ผลต่างระหว่างรุ่นของ "07 โชว์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 60: บรรทัด 60:


===รอบตัดสิน (รูปแบบแรก)===
===รอบตัดสิน (รูปแบบแรก)===
ในรอบนี้จะมีกุญแจในกรง 12 ดอก และตู้ในกรง 12 ตู้ โดยให้ทีละคนเข้าไปแล้วให้เวลาทั้งหมด 90 วินาที ถ้าใครเจอกุญแจแล้วไปที่ปุ่มเหยียบเมื่อเหยียบดีดแล้วไปเปิดตู้หาการ์ดไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเวลา ถ้าใครเปิดเจอการ์ดครบ 6 แล้วถึงเส้นชัย เกมของคนใดคนหนึ่งหยุดลงทันที อย่างเช่น 6 ตู้ได้เปิด 6 ป้าย ถ้าใครเปิดตู้เจอการ์ดได้น้อย คนนั้นจะเปิดได้น้อย หลังเล่นโดยมีทั้งหมด 12 ป้ายซึ่ง จะมี 0 อยู่ 3 ป้าย เลข 3,000 อยู่ 3 ป้าย เลข 5,000 อยู่ 3ป้าย ผู้สนับสนุนหลัก 3 ป้าย แขกรับเชิญท่านใดสะสมเงินรางวัลได้มากที่สุดจะได้เข้าไปหเล่นในรอบแจ็กพอตทันที ส่วนผู้แพ้จะไดรับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท โดยเกมนี้ใช้ตั้งแต่ปี 2540-2543
ในรอบนี้จะมีกุญแจในกรง 12 ดอก และตู้ในกรง 12 ตู้ โดยให้ทีละคนเข้าไปแล้วให้เวลาทั้งหมด 90 วินาที ถ้าใครเจอกุญแจแล้วไปที่ปุ่มเหยียบเมื่อเหยียบดีดแล้วไปเปิดตู้หาการ์ดไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเวลา ถ้าใครถึงเส้นชัย เกมของคนใดคนหนึ่งหยุดลงทันที อย่างเช่น 6 ตู้ได้เปิด 6 ป้าย ถ้าใครเปิดตู้เจอการ์ดได้น้อย คนนั้นจะเปิดได้น้อย หลังเล่นโดยมีทั้งหมด 12 ป้ายซึ่ง จะมี 0 อยู่ 3 ป้าย เลข 3,000 อยู่ 3 ป้าย เลข 5,000 อยู่ 3ป้าย ผู้สนับสนุนหลัก 3 ป้าย แขกรับเชิญท่านใดสะสมเงินรางวัลได้มากที่สุดจะได้เข้าไปหเล่นในรอบแจ็กพอตทันที ส่วนผู้แพ้จะไดรับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท โดยเกมนี้ใช้ตั้งแต่ปี 2540-2543


===รอบตัดสิน (รูปแบบที่ 2)===
===รอบตัดสิน (รูปแบบที่ 2)===

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:27, 28 พฤษภาคม 2562

07 โชว์
ประเภทวาไรตี้ทอล์คโชว์, เกมโชว์
พัฒนาโดยบริษัท เจเอสแอล จำกัด
เสนอโดยสัญญา คุณากร
สุวนันท์ คงยิ่ง
สันติสุข พรหมศิริ
เชษฐวุฒิ วัชรคุณ
วรรธนะ กัมทรทิพย์
ประเทศแหล่งกำเนิดไทย ไทย
ภาษาต้นฉบับไทย ไทย
การผลิต
ความยาวตอน2 ชั่วโมง (ยุคแรก)
1 ชั่วโมง 15 นาที (ยุคหลัง)
ออกอากาศ
เครือข่ายสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ไทย
ออกอากาศมีนาคม พ.ศ. 2540 –
17 ตุลาคม พ.ศ. 2553
การแสดงที่เกี่ยวข้อง
วิก 07
ศูนย์ 07

07 โชว์ เป็น รายการวาไรตี้เกมโชว์ทางโทรทัศน์ ของบริษัท เจเอสแอล จำกัด ที่ทำรายการให้กับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

ประวัติ

รายการ "07 โชว์" สร้างโดย เจเอสแอล ออกอากาศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 โดยเสนอเป็นประจำทุกเย็นวันอาทิตย์ ทางช่อง 7 สี โดยเป็นรายการสดประเภทวาไรตี้โชว์ ที่เสนอเรื่องเพลง ละคร และเกมการแข่งขัน ด้วยรูปแบบการนำเสนอที่สนุกสนาน ตื่นเต้น เข้าถึงผู้ชมได้ง่าย ลักษณะการถ่ายทำใช้ห้องส่งของเจเอสแอล แล้วทำการถ่ายทอดสดผ่านสถานีไปยังผู้ชมทั่วประเทศ รายการนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังได้สร้างศิลปินนักร้อง รวมทั้งนักแสดงมากมาย จนถึงปัจจุบัน

