ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แกงมัสมั่น"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ส่วนบทกวี
พิสูจน์อักษรและปรับปรุงการเขียนอ้างอิง
บรรทัด 15: บรรทัด 15:
}}
}}


'''แกงมัสมั่น''' เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ชาวไทย[[มุสลิม]]เรียกแกงชนิดนี้ว่า ''ซาละหมั่น'' แกงมัสมั่นแบบมุสลิมไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน<ref>''อาหารมุสลิม''. แสงแดด. 2547. หน้า 14</ref> ในไทยมีวิธีการทำสองแบบคือ แบบไทย น้ำพริกแกงมี พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ลูกผักชี ยี่หร่า ดอกจันทน์ กานพลู ปรุงรสให้หวานนำ เค็มและอมเปรี้ยว เป็นแกงมีน้ำมากเพื่อรับประทานกับข้าว อีกแบบเป็นแบบมุสลิม น้ำขลุกขลิก ใช้จิ้ม[[ขนมปัง]]หรือ[[โรตี]] ในน้ำพริกแกงไม่ใส่ข่า ตะไคร้ ส่วนผสมที่เป็นพริกแห้ง หอม กระเทียม ถั่วลิสงจะทอดก่อน ใส่ผงลูกผักชี ยี่หร่า ใส่[[มันฝรั่ง]] บางสูตรใส่[[มะเขือยาว]] ก่อนจะมีมันฝรั่งมาปลูกแพร่หลายในไทย จะนิยมใส่[[มันเทศ]]<ref>สุมล ว่องวงศ์ศรี. จานอร่อยจากปู่ย่า สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี. กทม. สารคดี. 2557.หน้า 17</ref> สันนิษฐานว่าคำว่า "มัสมั่น" มาจาก[[ภาษาเปอร์เซีย]]คำว่า مسلمان (มุสลิมมาน) ซึ่งหมายถึง [[ชาวมุสลิม]]ในรูป[[พหูพจน์]]<ref>{{cite web|work=สารคดี ฉบับที่ ๑๙๔|first= ธีรนันท์|last= ช่วงพิชิต|date=เมษายน ๒๕๔๔|url=http://www.sarakadee.com/feature/2001/04/klong_bang-luang.htm|title=ตามรอย สำรับแขกคลองบางหลวง}}</ref>
'''แกงมัสมั่น''' เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ชาวไทย[[มุสลิม]]เรียกแกงชนิดนี้ว่า ''ซาละหมั่น'' แกงมัสมั่นแบบมุสลิมไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน<ref>{{Cite book|title=อาหารมุสลิม|author=อบเชย อิ่มสบาย|editor=นิดดา หงษ์วิวัฒน์|place=กรุงเทพฯ|publisher=แสงแดด|date=2547|page=14|isbn=9749665031}}</ref> ในไทยมีวิธีการทำสองแบบคือ แบบไทย น้ำพริกแกงมี พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ลูกผักชี [[ยี่หร่า]] ดอกจันทน์ [[กานพลู]] ปรุงรสให้หวานนำ เค็มและอมเปรี้ยว เป็นแกงมีน้ำมากเพื่อรับประทานกับข้าว อีกแบบเป็นแบบมุสลิม น้ำขลุกขลิก ใช้จิ้ม[[ขนมปัง]]หรือ[[โรตี]] ในน้ำพริกแกงไม่ใส่ข่า ตะไคร้ ส่วนผสมที่เป็นพริกแห้ง หอม กระเทียม ถั่วลิสงจะทอดก่อน ใส่ผงลูกผักชี ยี่หร่า ใส่[[มันฝรั่ง]] บางสูตรใส่[[มะเขือยาว]] ก่อนจะมีมันฝรั่งมาปลูกแพร่หลายในไทย จะนิยมใส่[[มันเทศ]]<ref>{{Cite book|author=สุมล ว่องวงศ์ศรี|title=จานอร่อยจากปู่ย่า สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี|place=กรุงเทพฯ|publisher=สารคดี|date=2557|page=17|isbn=9786167767307}}</ref> สันนิษฐานว่าคำว่า "มัสมั่น" มาจาก[[ภาษาเปอร์เซีย]]คำว่า مسلمان (มุสลิมมาน) ซึ่งหมายถึง [[ชาวมุสลิม]]<ref>{{cite magazine|magazine=สารคดี|issue=194|first= ธีรนันท์|last= ช่วงพิชิต|date=เมษายน 2544|url=http://www.sarakadee.com/feature/2001/04/klong_bang-luang.htm|title=ตามรอย สำรับแขกคลองบางหลวง|issn=0857-1538}}</ref>


