ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{Infobox military person
{{Infobox military person
|name= คาร์ล รูด็อล์ฟ เกิร์ด ฟ็อน รุนท์ชเต็ท
|name= คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท
|image= [[ไฟล์:Bundesarchiv Bild 183-S37772, Gerd v. Rundstedt.jpg|250px]]
|image= [[ไฟล์:Bundesarchiv Bild 183-S37772, Gerd v. Rundstedt.jpg|250px]]
|คำอธิบาย= คาร์ล รูด็อล์ฟ เกิร์ด ฟ็อน รุนท์ชเต็ท
|คำอธิบาย= คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท
|birth_date= [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]]
|birth_date= [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]]
|death_date= [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]]
|death_date= [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]]
บรรทัด 17: บรรทัด 17:
}}
}}


'''คาร์ล รูด็อล์ฟ เกิร์ด ฟ็อน รุนท์ชเต็ท''' ({{lang-de|Karl Rudolf Gerd von Rundstedt}}; [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]] - [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]]) เป็น[[จอมพล]]แห่งกองทัพบกเยอรมันในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ผู้ได้รับสมญานามว่า '''อัศวินดำ''' (Black Knight)
'''คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท''' ({{lang-de|Karl Rudolf Gerd von Rundstedt}}; [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]] - [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]]) เป็น[[จอมพล]]แห่งกองทัพบกเยอรมันในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ผู้ได้รับสมญานามว่า '''อัศวินดำ''' (Black Knight)


== สงครามโลกครั้งที่สอง ==
== สงครามโลกครั้งที่สอง ==
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น เขาถูกเรียกตัวกลับมารับราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำกองทัพกลุ่มใต้ระหว่างการรุกรานโปแลนด์ และในระหว่างการรบในฝรั่งเศส เขาได้บัญชาการกองพลพันท์เซอร์ 7 หน่วย กองพลยานยนต์ทหารราบ 3 หน่วย และกองพลทหารราบ 35 หน่วย
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น เขาถูกเรียกตัวกลับมารับราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำกองทัพกลุ่มใต้ระหว่างการรุกรานโปแลนด์ และในระหว่างการรบในฝรั่งเศส เขาได้บัญชาการกองพลพันท์เซอร์ 7 หน่วย กองพลยานยนต์ทหารราบ 3 หน่วย และกองพลทหารราบ 35 หน่วย


เกิร์ด ฟ็อน รุนท์ชเต็ทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจอมพลเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม [[ค.ศ. 1940]] และมีส่วนในการวางแผน[[ปฏิบัติการสิงโตทะเล]] เมื่อแผนการบุกดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาออกไป เขาจึงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังยึดครองและได้รับมอบหมายให้สร้างแนวป้องกันทางทะเลตามชายฝั่งของ[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|เนเธอร์แลนด์]] [[ประเทศเบลเยียม|เบลเยียม]] และ[[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]
แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจอมพลเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม [[ค.ศ. 1940]] และมีส่วนในการวางแผน[[ปฏิบัติการสิงโตทะเล]] เมื่อแผนการบุกดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาออกไป เขาจึงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังยึดครองและได้รับมอบหมายให้สร้างแนวป้องกันทางทะเลตามชายฝั่งของ[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|เนเธอร์แลนด์]] [[ประเทศเบลเยียม|เบลเยียม]] และ[[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]


=== ปฏิบัติการบาร์บารอสซา ===
=== ปฏิบัติการบาร์บารอสซา ===
บรรทัด 36: บรรทัด 36:
{{ดูเพิ่มที่|แนวรบด้านตะวันตก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}}
{{ดูเพิ่มที่|แนวรบด้านตะวันตก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}}


ฮิตเลอร์เรียกตัวเกิร์ด ฟ็อน รุนท์ชเต็ท กลับเข้ารับหน้าที่ดังเดิมในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตก ในเดือนมีนาคม [[ค.ศ. 1942]] แต่การทำงานของเขาล่าช้า จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ [[ค.ศ. 1943]] ก็ยังแทบไม่มีการสร้างป้อมปราการใดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลย จนเมื่อ[[แอร์วีน ร็อมเมิล]] ได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงค่อยได้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างบ้าง
ฮิตเลอร์เรียกตัวแกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท กลับเข้ารับหน้าที่ดังเดิมในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตก ในเดือนมีนาคม [[ค.ศ. 1942]] แต่การทำงานของเขาล่าช้า จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ [[ค.ศ. 1943]] ก็ยังแทบไม่มีการสร้างป้อมปราการใดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลย จนเมื่อ[[แอร์วีน ร็อมเมิล]] ได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงค่อยได้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างบ้าง


ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้านฟ็อน รุนท์ชเต็ทถูกชักจูงให้เชื่อว่า การยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของฝรั่งเศสจะไม่เกิดขึ้น และควรจะมีการวางกำลังยานเกราะเพียงเล็กน้อยไว้ที่นั้น ทำให้มีกองกำลังยานเกราะเพียงสองกองพลป้องกันเขต[[นอร์ม็องดี]] ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรมาถึง
ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้านฟ็อน รุนท์ชเต็ทถูกชักจูงให้เชื่อว่า การยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของฝรั่งเศสจะไม่เกิดขึ้น และควรจะมีการวางกำลังยานเกราะเพียงเล็กน้อยไว้ที่นั้น ทำให้มีกองกำลังยานเกราะเพียงสองกองพลป้องกันเขต[[นอร์ม็องดี]] ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรมาถึง
บรรทัด 51: บรรทัด 51:
{{คอมมอนส์|Gerd von Rundstedt|แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท}}
{{คอมมอนส์|Gerd von Rundstedt|แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท}}


* Bungay, Stephen. ''The Most Dangerous Enemy: A History of the Battle of Britain''. London: Aurum Press 2000. ISBN 1-85410-721-6(hardcover), ISBN 1-85410-801-8(paperback 2002).
* Bungay, Stephen. ''The Most Dangerous Enemy: A History of the Battle of Britain''. London: Aurum Press 2000. ISBN 1-85410-721-6(hardcover), ISBN 1-85410-801-8(paperback 2002).
* Günther Blumentritt, ''Von Rundstedt: The Man and the Soldier'', London: Odhams Press, 1952
* Günther Blumentritt, ''Von Rundstedt: The Man and the Soldier'', London: Odhams Press, 1952
* B. H. Liddell Hart, ''The German Generals Talk'', New York: William and Morrow, 1948, chap. 7
* B. H. Liddell Hart, ''The German Generals Talk'', New York: William and Morrow, 1948, chap. 7

รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:30, 23 กรกฎาคม 2562

คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท
ชื่อเล่น"อัศวินดำ"
เกิด12 ธันวาคม ค.ศ. 1875
อัสเชอร์เลเบน จักรวรรดิเยอรมัน
เสียชีวิต24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953
ฮันโนเฟอร์ รัฐนีเดอร์ซัคเซิน เยอรมนีตะวันตก
รับใช้ เยอรมนี
 เยอรมนี
 ไรช์เยอรมัน
แผนก/สังกัดกองทัพบก
ประจำการค.ศ. 1892 - 1945
ชั้นยศจอมพล
การยุทธ์สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่สอง
บำเหน็จกางเขนเหล็กกางเขนอัศวิน
กางเขนเหล็ก

คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท (เยอรมัน: Karl Rudolf Gerd von Rundstedt; 12 ธันวาคม ค.ศ. 1875 - 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953) เป็นจอมพลแห่งกองทัพบกเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ได้รับสมญานามว่า อัศวินดำ (Black Knight)

สงครามโลกครั้งที่สอง

เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น เขาถูกเรียกตัวกลับมารับราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำกองทัพกลุ่มใต้ระหว่างการรุกรานโปแลนด์ และในระหว่างการรบในฝรั่งเศส เขาได้บัญชาการกองพลพันท์เซอร์ 7 หน่วย กองพลยานยนต์ทหารราบ 3 หน่วย และกองพลทหารราบ 35 หน่วย

แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจอมพลเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 และมีส่วนในการวางแผนปฏิบัติการสิงโตทะเล เมื่อแผนการบุกดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาออกไป เขาจึงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังยึดครองและได้รับมอบหมายให้สร้างแนวป้องกันทางทะเลตามชายฝั่งของเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และฝรั่งเศส

ปฏิบัติการบาร์บารอสซา

ระหว่างปฏิบัติการบาร์บารอสซา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1941 เขาได้รับมอบอำนาจบัญชาการกองทัพกลุ่มใต้ ซึ่งประกอบด้วยกองพลทหารราบ 52 หน่วย และกองพลพันท์เซอร์ 5 หน่วย บุกเข้าไปในสหภาพโซเวียต เมื่อถึงเดือนกันยายน กองทัพกลุ่มใต้สามารถยึดเคียฟ ในปฏิบัติการโอบล้อมสองครั้ง ทำให้สตาลินจำเป็นต้องละทิ้งเมืองไว้ กองทัพเยอรมันอ้างว่าตนสามารถจับเชลยศึกชาวโซเวียตได้กว่า 665,000 นาย หลังจากนั้น จึงเป็นผู้บัญชาการการโจมตีคาร์คอฟและรอสตอฟในเวลาต่อมา เขามีความเห็นคัดค้านการเดินหน้ารุกรานสหภาพโซเวียตต่อไปในฤดูหนาวและแนะนำให้ฮิตเลอร์สั่งหยุดการโจมตีไว้ก่อน แต่ข้อเสนอของเขาไม่ได้รับความเห็นชอบ

