ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ป้ายระบุ: ทำกลับ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{infobox royalty |
{{infobox royalty |
||
| name = สมเด็จพระบรมราชาธิราช |
| name = สมเด็จพระบรมราชาธิราช |
||
| death_date = พ.ศ. 1931 |
| death_date = พ.ศ. 1931 (78 พรรษา) |
||
| succession = พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา |
| succession = พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา |
||
| issue = [[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]]<br >[[สมเด็จพระอินทราชา]] |
| issue = [[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]]<br >[[สมเด็จพระอินทราชา]] |
||
บรรทัด 8: | บรรทัด 8: | ||
| predecessor = [[สมเด็จพระราเมศวร]] |
| predecessor = [[สมเด็จพระราเมศวร]] |
||
| successor = [[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]] |
| successor = [[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]] |
||
|birth_date=พ.ศ. 1853}} |
|||
}} |
|||
'''สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1''' หรือ '''ขุนหลวงพะงั่ว''' เป็น[[พระมหากษัตริย์]]พระองค์แรกใน[[ราชวงศ์สุพรรณภูมิ]]ที่ได้ครอง[[กรุงศรีอยุธยา]] ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1913 - 1931 รวมเป็นระยะเวลา 18 ปี พระองค์เป็นพระเชษฐาของมเหสีใน[[สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1]] (พระเจ้าอู่ทอง) และเป็นพระมาตุลา (ลุง) ของ[[สมเด็จพระราเมศวร]] |
'''สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1''' หรือ '''ขุนหลวงพะงั่ว''' เป็น[[พระมหากษัตริย์]]พระองค์แรกใน[[ราชวงศ์สุพรรณภูมิ]]ที่ได้ครอง[[กรุงศรีอยุธยา]] ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1913 - 1931 รวมเป็นระยะเวลา 18 ปี พระองค์เป็นพระเชษฐาของมเหสีใน[[สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1]] (พระเจ้าอู่ทอง) และเป็นพระมาตุลา (ลุง) ของ[[สมเด็จพระราเมศวร]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:25, 7 สิงหาคม 2562
สมเด็จพระบรมราชาธิราช | |
---|---|
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1913 - 1931 (18 ปี 0 วัน) |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราเมศวร |
ถัดไป | สมเด็จพระเจ้าทองลัน |
ประสูติ | พ.ศ. 1853 |
สวรรคต | พ.ศ. 1931 (78 พรรษา) |
พระราชบุตร | สมเด็จพระเจ้าทองลัน สมเด็จพระอินทราชา |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์สุพรรณภูมิ |
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือ ขุนหลวงพะงั่ว เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในราชวงศ์สุพรรณภูมิที่ได้ครองกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1913 - 1931 รวมเป็นระยะเวลา 18 ปี พระองค์เป็นพระเชษฐาของมเหสีในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) และเป็นพระมาตุลา (ลุง) ของสมเด็จพระราเมศวร
พระราชประวัติ
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือ ขุนหลวงพะงั่ว นั้น มีข้อสันนิษฐานว่าพระองค์เป็นราชบุตรพระองค์ที่ 5 เพราะคำว่า "งั่ว" หมายถึงลำดับที่ 5 ตามการนับเลขแบบไทย และเป็นพระเชษฐาของพระมเหสีในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ซึ่งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ตรัสเรียกพระองค์ว่าพระเชษฐา
เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 1893 ในการนั้นพระองค์ทรงสถาปนาขุนหลวงพะงั่วขึ้นเป็น "สมเด็จพระบรมราชาธิราช" พร้อมทั้งโปรดให้ขึ้นไปครองราชสมบัติ ณ เมืองสุพรรณบุรี ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สมเด็จพระราเมศวรพระราชโอรสในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 เสด็จมาแต่เมืองลพบุรีและขึ้นเสวยราชสมบัติสืบต่อมา โดยพระองค์ยังคงครองราชสมบัติอยู่ที่เมืองสุพรรณบุรีเช่นเดิม
จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 1913 พระองค์ได้เสด็จจากเมืองสุพรรณบุรีมายังกรุงศรีอยุธยา ความทราบถึงสมเด็จพระราเมศวร พระองค์จึงเสด็จออกไปอัญเชิญเสด็จพระมาตุลาเข้าสู่พระนคร หลังจากนั้น สมเด็จพระราเมศวรได้ถวายราชสมบัติแก่พระองค์และถวายบังคมลาเสด็จไปครองเมืองลพบุรีตามเดิม พระองค์เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 1931 รวมระยะเวลาในการครองราชสมบัติได้ 18 ปี โดยสมเด็จพระเจ้าทองลัน พระราชโอรสของพระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบไป
พระราชกรณียกิจ
