ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม"
vector version available (GlobalReplace v0.6.5) |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 4: | บรรทัด 4: | ||
| ภาพ = ไฟล์:Prince Prachaksinlapakhom.jpg |
| ภาพ = ไฟล์:Prince Prachaksinlapakhom.jpg |
||
| คำบรรยายภาพ = พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม |
| คำบรรยายภาพ = พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม |
||
| พระนาม = |
| พระนาม = พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ |
||
| พระนามเต็ม = |
| พระนามเต็ม = |
||
| ฐานันดร = พระองค์เจ้าชั้นเอก |
| ฐานันดร = พระองค์เจ้าชั้นเอก |
||
บรรทัด 37: | บรรทัด 37: | ||
ผนวชเป็นสามเณรที่[[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] เมื่อ พ.ศ. 2411 และเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร]] ผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2418 และประทับที่[[วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม]] และได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทวมหาเถร) เมื่อลาสิกขาแล้วทรงศึกษาวิชากฎหมายจากขุนหลวงไกรศรี (หนู) แล้วเข้ารับราชการเป็นนักเรียนศาลฎีกาในสมัย[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์]] เป็นอธิบดี[[ศาลฎีกา]] |
ผนวชเป็นสามเณรที่[[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] เมื่อ พ.ศ. 2411 และเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร]] ผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2418 และประทับที่[[วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม]] และได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทวมหาเถร) เมื่อลาสิกขาแล้วทรงศึกษาวิชากฎหมายจากขุนหลวงไกรศรี (หนู) แล้วเข้ารับราชการเป็นนักเรียนศาลฎีกาในสมัย[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์]] เป็นอธิบดี[[ศาลฎีกา]] |
||
[[ไฟล์:Prince Prachak.jpg|thumb|200px|right|นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ |
[[ไฟล์:Prince Prachak.jpg|thumb|200px|right|นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม แม่ทัพฝ่ายใต้ (ฉายก่อนหน้าที่จะยกกองทัพไปปราบฮ่อวันหนึ่ง)]] |
||
เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418 ได้เกิด[[สุริยุปราคาเต็มดวง]] ขึ้นในประเทศไทยพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ได้ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะนักดาราศาสตร์อังกฤษได้ตั้งค่ายสังเกตสุริยุปราคาที่แหลมเจ้าลาย [[จังหวัดเพชรบุรี]] นักดาราศาสตร์เหล่านี้ไม่สามารถถ่ายภาพสุริยุปราคาไว้ได้ คงมีแต่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ และถูกบันทึกอยู่ในตำราดาราศาสตร์ ในนามของ Prince Tong |
เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418 ได้เกิด[[สุริยุปราคาเต็มดวง]] ขึ้นในประเทศไทยพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ได้ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะนักดาราศาสตร์อังกฤษได้ตั้งค่ายสังเกตสุริยุปราคาที่แหลมเจ้าลาย [[จังหวัดเพชรบุรี]] นักดาราศาสตร์เหล่านี้ไม่สามารถถ่ายภาพสุริยุปราคาไว้ได้ คงมีแต่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ และถูกบันทึกอยู่ในตำราดาราศาสตร์ ในนามของ Prince Tong |
||
บรรทัด 51: | บรรทัด 51: | ||
== พระโอรสและพระธิดา == |
== พระโอรสและพระธิดา == |
||
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นต้นราชสกุลทองใหญ่ มีหม่อม 9 ท่าน ได้แก่ |
||
# '''หม่อมสุวรรณ''' (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงปราณีประชาชน (แมลงทับ) |
# '''หม่อมสุวรรณ''' (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงปราณีประชาชน (แมลงทับ) |
||
