ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก"
บรรทัด 1,053: | บรรทัด 1,053: | ||
* '''[[ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ]]''' |
* '''[[ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ]]''' |
||
* '''[[ยูฟ่าซูเปอร์คัพ]]''' |
* '''[[ยูฟ่าซูเปอร์คัพ]]''' |
||
* '''[[ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปและอเมริกาใต้|อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ]]''' |
|||
* '''[[อินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ]]''' |
* '''[[อินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ]]''' |
||
* '''[[ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก|ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ]]''' |
* '''[[ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก|ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ]]''' |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:10, 10 ตุลาคม 2562
ไฟล์:UEFA Champions League logo 2.svg | |
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1955 (ในชื่อ ยูโรเปียนคัพ) ค.ศ. 1992 (ในชื่อ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) |
---|---|
ภูมิภาค | ยุโรป (ยูฟ่า) |
จำนวนทีม | 32 (รอบแบ่งกลุ่ม) 76 หรือ 77 (ทั้งหมด) |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | ลิเวอร์พูล (6 สมัย) |
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด | เรอัลมาดริด (13 สมัย) |
ผู้แพร่ภาพโทรทัศน์ | DAZN x GOAL.com |
เว็บไซต์ | UCL |
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 |
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (อังกฤษ: UEFA Champions League; ชื่อเดิม: ยูโรเปียนคัพ: European Cup) [1] เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรต่าง ๆ ภายในทวีปยุโรป ซึ่งจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เริ่มการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันเมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยทีมที่ได้อันดับที่ 1-3 ในแต่ละลีกจะได้ไปแข่งโดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับที่ 4 จะได้ไปเพลย์ออฟรอบสุดท้ายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละลีกเช่นกันจากการจัดอันดับคะแนนลีกของยูฟ่า
การแข่งขันรายการนี้จะเป็นการนำทีมที่มีคะแนนสะสมมากที่สุดของแต่ละลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปยุโรปมาแข่งขันกัน โดยพิจารณาออกมาเป็นโควตาของแต่ละลีก พรีเมียร์ลีกจากอังกฤษ ลาลิกาจากสเปน เซเรียอาจากอิตาลี และ บุนเดิสลีกาจากเยอรมนี มีโควตาสี่ทีม ส่วน ลีกเอิงจากฝรั่งเศส มีโควตาสามทีมเป็นต้น ทั้งนี้ สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุด คือ เรอัลมาดริด (สเปน, 13 ครั้ง) อันดับสอง คือ เอซี มิลาน (อิตาลี, 7 ครั้ง) อันดับสาม คือ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ, 6 ครั้ง) อันดับสี่ คือ ไบเอิร์นมิวนิก (เยอรมนี, 5 ครั้ง) , บาร์เซโลนา (สเปน, 5 ครั้ง)
โดยสโมสรที่ชนะเลิศ 3 สมัยติดต่อกันหรือชนะเลิศครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสร เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่น ๆ ของยูฟ่า โดยที่ เรอัลมาดริด ได้ไปเมื่อ (ค.ศ. 1958), อายักซ์ (ค.ศ. 1973), ไบเอิร์นมิวนิก (ค.ศ. 1976), เอซี มิลาน (ค.ศ. 1994), ลิเวอร์พูล (ค.ศ. 2005), บาร์เซโลนา (ค.ศ. 2015)
ในฤดูกาล 2018-19 ล่าสุดสโมสรที่ชนะเลิศ คือ ลิเวอร์พูล และเป็นแชมป์สมัยที่ 6 ในรายการนี้ โดยเอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ไป 2-0 ในช่วง 90 นาทีของนัดชิงชนะเลิศ
ประวัติ