รายการออกอากาศครั้งสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 โดยเปลี่ยนเป็นรายการ กิ๊กดู๋ (ปัจจุบันใช้ชื่อว่า กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน ทางสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36) ร่วมกับบริษัท ทริปเปิ้ลทู จำกัด ซึ่งเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2553 รวมระยะเวลาการออกอากาศได้ 23 ปี (หากเริ่มนับจากรายการ วิก 07 และ ศูนย์ 07 อย่างต่อเนื่อง) [1]

ระยะเวลาออกอากาศ

  • ปี 2540 - 2541 วันอาทิตย์ เวลาประมาณ 15.00 น. - 17.00 น.
  • ปี 2541 - 2543 วันอาทิตย์ เวลา 15.45 น. - 17.30 น.
  • ปี 2544 - 2549 วันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. - 17.30 น.
  • ปี 2550 - 17 ต.ค.2553 วันอาทิตย์ เวลา 15.45 น. - 17.00 น.

พิธีกร

พิธีกรในอดีต

พิธีกรรับเชิญ

ช่วงต่าง ๆ ของรายการ

ประกวดร้องเพลง (รูปแบบแรก)

โดยก่อนร้องเพลง ให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกป้ายมา 1 ป้าย หลังเลือกป้ายผู้เข้าแข่งขันต้องร้องเพลงให้ถูกต้องแล้วถ้าใครมีคะแนนน้อยกว่า ตกรอบ ถ้าใครคะแนนเยอะ เข้ารอบ

ละครตลก

รอบตัดสิน (รูปแบบแรก)

ในรอบนี้จะมีกุญแจในกรง 12 ดอก และตู้ในกรง 12 ตู้ โดยให้ทีละคนเข้าไปแล้วให้เวลาทั้งหมด 90 วินาที ถ้าใครเจอกุญแจแล้วไปที่ปุ่มเหยียบเมื่อเหยียบดีดแล้วไปเปิดตู้หาการ์ดไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเวลา ถ้าใครถึงเส้นชัย เกมของคนใดคนหนึ่งหยุดลงทันที อย่างเช่น 6 ตู้ได้เปิด 6 ป้าย ถ้าใครเปิดตู้เจอการ์ดได้น้อย คนนั้นจะเปิดได้น้อย หลังเล่นโดยมีทั้งหมด 12 ป้ายซึ่ง จะมี 0 อยู่ 3 ป้าย เลข 3,000 อยู่ 3 ป้าย เลข 5,000 อยู่ 3ป้าย ผู้สนับสนุนหลัก 3 ป้าย แขกรับเชิญท่านใดสะสมเงินรางวัลได้มากที่สุดจะได้เข้าไปหเล่นในรอบแจ็กพอตทันที ส่วนผู้แพ้จะไดรับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท โดยเกมนี้ใช้ตั้งแต่ปี 2540-2543

รอบตัดสิน (รูปแบบที่ 2)

ในรอบนี้จะมีลูกบอลในอ่าง 16 ลูก โดยให้ผู้เข้าแข่งขันลงไปที่อ่างบอล ให้เวลาทั้งหมด 90 วินาที ต่อมาเป็น 120 วินาที ถ้าใครหยิบบอลแล้วปาบอลใส่ 8 goal เกมจะจบลงทันทีและได้เปิดป้าย 8 ป้าย ใครปาบอลใส่ goal ได้น้อยได้เปิดป้ายน้อย หลังเล่นโดยมีทั้งหมด 16 ป้าย จะมี 0 อยู่ 4 ป้าย เลข 3,000 อยู่ 4 ป้าย เลข 5,000 อยู่ 4ป้าย ผู้สนับสนุนหลัก 4 ป้าย ถ้าใครสะสมเงินรางวัลได้มากที่สุดคนนั้นเข้ารอบ ส่วนผู้แพ้จะไดรับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท โดยเกมนี้ใช้ตั้งแต่ปี 2543

รอบตัดสิน (รูปแบบที่ 3)

ในรอบนี้จะมี 16 ป้าย บางป้ายจะมีคะแนน 0,3000 และ 5000 ที่เหลือเป็นแผ่นป้ายสนับสนุนหลักและเกมต่างๆ ถ้าเปิดเจอแผ่นป้ายที่เป็นเกมก็เล่นเกมตามที่ป้ายบอก หลังจากเปิดป้ายเจอเกมแล้วก็แข่งกับผู้เข้าแข่งขันอีกคนหนึ่ง เมื่อคนใดคนหนึ่งเสร็จเกมจากป้ายก่อนเกมจากป้ายจะหยุดลง ถ้าใครมีคะแนนมากที่สุดจะได้เข้ารอบแจ็คพ๊อต ส่วนผู้ที่มีคะแนนน้อยกว่าตกรอบ