แม่แบบ:พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ
ราชการสงคราม
ด้วยทรงเป็นจอมทัพที่เข้มแข็ง พระราชกรณียกิจส่วนใหญ่ตลอดรัชกาลจึงทรงเป็นจอมทัพออกไปทำการรณรงค์ โดยศึกสำคัญมีดังนี้
ศึกเขมรแปรพักตร์
เมื่อ พ.ศ. 1895 พระองค์ได้ทรงยกทัพไปยังนครธมแห่งกรุงกัมพูชาธิบดีเพื่อช่วยทัพของสมเด็จพระราเมศวรที่เข้าโจมตีกรุงกัมพูชาธิบดีก่อนหน้านั้น การศึกครั้งนี้มีเหตุจากการที่พระเจ้ากรุงกัมพูชาบดีแปรพักตร์ ดังนั้น สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จึงมีพระราชโองการให้สมเด็จพระราเมศวรยกทัพไปปราบปราม แต่การไม่เป็นดังคาด ทัพพระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดีสามารถโจมตีทัพหน้าของกรุงศรีอยุธยาจนแตกพ่าย แล้วจึงเข้าปะทะกับทัพหลวงต่อ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จึงมีพระราชโองการให้ขุนตำรวจออกไปเชิญพระองค์ที่ประทับอยู่ ณ เมืองสุพรรณบุรี ขึ้นไปทำศึกช่วยสมเด็จพระราเมศวร การศึกดำเนินไปเป็นระยะเวลา 1 ปีโดยประมาณ จึงสามารถเอาชนะกรุงกัมพูชาธิบดีได้สำเร็จและได้กวาดต้อนครัวชาวกัมพูชาธิบดีเข้ามายังอยู่กรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก
หลังจากที่พระองค์ขึ้นครองราชสมบัติแห่งกรุงศรีอยุธยาแล้ว ในปี พ.ศ. 1914 พระองค์ได้เสด็จขึ้นไปทำสงครามกับเมืองฝ่ายเหนือหลายเมือง เช่น เมืองชากังราว เมืองพิษณุโลก เวียงเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง สงครามยืดเยื้อกันมาเป็นเวลานาน จนพระองค์เสด็จสวรรคต
สงครามกับเมืองชากังราว
พระองค์ทรงยกกองทัพขึ้นไปยังเมืองชากังราวถึง 4 ครั้ง เนื่องจากเมืองชากังราวเป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักรสุโขทัย โดยครั้งแรกนั้นทรงยกกองทัพไปเมืองปี พ.ศ. 1916 พระยาไสแก้วและพระยาคำแหงเจ้าเมืองชากังราวออกรบต่อพระองค์ การศึกในครั้งนั้นเป็นเหตุให้พระยาไสแก้วเสียชีวิตแต่พระยาคำแหงนั้นสามารถกลับเข้าเมืองได้ แล้วทรงยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยา พระองค์ยกทัพขึ้นไปเมืองชากังราวครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 1919 พระยาคำแหงและท้าวผ่าคองคิดกันว่าจะยอทัพหลวงทำมิได้ ครั้งนั้นท้าวผ่าคองเลิกทัพหนีแต่พระองค์ทรงยกทัพตามและสามารถตีทัพท้าวผ่าคองแตก ได้ท้าวพระยาเสนาขุนหมื่นเป็นจำนวนมากแล้วทรงยกทัพหลวงกลับพระนคร พระองค์ยกทัพมาเมืองชากังราวเป็นครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 1921 ครั้งนั้นพระมหาธรรมราชาที่ 2 พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 7 แห่งกรุงสุโขทัยทรงออกรบเป็นสามารถ แต่เห็นจะสู้ทัพจากกรุงศรีอยุธยาไม่ไหว ดังนั้น พระมหาธรรมราชาจึงออกมาถวายบังคม พระองค์ทรงให้พระมหาธรรมราชาครองเมืองต่อไปในฐานะเป็นเมืองประเทศราชของกรุงศรีอยุธยาแล้วทรงยกทัพหลวงกลับพระนคร พระองค์ยกทัพไปเมืองชากังราวอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 1931 แต่ไม่ปรากฏว่าทรงยกทัพไปด้วยสาเหตุอันใด ครั้งนั้นทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคตระหว่างการเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา
การพระศาสนา
เมื่อ พ.ศ. 1917 พระองค์และพระมหาเถรธรรมากัลญาณได้ปรึกษากันและทรงสถาปนาพระศรีรัตนมหาธาตุ ฝ่ายบูรพาทิศ (วัดมหาธาตุ) หน้าพระบันชรสิงห์สูง 19 วา ยอดนพศูลสูง 3 วา
อ้างอิง
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา. สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พิมพ์ขึ้นเป็นส่วนพระราชกุศลทานมัยในงานพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสฐสุดา, พระอรรคชายาเธอ กรมขุนอรรควรราชกัญญา, สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนพิจิตรเจษฎจันทร์ และสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี. พ.ศ. 2455.
{{cite book}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
(help) - พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์. เจ้าภาพพิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ พันเอกพร้อม มิตรภักดี (พระยานรินทร์ราชเสนี). พ.ศ. 2486.
{{cite book}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
(help)
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าอู่ทอง | เจ้าผู้ครองเมืองสุพรรณบุรี (เมืองอู่ทองแคว้นสุพรรณภูมิเก่า) (พ.ศ. 1893 - 1913) |
สมเด็จพระอินทราชา | ||
สมเด็จพระราเมศวร (ครั้งที่ 1) (ราชวงศ์อู่ทอง) (พ.ศ. 1931 - 1938) |
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา (ราชวงศ์สุพรรณภูมิ) (พ.ศ. 1913 - 1931) |
สมเด็จพระเจ้าทองลัน (ราชวงศ์สุพรรณภูมิ) (พ.ศ. 1931) |