ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โจมอ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
วณิพก (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Book Bachelor (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 26: บรรทัด 26:
}}
}}


'''โจมอ หรือเฉาเหมา''' (ค.ศ. 241 - 6 มิถุนายน ค.ศ. 260) ชื่อรอง '''เอี้ยนซื้อ''' เป็น[[จักรพรรดิ]]องค์ที่สี่ของ[[วุยก๊ก]]ในยุค[[สามก๊ก]] โจมอเป็นพระราชนัดดา (หลาน) ของพระเจ้า[[โจผี]] จักรพรรดิองค์แรกของวุยก๊ก พระเจ้าโจมอสิ้นพระชนม์จากการพยายามยึดอำนาจคืนจาก[[สุมาเจียว]]
'''พระเจ้าโจมอ''' ({{lang-en|Cao Mao}}; {{zh-all|t=曹髦|s=曹髦|p=Cáo Máo}} พระราชนัดดาใน[[พระเจ้าโจผี]] ทรงมีฐานันดรศักดิเป็นเกากุ้ยเซียงกงมีฉายาว่า เอี๋ยนซื้อ ครองอยู่ ณเมืองอ้วนเสีย เมื่อ[[สุมาสู]]ถอด[[พระเจ้าโจฮอง]]ออกจากราชสมบัติแล้ว ได้อัญเชิญพระเจ้าโจมอขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อไป เมื่อปี [[พ.ศ. 797]] (ค.ศ. 254) ต่อมาสุมาสูสิ้นชีพ สุมาเจียวได้ดำรงตำแหน่งสมุหนายกกุมอำนาจไว้อีก


== ครอบครัวและการขึ้นเป็นจักรพรรดิ ==
พระเจ้าโจมออยู่ในราชสมบัตินาน 5 ปี มีความรู้สึกกดดันที่อยู่ภายใต้อำนาจสุมาเจียวจึงแต่งกลอนเพื่อระบายความในใจออกมาแต่กลอนนี้กับหลุดไปถึงหูสุมาเจียว ทำให้เกิดความโมโหจึงบุกเข้าไปด่าทอในท้องพระโรงต่อหน้าข้าราชบริพารและออกจากท้องพระโรงโดยไม่ทูลลา ทำให้พระเจ้าโจมอเกิดความพิโรธและทนการรุกรานของ[[สุมาเจียว]]ไม่ไหว จึงเตรียมการโค่นอำนาจของสุมาเจียวโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านขุนางที่จงรักภักดีเลย ยกทัพทหารประมาณ 300 เศษ จะไปจับสุมาเจียวจึงเกิดการปะทะกับกำลังของสุมาเจียว และถูกเซงเจ (เฉิงจี้) เอาง้าวแทงถูกพระอุระพลัดตกจากราชรถ แล้วเอาง้าวฟันซ้ำ พระเจ้าโจมอก็สิ้นพระชนม์
โจมอเป็นบุตรชายของ[[:en:Cao_Lin_(Prince_of_Donghai)|โจหลิน]]ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าโจผี ในปี 244 เมื่ออายุได้สามขวบ ตามกฎหมายของวุยก๊ก บุตรชายของเจ้าชาย (เว้นแต่ลูกชายคนแรกของเจ้าชายให้ตั้งเป็นทายาท) ให้แต่งตั้งเป็นดยุค โจมอได้รับยศ "Duke of Gaogui District" (高貴鄉公)" โจหลินเสียชีวิตในปี 249 เมื่อโจมออายุได้แปดขวบ Cao Qi (曹啟) ผู้เป็นพี่ชายรับตำแหน่ง Prince of Donghai ต่อจากบิดา


อำนาจอยู่ในมือตระกูลสุมาหลัง[[สุมาอี้]]ก่อ[[รัฐประหาร]]ในปี 249 หลังจากสุมาอี้เสียชีวิตในปี 251 อำนาจถูกผ่องถ่ายไปยัง[[สุมาสู]]ผู้เป็นลูกชายคนโต ในปี 254 สุมาสูกล่าวหาว่า Li Feng [[แฮหัวเทียน]] และ [[:en:Zhang_Ji_(Derong)|Zhang Ji (張緝)]] เป็นกบฏและสั่งประหารพร้อมทั้งครอบครัว ในปีเดียวกัน พระเจ้า[[โจฮอง]]คิดจะยึดอำนาจกลับคืนมาแต่ก็ถูกสุมาสูปลดออก