รอบแจ็กพอต (รูปแบบแรก)

ในรอบนี้จะมีเหรียญจำนวน 20 เหรียญในถังน้ำ โดยให้ผู้เข้าแข่งขันลงไปในถังแล้วใส่แว่นและให้เวลาทั้งหมด 1 นาที ถ้าผู้เข้าแข่งขันเก็บเหรียญจนครบ 20 เหรียญ เกมจะหยุดลงและได้รางวัล Jackpot มูลค่า 100,000 บาท แต่ถ้าหากหมดเวลาจะได้รับเงินเท่าที่ได้ หลังนับเหรียญแล้วผู้เข้าแข่งขันจะต้องไปเปิดป้ายสะสมรางวัล ถ้าหากเปิดป้ายสะสมเงินรางวัลได้มาก ก็ได้รับเงินแจ็กพอตไปสะสมของเก่าได้ ต่อมาจะเป็นการเปิดป้ายทายปริศนา เป็นไก่อยู่1ป้าย เป็นหมูอยู่1ป้าย ถ้าทายถูกแจ็คผอตที่สะสมกับของเก่าแตก ถ้าทายผิดอด ระยะที่3จะเป็นการเปิดป้ายสะสมทองคำ มีอยู่ 6 ป้าย แบ่งจำนวนน้ำหนักทองต่างๆ ถ้าได้2บาท ก็จะได้2บาท กับเงินรางวัลที่มีอยู่ ในระยะสุดท้ายหากเก็บเหรียญได้ไม่ถึง 20 เหรียญ จำนวนที่เหรียญที่ได้มานั้นนำไปคูณเงินรางวัล 3,000 บาท (ผู้สนับสนุนหลักในการชิงโชคคือ rejoice และทาโร ต่อมาเป็นคนอร์) ใช้ตั้งแต่ปี 2540-2545

รอบแจ็กพอต (รูปแบบที่ 2)

ในรอบให้ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบแจ็กพอตทั้ง 3 คน ชักคันโยกและให้ระดับน้ำจนถึงขีดทางรายการกำหนดไว้ภายในเวลา 90 วินาที ถ้าเวลาหมดคิดตามคันโยกที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 สะสมไว้ มีตั้งแต่ระดับ 3,000 / 5,000 / 10,000 / 50,000 และ สูงสุดแจ็กพอตถึง 100,000 บาท

รอบแจ็กพอต (รูปแบบที่ 3)

ในรอบให้ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 คน ที่เข้ารอบแจ็กพอตส่งตัวแทน 3 คน นั่งแท่นหมุนโดยหมุนแท่นหมุนจนครบ 10 รอบ โดยรอบแรกหมุน 30 วินาที และ รอบที่ 2 ไปเก็บสลากที่มีสัญลักษณ์ rejoice กลางอากาศ ภายในเวลา 60 วินาที รวมทั้ง 2 รอบ 90 วินาที ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 เก็บสลากตราสัญลักษณ์ rejoice จนครบ 30 แผ่น รับแจ็กพอตมูลค่า 100,000 บาททันที และ ถ้าหากไม่ครบ 30 แผ่นคิดตามจำนวนสลากที่ได้มานำมาคูณเงินรางวัล 3,000 บาทรับกลับบ้านไป

รอบแจ็กพอต (รูปแบบที่ 4)

หมุนป้าย เจอคำว่า rejoice ชนะทันทีรับแจ็กพอตแตก มูลค่า100,000บาท แต่ถ้าส่งทีมละ3ท่าน หมุนป้าย ครีมบำรุงผม rejoice แต่ถ้าทำแจ็กพอตไม่แตก มูลค่า10,000 บาทรับกลับบ้านไป

รอบเปิดป้าย

รอบเปิดป้าย (รูปแบบที่ 1)

โดยในรอบนี้จะผู้สบับสนุนอยู่ 18 ป้าย โดยมีเลข 0 - 15 อย่างละ 1 ป้าย ป้ายแจ็คพอต 3 ป้าย (ผู้สบับสนุนในขณะนั้นคือ ถั่วลันเตาอบกรอบ สแน็คแจ๊ค) โดยให้แต่ละทีมเลือกป้ายครั้งละ 1 ป้าย เพื่อหาคะแนน ทีมไหนทำคะแนนได้เยอะกว่าเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าในกรณี เจอป้ายแจ็คพอต ทีมนั้นจะชนะโดยอัตโมมัติทันที ทีมไหนชนะครบ 2 รอบ จะเข้าสู่รอบแจ็คพอตทันที