การแข่งขันรายการนี้ ใช้ชื่อว่า ยูโรเปียนแชมเปียนคลับส์คัพ (European Champion Club's Cup) หรือชื่อย่อว่า ยูโรเปียนคัพ (European Cup) [2] เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1955 จากคำแนะนำของกาเบรียล อาโน ผู้สื่อข่าวกีฬาชาวฝรั่งเศส และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เลกิป ([L'Équipe] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) โดยการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นใน ฤดูกาล 1955-56 โดยจัดการแข่งขันแบบเหย้าและเยือน ซึ่งกำหนดให้ทีมชนะเลิศในลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปยุโรป จึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ จนกระทั่งใน ค.ศ. 1992 ยูฟ่าประกาศเปลี่ยนชื่อรายการยูโรเปียนคัพมาเป็น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงระบบการแข่งขัน ให้ทีมอันดับรองลงไปของแต่ละลีกสามารถเข้าแข่งขันได้ ซึ่งโควตาของแต่ละลีกจะมากน้อยอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับค่าสัมประสิทธิ์ของประเทศนั้นๆ ในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป [3]
การจัดการแข่งขัน (ฤดูกาล 2018–19 ถึง 2020–21)
ในการจัดการแข่งขัน สโมสรที่ชนะยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจะได้สิทธิ์ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มและได้อยู่โถ 1 โดยอัตโนมัติ รวมถึง 7 สโมสรที่เป็นแชมป์ของลีกที่อยู่ในอันดับที่ 1-7 ก็จะได้สิทธิ์ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มและได้อยู่โถ 1 โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน แต่ถ้าสโมสรที่ชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นแชมป์ของลีกที่อยู่ในอันดับที่ 1-7 จะให้สโมสรที่เป็นแชมป์ของลีกที่อยู่ในอันดับที่ 8 มาเล่นในรอบแบ่งกลุ่มและได้อยู่โถ 1 โดยอัตโนมัติแทน
สโมสรที่เข้ารอบนี้ | สโมสรจากรอบก่อนหน้า | ||
---|---|---|---|
รอบคัดเลือกก่อนรอบแรก (4 สโมสร) |
|
||
รอบคัดเลือกรอบแรก (34 สโมสร) |
|
| |
รอบคัดเลือกรอบสอง | ตัวแทนที่ชนะเลิศจากลีก (20 สโมสร) |
|
|
ตัวแทนจากลีก (6 สโมสร) |
|
||
รอบคัดเลือกรอบสาม | ตัวแทนที่ชนะเลิศจากลีก (12 สโมสร) |
|
|
ตัวแทนจากลีก (8 สโมสร) |
|
| |
รอบเพลย์ออฟ | ตัวแทนที่ชนะเลิศจากลีก (8 สโมสร) |
|
|
ตัวแทนจากลีก (4 สโมสร) |
| ||
รอบแบ่งกลุ่ม (32 สโมสร) |
|
| |
รอบแพ้คัดออก (16 สโมสร) |
|
รางวัล
ถ้วยและเหรียญ
เงินรางวัล
As of 2019–20, the fixed amount of prize money paid to the clubs is as follows:[4]
- Preliminary qualifying round: €230,000
- First qualifying round: €280,000
- Second qualifying round: €380,000
- Third qualifying round: €480,000 (Only for clubs eliminated from the champions path, since clubs eliminated from the league path qualify directly for the UEFA Europa League group stage and therefore benefit from its distribution system.)
- Base fee for group stage: €15,250,000
- Group match victory: €2,700,000
- Group match draw: €900,000
- Round of 16: €9,500,000
- Quarter-finals: €10,500,000
- Semi-finals: €12,000,000
- Losing finalist: €15,000,000
- Winning the Final: €19,000,000
ทำเนียบผู้ชนะเลิศและการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ
ทำเนียบชนะเลิศ
ชนะเลิศ (จำแนกตามสโมสร)
สโมสร | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ |
---|---|---|
เรอัลมาดริด | 13 (1955-56, 1956-57, 1957-58, 1958-59, 1959-60, 1965-66, 1997-98, 1999-2000, 2001-02, 2013-14, 2015-16, 2016-17, 2017-18) | 3 (1961-62, 1963-64, 1980-81) |
มิลาน | 7 (1962-63, 1968-69, 1988-89, 1989-90, 1993-94, 2002-03, 2006-07) | 4 (1957-58, 1992-93, 1994-95, 2004-05) |
ลิเวอร์พูล | 6 (1976-77, 1977-78, 1980-81, 1983-84, 2004-05, 2018-19) | 3 (1984-85, 2006-07,2017-18) |
ไบเอิร์นมิวนิก | 5 (1973-74, 1974-75, 1975-76, 2000-01, 2012-13) | 5 (1981-82, 1986-87, 1998-99, 2009-10, 2011-2012) |
บาร์เซโลนา | 5 (1991-92, 2005-06, 2008-09, 2010-11, 2014-15) | 3 (1960-61, 1985-86, 1993-94) |
อายักซ์ | 4 (1970-71, 1971-72, 1972-73, 1994-95) | 2 (1968-69, 1995-96) |
อินเตอร์ | 3 (1963-64, 1964-65, 2009-10) | 2 (1966-67, 1971-72) |
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 3 (1967-68, 1998-99, 2007-08) | 2 (2008-09, 2010-11) |
ยูเวนตุส | 2 (1984-85, 1995-96) | 7 (1972-73, 1982-83, 1996-97, 1997-98, 2002-03, 2014-15, 2016-17) |
ไบฟีกา | 2 (1960-61, 1961-62) | 5 (1962-63, 1964-65, 1967-68, 1987-88, 1989-90) |
นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | 2 (1978-79, 1979-80) | 0 |
