michael|date=28 สิงหาคม 2019|work=[[ซีบีเอส]] 13|access-date=28 สิงหาคม 2019}}</ref> วันที่ 6 กันยายน 2562 ผู้ว่าการรัฐเมน เจเน็ต มิลส์ อนุญาตให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวโดยไม่ลงนาม ซึ่งทำให้ชะลอเวลามีผลจนกระทั่งหลัง[[การเลือกตั้งขั้นต้นประธานาธิบดีสหรัฐพรรคเดโมแครต พ.ศ. 2563|เลือกตั้งขั้นต้นพรรคเดโมแครตปี 2563]] ในเดือนมีนาคม ทำให้รัฐเมนจะเป็นรัฐแรกที่ใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปประธานาธิบดี<ref>{{Cite news|url=https://bangordailynews.com/2019/09/06/politics/maine-will-use-ranked-choice-voting-in-next-years-presidential-election-but-not-the-2020-primaries/|title=Maine will use ranked-choice voting in next year’s presidential election — but not the 2020 primaries|last=Sherpard|first=Michael|date=6 กันยายน 2019|work=Portland Press Herald|access-date=6 กันยายน 2019}}</ref> กฎหมายยังคงใช้วิธีการเขตเลือกตั้งรัฐสภาสำหรับการจัดสรรผู้เลือกตั้ง โดย[[รัฐเมน]]และ[[รัฐเนแบรสกา]]ใช้ในการเลือกตั้งล่าสุด การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจชะลอการทำนายผู้ชนะเสียงผู้เลือกั้งขอรัฐเมนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังวันเลือกตั้ง และยังจะทำให้การตีความคะแนนของประชาชนทั่วประเทศยุ่งยากขึ้นด้วย


การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐครั้งที่ 22 ระบุว่าบุคคลไม่สามารถไดร้ับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกินสองครั้ง ทำให้อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบารัค โอบามาไม่มีสิทธิ์รับเลือกตั้งอีกสมัย
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 22 ระบุว่าบุคคลไม่สามารถไดร้ับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกินสองครั้ง ทำให้อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบารัค โอบามาไม่มีสิทธิ์รับเลือกตั้งอีกสมัย


=== แนวโน้มประชากรศาสตร์ ===
=== แนวโน้มประชากรศาสตร์ ===
กลุ่มอายุที่จะมีอายุอยู่ในช่วง 18 ถึง 45 ปีคาดว่าจะคิดเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งของสหรัฐน้อยกว่าร้อยละ 40 เล็กน้อยในปี 2563 คาดหมายว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งสหรัฐกว่าร้อยละ 30 ไม่ใช่ผิวขาว<ref>{{cite web |url=https://www.npr.org/2013/01/25/170240786/forget-2016-the-pivotal-year-in-politics-may-be-2020 |title=Forget 2016. The Pivotal Year In Politics May Be 2020 |date=January 25, 2013 |first=Linton |last=Weeks |work=[[NPR]] |accessdate=October 30, 2015 |archive-url=https://web.archive.org/web/20151006082924/http://www.npr.org/2013/01/25/170240786/forget-2016-the-pivotal-year-in-politics-may-be-2020 |archive-date=October 6, 2015 |url-status=live }}</ref>
กลุ่มอายุที่จะมีอายุอยู่ในช่วง 18 ถึง 45 ปีคาดว่าจะคิดเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งของสหรัฐน้อยกว่าร้อยละ 40 เล็กน้อยในปี 2563 คาดหมายว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งสหรัฐกว่าร้อยละ 30 ไม่ใช่ผิวขาว<ref>{{cite web |url=https://www.npr.org/2013/01/25/170240786/forget-2016-the-pivotal-year-in-politics-may-be-2020 |title=Forget 2016. The Pivotal Year In Politics May Be 2020 |date=25 มกราคม 2013 |first=Linton |last=Weeks |work=[[เอ็นพีอาร์]] |accessdate=30 ตุลาคม 2015 |archive-url=https://web.archive.org/web/20151006082924/http://www.npr.org/2013/01/25/170240786/forget-2016-the-pivotal-year-in-politics-may-be-2020 |archive-date=6 ตุลาคม 2015 }}</ref>


