ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดเศวตฉัตรวรวิหาร"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 34: | บรรทัด 34: | ||
ภายในพระอุโบสถหลังปัจจุบันประดิษฐาน พระพุทธอังคีรสมุนีนารถอุรคอาสน์อำไพ พระพุทธรูป[[ปางนาคปรก]] บริเวณฐานชุกชีด้านหลังพระประธานบรรจุอัฐิโดยด้านซ้าย ปรากฏจารึกพระนาม จอมพล [[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์]] (อรุณ ฉัตรกุล) อดีตผู้บัญชาการ[[โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า]] ส่วนด้านขวาปรากฏจารึกพระนาม “ฉัตรกุล สายหม่อมเจ้ากลาง” นอกจากนี้ในพระอุโบสถยังประดิษฐาน พระพุทธมารวิชัยอภัยปรปักษ์อัครวิบูล ซึ่งเป็น พระพุทธรูป[[ปางมารวิชัย]] สันนิษฐานจากพุทธลักษณะว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย |
ภายในพระอุโบสถหลังปัจจุบันประดิษฐาน พระพุทธอังคีรสมุนีนารถอุรคอาสน์อำไพ พระพุทธรูป[[ปางนาคปรก]] บริเวณฐานชุกชีด้านหลังพระประธานบรรจุอัฐิโดยด้านซ้าย ปรากฏจารึกพระนาม จอมพล [[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์]] (อรุณ ฉัตรกุล) อดีตผู้บัญชาการ[[โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า]] ส่วนด้านขวาปรากฏจารึกพระนาม “ฉัตรกุล สายหม่อมเจ้ากลาง” นอกจากนี้ในพระอุโบสถยังประดิษฐาน พระพุทธมารวิชัยอภัยปรปักษ์อัครวิบูล ซึ่งเป็น พระพุทธรูป[[ปางมารวิชัย]] สันนิษฐานจากพุทธลักษณะว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย |
||
บริเวณลานวัดใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ประดิษฐาน พระพุทธบัณฑูรมูลประดิษฐ์สถิตไสยาสน์ พระพุทธรูป[[ปางไสยาสน์]]ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สร้างราวปี พ.ศ.2364 ในอดีตองค์พระถูกน้ำท่วมทุกช่วงน้ำหลาก พระราชวิจิตรการ เจ้าอาวาทในขณะนั้นจึงบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ โดยอัญเชิญยกองค์พระนอนขึ้นให้สูงจากลาน ในปี พ.ศ. 2552 |
บริเวณลานวัดใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ประดิษฐาน พระพุทธบัณฑูรมูลประดิษฐ์สถิตไสยาสน์ พระพุทธรูป[[ปางไสยาสน์]]ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สร้างราวปี พ.ศ. 2364 ในอดีตองค์พระถูกน้ำท่วมทุกช่วงน้ำหลาก พระราชวิจิตรการ เจ้าอาวาทในขณะนั้นจึงบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ โดยอัญเชิญยกองค์พระนอนขึ้นให้สูงจากลาน ในปี พ.ศ. 2552 |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:03, 8 ตุลาคม 2562
วัดเศวตฉัตรวรวิหาร | |
---|---|
พระอุโบสถหลังปัจจุบันของวัดเศวตฉัตรวรวิหาร | |
ชื่อสามัญ | วัดเศวตฉัตร |
ที่ตั้ง | ถนนเจริญนคร แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร |
ประเภท | พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร |
นิกาย | เถรวาท มหานิกาย |
พระประธาน | พระพุทธอังคีรสมุนีนารถอุรคอาสน์อำไพ |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระพุทธสมาธิคุณสุนทรสมาทานบุราณสุคต (หลวงพ่อโบสถ์บน) |
เจ้าอาวาส | พระราชพิพัฒนโกศล (ประสิทธิ์ ปริยตฺติธารี ป.ธ.๗) |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา |
วัดเศวตฉัตรวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อ วัดบางลำพูล่าง สันนิษฐานว่าก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ต่อมาอยู่ในสภาพทรุดโทรมและได้รับการบูรณะครั้งใหญ่โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ (ในขณะนั้นพระนามว่าพระเจ้าอัยกาเธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงเป็นต้นราชสกุลฉัตรกุล ในช่วงปี พ.ศ. 2359 - 2373 ต่อมาได้รับการปฏิสังขรณ์โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งต่อมาได้พระราชทานชื่อวัดใหม่ว่า วัดเศวตฉัตร
เดิมวัดบางลำภูล่าง มีเพียงพระอุโบสถเก่าซึ่งอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งตื้นเขินเต็มที พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์จึงได้ทรงยกวัดออกไปสร้างใหม่ ในตำแหน่งวัดปัจจุบัน โดยโปรดให้รื้อพระตำหนักส่วนพระองค์สร้างเป็นถาวรวัตถุของวัดแทน[1]
-
พระพุทธบัณฑูรมูลประดิษฐ์สถิตไสยาสน์
-
หลวงพ่อโบสถ์บน
-
พระพุทธอังคีรสมุนีนารถอุรคอาสน์อำไพ
ฝั่งตรงข้ามถนนเจริญนครเป็นวัดอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นพระอุโบสถหลังเดิมที่ประดิษฐาน พระพุทธสมาธิคุณสุนทรสมาทานบุราณสุคต หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์บน พระพุทธรูปปางสมาธิ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง แต่เชื่อกันว่าสร้างโดยสานไม้ไผ่หล่อปูนตามแบบโบราณ[2]
ภายในพระอุโบสถหลังปัจจุบันประดิษฐาน พระพุทธอังคีรสมุนีนารถอุรคอาสน์อำไพ พระพุทธรูปปางนาคปรก บริเวณฐานชุกชีด้านหลังพระประธานบรรจุอัฐิโดยด้านซ้าย ปรากฏจารึกพระนาม จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ (อรุณ ฉัตรกุล) อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ส่วนด้านขวาปรากฏจารึกพระนาม “ฉัตรกุล สายหม่อมเจ้ากลาง” นอกจากนี้ในพระอุโบสถยังประดิษฐาน พระพุทธมารวิชัยอภัยปรปักษ์อัครวิบูล ซึ่งเป็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย สันนิษฐานจากพุทธลักษณะว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย
บริเวณลานวัดใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ประดิษฐาน พระพุทธบัณฑูรมูลประดิษฐ์สถิตไสยาสน์ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สร้างราวปี พ.ศ. 2364 ในอดีตองค์พระถูกน้ำท่วมทุกช่วงน้ำหลาก พระราชวิจิตรการ เจ้าอาวาทในขณะนั้นจึงบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ โดยอัญเชิญยกองค์พระนอนขึ้นให้สูงจากลาน ในปี พ.ศ. 2552