โปร์ตู | 2 (1986-87, 2003-04) | 0 |
เซลติก | 1 (1966-67) | 1 (1969-70) |
ฮัมบวร์ค | 1 (1982-83) | 1 (1979-80) |
สเตอัวบูคูเรสตี | 1 (1985-86) | 1 (1988-89) |
มาร์แซย์ | 1 (1992-93) | 1 (1990-91) |
เชลซี | 1 (2011-12) | 1 (2007-08) |
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ | 1 (1996-97) | 1 (2012-13) |
ไฟเยอโนร์ด | 1 (1969-70) | 0 |
แอสตันวิลลา | 1 (1981-82) | 0 |
เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน | 1 (1987-88) | 0 |
เรดสตาร์ เบลเกรด | 1 (1990-91) | 0 |
ชนะเลิศ (จำแนกตามชาติ)
ชนะเลิศ (จำแนกตามเมือง)
ทำประตูสูงสุด
- ณ วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019
ผู้เล่น | ประเทศ | ประตู | ลงเล่น | อัตราส่วน | ปี | สโมสร | |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | คริสเตียโน โรนัลโด | โปรตุเกส | 126 | 162 | 0.78 | 2003– | Manchester United, Real Madrid, Juventus |
2 | ลิโอเนล เมสซิ | อาร์เจนตินา | 112 | 135 | 0.83 | 2005– | Barcelona |
3 | ราอุล กอนซาเลซ | สเปน | 71 | 142 | 0.5 | 1995–2011 | Real Madrid, Schalke 04 |
4 | การีม แบนเซมา | ฝรั่งเศส | 60 | 112 | 0.54 | 2006– | Lyon, Real Madrid |
5 | รืด ฟัน นิสเติลโรย | เนเธอร์แลนด์ | 56 | 73 | 0.77 | 1998–2009 | PSV, Manchester United, Real Madrid |
6 | รอแบร์ต แลวันดอฟสกี | โปแลนด์ | 53 | 80 | 0.66 | 2011– | Borussia Dortmund, Bayern Munich |
7 | ตีแยรี อ็องรี | ฝรั่งเศส | 50 | 112 | 0.45 | 1997–2010 | Monaco, Arsenal, Barcelona |
8 | อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน | อาร์เจนตินา | 49 | 58 | 0.84 | 1955–64 | Real Madrid |
9 | อันดรีย์ เชฟเชนโค | ยูเครน | 48 | 100 | 0.48 | 1994–2012 | Dynamo Kyiv, Milan, Chelsea |
ซลาตัน อีบราฮีมอวิช | สวีเดน | 48 | 120 | 0.4 | 2001–2017 | Ajax, Juventus, Internazionale, Barcelona, Milan, Paris Saint-Germain, Manchester United |
ตัวหนา หมายถึง นักเตะที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ลงเล่นสูงสุด
- ณ วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019
ผู้เล่น | ประเทศ | ลงเล่น | ปี | สโมสร | |
---|---|---|---|---|---|
1 | อีเกร์ กาซียัส | สเปน | 177 | 1999– | Real Madrid, Porto |
2 | คริสเตียโน โรนัลโด | โปรตุเกส | 162 | 2003– | Manchester United, Real Madrid, Juventus |
3 | ชาบี เอร์นันเดซ | สเปน | 151 | 1998–2015 | Barcelona |
4 | ไรอัน กิกส์ | เวลส์ | 145 | 1993–2014 | Manchester United |
5 | ราอุล กอนซาเลซ | สเปน | 142 | 1995–2011 | Real Madrid, Schalke 04 |
6 | ลิโอเนล เมสซิ | อาร์เจนตินา | 135 | 2005– | Barcelona |
7 | เปาโล มัลดีนี | อิตาลี | 135 | 1988–2008 | Milan |
8 | อันเดรส อินิเอสตา | สเปน | 130 | 2002–2018 | Barcelona |
9 | คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ | เนเธอร์แลนด์ | 125 | 1994–2012 | Ajax, Real Madrid, Internazionale, Milan |
10 | พอล สโกลส์ | อังกฤษ | 124 | 1994–2013 | Manchester United |
ตัวหนา หมายถึง นักเตะที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ดูเพิ่ม
- ยูฟ่ายูโรปาลีก
- อินเตอร์-ซิตีส์แฟส์คัพ
- ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ
- ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ
- อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ
- อินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ
- ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ
อ้างอิง
- ↑ European Cup History
- ↑ García, Javier; Kutschera, Ambrosius; Schöggl, Hans; Stokkermans, Karel (2009). "Austria/Habsburg Monarchy – Challenge Cup 1897–1911". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 5 September 2011.
- ↑ Ceulemans, Bart; Michiel, Zandbelt (2009). "Coupe des Nations 1930". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 5 September 2011.
- ↑ UEFA.com. "2019/20 UEFA club competitions revenue distribution system". UEFA.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 July 2019.