รายงานสองพรรคระบุว่าประชากรศาสตร์ผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปนับแต่การเลือกตั้งปี 2559 อาจมีผลต่อการเลือกตั้งปี 2563 แอฟริกันอเมริกัน ฮิสแปนิก เอเชียและชนกลุ่มน้อยอื่น ตลอดจน "ผิวขาวที่มีปริญญาวิทยาลัย" ล้วนคาดว่าจะมีสัดส่วนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกต้ังเพิ่มขึ้นทั่วประเทศภายในปี 2563 ส่วน "ผิขาวที่ไม่มีปริญญาวิทยาลัย" จะลดลง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้สมัครพรรคเดโมแครตได้เปรียบ แต่เนื่องจากความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ อาจทำให้ผู้สมัครพรรครีพับลิกันชนะคณะผู้เลือกตั้งได้แม้จะแพ้คะแนนเสียงของประชาชน โดยอาจทิ้งห่างมากยิ่งกว่าปี 2559<ref>{{cite web |url=https://www.nbcnews.com/politics/first-read/demographic-shifts-show-2020-presidential-race-could-be-close-n868146 |title=Demographic shifts show 2020 presidential race could be close |date=April 22, 2018 |first=Dante |last=Chinni |work=[[NBC News]] |accessdate=April 23, 2018 |archive-url=https://web.archive.org/web/20180423004124/https://www.nbcnews.com/politics/first-read/demographic-shifts-show-2020-presidential-race-could-be-close-n868146 |archive-date=April 23, 2018 |url-status=live }}</ref>
รายงานสองพรรคระบุว่าประชากรศาสตร์ผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปนับแต่การเลือกตั้งปี 2559 อาจมีผลต่อการเลือกตั้งปี 2563 แอฟริกันอเมริกัน ฮิสแปนิก เอเชียและชนกลุ่มน้อยอื่น ตลอดจน "ผิวขาวที่มีปริญญาวิทยาลัย" ล้วนคาดว่าจะมีสัดส่วนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกต้ังเพิ่มขึ้นทั่วประเทศภายในปี 2563 ส่วน "ผิขาวที่ไม่มีปริญญาวิทยาลัย" จะลดลง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้สมัครพรรคเดโมแครตได้เปรียบ แต่เนื่องจากความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ อาจทำให้ผู้สมัครพรรครีพับลิกันชนะคณะผู้เลือกตั้งได้แม้จะแพ้คะแนนเสียงของประชาชน โดยอาจทิ้งห่างมากยิ่งกว่าปี 2559<ref>{{cite web |url=https://www.nbcnews.com/politics/first-read/demographic-shifts-show-2020-presidential-race-could-be-close-n868146 |title=Demographic shifts show 2020 presidential race could be close |date=22 เมษายน 2018 |first=Dante |last=Chinni |work=[[บริษัทแพร่สัญญาณแห่งชาติ|เอ็นบีซีนิวส์]] |accessdate=23 เมษายน 2018 |archive-url=https://web.archive.org/web/20180423004124/https://www.nbcnews.com/politics/first-read/demographic-shifts-show-2020-presidential-race-could-be-close-n868146 |archive-date=23 เมษายน 2018 }}</ref>