แกงมัสมั่นจัดเป็นอาหารชนิดแรกที่ปรากฏใน[[กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน]] พระราชนิพนธ์ใน[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]] ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ความว่า
แกงมัสมั่นจัดเป็นอาหารชนิดแรกที่ปรากฏใน[[กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน]] พระราชนิพนธ์ใน[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]] ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ความว่า


{{โคลงสี่สุภาพ|ย่อหน้า=1
{{บทกวี|indent=1
|แกงไก่'''มัสมั่น'''เนื้อ|นพคุณ พี่เอย|หอมยี่หร่ารสฉุน| เฉียบร้อน}}
|แกงไก่'''มัสมั่น'''เนื้อ|นพคุณ พี่เอย|หอมยี่หร่ารสฉุน|เฉียบร้อน|ชายใดบริโภคภุญช์|พิศวาส หวังนา|แรงอยากยอหัตถ์ข้อน|อกให้หวนแสวง
|ที่มา=กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน<ref>{{Cite web|url=https://th.wikisource.org/wiki/กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานและงานนักขัตฤกษ์|title=กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานและงานนักขัตฤกษ์|author=พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒)|via=วิกิซอร์ซ}}</ref>}}
{{บทกวี|indent=1
|ชายใดบริโภคภุญช์|พิศวาส หวังนา|แรงอยากยอหัตถ์ข้อน|อกให้หวนแสวง ๚
|source=กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน<ref>{{cite web|url=http://oknation.nationtv.tv/blog/YukiTigeryu/2010/09/09/entry-1|title=กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒|date=2010-09-09|work=[[โอเคเนชั่น]]|author=YukiTigeryu}}</ref>}}


แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น [[ยี่หร่า]]ป่น พริกป่นอินเดียและ[[พริกไทย]]ป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่[[กานพลู]] [[อบเชย]] ลงไปผัดกับน้ำมันและ[[หอมแดง]]จนหอม แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่[[มะพร้าว]]คั่ว ผง[[ขมิ้น]] [[ดอกไม้จีน]]และหน่อไม้จีนด้วย
แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น [[ยี่หร่า]]ป่น พริกป่นอินเดียและ[[พริกไทย]]ป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่[[กานพลู]] [[อบเชย]] ลงไปผัดกับน้ำมันและ[[หอมแดง]]จนหอม แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่[[มะพร้าว]]คั่ว ผง[[ขมิ้น]] [[ดอกไม้จีน]]และหน่อไม้จีนด้วย


เว็บไซต์ CNNGO ได้จัดอันดับ 50 เมนูอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกโดยการลงคะแนนเสียงทางเฟซบุ๊ก ปรากฏว่า แกงมัสมั่นได้รับเลือกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก<ref>[http://www.cnngo.com/explorations/eat/worlds-50-most-delicious-foods-067535?page=0,2 World's 50 most delicious foods]</ref>
เว็บไซต์ CNNGo ได้จัดอันดับ 50 เมนูอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกโดยการลงคะแนนเสียงทาง[[เฟซบุ๊ก]] ปรากฏว่า แกงมัสมั่นได้รับเลือกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก<ref>{{Cite web|url=http://travel.cnn.com/explorations/eat/worlds-50-most-delicious-foods-067535?page=0,2|archive-url=https://web.archive.org/web/20140106161105/http://travel.cnn.com/explorations/eat/worlds-50-most-delicious-foods-067535?page=0,2|archive-date=2014-01-06||title=World's 50 best foods|author=CNNGo staff|publisher=CNN Travel|date=2011-07-21}}</ref>

== ดูเพิ่ม ==
* [[แกง#แกงที่ได้รับอิทธิพลจากชาติอื่น|แกงที่ได้รับอิทธิพลจากชาติอื่น]]