[[:en:Empress_Guo_(Cao_Rui's_wife)|Empress Dowager Guo]] พระวิมาดา (แม่เลี้ยง) ของโจฮอง พยายามเฮือกสุดท้ายที่จะนำอำนาจกลับคืนมาโดยการเข้าไปมีส่วนในการเลือกจักรพรรดิองค์ต่อไป เมื่อสุมาสูบอก Empress Dowager Guo ว่าเขาต้องการจะแต่งตั้ง Cao Ju (曹據) พระอนุชา (น้องชาย) ของพระเจ้า[[โจผี]]เป็นจักรพรรดิ เธอบอกว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เนื่องจาก Cao Ju เป็นพระปิตุลา (อา) ของโจยอย, such a succession would leave Cao Rui effectively sonless with no heir. สุมาสูจึงต้องเห็นด้วยกับนาง และแต่งตั้งโจมอเป็นจักรพรรดิแทนตามคำแนะนำของนาง โจมอซึ่งในขณะนั้นอายุ 14 ปี เป็นที่รู้จักในความเฉลียวฉลาด ทำให้ Empress Dowager Guo เชื่อว่าเขาอาจจะมีโอกาสในการต่อกรกับตระกูลสุมา เมื่อสุมาสูถามหาตราหยกแผ่นดิน นางจึงคุยด้วยเหตุผลแบบปฏิเสธแบบสุภาพ ภายใต้เหตุผลว่านางเคยพบโจมอมาก่อนและอยากจะมอบตราหยกด้วยตัวนางเอง เมื่อโจมอถูกเรียกเข้าเมืองหลวง เขาปฏิบัติตัวในพิธีดั่งดยุคแทนที่จะเป็นจักรพรรดิเลยทันทีจนกระทั่งขึ้นเป็นจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ การกระทำเช่นนี้ได้รับแรงสนับสนุนและคำเชยชมว่าเป็นจักรพรรดิเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตน

== รัชสมัย ==
ในปี 255 [[:en:Guanqiu_Jian|บู๊ขิวเขียม]]และ[[:en:Wen_Qin|บุนขิม]]ก่อกบฏใน Shouchun แต่ก็ถูกสุมาสูปราบอย่างรวดเร็ว บู๊ขิวเขียมถูกฆ่าและตระกูลถูกสั่งประหาร บุนขิมพร้อมกับบุนเอ๋งและบุนเฮา (文虎) ผู้เป็นลูกชายหนีไปยัง[[ง่อก๊ก]] สุมาสูเสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น หลังจากสุมาสูเสียชีวิต พระเจ้าโจมอพยายามยึดอำนาจกลับคืนมา โดยมีพระบรมราชโองการให้[[สุมาเจียว]]อยู่ใน[[ฮูโต๋]]ต่อและให้ Fu Jia (傅嘏) ที่ปรึกษาของสุมาเจียว เดินทางกลับมาลกเอี๋ยงพร้อมกับทัพหลัก อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังคำแนะนำของ Fu Jia (傅嘏) และ[[จงโฮย]] สุมาเจียวขัดพระบรมราชโองการโดยเดินทางกลับมา[[ลกเอี๋ยง]] และยังคงมีอำนาจเหมือนเดิม

ในปีถัด ๆ มา พระเจ้าโจมอทรงแต่งตั้งคนที่มีความสามารถขึ้นมารอบ ๆ พระองค์ ซึ่งมี [[:en:Sima_Wang|Sima Wang]] ผู้เป็นญาติของสุมาเจียว [[:en:Wang_Shen_(Three_Kingdoms)|Wang Shen (王沈)]] [[:en:Pei_Xiu|Pei Xiu]] และจงโฮย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรม คนเหล่านี้จงรักภักดีต่อตระกูลสุมา แต่ก็อาจจะได้ประโยชน์บางอย่างถ้าพวกเขานอบน้อมต่อพระเจ้าโจมอ การกระทำนี้พระเจ้าโจมอทรงทำไปเพื่อลดความระแวงของสุมาเจียวและได้รับแรงสนับสนุนจากคนเหล่านี้ พระเจ้าโจมอมักจัดการประชุมเพื่อพูดคุยในเรื่องวรรณกรรม นอกจากนั้น พระเจ้าโจมอทรงมอบรถบรรทุกสองล้อที่เคลื่อนที่ได้เร็วและทหารรักษาพระองค์ห้าคนเป็นผู้คุ้มกันให้แก่ Sima Wang เพราะ Sima Wang อยู่ไกลจากวังมากกว่าคนอื่น ๆ

