ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทอง ณ บางช้าง"
บรรทัด 62: | บรรทัด 62: | ||
* เจ้าคุณชายพู |
* เจ้าคุณชายพู |
||
* เจ้าคุณหญิงเสม |
* เจ้าคุณหญิงเสม |
||
* |
*[[เจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล|เจ้าคุณหญิงนวล]] ต่อมาสมรสกับ[[เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค)]] ต้นสกุล [[สกุลบุนนาค|บุนนาค]]<ref>[http://www.bunnag.in.th/history3.html ชมรมสายสกุลบุนนาค]</ref> |
||
* เจ้าคุณหญิงแก้ว ต้นสกุล ณ บางช้าง |
* เจ้าคุณหญิงแก้ว ต้นสกุล ณ บางช้าง |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:22, 13 สิงหาคม 2562
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
พระชนกทอง ณ บางช้าง | |||||
---|---|---|---|---|---|
ทอง | |||||
พระชนก | |||||
ประสูติ | ไม่ปรากฏ | ||||
พิราลัย | ไม่ปรากฏ | ||||
พระชายา | สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี | ||||
| |||||
พระบุตร | 10 พระองค์ | ||||
พระบิดา | ท่านตาเจ้าพร | ||||
พระมารดา | ท่านยายเจ้าชี |
พระชนกทอง ณ บางช้าง เป็นพระราชชนกในสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี พระชายาเดิมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และทรงพระบรมราชินีพระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี
ประวัติ
พระชนกทอง ณ บางช้าง หรือ ทอง เกิดที่บ้านบางช้าง ตำบลอัมพวา อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา เป็นบุตรของท่านตาเจ้าพรกับท่านยายเจ้าชี ซึ่งเป็นธิดาคนโตของท่านตาเจ้าปะขาวพลาย[1] ต่อมาท่านทองได้สืบทอดมรดกของบิดามารดาเป็นคหบดีและเป็นเศรษฐีแห่งบ้านบางช้าง ท่านมีพี่ยาและพี่นางชื่อ ท่านตาเจ้าแทน และท่านยายเจ้ามุก และได้สมรสกับท่านสั้น (ต่อมาคือ สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี) ทั้งสองก็มีโอรส-ธิดาด้วยกัน 11 พระองค์ ทรงบัญญัติให้เรียกว่าเจ้าคุณพระราชพันธุ์ชั้นที่ 1 ทั้งสิ้น ได้แก่[2]
- เจ้าคุณหญิงแวน (บางแห่งว่า แว่น[3])
- เจ้าคุณหญิงทองอยู่ สมรสกับท่านตาขุนทอง มีบุตรธิดา ๒ คนชื่อ "สังข์" และ "หงส์" เวลาต่อมาท่านสังข์ได้เป็นเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา ที่สมุหพระกลาโหมในรัชกาลที่ ๒ เป็นหมัน ส่วนท่านหงส์ได้รับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมพระสนมในรัชกาลที่ ๑ แต่ไม่มีพระองค์เจ้า ราชินิกุลวงศ์เจ้าคุณหญิงทองอยู่หมดสูญเชื้อสายแต่เพียงชั้นบุตรธิดาทั้งสองท่าน ไม่มีเชื้อสายสืบต่อลงไปอีก
- เจ้าคุณชายชูโต ต้นสกุลชูโต แสง-ชูโต และ สวัสดิ์-ชูโต
- สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี (มีนามเดิมว่า นาค หรือ นาก)
- เจ้าคุณชายแตง
- เจ้าคุณหญิงชีโพ มีบุตรชายเพียงผู้เดียวชื่อ หงส์ แต่โดนพม่าจับเอาไปเป็นเชลย และไม่ได้กลับคืนมา จึงสิ้นสุดวงศ์เพียงเท่านี้[4]
- เจ้าคุณชายพู
- เจ้าคุณหญิงเสม
- เจ้าคุณหญิงนวล ต่อมาสมรสกับเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค) ต้นสกุล บุนนาค[5]
- เจ้าคุณหญิงแก้ว ต้นสกุล ณ บางช้าง
ภริยาอื่น มีธิดาชื่อ เจ้าจอมมารดามา ใน สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
