ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฐานานุกรม"
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 219: | บรรทัด 219: | ||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
* '''พระครูใบฎีกา''' |
||
== รายนามฐานานุกรมของพระ |
== รายนามฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นต่างๆ == |
||
{|class="wikitable" |
{|class="wikitable" |
||
![[สมเด็จพระ |
![[สมเด็จพระราชาคณะ]] |
||
![[พระ |
![[พระราชาคณะเจ้าคณะรอง]] |
||
![[พระ |
![[พระราชาคณะชั้นธรรม]] |
||
!พระ |
!พระราชาคณะชั้นเทพ |
||
!พระ |
!พระราชาคณะชั้นราช |
||
!พระ |
!พระราชาคณะชั้นสามัญ |
||
|- |
|- |
||
| VALIGN = "TOP"| |
| VALIGN = "TOP"| |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:54, 21 พฤษภาคม 2562
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
ฐานานุกรม คือชื่อเรียกลำดับตำแหน่งสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทย ซึ่งภิกษุผู้มีตำแหน่งทางการปกครองหรือมีสมณศักดิ์สูงบางตำแหน่งมีสิทธิ์ตั้งพระรูปอื่นให้เป็นฐานากรมได้ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาต เช่น พระสงฆ์ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง เป็นต้น ไปจนกระทั่งถึงสมเด็จพระสังฆราชทรงตั้งฐานานุกรมได้ 15 ตำแหน่ง
ฐานานุกรมนั้นมีตำแหน่งที่เป็นหลัก 3 ตำแหน่ง คือ พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา หากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์ตั้งฐานานุกรมเป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นราชขึ้นไป พระฐานานุกรมที่ท่านเหล่านั้นตั้ง จะเรียก "พระครู" นำหน้าตำแหน่งฐานานุกรมนั้นทุกตำแหน่ง เช่น พระครูปลัด พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น
สิทธิในการให้พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สามารถแต่งตั้งพระฐานานุกรมได้ จะมีระบุไว้ในสัญญาบัตรพระราชทานสมณศักดิ์ ว่าให้สามารถตั้งได้เท่านั้นเท่านี้รูป ซึ่งพระสงฆ์ผู้ได้รับพระราชทานสิทธิในการตั้งพระฐานานุกรม จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้ หรือจะตั้ง แต่ตั้งเพียงจำนวนเท่าที่เห็นควรก็ได้ ไม่จำต้องตั้งทั้งหมด
ตำแหน่งเหล่านี้เดิมมีพัดยศของหลวงพระราชทานมาให้ แต่ปัจจุบันนี้ต้องจัดทำเอง โดยพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์แต่งตั้งฐานานุกรมจะแต่งตั้งพระสงฆ์รูปใดในศิษยานุศิษย์ของตน ก็สุดแล้วแต่อัธยาศัย ทางการไม่ได้เกี่ยวข้องในการแต่งตั้งพระฐานานุกรม เพียงแต่รับรู้เท่านั้น
ภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า พระฐานานุกรม ทุกรูปจัดเป็นพระมีสมณศักดิ์เหมือนพระสมณศักดิ์ที่ทรงแต่งตั้ง พระในตำแหน่งเหล่านี้บางทีเรียกประทวนสัญญาบัตร บ้าง ฐานาประทวน บ้าง และเนื่องจากสมณศักดิ์เหล่านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้พระราชทานเอง ดังนั้นเมื่อพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่ได้ตั้งฐานานุกรมไว้มรณภาพ ตำแหน่งฐานานุกรมต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นอันสิ้นสุดไปด้วย เรียกกันในภาษาปากว่า พระครูม่าย หรือ ฐานาม่าย จนกว่าจะได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมใหม่
ในอดีต ตำแหน่งฐานานุกรมบางตำแหน่งมีลำดับสมณศักดิ์สูงกว่าพระมหาเปรียญ จึงมีบางครั้งที่พระมหาเปรียญก็อาจได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมบ้าง ซึ่งเรียกกันในภาษาปากว่า ฐานาทรงเครื่อง หรือ พระครูทรงเครื่อง คือมีทั้งตำแหน่งมหาเปรียญและฐานานุกรมในคราวเดียวกัน
ประเภทของฐานานุกรม
ฐานานุกรมแบ่งได้ 4 ตำแหน่ง ได้แก่
- ฐานานุกรมชั้นพระราชาคณะพระราชินีคณะ ตำแหน่งนี้มีเฉพาะฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น มี 2 ตำแหน่งคือ พระราชาคณะปลัดขวาและพระราชาคณะซ้าย (บางสมัยอาจมีพระราชาพระราชินีคณะปลัดกลาง) และฐานานุกรมชั้นนี้สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่งเหมือนพระราชาคณะและพระราชินีคณะชั้นสามัญทั่วไป