ประมาณปี 257 [[จูกัดเอี๋ยน]]ก่อกบฏขึ้นใน Shouchun ด้วยแรงสนับสนุนจากง่อก๊ก สุมาเจียวนำทัพไปล้อมกบฏในเมืองช่วงต้นปี 258 จูกัดเอี๋ยนทะเลาะกับบุนขิมภายในเมืองและจบลงด้วยการตายของบุนขิมโดยจูกัดเอี๋ยนและการแปรพักตร์ของลูกชายบุนขิม Shouchun ตกให้กับทัพของสุมาเจียวและกบฏก็ถูกปราบ ในปี 259 พระเจ้าโจมอได้รับรายงานว่ามีการเห็นมังกรสีเหลือง (นิมิตรที่ดี) แต่พระองค์กลับมองว่าเป็นนิมิตรร้ายและประพันธ์บทกวีชื่อ ''Ode to the Hidden Dragon'' (濳龍詩)

: ''The poor dragon is trapped, alone and cold;''
: ''He cannot leap out of the depths;''
: ''He cannot rise to the heavens;''
: ''He cannot even descend onto fields.''

: ''The poor dragon fell into the deep well;''
: ''Even catfish dance before him;''
: ''He hides his teeth and claws and sighs;''
: ''And I am this depressed as well?''
: บทกวีดังกล่าวทำให้สุมาเจียวไม่พอใจมาก ทำให้สุมาเจียวเพ่งเล็งพระเจ้าโจมอหนักขึ้นไปอีก ในปี 258 จากแรงกดดันของสุมาเจียว พระเจ้าโจมอมีพระบรมราชโองการให้มอบ[[:en:Nine_bestowments|สิ่งของพระราชทานเก้าระดับ]]แก่สุมาเจียว แต่สุมาเจียวปฏิเสธ

== ความพยายามก่อการรัฐประหารและการเสียชีวิต ==
{{main|รัฐประหารพระเจ้าโจมอ}}ในปี 260 พระเจ้าโจมอถูกบังคับให้มีพระบรมราชโองการมอบตำแหน่งจิ้นก๋งและสิ่งของพระราชทานเก้าระดับ ซึ่งสุมาเจียวก็ปฏิเสธอีกเก้าครั้ง เมื่อพระองค์ถูกบังคับให้ทำอีกครั้ง สุมาเจียวก็ปฏิเสธอีก พระเจ้าโจมอทรงพิโรธ จึงเรียกตัว [[:en:Wang_Chen_(Three_Kingdoms)|Wang Shen]], [[:en:Wang_Jing_(Three_Kingdoms)|Wang Jing]] และ [[:en:Wang_Ye_(Three_Kingdoms)|Wang Ye]] มาบอกถึงความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะนำอำนาจกลับคืนมา Wang Shen และ Wang Ye จึงไปบอกสุมาเจียว พระเจ้าโจมอทรงนำทัพเอง [[สุมาเตี้ยม]]ผู้เป็นน้องชายของสุมาเจียวพยายามป้องกันแต่ก็ต้องร่นถอย กาอุ้นนำทัพมาป้องกันที่หอสังเกตการณ์ฝั่งใต้และสั่งให้นายทหาร Cheng Ji (成濟) ฆ่าพระเจ้าโจมอ Cheng Ji จึงฆ่าพระเจ้าโจมอด้วยการแทงข้าที่หน้าอกด้วยหอก

สุมาเจียวบังคับให้ Empress Dowager Guo ประกาศว่าโจมอมีแผนจะทำร้ายนางและให้ถอดยศโจมอย้อนหลัง เพื่อทำให้เหมือนว่าการบุกโจมตีนั้นเล็งไปที่ Empress Dowager ไม่ใช่ตัวสุมาเจียว [[สุมาหู]]ผู้เป็นลุงของสุมาเจียวและข้าราชการระดับสูงร้องขอสุมาเจียวให้ลดยศโจมอกลับไปเป็นดยุคและฝังศพในฐานะเจ้าชาย - เพื่อแสดงถึงความผ่อนปรน อย่างไรก็ตาม สุมาเจียวปฏิเสธ โจมอจึงไม่ได้ถูกฝังศพในฐานะเจ้าชาย สุมาเจียวยังคงปฏิเสธยศจิ้นก๋งและสิ่งของพระราชทานเก้าระดับ