=== การเลือกตั้งในปีเดียวกัน ===
=== การเลือกตั้งในปีเดียวกัน ===
การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หลายรัฐจัดการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐและสภานิติบัญญัติของรัฐด้วย หลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรจะมีการจัดสรรที่นั่งใหม่ให้กับ 50 รัฐตามผลของ[[สำมะโนสหรัฐ ค.ศ. 2020|สำมะโนสหรัฐปี 2563]] และรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ ในหลายรัฐ ผู้ว่าการและสภานิติบัญญัติของรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งใหม่ และบ่อยครั้งที่พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีผลอาศัยบารมีช่วยทำให้ผู้สมัครอื่นจากพรรคเดียวกันชนะการเลือกตั้งตามไปด้วย<ref>{{cite journal |first=James E. |last=Campbell |title=Presidential Coattails and Midterm Losses in State Legislative Elections |journal=[[The American Political Science Review]] |date=March 1986 |volume=80 |issue=1 |pages=45–63 |jstor=1957083|doi=10.2307/1957083 }}</ref> ฉะนั้น พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 อาจมีข้อได้เปรียบสำคัญในการร่างเขตรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ซึ่งจะมีผลจนถึงการเลือกต้ัั้งปี 2575<ref>{{cite web |url=http://www.msnbc.com/msnbc/2016-democrats-already-have-plan-2020 |title=Forget 2016: Democrats already have a plan for 2020 |date=August 26, 2014 |first=Benjy |last=Sarlin |work=[[MSNBC]] |archive-url=https://web.archive.org/web/20151028151748/http://www.msnbc.com/msnbc/2016-democrats-already-have-plan-2020 |archive-date=October 28, 2015 |url-status=live }}</ref>
การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หลายรัฐจัดการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐและสภานิติบัญญัติของรัฐด้วย หลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรจะมีการจัดสรรที่นั่งใหม่ให้กับ 50 รัฐตามผลของ[[สำมะโนสหรัฐ ค.ศ. 2020|สำมะโนสหรัฐปี 2563]] และรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ ในหลายรัฐ ผู้ว่าการและสภานิติบัญญัติของรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งใหม่ และบ่อยครั้งที่พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีผลอาศัยบารมีช่วยทำให้ผู้สมัครอื่นจากพรรคเดียวกันชนะการเลือกตั้งตามไปด้วย<ref>{{cite journal |first=James E. |last=Campbell |title=Presidential Coattails and Midterm Losses in State Legislative Elections |journal=The American Political Science Review |date=มีนาคม 1986 |volume=80 |issue=1 |pages=45–63 |jstor=1957083|doi=10.2307/1957083 }}</ref> ฉะนั้น พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 อาจมีข้อได้เปรียบสำคัญในการร่างเขตรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ซึ่งจะมีผลจนถึงการเลือกต้ัั้งปี 2575<ref>{{cite web |url=http://www.msnbc.com/msnbc/2016-democrats-already-have-plan-2020 |title=Forget 2016: Democrats already have a plan for 2020 |date=26 สิงหาคม 2014 |first=Benjy |last=Sarlin |work=[[เอ็มเอสเอ็นบีซี]] |archive-url=https://web.archive.org/web/20151028151748/http://www.msnbc.com/msnbc/2016-democrats-already-have-plan-2020 |archive-date=28 ตุลาคม 2015 }}</ref>


== การทำนายผลของรัฐต่าง ๆ ==
== การทำนายผลของรัฐต่าง ๆ ==
บรรทัด 71: บรรทัด 71:


! รัฐ
! รัฐ
! [[Cook Partisan Voting Index|PVI]]<ref>{{cite web | url=http://decisiondeskhq.com/news/2016-state-pvi-changes | title=2016 State PVI Changes – Decision Desk HQ | website=decisiondeskhq.com | date=December 15, 2017 | access-date=July 27, 2019 | archive-url=https://web.archive.org/web/20180613111559/https://decisiondeskhq.com/news/2016-state-pvi-changes/ | archive-date=June 13, 2018 | url-status=dead }}</ref>
! [[Cook Partisan Voting Index|PVI]]<ref>{{cite web |url=http://decisiondeskhq.com/news/2016-state-pvi-changes |title=2016 State PVI Changes – Decision Desk HQ |website=decisiondeskhq.com |date=15 ธันวาคม 2017 |access-date=27 กรกฎาคม 2019 |archive-url=https://web.archive.org/web/20180613111559/https://decisiondeskhq.com/news/2016-state-pvi-changes/ |archive-date=13 มิถุนายน 2018 }}</ref>
! ผลครั้งก่อน
! ผลครั้งก่อน
! [[Cook Political Report|Cook]]<br/>{{Small|9 มกราคม<br/>2562}}<ref>{{cite web | title=2020 Electoral College Ratings | url=https://www.cookpolitical.com/sites/default/files/2019-01/EC.pdf| publisher=[[Cook Political Report]] | date=July 27, 2019}}</ref>
! [[Cook Political Report|Cook]]<br/>{{Small|29 ต.ค. 2019}}<ref>{{cite web |title=2020 Electoral College Ratings |url=https://cookpolitical.com/sites/default/files/2019-11/EC%20102919.pdf |publisher=[[Cook Political Report]] |date=29 ตุลาคม 2019 |access-date=3 ธันวาคม 2019}}</ref>
! [[Inside Elections|IE]]<br/>{{Small|19 เมษายน<br/>2562}}<ref>{{cite web | title=Presidential Ratings| url=https://insideelections.com/ratings/president | publisher=[[Inside Elections]] | date=July 27, 2019}}</ref>
! [[Inside Elections|IE]]<br/>{{Small|19 เม.ย. 2562}}<ref>{{cite web | title=Presidential Ratings| url=https://insideelections.com/ratings/president | publisher=[[Inside Elections]] | date=27 กรกฎาคม 2019}}</ref>
! [[Sabato's Crystal Ball|Sabato]]<br/>{{Small|19 กันยายน<br/>2562}}<ref>{{cite web | title=2020 President| url=http://crystalball.centerforpolitics.org/crystalball/2020-president/| publisher=[[Sabato's Crystal Ball]] | date=July 27, 2019}}</ref>
! [[Sabato's Crystal Ball|Sabato]]<br/>{{Small|19 ก.ย. 2562}}<ref>{{cite web | title=2020 President| url=http://crystalball.centerforpolitics.org/crystalball/2020-president/| publisher=[[Sabato's Crystal Ball]] | date=July 27, 2019}}</ref>
|-
|-
! แอลาบามา
! [[รัฐแอละแบมา|แอละแบมา]]
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="114" | R+14
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="114" | R+14
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=62.1 | 62.1% R
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=62.1 | 62.1% R
บรรทัด 85: บรรทัด 85:


|-
|-
! อะแลสกา
! [[รัฐอะแลสกา|อะแลสกา]]
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="109" | R+9
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="109" | R+9
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=51.3 | 51.3% R
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=51.3 | 51.3% R
บรรทัด 93: บรรทัด 93:


|-
|-
! [[รัฐแอริโซนา|แอริโซนา]]
! แอริโนา
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="105" | R+5
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="105" | R+5
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=48.9 | 48.9% R
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=48.9 | 48.9% R
บรรทัด 101: บรรทัด 101:


|-
|-
! อาร์คันซอ
! [[รัฐอาร์คันซอ|อาร์คันซอ]]
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="115" | R+15
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="115" | R+15
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=60.6 | 60.6% R
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=60.6 | 60.6% R
บรรทัด 109: บรรทัด 109:


|-
|-
! แคลิฟอร์เนีย
! [[รัฐแคลิฟอร์เนีย|แคลิฟอร์เนีย]]
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-12" | D+12
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-12" | D+12
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-61.7" | 61.7% D
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-61.7" | 61.7% D
บรรทัด 117: บรรทัด 117:


|-
|-
! โคโลราโด
! [[รัฐโคโลราโด|โคโลราโด]]
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="099" | D+1
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="099" | D+1
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-48.2" | 48.2% D
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-48.2" | 48.2% D
บรรทัด 125: บรรทัด 125:


|-
|-
! [[รัฐคอนเนตทิคัต|คอนเนตทิคัต]]
! คอนเน็กติคัต
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="094" | D+6
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="094" | D+6
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-54.6" | 54.6% D
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-54.6" | 54.6% D
บรรทัด 133: บรรทัด 133:


|-
|-
! เดลาแวร์
! [[รัฐเดลาแวร์|เดลาแวร์]]
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="094" | D+6
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="094" | D+6
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-53.1" | 53.1% D
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-53.1" | 53.1% D
บรรทัด 229: บรรทัด 229:


|-
|-
! เมน
! [[รัฐเมน|เมน]]
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="097" | D+3
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="097" | D+3
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-47.8" | 47.8% D
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-47.8" | 47.8% D
<!--Coo-->| {{USRaceRating|Lean|D}}
<!--Coo-->| {{USRaceRating|Lean|D}}
<!--IE-->|rowspan="3" {{USRaceRating|Lean|D}} <br> {{small|(ให้คะแนนเฉพาะทั้งรัฐ)}}
<!--IE-->|rowspan="3" {{USRaceRating|Lean|D}} <br/> {{small|(ประเมิน <br/> เฉพาะทั้งรัฐ)}}
<!--SCB-->| {{USRaceRating|Lean|D}}
<!--SCB-->| {{USRaceRating|Lean|D}}


|-
|-
! [[เขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่ 1 รัฐเมน|เมน เขต 1]]
! [[Maine's 1st Congressional District|ME-1]]
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="092" | D+8
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="092" | D+8
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-54.0" | 54.0% D
| {{Party shading/Democratic}} data-sort-value="-54.0" | 54.0% D
บรรทัด 244: บรรทัด 244:


|-
|-
! [[เขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่ 2 รัฐเมน|เมน เขต 2]]
! [[Maine's 2nd congressional district|ME-2]]
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="102" | R+2
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="102" | R+2
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="47.8" | 51.3% R
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value="47.8" | 51.3% R
บรรทัด 311: บรรทัด 311:
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=58.8 | 58.8% R
| {{Party shading/Republican}} data-sort-value=58.8 | 58.8% R
<!--Coo-->| {{USRaceRating|Safe|R}}
<!--Coo-->| {{USRaceRating|Safe|R}}
<!--IE--> | rowspan="4" {{USRaceRating|Safe|R}} <br> {{small|(only statewide <br> rating given)}}
<!--IE--> | rowspan="4" {{USRaceRating|Safe|R}} <br/> {{small|(ประเมิน <br/> เฉพาะทั้งรัฐ)}}
<!--SCB-->| {{USRaceRating|Safe|R}}
<!--SCB-->| {{USRaceRating|Safe|R}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:43, 10 มกราคม 2563