เมื่อครั้งที่พระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยา โปรดให้มหาดเล็กคอยสืบเสาะหาสตรีรูปงามไปถวาย มหาดเล็กคนสนิทกราบทูลว่า มีสตรีรูปงามในแขวงบางช้างนางหนึ่งเป็นบุตรเศรษฐีบางช้าง จึงโปรดให้เจ้าเมืองราชบุรีไปสู่ขอต่อบิดา-มารดา ด้วยสมัยนั้นเมืองสมุทรสงครามเป็นหัวเมืองตรีขึ้นต่อเมืองราชบุรีส่วนเมืองราชบุรีเป็นหัวเมืองชั้นโท นายทองและภรรยา ได้บ่ายเบี่ยงว่าขอถามความสมัครใจของธิดาก่อน แล้วนำความไปปรึกษาพระแม่กลองบุรี (เสม) เจ้าเมืองแม่กลองซึ่งเป็นญาติก่อน ธิดาของนายทองไม่สมัครใจเป็นนางสนมในวัง นายทองสงสารธิดา จึงพร้อมด้วยเจ้าเมืองสมุทรสงคราม นำความเข้าหารือกับหลวงพินิจอักษร (ทองดี) เสมียนตรากรมมหาดไทย หลวงพินิจอักษรก็ได้เกิดปัญญาว่านายทองด้วงบุตรชายได้บวชเรียน แล้วยังไม่มีคู่ครอง หากได้ธิดาเศรษฐีทองมาเป็นภรรยาก็นับว่าเหมาะสมกันยิ่ง เพราะเป็นหญิงอุดมด้วยทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติ ฝ่ายชายแลก็รูปงามมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รับราชการในวังนับว่าเหมาะสมกันดียิ่งนัก ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันมิให้ธิดาตกเป็นสนมในวัง เมื่อคิดอุบายได้ทั้งสองฝ่าย จึงเห็นดีด้วย จึงได้ทำฎีกากราบทูลว่าธิดาท่านเศรษฐีบางช้างตนได้สู่ ขอให้นายทองด้วงบุตรชายแล้วขอพระราชทานให้แก่บุตรชายของตนเสียเถิด พระเจ้าแผ่นดินได้ทราบเพียงกิตติศัพท์ความงามของนางนาก แต่ยังมิเคยได้ทอดพระเนตรรูปร่างหน้าตา จึงมิได้อาลัยและพระราชทานอนุญาตให้วิวาห์ได้ตามความประสงค์ ธิดาท่านเศรษฐีทองจึงได้วิวาห์มงคลกับนายทองด้วงมหาดเล็ก ซึ่งต่อมาได้ตำแหน่งหลวงอร่ามฤทธิ์ หลวงยกบัตรราชบุรี และเมืองสมุทรสงคราม รับราชการในกรุงธนบุรีได้เลื่อนเป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจซ้าย พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยายมราช เจ้าพระยาจักรี สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเมื่อหมดบุญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ธิดาของนายทองจึงได้เป็นอัครมเหสีของพระมหากษัตริย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
นายทองได้พิราลัยไปในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อ นาค ธิดาของท่านได้รับการสถาปนาเป็น "สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี" สั้น ภริยาของท่านจึงได้รับการสถาปนาเป็น "สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามสกุล และได้พระราชทานนามสกุล ณ บางช้าง แก่ผู้สืบเชื้อสายจากท่าน[6]
อ้างอิง
- ↑ เทพ สุนทรศารทูล. ประวัติวัดอัมพวันเจติยาราม. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์พระนารายณ์, พ.ศ. 2541. 192 หน้า. หน้า 34.
- ↑ ธำรงศักดิ์ อายุวัฒนะ. ราชสกุลจักรีวงศ์ และราชสกุลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544. 490 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-222-648-2
- ↑ จุลลดา ภักดีภูมินทร์ (หม่อมหลวงศรีฟ้า ลดาวัลย์ มหาวรรณ). เวียงวัง เล่ม ๑. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์เพื่อนดี บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2551. 300 หน้า. หน้า หน้าที่ 60. ISBN 978-974-253-061-7
- ↑ จุลลดา ภักดีภูมินทร์ (หม่อมหลวงศรีฟ้า ลดาวัลย์ มหาวรรณ). เวียงวัง เล่ม ๑. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์เพื่อนดี บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2551. 300 หน้า. หน้า หน้าที่ 60. ISBN 978-974-253-061-7
- ↑ ชมรมสายสกุลบุนนาค
- ↑ คึกฤทธิ์ ปราโมช, ม.ร.ว.. โครงกระดูกในตู้. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์สยามรัฐ, พิมพ์ครั้งที่ 8 พ.ศ. 2547. 109 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-690-131-1