ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไทยวน"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ระวังสับสน|ชาวญวน}} |
|||
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}} |
|||
{{ชื่ออื่น|ชาวไท-ล้านนา|ไทเหนือ ซึ่งอาศัยในเขตเต๋อหง มณฑลยูนนาน|ไทเหนือ}} |
|||
{{Infobox ethnic group |
{{Infobox ethnic group |
||
| group = |
| group = ยวน |
||
| image = Thai dancer Chiang Mai 2005 045.jpg |
| image = Thai dancer Chiang Mai 2005 045.jpg |
||
| image_caption = การรำของ |
| image_caption = การรำของคนยวนใน[[จังหวัดเชียงใหม่]] |
||
| population = 6 ล้านคน<ref name=ethno>Lewis, M. Paul (ed.), 2009. Ethnologue: Languages of the World, Sixteenth edition. [http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=nod Entry for Northern Thai] Dallas, Tex.: SIL International.</ref> |
| population = 6 ล้านคน<ref name=ethno>Lewis, M. Paul (ed.), 2009. Ethnologue: Languages of the World, Sixteenth edition. [http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=nod Entry for Northern Thai] Dallas, Tex.: SIL International.</ref> |
||
| popplace = [[ประเทศไทย]], [[ประเทศลาว]] ([[ห้วยทราย]], [[แขวงบ่อแก้ว]] และ[[แขวงไชยบุรี]]) |
| popplace = [[ประเทศไทย]], [[ประเทศลาว]] ([[ห้วยทราย]], [[แขวงบ่อแก้ว]] และ[[แขวงไชยบุรี]]) |
||
บรรทัด 12: | บรรทัด 11: | ||
}} |
}} |
||
''' |
'''ยวน''' หรือ '''คนเมือง''' เป็น[[กลุ่มประชากร]]ที่พูดภาษา[[ตระกูลภาษาขร้า-ไท]]กลุ่มหนึ่ง ตั้งถิ่นฐานทาง[[ภาคเหนือ (ประเทศไทย)|ตอนเหนือของประเทศไทย]]ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนา<ref>''พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554''</ref> เป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรล้านนา ถึงแม้ในปัจจุบันชาวล้านนาจะกลายเป็นพลเมืองของประเทศไทยแล้วก็ตาม แต่ก็มักเรียกตนเองว่า "คนเมือง" ซึ่งเป็นคำเรียกที่เกิดขึ้นในยุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง เพื่อฟื้นฟูประชากรในล้านนาหลังสงคราม โดยการกวาดต้อนกลุ่มคนจากที่ต่าง ๆ เข้ามายังเมืองของตน |
||
ตามตำนานสิงหนวัศิกล่าวว่า สิงหนวัศิกุมาร ได้อพยพผู้คนบริวารมาจากเมืองราชคฤห์ เข้าใจว่า อยู่ใน[[มณฑลยูนนาน]] มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เชียงแสน ราวต้นสมัยพุทธกาล ตั้งชื่อบ้านเมืองนี้ ว่า '''โยนกนคร''' เรียกประชาชนเมืองนี้ว่า '''ยวน''' ซึ่งเป็นเสียงเพี้ยนมาจากชื่อเมือง "โยนก" นั่นเอง{{ต้องการอ้างอิงเฉพาะส่วน}} จากนั้น ก็มีกษัตริย์ครองเมืองโยนกนี้มาเรื่อยๆ ประชากรไทยวน ก็แพร่หลายออกไปใน[[อาณาจักรล้านนา]] ต่อมา พ.ศ. 2101 พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่า ได้นำทัพมาตีเมืองเหนือ และปกครองเมืองเหนือเป็นเวลานานถึง 200 ปี |