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563

← 2559 3 พฤศจิกายน 2563 2567 →

สมาชิกคณะผู้เลือกตั้ง 538 คน
ต้องการ คะแนนเสียงของผู้เลือกตั้ง 270 เสียงจึงชนะ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแคลิฟอร์เนีย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐออริกอน พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐวอชิงตัน พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐไอดาโฮ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเนวาดา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐยูทาห์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแอริโซนา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐมอนแทนา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐไวโอมิง พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐโคโลราโด พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนิวเม็กซิโก พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนอร์ทดาโคตา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเซาท์ดาโคตา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเนแบรสกา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแคนซัส พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐโอคลาโฮมา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเท็กซัส พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐมินนิโซตา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐไอโอวา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐมิสซูรี พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐอาร์คันซอ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐลุยเซียนา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐวิสคอนซิน พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐอิลลินอยส์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐมิชิแกน พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐอินดีแอนา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐโอไฮโอ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเคนทักกี พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเทนเนสซี พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐมิสซิสซิปปี พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแอละแบมา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐจอร์เจีย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐฟลอริดา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเซาท์แคโรไลนา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนอร์ทแคโรไลนา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเวอร์จิเนีย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเขตโคลัมเบีย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแมริแลนด์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเดลาแวร์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเพนซิลเวเนีย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนิวเจอร์ซีย์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนิวยอร์ก พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐคอนเนตทิคัต พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐโรดไอแลนด์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเวอร์มอนต์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเมน พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแมสซาชูเซตส์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐฮาวาย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐอะแลสกา พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเขตโคลัมเบีย พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแมริแลนด์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเดลาแวร์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนิวเจอร์ซีย์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐคอนเนตทิคัต พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐโรดไอแลนด์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐแมสซาชูเซตส์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐเวอร์มอนต์ พ.ศ. 2563การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ พ.ศ. 2563
แผนที่เลือกตั้งของการเลือกต้้งปี 2563 โดยยึดประชากรจากสำมะโนปี 2553

หน้าที่ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

ดอนัลด์ ทรัมป์
พรรคริพับลิกัน



การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563 ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 59 ซึ่งจัดทุกสี่ปี ผู้ออกเสียงเลือกตั้งจะเลือกผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 14 ธันวาคม 2563[1] หากไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งใดได้รับเสียงของคณะผู้เลือกตั้งขั้นต่ำ 270 เสียงในการชนะการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเลือกประธานาธิบดีจากผู้สมัครสามคนที่ได้รับเสียงของผู้เลือกตั้งมากที่สุด และวุฒิสภาสหรัฐจะเลือกรองประธานาธิบดีที่ได้้รับคะแนนรวมสูงสุดสองอันดับ คาดว่าจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมลับในช่วงหกเดือนแรกของปี 2563 กระบวนการเสนอชื่อยังเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมด้วย โดยผู้ออกเสียงเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งในการประชุมเสนอชื่อของพรรคการเมือง ซึ่งจะเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีพรรคของตนและรองประธานาธิบดีที่ร่วมลงสมัครในลำดับถัดไป

ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 และคนปัจจุบัน เริ่มการรณรงค์รับเลือกตั้งใหม่สำหรับการเลือกตั้งขั้นต้นพรรครีพับลิกัน องค์การพรรครีพับลิกันระดับรัฐหลายองค์การยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อแสดงการสนับสนุนการลงสมัครรับเลือกตั้งของเขา ผู้สมัครหลัก 27 คนเริ่มการรณรงค์เพื่อรับการเสนอชื่อของพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นจำนวนผู้สมัครมากที่สุดสำหรับพรรคการเมืองในการเมืองอเมริกันหลังยุคปฏิรูป ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2564