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1941 เขาเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่เขาปฏิเสธที่จะได้รับการรักษาพยาบาล และยืนยันที่จะบัญชาการรบต่อไป หลังจากตีได้รอสตอฟ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน แล้ว แต่กองทัพเยอรมันถูกตีโต้กลับมา เขาจึงสั่งการให้กองทัพบางส่วนล่าถอย ฮิตเลอร์โกรธมาก จึงสั่งให้นายพลวัลเทอร์ ฟ็อน ไรเชอเนา บัญชาการรบแทน

แนวรบด้านตะวันตก

ฮิตเลอร์เรียกตัวแกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท กลับเข้ารับหน้าที่ดังเดิมในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตก ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 แต่การทำงานของเขาล่าช้า จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1943 ก็ยังแทบไม่มีการสร้างป้อมปราการใดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลย จนเมื่อแอร์วีน ร็อมเมิล ได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงค่อยได้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างบ้าง

ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้านฟ็อน รุนท์ชเต็ทถูกชักจูงให้เชื่อว่า การยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของฝรั่งเศสจะไม่เกิดขึ้น และควรจะมีการวางกำลังยานเกราะเพียงเล็กน้อยไว้ที่นั้น ทำให้มีกองกำลังยานเกราะเพียงสองกองพลป้องกันเขตนอร์ม็องดี ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรมาถึง

หลังจากการยกพลขึ้นบกในนอร์ม็องดี เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944 เขาได้กระตุ้นให้ฮิตเลอร์เจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เมื่อเขาถูกปฏิเสธ ว่ากันว่า เขาได้ระเบิดออกมาว่า "สงบศึกซะ ไอ้โง่" ฮิตเลอร์ได้ปลดเขาออก และแทนที่โดยจอมพล กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ

กลางเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1944 เขาได้รับตำแหน่งในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง เขาได้รวบรวมกองกำลังเพื่อต่อกรกับปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดนอย่างรวดเร็ว และได้รับชัยชนะ เขาถูกปลดออกจากกองบัญชาการอีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1945 เนื่องจากเขาบอกกับเคย์เทลว่า ฮิตเลอร์ควรจะเจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ดีกว่าสู้รบในสงครามอันสิ้นหวังนี้

หลังสงคราม

ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 เขาถูกกองพลทหารราบที่ 36 แห่งสหรัฐอเมริกาจับกุม ระหว่างการถูกควบคุมตัว เขาประสบกับภาวะหัวใจขาดเลือดอีกครั้งหนึ่ง และได้ถูกนำตัวไปพิจารณาคดีที่เกาะอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษแจ้งข้อกล่าวหาเขาในฐานะอาชญากรสงคราม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสุขภาพอันย่ำแย่ของเขา เขาจึงถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการพิจารณาคดีใน ค.ศ. 1948 และอาศัยอยู่ในฮันโนเฟอร์จนกระทั่งเสียชีวิต

อ้างอิง

  • Bungay, Stephen. The Most Dangerous Enemy: A History of the Battle of Britain. London: Aurum Press 2000. ISBN 1-85410-721-6(hardcover), ISBN 1-85410-801-8(paperback 2002).
  • Günther Blumentritt, Von Rundstedt: The Man and the Soldier, London: Odhams Press, 1952
  • B. H. Liddell Hart, The German Generals Talk, New York: William and Morrow, 1948, chap. 7
  • Charles Messenger, The Last Prussian: A Biography of Field Marshal Gerd von Rundstedt, 1875-1953, London: Brassey's, 1991 ISBN 0-08-036707-0
  • Schaulen, Fritjof (2005). Eichenlaubträger 1940 - 1945 Zeitgeschichte in Farbe III Radusch - Zwernemann (in German). Selent, Germany: Pour le Mérite. ISBN 3-932381-22-X.
  • Ziemke, Earl, "Gerd Von Rundstedt" in Hitler's Generals, ed. Correlli Barnet, New York: Grove Weidenfeld, 1989