ตามตำนานสิงหนวัศิกล่าวว่า สิงหนวัศิกุมาร ได้อพยพผู้คนบริวารมาจากเมืองราชคฤห์ เข้าใจว่า อยู่ใน[[มณฑลยูนนาน]] มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เชียงแสน ราวต้นสมัยพุทธกาล ตั้งชื่อบ้านเมืองนี้ ว่า '''โยนกนคร''' เรียกประชาชนเมืองนี้ว่า '''ยวน''' ซึ่งเป็นเสียงเพี้ยนมาจากชื่อเมือง "โยนก" นั่นเอง{{ต้องการอ้างอิงเฉพาะส่วน}} จากนั้น ก็มีกษัตริย์ครองเมืองโยนกนี้มาเรื่อยๆ ประชากรไทยวน ก็แพร่หลายออกไปใน[[อาณาจักรล้านนา]] ต่อมา พ.ศ. 2101 พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่า ได้นำทัพมาตีเมืองเหนือ และปกครองเมืองเหนือเป็นเวลานานถึง 200 ปี |
||
บรรทัด 19: | บรรทัด 18: | ||
ในปี พ.ศ. 2454 [[:en:Daniel McGilvary|แดเนียล แมกกิลวารี]] ซึ่งทำงานเผยแพร่คริสต์ศาสนาในล้านนาเป็นเวลาเกือบห้าสิบปี (พ.ศ. 2410–2453) ได้เขียนหนังสือเรื่อง "กึ่งศตวรรษในหมู่ชาวสยามและชาวลาว"<ref>{{cite book|last=McGilvary|first=Daniel|title=A HALF CENTURY AMONG |
ในปี พ.ศ. 2454 [[:en:Daniel McGilvary|แดเนียล แมกกิลวารี]] ซึ่งทำงานเผยแพร่คริสต์ศาสนาในล้านนาเป็นเวลาเกือบห้าสิบปี (พ.ศ. 2410–2453) ได้เขียนหนังสือเรื่อง "กึ่งศตวรรษในหมู่ชาวสยามและชาวลาว"<ref>{{cite book|last=McGilvary|first=Daniel|title=A HALF CENTURY AMONG |
||
THE SIAMESE AND THE LAO|publisher=London, Fleming H. Revell Comapny|year=1912|pages=435}}</ref> เรียกคนในล้านนา |
THE SIAMESE AND THE LAO|publisher=London, Fleming H. Revell Comapny|year=1912|pages=435}}</ref> เรียกคนในล้านนาปน ๆ ไปว่า "คนลาว" เรียกตั๋วเมือง (อักษรล้านนา) ว่าเป็น "ภาษาลาว" และเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า "ลาว" แต่น่าจะเป็นเพียงเพื่อบ่งชี้ว่าคนไทยทางเหนือเคยปกครองตัวเองแยกจากสยามมาก่อน ซึ่งในตอนหนึ่งของหนังสือ แมกกิลวารีขยายความว่า |
||
{{คำพูด|"เราได้แล้วเห็นจังหวัดลาว (ล้านนา) ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสยามนั้น เคยเป็นมลรัฐอิสระมาจนกระทั่ง[[พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์]] |
{{คำพูด|"เราได้แล้วเห็นจังหวัดลาว (ล้านนา) ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสยามนั้น เคยเป็นมลรัฐอิสระมาจนกระทั่ง[[พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์]]ถึงแก่พิราลัย แต่แอกของสยามนั้นเบาและอารีมาก พวกล้านนาไม่ได้ถูกสยบในสงคราม แต่เข้ามาสู่ความเกี่ยวพันกับสยามโดยความเต็มใจของตัวเอง เพื่อจะหนีการปกครองของพม่า ด้วยเหตุที่ทั้งตำแหน่งที่ตั้งและความอ่อนแอของรัฐเหล่านี้ ทำให้มีความจำเป็นที่พวกเขาจะต้องมองไปที่อาณาจักรคู่แข่งขันในภูมิภาค เพื่อขอความคุ้มครองจากอีกรัฐหนึ่ง ... ธรรมชาติได้สร้างให้ประเทศลาวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสยามมากกว่าใครอื่น การคมนาคมติดต่อกับทะเลจำต้องผ่าน[[แม่น้ำเจ้าพระยา]] และ[[แม่น้ำเจ้าพระยา#ลำน้ำสาขา|ลำน้ำสาขา]] ในขณะที่แนวทิวเขาสูงแยกดินแดนนี้ออกจากพม่า ทั้งในทางชาติพันธ์และภาษาก็เช่นกัน พวกนี้เป็นคนสยาม และไม่ใช่คนพม่า"|แม็คกิลวารี, กึ่งศตวรรษในหมู่ชาวสยามและชาวลาว, หน้า 191{{sfn|McGilvary|1912|page=191}}}} |
||