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Massaman_curry|แกงมัสมั่น}}
* ญดา ศรีเงินยวง; ชนิรัตน์ สำเร็จ, ''แกงไทย'', 300 หน้า, กรุงเทพฯ: แสงแดด, ตุลาคม 2556, {{ISBN|9786162845178}}
* David Thompson, ''Classic Thai Cuisine'', 145 pages, Berkeley, California: Ten Speed Press, September 1993, {{ISBN|0-89815-563-0}}
* Joe Cummings, ''Lonely Planet World Food Thailand'', 288 pages, London: Lonely Planet Publications, March 2000, {{ISBN|978-1-86450-026-4}}


{{อาหารไทย}}
{{อาหารไทย}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:30, 30 ธันวาคม 2562

แกงมัสมั่น
แกงมัสมั่น
มื้ออาหารหลัก
อุณหภูมิเสิร์ฟร้อน
ส่วนผสมหลักกะทิ มันฝรั่ง ใบกระวาน เม็ดยี่หร่า โป๊ยกั้ก น้ำปลา และเนื้อสัตว์

แกงมัสมั่น เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกงมัสมั่นแบบมุสลิมไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน[1] ในไทยมีวิธีการทำสองแบบคือ แบบไทย น้ำพริกแกงมี พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ลูกผักชี ยี่หร่า ดอกจันทน์ กานพลู ปรุงรสให้หวานนำ เค็มและอมเปรี้ยว เป็นแกงมีน้ำมากเพื่อรับประทานกับข้าว อีกแบบเป็นแบบมุสลิม น้ำขลุกขลิก ใช้จิ้มขนมปังหรือโรตี ในน้ำพริกแกงไม่ใส่ข่า ตะไคร้ ส่วนผสมที่เป็นพริกแห้ง หอม กระเทียม ถั่วลิสงจะทอดก่อน ใส่ผงลูกผักชี ยี่หร่า ใส่มันฝรั่ง บางสูตรใส่มะเขือยาว ก่อนจะมีมันฝรั่งมาปลูกแพร่หลายในไทย จะนิยมใส่มันเทศ[2] สันนิษฐานว่าคำว่า "มัสมั่น" มาจากภาษาเปอร์เซียคำว่า مسلمان (มุสลิมมาน) ซึ่งหมายถึง ชาวมุสลิม[3]

แกงมัสมั่นจัดเป็นอาหารชนิดแรกที่ปรากฏในกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ความว่า

๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚
กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน[4]

แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่นอินเดียและพริกไทยป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่กานพลู อบเชย ลงไปผัดกับน้ำมันและหอมแดงจนหอม แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่มะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีนและหน่อไม้จีนด้วย

เว็บไซต์ CNNGo ได้จัดอันดับ 50 เมนูอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกโดยการลงคะแนนเสียงทางเฟซบุ๊ก ปรากฏว่า แกงมัสมั่นได้รับเลือกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก[5]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. อบเชย อิ่มสบาย (2547). นิดดา หงษ์วิวัฒน์ (บ.ก.). อาหารมุสลิม. กรุงเทพฯ: แสงแดด. p. 14. ISBN 9749665031.
  2. สุมล ว่องวงศ์ศรี (2557). จานอร่อยจากปู่ย่า สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี. กรุงเทพฯ: สารคดี. p. 17. ISBN 9786167767307.
  3. ช่วงพิชิต, ธีรนันท์ (เมษายน 2544). "ตามรอย สำรับแขกคลองบางหลวง". สารคดี. No. 194. ISSN 0857-1538.
  4. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒). "กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานและงานนักขัตฤกษ์" – โดยทาง วิกิซอร์ซ.
  5. CNNGo staff (2011-07-21). "World's 50 best foods". CNN Travel. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-06. {{cite web}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |1= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น

  • ญดา ศรีเงินยวง; ชนิรัตน์ สำเร็จ, แกงไทย, 300 หน้า, กรุงเทพฯ: แสงแดด, ตุลาคม 2556, ISBN 9786162845178
  • David Thompson, Classic Thai Cuisine, 145 pages, Berkeley, California: Ten Speed Press, September 1993, ISBN 0-89815-563-0
  • Joe Cummings, Lonely Planet World Food Thailand, 288 pages, London: Lonely Planet Publications, March 2000, ISBN 978-1-86450-026-4