สุมาเจียวกล่าวโทษ Cheng Ji จากการปลงพระชนม์จักรพรรดิและสั่งประหารทั้งครอบครัว โจฮวง (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น[[โจฮวน]]) กลายเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ และเป็นจักรพรรดิหุ่นเชิดองค์สุดท้ายก่อนสุมาเอี๋ยนผู้เป็นบุตรชายของสุมาเจียวทำการล้มราชบัลลังก์ในปี 266

== ชื่อรัชสมัย ==

* ''Zhengyuan'' (正元) 254-256
* ''Ganlu'' (甘露) 256-260

== ครอบครัว ==

* '''พ่อแม่'''
** โจหลิน (d. 250)
* '''ภรรยา'''
** [[:en:Empress_Bian_(Cao_Mao's_wife)|Empress]] จากตระกูลเปียน
{{เริ่มกล่อง}}
{{เริ่มกล่อง}}
{{สืบตำแหน่ง
{{สืบตำแหน่ง

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:28, 3 มกราคม 2563

โจมอ
จักรพรรดิแห่งราชวงศ์วุย
ประสูติพ.ศ. 785
สวรรคตพ.ศ. 817
ทรงราชสมบัติช่วงพ.ศ. 797 - พ.ศ. 803
จักรพรรดิองค์ก่อนหน้าโจฮอง
จักรพรรดิองค์ถัดไปโจฮวน
ชื่อภาษาจีน
อักษรจีนตัวเต็ม曹髦
อักษรจีนตัวย่อ曹髦
พระนามรองเอี้ยนซื้อ

โจมอ หรือเฉาเหมา (ค.ศ. 241 - 6 มิถุนายน ค.ศ. 260) ชื่อรอง เอี้ยนซื้อ เป็นจักรพรรดิองค์ที่สี่ของวุยก๊กในยุคสามก๊ก โจมอเป็นพระราชนัดดา (หลาน) ของพระเจ้าโจผี จักรพรรดิองค์แรกของวุยก๊ก พระเจ้าโจมอสิ้นพระชนม์จากการพยายามยึดอำนาจคืนจากสุมาเจียว

ครอบครัวและการขึ้นเป็นจักรพรรดิ

โจมอเป็นบุตรชายของโจหลินซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าโจผี ในปี 244 เมื่ออายุได้สามขวบ ตามกฎหมายของวุยก๊ก บุตรชายของเจ้าชาย (เว้นแต่ลูกชายคนแรกของเจ้าชายให้ตั้งเป็นทายาท) ให้แต่งตั้งเป็นดยุค โจมอได้รับยศ "Duke of Gaogui District" (高貴鄉公)" โจหลินเสียชีวิตในปี 249 เมื่อโจมออายุได้แปดขวบ Cao Qi (曹啟) ผู้เป็นพี่ชายรับตำแหน่ง Prince of Donghai ต่อจากบิดา

อำนาจอยู่ในมือตระกูลสุมาหลังสุมาอี้ก่อรัฐประหารในปี 249 หลังจากสุมาอี้เสียชีวิตในปี 251 อำนาจถูกผ่องถ่ายไปยังสุมาสูผู้เป็นลูกชายคนโต ในปี 254 สุมาสูกล่าวหาว่า Li Feng แฮหัวเทียน และ Zhang Ji (張緝) เป็นกบฏและสั่งประหารพร้อมทั้งครอบครัว ในปีเดียวกัน พระเจ้าโจฮองคิดจะยึดอำนาจกลับคืนมาแต่ก็ถูกสุมาสูปลดออก