เบื้องหลัง

วิธีดำเนินการ

รัฐธรรมนูญสหรัฐ มาตรา 2 ระบุว่า บุคคลที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐต้องเป็นพลเมืองสหรัฐโดยกำเนิด มีอายุ 35 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้พำนักในสหรัฐอย่างน้อย 14 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีตรงแบบมองหาการเสนอชื่อของพรรคการเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐ โดยแต่ละพรรคมีวิธีการของตน (เช่น การเลือกตั้งขั้นต้น) เพื่อเลือกผู้สมัครที่พรรคเห็นว่าเหมาะสมลงรับสมัครเลือกตั้ง การเลือกตั้งขั้นต้นปกติเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรคลงคะแนนเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งที่จะเลือกผู้สมัครคนหนึ่ง ๆ จากนั้นผู้แทนของพรรคจะเสนอชื่อผู้สมัครให้ลงรับเลือกตั้งในนามของพรรคอย่างเป็นทางการ ผู้เสนอชื่อประธานาธิบดีตรงแบบเลือกผู้ร่วมสมัครรับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี ซึ่งผู้แทนพรรคจะให้สัตยาบัน การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมเช่นกัน ซึ่งผู้ออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนให้สมาชิกคณะผู้เลือกตั้ง แล้วผู้เลือกตั้งเหล่านี้จะเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีโดยตรง[2]

ในเดือนพฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตออกเสียงไม่อนุญาตให้ซูเปอร์เดลีเกตออกเสียงเป็นลำดับแรกในกระบวนการเสนอชื่อ เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2563 ทำให้ผู้สมัครต้องชนะผู้แทนที่ให้สัญญาฝ่ายข้างมากจากการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อให้พรรคเสนอชื่อ[3]

คณะกรรมการระดับรัฐของพรรครีพับลิกันหลายคณะมีรายงานว่าพิจารณายกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมลับปี 2563 ส่วนอีกหลายคณะดำเนินการไปแล้ว[4] โดยอ้างข้อเท็จจริงว่ารีพับลิกันเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นหลายรัฐเมื่อจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช และจอร์จ ดับเบิลยู. บุชลงสมัครสมัยที่สองในปี 2535 และ 2547 ตามลำดับ ส่วนเดโมแครตเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อบิล คลินตันและบารัค โอบามากำลังรับเลือกตั้งสมัยที่สองในปี 2539 และ 2555 ตามลำดับ[5][6]

วันที่ 26 สิงหาคม 2562 สภานิติบัญญัติรัฐเมนผ่านร่างกฎหมายใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับ (ranked-choice voting) สำหรับทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีขั้นต้นและการเลือกตั้งทั่วไป[7][8] วันที่ 6 กันยายน 2562 ผู้ว่าการรัฐเมน เจเน็ต มิลส์ อนุญาตให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวโดยไม่ลงนาม ซึ่งทำให้ชะลอเวลามีผลจนกระทั่งหลังเลือกตั้งขั้นต้นพรรคเดโมแครตปี 2563 ในเดือนมีนาคม ทำให้รัฐเมนจะเป็นรัฐแรกที่ใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปประธานาธิบดี[9] กฎหมายยังคงใช้วิธีการเขตเลือกตั้งรัฐสภาสำหรับการจัดสรรผู้เลือกตั้ง โดยรัฐเมนและรัฐเนแบรสกาใช้ในการเลือกตั้งล่าสุด การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจชะลอการทำนายผู้ชนะเสียงผู้เลือกั้งขอรัฐเมนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังวันเลือกตั้ง และยังจะทำให้การตีความคะแนนของประชาชนทั่วประเทศยุ่งยากขึ้นด้วย

การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 22 ระบุว่าบุคคลไม่สามารถไดร้ับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกินสองครั้ง ทำให้อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบารัค โอบามาไม่มีสิทธิ์รับเลือกตั้งอีกสมัย

แนวโน้มประชากรศาสตร์

กลุ่มอายุที่จะมีอายุอยู่ในช่วง 18 ถึง 45 ปีคาดว่าจะคิดเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งของสหรัฐน้อยกว่าร้อยละ 40 เล็กน้อยในปี 2563 คาดหมายว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งสหรัฐกว่าร้อยละ 30 ไม่ใช่ผิวขาว[10]

รายงานสองพรรคระบุว่าประชากรศาสตร์ผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปนับแต่การเลือกตั้งปี 2559 อาจมีผลต่อการเลือกตั้งปี 2563 แอฟริกันอเมริกัน ฮิสแปนิก เอเชียและชนกลุ่มน้อยอื่น ตลอดจน "ผิวขาวที่มีปริญญาวิทยาลัย" ล้วนคาดว่าจะมีสัดส่วนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกต้ังเพิ่มขึ้นทั่วประเทศภายในปี 2563 ส่วน "ผิขาวที่ไม่มีปริญญาวิทยาลัย" จะลดลง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้สมัครพรรคเดโมแครตได้เปรียบ แต่เนื่องจากความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ อาจทำให้ผู้สมัครพรรครีพับลิกันชนะคณะผู้เลือกตั้งได้แม้จะแพ้คะแนนเสียงของประชาชน โดยอาจทิ้งห่างมากยิ่งกว่าปี 2559[11]