# '''หม่อมพริ้ง''' (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงปราณีประชาชน (แมลงทับ) |
# '''หม่อมพริ้ง''' (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงปราณีประชาชน (แมลงทับ) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:38, 3 กันยายน 2562
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม | |
---|---|
พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ | |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4 | |
ประสูติ | 5 เมษายน พ.ศ. 2399 |
สิ้นพระชนม์ | 25 มกราคม พ.ศ. 2467 (67 ปี) |
หม่อม |
|
พระราชบุตร | 25 พระองค์ |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์จักรี |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ |
นายพลตรี นายพลเรือเอก มหาเสวกเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม
พระประวัติ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม มีพระนามเดิมว่าพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ธิดานายศัลยวิชัย หุ้มแพร (ทองคำ ณ ราชสีมา)[1] เป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ 25 และเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 13 ในรัชกาลที่ 4 ประสูติในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันเสาร์ เดือน 5 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะโรง จุลศักราช 1218 ตรงกับวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2399 เมื่อสมโภชเดือนแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ เพราะในวันประสูติมีผู้นำทองคำก้อนใหญ่ ซึ่งขุดได้ที่ตำบลบางสะพานในเวลานั้นได้เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงถือว่าเป็นศุภนิมิตมงคลสำหรับพระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้
พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ มีพระอนุชา พระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 3 พระองค์คือ
- พระองค์เจ้าชายทองแถมถวัลยวงศ์ (ภายหลังได้รับสถาปนาเป็นกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ต้นราชสกุลทองแถม)
- พระองค์เจ้าชายเจริญรุ่งราษี
- พระองค์เจ้าหญิงกาญจนากร
พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ทรงเริ่มการศึกษาวิชาอักษรไทย และบาลี กับพระองค์เจ้ากฤษณา หม่อมเจ้าหญิงจอ และพระยาปริยัติธรรมธาดา (เปี่ยม) และทรงศึกษาภาษาต่างประเทศกับ นางเลียวโนเว็น และ นายแป็ตเตอสัน จนสามารถตรัส และเขียนภาษาอังกฤษได้ดี
ผนวชเป็นสามเณรที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2411 และเสด็จไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2418 และประทับที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทวมหาเถร) เมื่อลาสิกขาแล้วทรงศึกษาวิชากฎหมายจากขุนหลวงไกรศรี (หนู) แล้วเข้ารับราชการเป็นนักเรียนศาลฎีกาในสมัยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์ เป็นอธิบดีศาลฎีกา
เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418 ได้เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ขึ้นในประเทศไทยพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ได้ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะนักดาราศาสตร์อังกฤษได้ตั้งค่ายสังเกตสุริยุปราคาที่แหลมเจ้าลาย จังหวัดเพชรบุรี นักดาราศาสตร์เหล่านี้ไม่สามารถถ่ายภาพสุริยุปราคาไว้ได้ คงมีแต่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ และถูกบันทึกอยู่ในตำราดาราศาสตร์ ในนามของ Prince Tong