รอบเปิดป้าย (รูปแบบที่ 2)

โดยในรอบนี้จะดยในรอบนี้จะผู้สบับสนุนอยู่ 16 ป้าย โดยมีป้าย 1,000 บาท 4 ป้าย 2,000 บาท และ 3,000 บาท อย่างละ 3 ป้าย ป้ายโบนัส (รูปจักรยาน) และป้ายหยุด (รูปล้อจักรยาน) อีกอย่างละ 3 ป้าย (ผู้สบับสนุนในขณะนั้นคือ รถจักรยานเทอร์โบ) โดยกติกาคือผู้เข้าแข่งขันที่ชนะจากการโหวตทางบ้านเลือกป้าย เปิดต่อไปจนกว่าจะเจอตัวหยุด หรือ เปิดครบ 13 ป้าย โดยไม่เจอตัวหยุดเลย ซึ่งเงินรางวัลในรอบนี้จะเป็นเงินรางวัลสะสมในกรณีที่ทำแจ็คพอตไม่แตก

รอบเปิดป้าย (รูปแบบที่ 3)

โดยในรอบนี้จะผู้สบับสนุนอยู่ 14 ป้าย โดยมีรูปหน้าพิธีกรทั้ง 5 คน คนละ 3-4 ป้าย (ในแต่ละสัปดาห์) โดยแต่ละคนมี - 300 , - 500 , -1,000 และ 10,000 บาท (ผู้สบับสนุนในขณะนั้นคือ รถจักรยานเทอร์โบ ต่อมาเปลี่ยนเป็น แป้งเบบี้มายด์) โดยให้ทีมดารารับเชิญเลือกทีมละ 1 ป้าย เจอพิธีกรคนไหน คนนั้นต้องเตรียมตัวร้องเพลงทันที (ในกรณีที่เปิดเจอป้ายติดลบ คะแนนโหวตของทีมพิธีกรจะถูกลบจากแผ่นป้ายที่เปิดไว้ทันที ในกรณีที่เจอป้าย 10,000 บาท ทีมที่เปิดเจอจะได้รับเงินรางวัลทันที)

รอบเปิดป้าย (รูปแบบที่ 4)

โดยในรอบนี้จะมีผู้สบับสนุนอยู่ 14 ป้าย เป็นเงิน 5,000 บาท ทั้งหมด 9 ป้าย และตัวหยุดซึ่งเป็นหน้าพิธีกรทั้ง 5 คน คนละ 1 ป้าย (ผู้สบับสนุนในขณะนั้นคือ แป้งเบบี้มายด์) โดยให้ผู้เข้าแข่งขันที่ตกรอบจากการประกวด สู่ฝันปั้นดาว ในสัปดาห์นั้นเป็นคนเลือก เปิดได้เท่าไหร่เอาไปเท่านั้น

รอบเปิดป้าย (รูปแบบที่ 5)

โดยในรอบนี้จะมีผู้สบับสนุนอยู่ 14 ป้าย โดยมีป้ายพีธีกร (ยกเว้นคุณสัญญา) และผู้ชนะจากการประกวด สู่ฝันปั้นดาวอีก 3 คน เป็น 7 คน ต่อมาเป็นเพิ่มเชาเชาและเป็น 16 ป้าย (ผู้สบับสนุนในขณะนั้นคือ กาแฟเนเจอร์กิ๊ฟ) โดยให้ดารารับเชิญทั้ง 2 ทีมเลือกป้าย โดยรอบแรก เลือกแถวบน และรอบสอง เลือกแถวล่าง จนครบ 4 คนในแต่ละรอบ โดยต้องเล่นเกมให้ชนะทีมพิธีกร ถ้าชนะในแต่ละรอบได้ ก็จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท

รอบเปิดป้าย (รูปแบบที่ 6)

โดยในรอบนี้จะมีผู้สบับสนุนอยู่ 14 ป้าย โดยมีเลข 1 - 5 สลับกันอยู่ 13 ป้าย และ ป้ายพิเศษ 1 ป้าย ซึ่งเป็นเงินรางวัล 10,000 บาท และสามารถใช้แทนเลขไหนก็ได้ (ผู้สบับสนุนในขณะนั้นคือ กาแฟเนเจอร์กิ๊ฟ) โดยต้องทายว่า ป้ายต่อไป เล็กกว่า หรือ ใหญ่กว่า (ซึ่งกติกาจะคล้ายกับ พลิกล็อก) ถ้าทายถูกจะได้ป้ายละ 10,000 บาท หากทายถูกครบ 5 ป้าย จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท เงินรางวัลสูงสุดคือ 110,000 บาท

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น