การเลือกตั้งในปีเดียวกัน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หลายรัฐจัดการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐและสภานิติบัญญัติของรัฐด้วย หลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรจะมีการจัดสรรที่นั่งใหม่ให้กับ 50 รัฐตามผลของสำมะโนสหรัฐปี 2563 และรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ ในหลายรัฐ ผู้ว่าการและสภานิติบัญญัติของรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งใหม่ และบ่อยครั้งที่พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีผลอาศัยบารมีช่วยทำให้ผู้สมัครอื่นจากพรรคเดียวกันชนะการเลือกตั้งตามไปด้วย[12] ฉะนั้น พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 อาจมีข้อได้เปรียบสำคัญในการร่างเขตรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ซึ่งจะมีผลจนถึงการเลือกต้ัั้งปี 2575[13]

การทำนายผลของรัฐต่าง ๆ

ผู้ทำนายผลการเลือกตั้งส่วนใหญ่ใช้ศัพท์ดังนี้

  • "tossup": ไม่มีข้อได้เปรียบ
  • "tilt" (ใช้น้อย): ได้เปรียบโดยไม่มากเท่ากับ "lean"
  • "lean": ได้เปรียบเล็กน้อย
  • "likely" หรือ "favored": ได้เปรียบมาก แต่ยังเอาชนะได้
  • "safe" or "solid": โอกาสชนะเกือบแน่นอน
รัฐ PVI[14] ผลครั้งก่อน Cook
29 ต.ค. 2019[15]
IE
19 เม.ย. 2562[16]
Sabato
19 ก.ย. 2562[17]
แอละแบมา R+14 62.1% R Safe R Safe R Safe R
อะแลสกา R+9 51.3% R Safe R Safe R Safe R
แอริโซนา R+5 48.9% R Tossup Tilt R Tossup
อาร์คันซอ R+15 60.6% R Safe R Safe R Safe R
แคลิฟอร์เนีย D+12 61.7% D Safe D Safe D Safe D
โคโลราโด D+1 48.2% D Likely D Safe D Lean D
คอนเนตทิคัต D+6 54.6% D Safe D Safe D Safe D
เดลาแวร์ D+6 53.1% D Safe D Safe D Safe D
เขตโคลัมเบีย D+41 90.9% D Safe D Safe D Safe D
ฟลอริดา R+2 49.0% R Tossup Tossup Lean R
จอร์เจีย R+5 50.8% R Lean R Likely R Lean R
ฮาวาย D+18 62.2% D Safe D Safe D Safe D
ไอดาโฮ R+19 59.3% R Safe R Safe R Safe R
อิลลินอยส์ D+7 55.8% D Safe D Safe D Safe D
อินเดียนา R+9 56.8% R Safe R Safe R Safe R
ไอโอวา R+3 51.2% R Lean R Lean R Lean R
แคนซัส R+13 56.7% R Safe R Safe R Safe R
เค็นตักกี R+15 62.5% R Safe R Safe R Safe R
ลุยเซียนา R+11 58.1% R Safe R Safe R Safe R
เมน D+3 47.8% D Lean D Lean D
(ประเมิน
เฉพาะทั้งรัฐ)
Lean D
เมน เขต 1 D+8 54.0% D Safe D Safe D
เมน เขต 2 R+2 51.3% R Lean R Lean R
แมรีแลนด์ D+12 60.3% D Safe D Safe D Safe D
แมสซาชูเซ็ตส์ D+12 60.1% D Safe D Safe D Safe D
มิชิแกน D+1 47.5% R Tossup Tilt D (พลิกชนะ) Lean D (พลิกชนะ)
มินเนโซตา D+1 46.4% D Lean D Likely D Lean D
มิสซิสซิปปี R+9 57.9% R Safe R Safe R Safe R
มิสซูรี R+9 56.8% R Safe R Safe R Safe R
มอนแทนา R+11 56.2% R Safe R Safe R Safe R
เนแบรสกา R+14 58.8% R Safe R Safe R
(ประเมิน
เฉพาะทั้งรัฐ)
Safe R
NE-1 R+11 56.2% R Safe R Safe R
NE-2 R+4 47.2% R Lean R Tossup
NE-3 R+27 73.9% R Safe R Safe R
เนวาดา D+1 47.9% D Lean D Lean D Lean D
นิวแฮมพ์เชียร์ EVEN 47.0% D Lean D Lean D Lean D
นิวเจอร์ซีย์ D+7 55.0% D Safe D Safe D Safe D
นิวเม็กซิโก D+3 48.4% D Safe D Safe D Likely D
นิวยอร์ก D+11 59.0% D Safe D Safe D Safe D
นอร์ทแคโรไลนา R+3 49.8% R Lean R Tossup Lean R
นอร์ทดาโคตา R+16 63.0% R Safe R Safe R Safe R
โอไฮโอ R+3 51.7% R Likely R Likely R Lean R
โอกลาโฮมา R+20 65.3% R Safe R Safe R Safe R
ออริกอน D+5 50.1% D Safe D Safe D Safe D
เพนซิลเวเนีย EVEN 48.2% R Tossup Tilt D (พลิกชนะ) Tossup
โรดไอแลนด์ D+10 54.4% D Safe D Safe D Safe D
เซาท์แคโรไลนา R+8 54.9% R Safe R Safe R Safe R
เซาท์ดาโคตา R+14 61.5% R Safe R Safe R Safe R
เท็นเนสซี R+14 60.7% R Safe R Safe R Safe R
เท็กซัส R+8 52.2% R Likely R Safe R Lean R
ยูทาห์ R+20 45.5% R Safe R Safe R Safe R
เวอร์มอนต์ D+15 56.7% D Safe D Safe D Safe D
เวอร์จิเนีย D+1 49.7% D Likely D Safe D Lean D
วอชิงตัน D+7 52.5% D Safe D Safe D Safe D
เวสต์เวอร์จิเนีย R+19 68.5% R Safe R Safe R Safe R
วิสคอนซิน EVEN 47.2% R Tossup Tossup Tossup
ไวโอมิง R+25 67.4% R Safe R Safe R Safe R