ในงานเรื่อง "ชนชาติไท" ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2466 [[วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์]] มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซึ่งทำงานที่เชียงรายนานถึง 32 ปี (พ.ศ. 2429–2461) กล่าวถึงคนเขตภาคเหนือตอนบนของไทยว่าเป็น "คนยวน" มิใช่คนลาวดังที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่ความน่าสนใจของแม็คกิลวารี และ ด็อดด์ อยู่ที่ว่าคนทั้งสองได้ทำงานในล้านนาเป็นเวลานานมาก จึงน่าจะมีความรู้ความเข้าใจในท้องถิ่นอย่างมาก แต่คนทั้งสองก็มิได้แตกต่างจากชาวต่างชาติคนอื่น ที่เข้ามาเยือนภาคเหนือเหมือนกัน แต่อยู่ไม่นาน นั่นคือไม่พูดถึงการเมืองท้องถิ่น และมองคนในภาคเหนือในมุมมองที่แทบไม่แตกต่างจากมุมมองของชาวสยามทั่วไป |
ในงานเรื่อง "ชนชาติไท" ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2466 [[วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์]] มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซึ่งทำงานที่เชียงรายนานถึง 32 ปี (พ.ศ. 2429–2461) กล่าวถึงคนเขตภาคเหนือตอนบนของไทยว่าเป็น "คนยวน" มิใช่คนลาวดังที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่ความน่าสนใจของแม็คกิลวารี และ ด็อดด์ อยู่ที่ว่าคนทั้งสองได้ทำงานในล้านนาเป็นเวลานานมาก จึงน่าจะมีความรู้ความเข้าใจในท้องถิ่นอย่างมาก แต่คนทั้งสองก็มิได้แตกต่างจากชาวต่างชาติคนอื่น ที่เข้ามาเยือนภาคเหนือเหมือนกัน แต่อยู่ไม่นาน นั่นคือไม่พูดถึงการเมืองท้องถิ่น และมองคนในภาคเหนือในมุมมองที่แทบไม่แตกต่างจากมุมมองของชาวสยามทั่วไป |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
; เชิงอรรถ |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
||
; บรรณานุกรม |
|||
{{เริ่มอ้างอิง}} |
{{เริ่มอ้างอิง}} |
||
* {{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง = [[ธเนศวร์ เจริญเมือง]]|ชื่อหนังสือ = คนเมือง : ประวัติศาสตร์ล้านนาสมัยใหม่ พ.ศ. 2317-2553 |จังหวัด = พิมพ์ครั้งที่ 2, เชียงใหม่|พิมพ์ที่ = สถาบันพัฒนาเมืองเชียงใหม่|ปี = 2554|ISBN = 978-974-496-387-1|จำนวนหน้า = 246}} |
|||
* {{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง = [[ราชบัณฑิตยสถาน]]|ชื่อหนังสือ = [[พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554]] |จังหวัด = พิมพ์ครั้งที่ ๒, กรุงเทพฯ|พิมพ์ที่ = ราชบัณฑิตยสถาน|ปี = 2556|ISBN = 978-616-7073-80-4|จำนวนหน้า = 1,544}} |
|||
* {{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = สุรชัย จงจิตงาม| ชื่อหนังสือ = ท่องเที่ยว-เรียนรู้ ล้านนา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง| URL = | จังหวัด = | พิมพ์ที่ = | ปี = | ISBN = | จำนวนหน้า = | หน้า = 16}} |
* {{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = สุรชัย จงจิตงาม| ชื่อหนังสือ = ท่องเที่ยว-เรียนรู้ ล้านนา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง| URL = | จังหวัด = | พิมพ์ที่ = | ปี = | ISBN = | จำนวนหน้า = | หน้า = 16}} |
||
{{จบอ้างอิง}} |
{{จบอ้างอิง}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:47, 11 กรกฎาคม 2562
