ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เตา ชื่อซฺวิน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
→‎ชีวิตหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง: เพิ่มเนื้อหาและแก้ไขตัวสะกด
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 41: บรรทัด 41:
อย่างไรก็ดี หลังจากเกษียณอายุแล้ว ทางการจีนได้ให้ฐานะ ทางสังคมแก่ เจ้าหม่อมคำลือในฐานะเจ้านายเก่าคือเป็น รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองระดับมณฑล และ กรรมการสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ ซึ่งมีที่พัก และ รถประจำตำแหน่งให้ แต่ปัจจุบันท่านก็ได้เกษียณจากทุกตำแหน่งแล้ว
อย่างไรก็ดี หลังจากเกษียณอายุแล้ว ทางการจีนได้ให้ฐานะ ทางสังคมแก่ เจ้าหม่อมคำลือในฐานะเจ้านายเก่าคือเป็น รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองระดับมณฑล และ กรรมการสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ ซึ่งมีที่พัก และ รถประจำตำแหน่งให้ แต่ปัจจุบันท่านก็ได้เกษียณจากทุกตำแหน่งแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหม่อมคำลือมีพระอนุชาชื่อ เจ้าหม่อมมหาวัง อยู่ที่[[อำเภอแม่สาย]] [[จังหวัดเชียงราย]] ของ[[ประเทศไทย]] แต่ปัจจุบันก็สิ้นแล้ว คงเหลือแต่ลูก ๆ ซึ่งอยู่ที่แม่สาย และรวมถึงในกรุงเทพฯ ที่ใช้ นามสกุล “คำลือ” เพื่อเป็นที่ระลึกถึง “เจ้าหม่อมคำลือ” กษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรไทลื้อ เจ้าหม่อมคำลือในปัจจุบัน ยังเป็นที่รักและเคารพของชาว[[ไทลื้อ]] <ref>เจ้าหม่อมคำลือ"กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งสิบสองปันนา. Postjung.com</ref>
ทั้งนี้ เจ้าหม่อมคำลือมีพระอนุชาชื่อ เจ้าหม่อมมหาวัง อยู่ที่[[อำเภอแม่สรวย]] [[จังหวัดเชียงราย]] ของ[[ประเทศไทย]] แต่ปัจจุบันก็สิ้นแล้ว คงเหลือแต่ลูก ๆ ซึ่งอยู่ที่แม่สรวยและแม่สาย และรวมถึงในกรุงเทพฯ ที่ใช้ นามสกุล “คำลือ” เพื่อเป็นที่ระลึกถึง “เจ้าหม่อมคำลือ” กษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรไทลื้อ เจ้าหม่อมคำลือในปัจจุบัน ยังเป็นที่รักและเคารพของชาว[[ไทลื้อ]] <ref>เจ้าหม่อมคำลือ"กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งสิบสองปันนา. Postjung.com</ref>


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:55, 21 กรกฎาคม 2562

เจ้าหม่อมคำลือ

เตา ชื่อซฺวิน
สมเด็จพระเจ้าศิริสุวรรณคำลือ
กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง
ครองราชย์ค.ศ. 1944–1950
รัชสมัย6 ปี
ราชาภิเษกค.ศ. 1944
รัชกาลก่อนหน้าสมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่ง ที่ 40
รัชกาลถัดไปสิ้นสุดระบอบกษัตริย์
ประสูติค.ศ. 1928
สิ้นพระชนม์1 ตุลาคม ค.ศ. 2017
พระมเหสีสิว์ จิ๊ว เฟิน
สมเด็จพระเจ้าศิริสุวรรณคำลือ
พระบุตร4 พระองค์
ราชวงศ์ราชวงศ์อารยะโวสวนตาน
พระบิดาเจ้าหม่อมแสงเมือง

เตา ชื่อซฺวิน (刀世勋) หรือ เจ้าหม่อมคำลือ - 召孟罕勒 / เจ้าหม่อมศิริสุวรรณคำลือ - 召勐西莉苏宛纳罕勒 เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง องค์ที่ 41 และเป็นองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ พญาเจือง หรือ ราชวงศ์อารยะโวสวนตาน ที่ปกครองอาณาจักรหอคำเชียงรุ่งมายาวนานถึง 790 ปี

พระประวัติ

เจ้าหม่อมคำลือ พระราชสมภพเมื่อปี ค.ศ. 1928 เป็นพระราชบุตรของ เจ้าหม่อมแสงเมือง ซึ่งเป็นอนุชาของเจ้าหม่อมสุวรรณผาคราง พระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินเชียงรุ่งองค์ที่ 40 แต่เจ้าหม่อมสุวรรณผาครางไม่มีพระราชบุตร จึงได้ขอเจ้าหม่อมคำลือมาเป็นราชบุตรบุญธรรม และไปเรียนหนังสือที่เมืองฉงชิ่งเมื่ออายุ 16 ปี จนถึงปี ค.ศ. 1944 ได้เข้า “พิธีฮับเมือง” แต่ในช่วงนั้นเกิด สงครามมหาเอเชียบูรพา (ค.ศ. 1939-1945) พิธีฮับเมืองจึงไม่สมบูรณ์ ท่านได้กลับไปเรียนหนังสือ และกลับมาทำพิธีฮับเมืองครั้งที่สอง เมื่อ ค.ศ. 1948 ขณะอายุ 20 ปี

