ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เส้นนัซกา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลายเส้นนาสก้าเป็นการขอฝน ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
ลายเส้นนัซกาที่ทำขึ้นเป็นแบบวิธีเดียวกันหมด คือ ขุดเอา[[หินทราย]]สีแดงบนพื้นผิว[[ทะเลทราย]]ออก แล้วเปิดให้เห็นชั้นหินสีเหลืองอ่อนที่อยู่ข้างใน ไม่มีร่องรอยการใช้สัตว์ช่วยแม้แต่น้อย และภาพเป็นเส้นเดียวไม่ขาดตอน ภาพของลายเส้นนัซกาแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือภาพที่เป็นรูปทรงและภาพที่เป็นเส้นลายเฉย ๆ มีภาพ[[สัตว์]] [[นก]] รูป[[เรขาคณิต]] เป็นต้น |
ลายเส้นนัซกาที่ทำขึ้นเป็นแบบวิธีเดียวกันหมด คือ ขุดเอา[[หินทราย]]สีแดงบนพื้นผิว[[ทะเลทราย]]ออก แล้วเปิดให้เห็นชั้นหินสีเหลืองอ่อนที่อยู่ข้างใน ไม่มีร่องรอยการใช้สัตว์ช่วยแม้แต่น้อย และภาพเป็นเส้นเดียวไม่ขาดตอน ภาพของลายเส้นนัซกาแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือภาพที่เป็นรูปทรงและภาพที่เป็นเส้นลายเฉย ๆ มีภาพ[[สัตว์]] [[นก]] รูป[[เรขาคณิต]] เป็นต้น |
||
เส้นนัซกาได้ขึ้นทะเบียนเป็น[[มรดกโลก]]ในปี [[พ.ศ. 2537]] หมายเหตุ. ปัญญา. ลินทา สันนิิฐานว่า. เมื่อ อาณาจักรอินคาอันรุ่งเรืองต้องประสบกับความแห้งแล้งที่ รุนแรงและยาวนาน ผู้คนต่างอดอยากและขาดแคลน ผู้ครองนครได้ประชุมขุนนางและมีความเห็นตรงก้นว่า พระผู้เป็นเจ้าอาจหลงลืมพวกเขาจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ทีทุกเผ่า จะต้องสร้างสัญลักษ์ขึ้นมาเพื่อให้พระผู้เป็นเจ้ารู้ ว่ามีสิ่่งมีชีวิตมากมายอยู่ที่นีี่. จะได้ประทานฝนมาให้ แต่พระผูู้เป็นเจ้าอาจอยูสูงและไกล จึงต้องทำสัญลักษ์ขนาดใหญ่ พระผู้เป็นเจ้าจะได้มองเห็น หรืออาจช่วยกันทำเสียงดังเพื่อให้พระผูู้เป็นเจ้าได้ยิน หรือการทำพิธีบูชายัญเพื่อให้พระผู้เป็นจ้าพอใจ แต่พระผูู้เป็นเจ้าอาจอพยพไปอยูู่ที่อื่นนานแล้ว |
|||
เส้นนัซกาได้ขึ้นทะเบียนเป็น[[มรดกโลก]]ในปี [[พ.ศ. 2537]] |
|||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:13, 19 กันยายน 2562
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ลายเส้นและรูปวาดบนพื้นดินแห่งนัซกาและปัมปัสเดฆูมานา * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
ลายเส้นรูปลิง | |
ประเทศ | เปรู |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เกณฑ์พิจารณา | (i), (iii), (iv) |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2537 (คณะกรรมการสมัยที่ 18) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
เส้นนัซกา (สเปน: líneas de Nazca) เป็นลายเส้นลึกลับที่กินอาณาเขตพื้นที่กว่า 520 ตารางกิโลเมตรบนทะเลทรายนัซกา ระหว่างเมืองนัซกากับเมืองปัลปาในแคว้นอิกา ประเทศเปรู สันนิษฐานว่าชาวนัซกาโบราณ (ซึ่งครอบครองดินแดนเปรูมาก่อนยุคจักรวรรดิอินคา) ขุดลายเส้นเหล่านี้ขึ้นเมื่อประมาณ 200 ปีก่อนคริสตกาลถึงประมาณปี ค.ศ. 500 ชาวนัซกาโบราณเป็นเกษตรกรเพาะปลูกอยู่บนที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่ได้ทิ้งหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เลย ที่พอจะเข้าใจได้บ้างก็มาจากการศึกษาสุสานและข้าวของเครื่องใช้ในหลุมฝังศพเท่านั้น ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงทำลวดลายเหล่านี้ขึ้น
ลายเส้นนัซกาที่ทำขึ้นเป็นแบบวิธีเดียวกันหมด คือ ขุดเอาหินทรายสีแดงบนพื้นผิวทะเลทรายออก แล้วเปิดให้เห็นชั้นหินสีเหลืองอ่อนที่อยู่ข้างใน ไม่มีร่องรอยการใช้สัตว์ช่วยแม้แต่น้อย และภาพเป็นเส้นเดียวไม่ขาดตอน ภาพของลายเส้นนัซกาแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือภาพที่เป็นรูปทรงและภาพที่เป็นเส้นลายเฉย ๆ มีภาพสัตว์ นก รูปเรขาคณิต เป็นต้น
เส้นนัซกาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2537 หมายเหตุ. ปัญญา. ลินทา สันนิิฐานว่า. เมื่อ อาณาจักรอินคาอันรุ่งเรืองต้องประสบกับความแห้งแล้งที่ รุนแรงและยาวนาน ผู้คนต่างอดอยากและขาดแคลน ผู้ครองนครได้ประชุมขุนนางและมีความเห็นตรงก้นว่า พระผู้เป็นเจ้าอาจหลงลืมพวกเขาจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ทีทุกเผ่า จะต้องสร้างสัญลักษ์ขึ้นมาเพื่อให้พระผู้เป็นเจ้ารู้ ว่ามีสิ่่งมีชีวิตมากมายอยู่ที่นีี่. จะได้ประทานฝนมาให้ แต่พระผูู้เป็นเจ้าอาจอยูสูงและไกล จึงต้องทำสัญลักษ์ขนาดใหญ่ พระผู้เป็นเจ้าจะได้มองเห็น หรืออาจช่วยกันทำเสียงดังเพื่อให้พระผูู้เป็นเจ้าได้ยิน หรือการทำพิธีบูชายัญเพื่อให้พระผู้เป็นจ้าพอใจ แต่พระผูู้เป็นเจ้าอาจอพยพไปอยูู่ที่อื่นนานแล้ว