การรำของคนยวนในจังหวัดเชียงใหม่ | |
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
6 ล้านคน[1] | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
ประเทศไทย, ประเทศลาว (ห้วยทราย, แขวงบ่อแก้ว และแขวงไชยบุรี) | |
ภาษา | |
คำเมือง (มักพูดสองภาษากับภาษาไทยกลาง) | |
ศาสนา | |
ส่วนใหญ่ พุทธเถรวาท ส่วนน้อย ศาสนาคริสต์ | |
กลุ่มชาติพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง | |
ชาวไท |
ยวน หรือ คนเมือง เป็นกลุ่มประชากรที่พูดภาษาตระกูลภาษาขร้า-ไทกลุ่มหนึ่ง ตั้งถิ่นฐานทางตอนเหนือของประเทศไทยซึ่งเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนา[2] เป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรล้านนา ถึงแม้ในปัจจุบันชาวล้านนาจะกลายเป็นพลเมืองของประเทศไทยแล้วก็ตาม แต่ก็มักเรียกตนเองว่า "คนเมือง" ซึ่งเป็นคำเรียกที่เกิดขึ้นในยุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง เพื่อฟื้นฟูประชากรในล้านนาหลังสงคราม โดยการกวาดต้อนกลุ่มคนจากที่ต่าง ๆ เข้ามายังเมืองของตน
ตามตำนานสิงหนวัศิกล่าวว่า สิงหนวัศิกุมาร ได้อพยพผู้คนบริวารมาจากเมืองราชคฤห์ เข้าใจว่า อยู่ในมณฑลยูนนาน มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เชียงแสน ราวต้นสมัยพุทธกาล ตั้งชื่อบ้านเมืองนี้ ว่า โยนกนคร เรียกประชาชนเมืองนี้ว่า ยวน ซึ่งเป็นเสียงเพี้ยนมาจากชื่อเมือง "โยนก" นั่นเอง[ต้องการอ้างอิง] จากนั้น ก็มีกษัตริย์ครองเมืองโยนกนี้มาเรื่อยๆ ประชากรไทยวน ก็แพร่หลายออกไปในอาณาจักรล้านนา ต่อมา พ.ศ. 2101 พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่า ได้นำทัพมาตีเมืองเหนือ และปกครองเมืองเหนือเป็นเวลานานถึง 200 ปี
คนไทยภาคกลางในสมัยโบราณเคยเรียก ชาวไทยในถิ่นเหนือว่า "ยวน" โดยปรากฏหลักฐานในวรรณคดีเช่น ลิลิตยวนพ่าย ซึ่งกวีของอยุธยารจนาขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ นักวิชาการต่างประเทศสันนิษฐานว่า คำว่า ยวน อาจจะมาจากคำสันสกฤตว่า "yavana" แปลว่า คนแปลกถิ่น หรือคนต่างถิ่น[3] เจ้าอาณานิคมอังกฤษในสมัยที่เข้าปกครองประเทศพม่า มองว่าคนยวนเป็นพวกเดียวกับชาวชาน โดยเรียกพวกนี้ว่า "คนชานสยาม" (Siamese Shan) เพื่อแยกแยะออกจากจากชาวรัฐชานในประเทศพม่าที่อังกฤษเรียกว่า "ชานพม่า" (Burmese Shan)[4] แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมประเพณีของคนไทใหญ่หลาย ๆ กลุ่ม
ในปี พ.ศ. 2454 แดเนียล แมกกิลวารี ซึ่งทำงานเผยแพร่คริสต์ศาสนาในล้านนาเป็นเวลาเกือบห้าสิบปี (พ.ศ. 2410–2453) ได้เขียนหนังสือเรื่อง "กึ่งศตวรรษในหมู่ชาวสยามและชาวลาว"[5] เรียกคนในล้านนาปน ๆ ไปว่า "คนลาว" เรียกตั๋วเมือง (อักษรล้านนา) ว่าเป็น "ภาษาลาว" และเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า "ลาว" แต่น่าจะเป็นเพียงเพื่อบ่งชี้ว่าคนไทยทางเหนือเคยปกครองตัวเองแยกจากสยามมาก่อน ซึ่งในตอนหนึ่งของหนังสือ แมกกิลวารีขยายความว่า