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรมเมื่อ พ.ศ. 2424 เป็นกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นกำลังสำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการรักษาดินแดนไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสครั้งวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ปราบปรามกบฏจีนฮ่อในมณฑลลาวพวนจนสงบราบคาบ
ในเวลาต่อมาทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ พ.ศ. 2436 ทรงตั้งกองบัญชาการมณฑลลาวพวนที่บ้านหมากแข้ง ทรงสร้างความเจริญจากหมู่บ้านชนบทจนเป็นเมืองอุดรซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็นจังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. 2442 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ
ภายหลังเกิดคดีพญาระกาขึ้นในปี พ.ศ. 2452 - พ.ศ. 2453 ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงกระทำปัพพานิยกรรม ขับกรมหลวงประจักษ์ฯ และพระโอรส-ธิดาออกจากพระราชสำนัก พระองค์เองทรงถูกห้ามมิให้เข้าเฝ้าในที่รโหฐาน ให้เฝ้าได้แต่ในท้องพระโรงหรือในที่มีผู้เฝ้าอยู่มากเท่านั้น ห้ามหม่อมเจ้าไศลทองโดยเฉพาะมิให้เข้าในเขตพระราชฐาน และห้ามหม่อมเจ้าหญิงชายอื่น ๆ ในกรมหลวงประจักษ์ฯ มิให้ขึ้นสู่พระราชมณเฑียร ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2453 เป็นต้นมาจนตลอดรัชกาลก็มิได้พ้นพระราชอาญาจนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สวรรคต
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม สิ้นพระชนม์ ณ วังตรอกสาเก เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467 จากโรคอันตะ (ไส้ใหญ่ ) พิการ สิริพระชันษาได้ 67 ปี
พระโอรสและพระธิดา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นต้นราชสกุลทองใหญ่ มีหม่อม 9 ท่าน ได้แก่
- หม่อมสุวรรณ (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงปราณีประชาชน (แมลงทับ)
- หม่อมพริ้ง (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงปราณีประชาชน (แมลงทับ)
- หม่อมแจ่ม (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงพรหมสัสดี (แมลงภู่)
- หม่อมจันทร์ (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงพรหมสัสดี (แมลงภู่)
- หม่อมนวม (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงประจักษ์ศิลปาคม (เปลี่ยน)
- หม่อมเปลี่ยน
- หม่อมทองสุก หรือ หม่อมทองศุข (สกุลเดิม: สุริยวงศ์) ธิดาเจ้าคุณพระนครเขต
- หม่อมเติม (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงประจักษ์ศิลปาคม (เปลี่ยน)
- หม่อมแก้ว (สกุลเดิม: นาครทรรพ) ธิดาหลวงประจักษ์ศิลปาคม (เปลี่ยน)
โดยมีพระโอรสธิดารวมทั้งหมด 25 พระองค์ เป็นชาย 11 พระองค์ และหญิง 15 พระองค์
พระรูป | พระนาม | หม่อมมารดา | ประสูติ | สิ้นชีพิตักษัย | คู่สมรส |
---|---|---|---|---|---|
1.หม่อมเจ้าหญิงสุพรรณพิมพ์ | ที่ 1 ในหม่อมสุวรรณ | 11 ธันวาคม 2432 | |||
2.หม่อมเจ้าหญิงประสบสุวรรณ หรือ หม่อมเจ้าหญิงประสบสุวรรณอรรคธิการ | ที่ 2 ในหม่อมสุวรรณ | 7 ธันวาคม 2419[2] | พ.ศ. 2422 | ||
ไฟล์:หม่อมเจ้าทองทีฆายุ.JPG | 3. หม่อมเจ้าทองฑีฆายุ (ท่านชายทองรอด) | ที่ 1 ในหม่อมพริ้ง | 4 มิถุนายน 2429 | 1 กรกฎาคม 2486 | หม่อมลุดมิลา (เชอร์เกเยฟนา บารูคูชอฟ) |
4. หม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณ | ที่ 1 ในหม่อมจันทร์ | 26 พฤศจิกายน 2431 | 10 เมษายน 2520 | ||
5. หม่อมเจ้าทองอนุวัติ | ที่ 2 ในหม่อมพริ้ง | 9 ธันวาคม 2431 | 9 เมษายน 2496 | หม่อมเยื้อน (โรจนวิภาต) หม่อมจรูญ (โรจนวิภาต) | |
6. หม่อมเจ้าหญิงพันธ์สิหิงค์ | ที่ 1 ในหม่อมนวม | 18 ธันวาคม 2433 | 20 มกราคม 2475 | หม่อมเจ้าทองเชื้อธรรมชาติ ทองแถม | |
7. หม่อมเจ้าหญิงสอิ้งมาศ | ที่ 2 ในหม่อมจันทร์ | 16 กันยายน 2435 | 15 พฤศจิกายน 2515 | ||
8. หม่อมเจ้าหญิงนาฏนพคุณ | ที่ 2 ในหม่อมนวม | พ.ศ. 2435 | 1 ตุลาคม 2456 | หม่อมเจ้าพันธุคำนพคุณ ทองแถม | |