- ฐานานุกรมชั้นพระครูปลัดมีราชทินนาม พระครูปลัดมีราชทินนามเป็นฐานานุกรมของพระราชินีคณะชั้นธรรมขึ้นไปจนถึงสมเด็จพระราชินีคณะ เมื่อได้ตั้งฐานานุกรมชั้นนี้แล้ว ต้องไปแจ้งที่กรมการศาสนาเพื่อขึ้นทะเบียน และจัดนิตยภัตถวายเช่นเดียวกับพระครูสัญญาบัตรทั่วไป
- ฐานานุกรมชั้นพระครูอื่น คือ ฐานานุกรมของพระราชาและพระราชินีคณะชั้นราชขึ้นไปจนถึงฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชบางตำแหน่ง เป็นตำแหน่งที่มีคำว่า "พระครู" นำหน้า เช่น พระครูปลัด พระครูวินัยธร เป็นต้น อนึ่ง พระครูฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราช 4 ตำแหน่งที่อยู่อยู่ระหว่างพระราชาคณะปลัดซ้ายกับพระครูวินัยธร มีสิทธิ์รับพระราชทานนิตยภัตเช่นเดียวกับพระครูปลัดมีราชทินนาม
- ฐานานุกรมชั้นธรรมดา ฐานานุกรมชั้นนี้เป็นของพระราชาและพระราชินีคณะชั้นสามัญ มี 3 ตำแหน่งคือ พระปลัด พระสมุห์ และพระใบฎีกา ไม่มีคำว่าพระครูนำหน้า
ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช
- สมเด็จพระสังฆราชที่สถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ได้แก่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน)[1] และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ[2]
- พระมหาคณิสร พุทธศาสนิกนิกรปสาทาภิบาล สกลสังฆประธานมหาสถาวีรกิจการี นายกบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา
- พระจุลคณิศร สัทธรรมนิติธรมหาเถราธิการ คณกิจบรรหารธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย
|
|
- สมเด็จพระสังฆราชที่สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
ได้แก่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ[3]
- พระมหานายก พุทธปาพจนดิลกโลกยปสาทาภิบาล สกลสังฆประธานมหาเถรกิจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา
- พระจุลนายก ธรรมนีติสาธกมหาเถราธิการ คณะกิจบรรหารธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย
|
|
- สมเด็จพระสังฆราชที่สถิต ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามและวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ได้แก่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ)[4] และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป[5]
- พระทักษิณคณาธิกร สุนทรธรรมสาธก พุทธปาพจนดิลกมหาเถรกิจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา
- พระอุดรคณาภิรักษ์ อัครศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธิการธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย
|
|
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ[6]
- พระมหาคณานุศิษฏ์ สังฆอิสริยาลงกรณ์ สุนทรธรรมสาทก พุทธปาพจนดิลกมหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา
- พระจุลคณานุศาสก์ วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธุรกิจจการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย
|
|
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ[7]
- พระมหาคณานุศิษฏ์ สังฆอิสริยาลงกรณ์ สุนทรธรรมสาธก พุทธปาพจนดิลกมหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา
- พระจุลคณานุศาสน์ วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธิการธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย
|
|
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ[8]
- พระครูมหาคณานุสิชฌม์ สังฆอิศริยาลังการ วิจารณโกศล วิมลสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต พระครูปลัดขวา
- พระครูจุลคณานุสาสน์ วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรสังฆานุคุตติ วิสุทธิสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต พระครูปลัดซ้าย
|
|
ตั้งฐานานุกรมได้ 16 รูป คือ[9]
- พระครูปลัดสัมพิพรรฒศีลาจารย์ ญาณวิมล สกลคณิศร อุดรสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต
- พระครูปลัดวาจีคณานุสิชฌน์ สังฆอิศริยาลังการ วิจารณกิจโกศล วิมลสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต
- พระครูปลัดอุทิจยานุสาสน์ วิจารโณภาษภาคยคุณ สุนทรสังฆานุคติ วิสุทธิสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต
|
|
รายนามฐานานุกรม ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
- พระทักษิณคณิสสร บวรสังฆสิทธิการ วิจารณกิจโกศล สกลมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต พระราชาคณะปลัดขวา
- พระอุดรคณารักษ์ อรรควิจารณคุณ วิบุลญาณอนันต์ สรรพมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต พระราชาคณะปลัดซ้าย
- พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ พิศาลวรกิจโกศล โสภณศีลาจารนืวิฐ พิพิธมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต พระราชาคณะปลัดกลาง
|
|
ตามประกาศ ตำแหน่งพระสงฆ์สมณศักดิ์ คณะกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระอัฎฐิพระ ถานานุกรมในพระอัฎฐิ 17 รูป[10]
- พระครูปลัดอริยวงษาจาริย์ญาณมุนีศรีสังฆปรินายก พระครูปลัดขวา
- พระครูปลัดเทพสิทธิเทพาธิบดี พระครูปลัดซ้าย
- พระครูทักษิณคณิศร
- พระครูอุดรคณารักษ์ ผู้ดูการวัด
- พระครูสมุห์วรอรรคณิศรสิทธิการ
- พระครูไพโรจน์ราชสังฆาราม
- พระครูวิสุทธิสมโพธิ์
- พระครูไกรสรประสิทธิ์
- พระครูวิธยาคม
- พระครูอุดมสังวร
- พระครูอมรวิไชย์
- พระครูวินัยธร
- พระครูธรรมธร
- พระครูสุนทรโฆสิต
- พระครูวิจิตรโฆษา
- พระครูสังฆบริรักษ์
- พระครูใบฎีกา
รายนามฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นต่างๆ
สมเด็จพระราชาคณะ | พระราชาคณะเจ้าคณะรอง | พระราชาคณะชั้นธรรม | พระราชาคณะชั้นเทพ | พระราชาคณะชั้นราช | พระราชาคณะชั้นสามัญ |
---|---|---|---|---|---|
|
|
|
|
|
|
- หมายเหตุ
- ↑ ยกเว้นพระครูปลัด ฐานานุกรมในพระสาสนโสภณ จะมีราชทินนามว่า พระครูปลัดอรรถจริยานุกิจ
- ↑ ในพระราชาคณะชั้นธรรมบางรูป จะมีฐานานุกรมที่ลงท้ายด้วย "วัตร" เช่น พระธรรมราชานุวัตร มีพระครูปลัด มีราชทินนามว่า พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร เป็นต้น
อ้างอิง
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช), พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เล่ม ๙๑, ตอนที่ ๑๐๖ ฉบับพิเศษ, วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๑๗, หน้า ๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชโองการ ประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช, เล่ม ๑๓๔, ตอนที่ ๕ข, วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐, หน้า ๒-๓
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2532/A/063/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๖๓ วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๓๒ ฉบับพิเศษ หน้า ๖-๗
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2503/A/038/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๗ ตอนที่ ๓๘ วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๐๓ ฉบับพิเศษ หน้า ๗
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2515/A/114/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๙ ตอนที่ ๑๑๔ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๑๕ ฉบับพิเศษ หน้า ๖-๗
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2508/A/102/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๑๐๒ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๐๘ ฉบับพิเศษ หน้า ๕-๖
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2506/A/045/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๐ ตอนที่ ๔๕ วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๐๖ ฉบับพิเศษ หน้า ๔
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๖ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๔๘๒ หน้า ๑๗๘๓-๑๗๘๔
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2436/036/388.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 10 หน้า 389-390
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ ตำแหน่งพระสงฆ์สมณศักดิ์ คณะกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระอัฎฐิพระ, เล่ม ๙, ตอนที่ ๑๗, ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๕, หน้า ๑๑๒