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองภายในประเทศจีน ราวปี ค.ศ. 1949-1950 ท่านจึงกลายเป็น “กษัตริย์องค์สุดท้าย” โดยเปลี่ยนฐานันดรศักดิ์จากกษัตริย์เป็นสามัญชน โดยที่ยังมิได้ บริหารราชการแผ่นดินเลย เนื่องจากหลังจากทำพิธีฮับเมืองครั้งแรกแล้วท่านได้แต่งตั้งให้เจ้าหม่อมแสนเมือง พระราชบิดาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากนั้นท่านก็ไปเรียนหนังสือต่อ

เจ้าหม่อมคำลือประทับอยู่ในเมืองคุนหมิง ประเทศจีน มีโอรสธิดา 4 องค์ เป็นชาย 2 องค์ หญิง 2 องค์ซึ่งรับราชการทั้งหมด เจ้าหม่อมคำลือสุรคต (นอนแฮ) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2017 สิริพระชนมายุ 89 พรรษา

ชีวิตหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว ท่านได้เรียนหนังสือในระดับมหาวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยยูนนาน และได้แต่งงานกับ สิว์ จิ๊ว เฟิน ชาวจีนคุนหมิง ในปี ค.ศ. 1953 ก่อนที่จะทำงานเป็นนักวิจัยด้านภาษาศาสตร์ อีก 8 ปี ที่สถาบันวิจัยชนชาติส่วนน้อยแห่งชาติ สังกัดสภาวิทยาศาสตร์ประเทศจีน ในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง

ต่อมาเจ้าหม่อมแสนเมืองได้ขอให้รัฐบาลจีนย้ายทั้งสองกลับมาที่คุนหมิง โดยมาทำงานเป็นนักวิจัยด้านภาษาซึ่งรวมถึงอักษรไทลื้อ จนกระทั่ง ในปี ค.ศ. 1971 รัฐบาล จีนมีคำสั่งให้เจ้าหม่อมคำลือและภรรยาไปทำงานในชนบททำงานในสวนอ้อยใน อ.เชียงกุ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของสิบสองปันนา เป็นเวลานาน ถึง 9 ปี

การใช้เวลาในสวนอ้อยนี้ สิว์ จิ๊ว เฟิน เล่าว่า สามารถพกหนังสือหรือตำราเข้าไปอ่านได้ด้วย และหลังจาก เติ้ง เสี่ยว ผิง ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของจีนแล้ว เห็นว่านโยบายเอียงซ้าย นโยบายที่ให้เจ้านายไปใช้แรงงานในชนบท เป็นนโยบายที่ผิดพลาด ดังนั้นเจ้าหม่อมคำลือและภรรยาจึงมีโอกาสกลับคุนหมิง โดยทำงานเป็นนักวิจัยที่สถาบันวิจัยชนชาติในมหาวิทยาลัยชนชาติยูนนาน จนกระทั่งเกษียณอายุ โดยมีคุณวุฒิทางวิชาการคือ “ศาสตราจารย์”

อย่างไรก็ดี หลังจากเกษียณอายุแล้ว ทางการจีนได้ให้ฐานะ ทางสังคมแก่ เจ้าหม่อมคำลือในฐานะเจ้านายเก่าคือเป็น รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองระดับมณฑล และ กรรมการสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ ซึ่งมีที่พัก และ รถประจำตำแหน่งให้ แต่ปัจจุบันท่านก็ได้เกษียณจากทุกตำแหน่งแล้ว

ทั้งนี้ เจ้าหม่อมคำลือมีพระอนุชาชื่อ เจ้าหม่อมมหาวัง อยู่ที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ของประเทศไทย แต่ปัจจุบันก็สิ้นแล้ว คงเหลือแต่ลูก ๆ ซึ่งอยู่ที่แม่สรวยและแม่สาย และรวมถึงในกรุงเทพฯ ที่ใช้ นามสกุล “คำลือ” เพื่อเป็นที่ระลึกถึง “เจ้าหม่อมคำลือ” กษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรไทลื้อ เจ้าหม่อมคำลือในปัจจุบัน ยังเป็นที่รักและเคารพของชาวไทลื้อ [1]

อ้างอิง

  1. เจ้าหม่อมคำลือ"กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งสิบสองปันนา. Postjung.com
ก่อนหน้า เตา ชื่อซฺวิน ถัดไป
สมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่ง ที่ 40 กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง
ผู้อ้างสิทธิกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง

(ค.ศ. 1944 - ปัจจุบัน)
เปลี่ยนแปลงการปกครอง
ยังอยู่ในตำแหน่ง