"เราได้แล้วเห็นจังหวัดลาว (ล้านนา) ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสยามนั้น เคยเป็นมลรัฐอิสระมาจนกระทั่งพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ถึงแก่พิราลัย แต่แอกของสยามนั้นเบาและอารีมาก พวกล้านนาไม่ได้ถูกสยบในสงคราม แต่เข้ามาสู่ความเกี่ยวพันกับสยามโดยความเต็มใจของตัวเอง เพื่อจะหนีการปกครองของพม่า ด้วยเหตุที่ทั้งตำแหน่งที่ตั้งและความอ่อนแอของรัฐเหล่านี้ ทำให้มีความจำเป็นที่พวกเขาจะต้องมองไปที่อาณาจักรคู่แข่งขันในภูมิภาค เพื่อขอความคุ้มครองจากอีกรัฐหนึ่ง ... ธรรมชาติได้สร้างให้ประเทศลาวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสยามมากกว่าใครอื่น การคมนาคมติดต่อกับทะเลจำต้องผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา และลำน้ำสาขา ในขณะที่แนวทิวเขาสูงแยกดินแดนนี้ออกจากพม่า ทั้งในทางชาติพันธ์และภาษาก็เช่นกัน พวกนี้เป็นคนสยาม และไม่ใช่คนพม่า"
— แม็คกิลวารี, กึ่งศตวรรษในหมู่ชาวสยามและชาวลาว, หน้า 191[6]
ในงานเรื่อง "ชนชาติไท" ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2466 วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซึ่งทำงานที่เชียงรายนานถึง 32 ปี (พ.ศ. 2429–2461) กล่าวถึงคนเขตภาคเหนือตอนบนของไทยว่าเป็น "คนยวน" มิใช่คนลาวดังที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่ความน่าสนใจของแม็คกิลวารี และ ด็อดด์ อยู่ที่ว่าคนทั้งสองได้ทำงานในล้านนาเป็นเวลานานมาก จึงน่าจะมีความรู้ความเข้าใจในท้องถิ่นอย่างมาก แต่คนทั้งสองก็มิได้แตกต่างจากชาวต่างชาติคนอื่น ที่เข้ามาเยือนภาคเหนือเหมือนกัน แต่อยู่ไม่นาน นั่นคือไม่พูดถึงการเมืองท้องถิ่น และมองคนในภาคเหนือในมุมมองที่แทบไม่แตกต่างจากมุมมองของชาวสยามทั่วไป
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ↑ Lewis, M. Paul (ed.), 2009. Ethnologue: Languages of the World, Sixteenth edition. Entry for Northern Thai Dallas, Tex.: SIL International.
- ↑ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554
- ↑ Frederic Pain (2008), "An introduction to Thai ethnonymy: examples from Shan and Northern Thai", The Journal of the American Oriental Society
- ↑ Andrew Turton (2004), "Violent Capture of People for Exchange on Karen-Tai borders in the 1830s", Structure of Slavery in Indian Ocean Africa and Asia, London: Frank Cass, p. 73
- ↑ McGilvary, Daniel (1912). A HALF CENTURY AMONG THE SIAMESE AND THE LAO. London, Fleming H. Revell Comapny. p. 435.
{{cite book}}
: line feed character ใน|title=
ที่ตำแหน่ง 21 (help) - ↑ McGilvary 1912, p. 191.
- บรรณานุกรม
- ธเนศวร์ เจริญเมือง. คนเมือง : ประวัติศาสตร์ล้านนาสมัยใหม่ พ.ศ. 2317-2553. พิมพ์ครั้งที่ 2, เชียงใหม่ : สถาบันพัฒนาเมืองเชียงใหม่, 2554. 246 หน้า. ISBN 978-974-496-387-1
- ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. พิมพ์ครั้งที่ ๒, กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2556. 1,544 หน้า. ISBN 978-616-7073-80-4
- สุรชัย จงจิตงาม. ท่องเที่ยว-เรียนรู้ ล้านนา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง. [ม.ป.ท.] : [ม.ป.พ.], [ม.ป.ป.]. หน้า 16.