9. หม่อมเจ้าทองมุ่นใหญ่ | ที่ 1 ในหม่อมเปลี่ยน | 5 มกราคม 2436 | พ.ศ. 2506 | ||
10. หม่อมเจ้าไศลทอง | ที่ 3 ในหม่อมนวม | 9 มีนาคม 2436 | 30 ตุลาคม 2512 | หม่อมฟ้อน (ภัณฑุกา) | |
11. หม่อมเจ้าหญิงก่องกาญจนา | ที่ 1 ในหม่อมทองสุก | 4 พฤษภาคม 2438 | พ.ศ. 2506 | ||
12. หม่อมเจ้าหญิงมาลากนก | ที่ 3 ในหม่อมจันทร์ | 5 มีนาคม 2438 | 1 เมษายน 2483 | ||
13. หม่อมเจ้าหญิงมาลกสุวรรณ | ที่ 2 ในหม่อมเปลี่ยน | มีนาคม 2438 | พ.ศ. 2468 | ||
14. หม่อมเจ้าหญิงกรัณฑ์คำ | ที่ 2 ในหม่อมทองสุก | 13 สิงหาคม 2439 | 31 กรกฎาคม 2528 | ||
15. หม่อมเจ้าหญิงลำทองแร่ (ลาออกจากฐานันดรศักดิ์) |
ที่ 4 ในหม่อมนวม | 15 กุมภาพันธ์ 2439 | 15 มิถุนายน 2493 | ไต๋ ปาณิกบุตร | |
16. หม่อมเจ้าหญิงแพร่ทองทราย (ลาออกจากฐานันดรศักดิ์) |
ที่ 5 ในหม่อมนวม | 22 มิถุนายน 2441 | 7 ตุลาคม 2527 | พันเอกเภตรา ณ หนองคาย | |
17. หม่อมเจ้าหญิงข่ายทองถัก (ท่านหญิงปิ๋ว) | ที่ 3 ในหม่อมเปลี่ยน | 10 สิงหาคม 2441 | 8 กุมภาพันธ์ 2531 | หม่อมเจ้าทองเชื้อธรรมชาติ ทองแถม | |
18. หม่อมเจ้าหญิงสลักทองนูน (ลาออกจากฐานันดรศักดิ์) |
ที่ 6 ในหม่อมนวม | 25 กรกฎาคม 2443 | 26 สิงหาคม 2531 | เรืออากาศเอกหลวงคัคณจรเสนีย์ (หม่อมหลวงอารี คเนจร) | |
19.หม่อมเจ้าโหล | พ.ศ. 2443 | พ.ศ. 2444 | |||
20. หม่อมเจ้าลายฉลุทอง (ท่านชายเล็ก) | ที่ 4 ในหม่อมจันทร์ | 19 กันยายน 2444 | 13 มีนาคม 2534 | หม่อมเจ้าหญิงนงลักษณ์ทัศนีย์ (สวัสดิวัตน์) หม่อมพริ้ม (คำศรี) | |
21. หม่อมเจ้าทองทูลถวาย | ที 7 ในหม่อมนวม | 26 กุมภาพันธ์ 2445 | 26 กรกฎาคม 2530 | หม่อมสำเนียง (โปษยะจินดา) | |
22. หม่อมเจ้าหญิงเถาทองตรา | ที่ 5 ในหม่อมจันทร์ | 17 มิถุนายน 2448 | พ.ศ. 2506 | ||
23. หม่อมเจ้าทองประทาศรี | ที่ 8 ในหม่อมนวม | 5 พฤษภาคม 2449 | 2 มกราคม 2526 | หม่อมราชวงศ์หญิงวลี (รองทรง) หม่อมคำนวณ (สุนทรศารทูล) | |
24. หม่อมเจ้าทองแกมแก้ว | หม่อมแก้ว | 16 ตุลาคม 2449 | 15 เมษายน 2533 | หม่อมประกายคำ (เจ้าประกายคำ ณ ลำพูน) | |
25. หม่อมเจ้าทองคำเปลว | ที่ 9 ในหม่อมนวม | 1 เมษายน 2455 | 23 กรกฎาคม 2553 | หม่อมอรพิน (เทศะวิบุล) | |
26.หม่อมเจ้าแดง |
พระเกียรติยศ
พระอิสริยยศ
- พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ (5 เมษายน พ.ศ. 2399 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411)
- พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 - พ.ศ. 2424)
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม (พ.ศ. 2424 - 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442)
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 - ปัจจุบัน)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
- เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.)[3]
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 2 (ม.ป.ร.2)[4]
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 2 (จ.ป.ร.2)
- เหรียญดุษฎีมาลา เข็มราชการแผ่นดิน (ร.ด.ม.(ผ))
- เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))
- เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[5]
- เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- พ.ศ. 2431 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย ชั้นที่ 1 จักรวรรดิญี่ปุ่น[6]
- พ.ศ. 2432 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎเหล็ก ชั้นที่ 1 จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี[7]
- พ.ศ. 2434 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์แอน ชั้นที่ 1, ประเทศรัสเซีย[8]
- พ.ศ. 2445 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์แดนเนอโบร ชั้นที่ 3 ประเทศเดนมาร์ก[9]
พระอนุสรณ์
- พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายในพื้นที่ค่ายประจักษ์ศิลปาคม กรมทหารราบที่13 มณฑลทหารบกที่24 อุดรธานี เป็นพระอนุสาวรีย์ทรงยืนขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของทหารในสังกัดมณฑลทหารบกที่24
- พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกกรมหลวงประจักษ์ ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของประชาชนทั่วไป แต่เดิมประดิษฐานอยู่ที่ สนามทุ่งศรีเมือง ต่อมาจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ห้าแยกกรมหลวงประจักษ์
- พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายในโรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม อำเภอประจักษ์ศิลปาคม
วันก่อตั้งเมืองอุดรธานี
วันที่18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ยกทัพมาสร้างบ้านแปลงเมือง ณ บ้านเดื่อหมากแข้ง ทางจังหวัดอุดรธานีจึงได้เลือกวันดังกล่าวเป็นวัดเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งเมืองอุดรธานีและจะมีการรำบวงสรวงทุกปีเพื่อแสดงออกถึงความรักและความสามัคคีของคนอุดรธานี
แหล่งข้อมูลอื่น
อ้างอิง
- ↑ กรมศิลปากร, จดหมายเหตุนครราชสีมา 11 กันยายน พ.ศ. 2497, พิมพ์สนองคุณ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) และ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินท์ ณ ราชสีมา), กรุงเทพฯ: ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ป.ป.)
- ↑ ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-221-818-8
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชพิธีฉัตรมงคล, เล่ม ๔, ตอน ๓๒, ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๐, หน้า ๒๕๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๔, เล่ม ๒๑, ตอน ๓๒, ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๗, หน้า ๕๖๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๔, ตอน ๑, ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๐, หน้า ๒๔
- ↑ "พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยยศญี่ปุ่น" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 5 (ตอน 22): หน้า 179. 1 ตุลาคม 2431. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ออสเตรีย" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 6 (ตอน 21): หน้า 175. 25 สิงหาคม 2432. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์รุสเซีย, เล่ม ๘, ตอน ๔๖, ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๑๘๙๑, หน้า ๔๑๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๙, ตอน ๔๖, ๒o กรกฎาคม พ.ศ. ๑๒๑ , หน้า ๓๑๕
- Jeffy Finestone. 2542. สมุดพระรูป พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปรียนันทนา รังสิต,ม.ร.ว. โลมาโฮลดิ้ง
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2399
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2467
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4
- พระองค์เจ้า
- กรมหลวง
- พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4
- ราชสกุลทองใหญ่
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย
- นักดาราศาสตร์ชาวไทย
- ทหารเรือชาวไทย
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.จ.ก. (ฝ่ายหน้า)
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.
- สมาชิกเหรียญ ร.ด.ม.(ผ)
- สมาชิกเหรียญ ร.ด.ม.(ศ)
- สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ ม.ป.ร.2
- สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ จ.ป.ร.2
- สมาชิกเหรียญจักรมาลา
- สมาชิกเหรียญจักรพรรดิมาลา
- สกุล ณ ราชสีมา
- เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินอาหาร
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัยชั้นที่ 1