Empress Dowager Guo พระวิมาดา (แม่เลี้ยง) ของโจฮอง พยายามเฮือกสุดท้ายที่จะนำอำนาจกลับคืนมาโดยการเข้าไปมีส่วนในการเลือกจักรพรรดิองค์ต่อไป เมื่อสุมาสูบอก Empress Dowager Guo ว่าเขาต้องการจะแต่งตั้ง Cao Ju (曹據) พระอนุชา (น้องชาย) ของพระเจ้าโจผีเป็นจักรพรรดิ เธอบอกว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เนื่องจาก Cao Ju เป็นพระปิตุลา (อา) ของโจยอย, such a succession would leave Cao Rui effectively sonless with no heir. สุมาสูจึงต้องเห็นด้วยกับนาง และแต่งตั้งโจมอเป็นจักรพรรดิแทนตามคำแนะนำของนาง โจมอซึ่งในขณะนั้นอายุ 14 ปี เป็นที่รู้จักในความเฉลียวฉลาด ทำให้ Empress Dowager Guo เชื่อว่าเขาอาจจะมีโอกาสในการต่อกรกับตระกูลสุมา เมื่อสุมาสูถามหาตราหยกแผ่นดิน นางจึงคุยด้วยเหตุผลแบบปฏิเสธแบบสุภาพ ภายใต้เหตุผลว่านางเคยพบโจมอมาก่อนและอยากจะมอบตราหยกด้วยตัวนางเอง เมื่อโจมอถูกเรียกเข้าเมืองหลวง เขาปฏิบัติตัวในพิธีดั่งดยุคแทนที่จะเป็นจักรพรรดิเลยทันทีจนกระทั่งขึ้นเป็นจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ การกระทำเช่นนี้ได้รับแรงสนับสนุนและคำเชยชมว่าเป็นจักรพรรดิเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตน

รัชสมัย

ในปี 255 บู๊ขิวเขียมและบุนขิมก่อกบฏใน Shouchun แต่ก็ถูกสุมาสูปราบอย่างรวดเร็ว บู๊ขิวเขียมถูกฆ่าและตระกูลถูกสั่งประหาร บุนขิมพร้อมกับบุนเอ๋งและบุนเฮา (文虎) ผู้เป็นลูกชายหนีไปยังง่อก๊ก สุมาสูเสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น หลังจากสุมาสูเสียชีวิต พระเจ้าโจมอพยายามยึดอำนาจกลับคืนมา โดยมีพระบรมราชโองการให้สุมาเจียวอยู่ในฮูโต๋ต่อและให้ Fu Jia (傅嘏) ที่ปรึกษาของสุมาเจียว เดินทางกลับมาลกเอี๋ยงพร้อมกับทัพหลัก อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังคำแนะนำของ Fu Jia (傅嘏) และจงโฮย สุมาเจียวขัดพระบรมราชโองการโดยเดินทางกลับมาลกเอี๋ยง และยังคงมีอำนาจเหมือนเดิม

ในปีถัด ๆ มา พระเจ้าโจมอทรงแต่งตั้งคนที่มีความสามารถขึ้นมารอบ ๆ พระองค์ ซึ่งมี Sima Wang ผู้เป็นญาติของสุมาเจียว Wang Shen (王沈) Pei Xiu และจงโฮย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรม คนเหล่านี้จงรักภักดีต่อตระกูลสุมา แต่ก็อาจจะได้ประโยชน์บางอย่างถ้าพวกเขานอบน้อมต่อพระเจ้าโจมอ การกระทำนี้พระเจ้าโจมอทรงทำไปเพื่อลดความระแวงของสุมาเจียวและได้รับแรงสนับสนุนจากคนเหล่านี้ พระเจ้าโจมอมักจัดการประชุมเพื่อพูดคุยในเรื่องวรรณกรรม นอกจากนั้น พระเจ้าโจมอทรงมอบรถบรรทุกสองล้อที่เคลื่อนที่ได้เร็วและทหารรักษาพระองค์ห้าคนเป็นผู้คุ้มกันให้แก่ Sima Wang เพราะ Sima Wang อยู่ไกลจากวังมากกว่าคนอื่น ๆ

ประมาณปี 257 จูกัดเอี๋ยนก่อกบฏขึ้นใน Shouchun ด้วยแรงสนับสนุนจากง่อก๊ก สุมาเจียวนำทัพไปล้อมกบฏในเมืองช่วงต้นปี 258 จูกัดเอี๋ยนทะเลาะกับบุนขิมภายในเมืองและจบลงด้วยการตายของบุนขิมโดยจูกัดเอี๋ยนและการแปรพักตร์ของลูกชายบุนขิม Shouchun ตกให้กับทัพของสุมาเจียวและกบฏก็ถูกปราบ ในปี 259 พระเจ้าโจมอได้รับรายงานว่ามีการเห็นมังกรสีเหลือง (นิมิตรที่ดี) แต่พระองค์กลับมองว่าเป็นนิมิตรร้ายและประพันธ์บทกวีชื่อ Ode to the Hidden Dragon (濳龍詩)