อ้างอิง

  1. "3 U.S.C. § 7 - U.S. Code - Unannotated Title 3. The President § 7. Meeting and vote of electors", FindLaw.com.
  2. "US Election guide: how does the election work?". เดอะเดลีเทลิกราฟ. 6 พฤศจิกายน 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2015. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
  3. Levy, Adam (25 สิงหาคม 2018). "DNC changes superdelegate rules in presidential nomination process". ซีเอ็นเอ็น. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 สิงหาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2018.
  4. Isenstadt, Alex (6 กันยายน 2019). "Republicans to scrap primaries and caucuses as Trump challengers cry foul". โพลิติโก. สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2019.
  5. Karni, Annie (6 กันยายน 2019). "GOP plans to drop presidential primaries in 4 states to impede Trump challengers". เดอะบอสตันโกลบ. เอ็มเอสเอ็น. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2019.
  6. Steakin, Will; Karson, Kendall (6 กันยายน 2019). "GOP considers canceling at least 3 GOP primaries and caucuses, Trump challengers outraged". เอบีซีนิวส์. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2019.
  7. Miller, Kevin (26 สิงหาคม 2019). "Maine Senate passes ranked-choice voting for March presidential primaries". Portland Press Herald. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2019.
  8. Shepard, Michael (28 สิงหาคม 2019). "Maine might switch to a ranked-choice presidential election. Here's how it would look". ซีบีเอส 13. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2019.
  9. Sherpard, Michael (6 กันยายน 2019). "Maine will use ranked-choice voting in next year's presidential election — but not the 2020 primaries". Portland Press Herald. สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2019.
  10. Weeks, Linton (25 มกราคม 2013). "Forget 2016. The Pivotal Year In Politics May Be 2020". เอ็นพีอาร์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2015.
  11. Chinni, Dante (22 เมษายน 2018). "Demographic shifts show 2020 presidential race could be close". เอ็นบีซีนิวส์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 เมษายน 2018. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2018.
  12. Campbell, James E. (มีนาคม 1986). "Presidential Coattails and Midterm Losses in State Legislative Elections". The American Political Science Review. 80 (1): 45–63. doi:10.2307/1957083. JSTOR 1957083.
  13. Sarlin, Benjy (26 สิงหาคม 2014). "Forget 2016: Democrats already have a plan for 2020". เอ็มเอสเอ็นบีซี. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
  14. "2016 State PVI Changes – Decision Desk HQ". decisiondeskhq.com. 15 ธันวาคม 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2019.
  15. "2020 Electoral College Ratings" (PDF). Cook Political Report. 29 ตุลาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2019.
  16. "Presidential Ratings". Inside Elections. 27 กรกฎาคม 2019.
  17. "2020 President". Sabato's Crystal Ball. July 27, 2019.