ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์"
vector version available (GlobalReplace v0.6.5) |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 102: | บรรทัด 102: | ||
[[หมวดหมู่:พระองค์เจ้าตั้ง]] |
[[หมวดหมู่:พระองค์เจ้าตั้ง]] |
||
[[หมวดหมู่:พระองค์เจ้าหญิง]] |
[[หมวดหมู่:พระองค์เจ้าหญิง]] |
||
[[หมวดหมู่:หม่อมเจ้า]] |
|||
[[หมวดหมู่:พระภรรยาในรัชกาลที่ 5]] |
[[หมวดหมู่:พระภรรยาในรัชกาลที่ 5]] |
||
[[หมวดหมู่:ราชสกุลลดาวัลย์]] |
[[หมวดหมู่:ราชสกุลลดาวัลย์]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:54, 15 มิถุนายน 2562
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ | |
---|---|
พระอรรคชายาเธอ | |
ประสูติ | 26 มกราคม พ.ศ. 2397 |
สิ้นพระชนม์ | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 (33 ปี) |
พระสวามี | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระราชบุตร | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี |
พระมารดา | เจ้าจอมมารดาจีน |
ศาสนา | พุทธ |
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ (26 มกราคม พ.ศ. 2397 – 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2430) พระนามเดิม หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ เป็นพระธิดาพระองค์รองในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี อันประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจีน และเป็นพระภรรยาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังสิ้นพระชนม์ พระสวามีโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็นพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้า
พระประวัติ
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์เป็นพระธิดาพระองค์รองในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี อันประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจีน เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2397[1][2]
หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ เมื่อประสูติทรงประทับอยู่ที่วังของพระบิดา โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร (ทูลกระหม่อมแก้ว) ทรงเป็นผู้อภิบาล มีพระเชษฐภคินีและพระขนิษฐาที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจีน ๒ พระองค์ และได้ถวายพระองค์เป็นพระอรรคชายาเธอใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งสามพระองค์ คือ
- หม่อมเจ้าบัว ลดาวัลย์ เมื่อเป็นพระมเหสี ทรงมีอิสริยยศเป็น พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค
- หม่อมเจ้าสาย ลดาวัลย์ เมื่อเป็นพระมเหสี ทรงมีอิสริยยศเป็น พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ ทรงรับราชการฝ่ายในเป็นพระมเหสีทรงอิสริยยศเป็น มีพระราชธิดา ๑ พระองค์ คือ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร ประสูติในปี พ.ศ. 2416 ต่อมาทรงเฉลิมพระยศเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ หรือ สมเด็จหญิงใหญ่
ภายหลังมีพระประสูติกาลพระราชธิดาแล้ว ได้รับสถาปนาเป็น พระอรรคชายาเธอ หม่อมเจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ คนทั่วไปขนาดพระนามว่า ท่านพระองค์กลาง
หม่อมเจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ทรงเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูรมาก ถึงกับทรงตั้งพระทัยจะให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระอัครมเหสีเลยทีเดียว แต่ว่าหม่อมเจ้าเสาวภาคยนารีรัตนมีพระพลานามัยไม่สู้จะสมบูรณ์นัก ประสูติพระราชธิดาพระองค์ ๑ แล้วก็ประชวรกระเสาะกระแสะเรื่อยมา จนกระทั่ง สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 พระองค์ได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศหลังจากสิ้นพระชนม์ขึ้นเป็นพระองค์เจ้าออกพระนามว่า พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ทรงศักดินา 15000 เสมอพระองค์เจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวัง ตามตำแหน่งพระอรรคชายาเธอ[3]
ในปีนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสูญเสียพระอรรคชายาเธอ พระราชโอรส และพระราชธิดาในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถถึง 3 พระองค์ ในปีเดียวกัน คือ พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพชรุตม์ธำรง [4] จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑ เพื่อระลึกถึงพระอรรคชายาเธอ พระราชโอรส และพระราชธิดาที่สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ทำด้วยหินอ่อนแกะสลักพระรูปเหมือนทั้ง 4 พระองค์ ตั้งอยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม ที่พระราชวังบางปะอิน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 4 (จ.ป.ร.4)
ราชตระกูล
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ |
พระชนก: พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี |
พระอัยกาฝ่ายพระชนก: พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระศรีสุลาไลย | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก: เจ้าจอมมารดาเอมน้อย |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: ไม่มีข้อมูล | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: ไม่มีข้อมูล | |||
พระชนนี: เจ้าจอมมารดาจีน |
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี: ไม่มีข้อมูล |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: ไม่มีข้อมูล | |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ไม่มีข้อมูล | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ไม่มีข้อมูล |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: ไม่มีข้อมูล | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ไม่มีข้อมูล |
อ้างอิง
- ↑ http://theyoung.net/tamneap_vip/49_queen/49_37.htm
- ↑ จิรวัฒน์ อุตตมะกุล. พระภรรยาเจ้า และสมเด็จเจ้าฟ้า ในรัชกาลที่ ๕. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์มติชน, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2548. 398 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-322-964-7
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, คำประกาศตั้งพระอรรคชายาเธอ หม่อมเจ้าเสาวภาคน่รีรัตน ขึ้นเป็น พระองค์เจ้า มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัตรว่า พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัต ทรงศักดินา ๑๕๐๐๐ เสมอเจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวังตามพระอรรคชายาเธอ, เล่ม ๔, ตอน ๓๑, ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๑๘๘๗, หน้า ๒๕๑
- ↑ http://www.palaces.thai.net/new/bp/memo.htm#Thai