The poor dragon is trapped, alone and cold;
He cannot leap out of the depths;
He cannot rise to the heavens;
He cannot even descend onto fields.
The poor dragon fell into the deep well;
Even catfish dance before him;
He hides his teeth and claws and sighs;
And I am this depressed as well?
บทกวีดังกล่าวทำให้สุมาเจียวไม่พอใจมาก ทำให้สุมาเจียวเพ่งเล็งพระเจ้าโจมอหนักขึ้นไปอีก ในปี 258 จากแรงกดดันของสุมาเจียว พระเจ้าโจมอมีพระบรมราชโองการให้มอบสิ่งของพระราชทานเก้าระดับแก่สุมาเจียว แต่สุมาเจียวปฏิเสธ

ความพยายามก่อการรัฐประหารและการเสียชีวิต

ในปี 260 พระเจ้าโจมอถูกบังคับให้มีพระบรมราชโองการมอบตำแหน่งจิ้นก๋งและสิ่งของพระราชทานเก้าระดับ ซึ่งสุมาเจียวก็ปฏิเสธอีกเก้าครั้ง เมื่อพระองค์ถูกบังคับให้ทำอีกครั้ง สุมาเจียวก็ปฏิเสธอีก พระเจ้าโจมอทรงพิโรธ จึงเรียกตัว Wang Shen, Wang Jing และ Wang Ye มาบอกถึงความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะนำอำนาจกลับคืนมา Wang Shen และ Wang Ye จึงไปบอกสุมาเจียว พระเจ้าโจมอทรงนำทัพเอง สุมาเตี้ยมผู้เป็นน้องชายของสุมาเจียวพยายามป้องกันแต่ก็ต้องร่นถอย กาอุ้นนำทัพมาป้องกันที่หอสังเกตการณ์ฝั่งใต้และสั่งให้นายทหาร Cheng Ji (成濟) ฆ่าพระเจ้าโจมอ Cheng Ji จึงฆ่าพระเจ้าโจมอด้วยการแทงข้าที่หน้าอกด้วยหอก

สุมาเจียวบังคับให้ Empress Dowager Guo ประกาศว่าโจมอมีแผนจะทำร้ายนางและให้ถอดยศโจมอย้อนหลัง เพื่อทำให้เหมือนว่าการบุกโจมตีนั้นเล็งไปที่ Empress Dowager ไม่ใช่ตัวสุมาเจียว สุมาหูผู้เป็นลุงของสุมาเจียวและข้าราชการระดับสูงร้องขอสุมาเจียวให้ลดยศโจมอกลับไปเป็นดยุคและฝังศพในฐานะเจ้าชาย - เพื่อแสดงถึงความผ่อนปรน อย่างไรก็ตาม สุมาเจียวปฏิเสธ โจมอจึงไม่ได้ถูกฝังศพในฐานะเจ้าชาย สุมาเจียวยังคงปฏิเสธยศจิ้นก๋งและสิ่งของพระราชทานเก้าระดับ

สุมาเจียวกล่าวโทษ Cheng Ji จากการปลงพระชนม์จักรพรรดิและสั่งประหารทั้งครอบครัว โจฮวง (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นโจฮวน) กลายเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ และเป็นจักรพรรดิหุ่นเชิดองค์สุดท้ายก่อนสุมาเอี๋ยนผู้เป็นบุตรชายของสุมาเจียวทำการล้มราชบัลลังก์ในปี 266

ชื่อรัชสมัย

  • Zhengyuan (正元) 254-256
  • Ganlu (甘露) 256-260

ครอบครัว

  • พ่อแม่
    • โจหลิน (d. 250)
  • ภรรยา
    • Empress จากตระกูลเปียน
ก่อนหน้า โจมอ ถัดไป
พระเจ้าโจฮอง
จักรพรรดิจีน

(พ.ศ. 797 - พ.ศ. 803)
พระเจ้าโจฮวน