ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ฟร็องซัว (คุย | ส่วนร่วม)
ฟร็องซัว (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 52: บรรทัด 52:
|ลำดับโปเจียม =
|ลำดับโปเจียม =
}}
}}
เจ้าหญิงมาซาโกะดำรงพระราชอิสริยยศตั้งแต่ทรงอภิเษกสมรส เป็น '''เจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น พระวรชายา''' และพระราชสวามะจเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์จะกลายเป็น '''สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ'''
เจ้าหญิงมาซาโกะดำรงพระราชอิสริยยศตั้งแต่ทรงอภิเษกสมรส เป็น '''เจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น พระวรชายา''' และพระราชสวามีเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์จะกลายเป็น '''สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ'''


== พงศาวลี ==
== พงศาวลี ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:39, 25 เมษายน 2562

เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น
มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น
ประสูติ9 ธันวาคม พ.ศ. 2506 (60 ปี)
โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น
พระราชสวามีเจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น
พระราชบุตรเจ้าหญิงไอโกะ เจ้าหญิงโทะชิ
มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น
ราชวงศ์ญี่ปุ่น (เสกสมรส)
พระราชบิดาฮิซะชิ โอะวะดะ
พระราชมารดายุมิโกะ เอะงะชิระ

เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 皇太子徳仁親王妃雅子โรมาจิ: 'โคไตชินะรุฮิโตะ ชินโนฮิ มาซาโกะ', พระราชสมภพ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2506) พระวรชายาในเจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ โดยสมาชิกราชวงศ์ราชวงศ์ญี่ปุ่นหลังจากการอภิเษกสมรส

พระราชประวัติ

เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น มีพระนามเดิมว่า มาซาโกะ โอวาดะ พระราชสมภพเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2506 เป็นธิดาคนโตของนายฮิซะชิ โอะวะดะ กับนางยุมิโกะ (สกุลเดิม เอะงะชิระ) มีพระขนิษฐาฝาแฝดคือ เซะสึโกะ และเรโกะ[1]

เจ้าหญิงมาซาโกะได้เสด็จพระราชดำเนินย้ายไปประทับที่มอสโกตอนพระชนมายุ 2 พรรษา และสำเร็จการศึกษาชั้นอนุบาลที่มอสโก และได้เสด็จพระราชดำเนินกลับมาศึกษาต่อในโรงเรียนหญิงล้วนในญี่ปุ่นชื่อว่า "เดะเย็ยโชะฟุ ฟุทะบะ" ในโตเกียว หลังจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินย้ายไปประทับที่สหรัฐอเมริกาเนื่องจากบิดาของเจ้าหญิงมาซาโกะได้รับการคัดเลือกเป็น อาจาร์ยพิเศษในมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และเป็นรองทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐอเมริกา โดยมะซะโกะสำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนเบลมอนต์ไฮสคูล ในเบลมอนต์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ใกล้กับบอสตัน

ต่อมาเจ้าหญิงมาซาโกะ ได้ศึกษาต่อในสายเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ยังไม่จบ แต่ก็รับปริญญาในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากวิทยาลัยBalliol ในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ที่ฮาร์วาร์ดของเธอคือเจฟฟรี่ แชคส์ ต่อมาเจ้าหญิงมาซาโกะได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยโตเกียวซึ่งบิดาของเธอทำงานอยู่ที่นั่น เพื่อเตรียมสอบที่กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น[2]

ธงประจำมกุฎราชกุมารี

นอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว เจ้าหญิงมาซาโกะสามารถรับสั่งภาษาอื่นได้ เช่น ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส ทั้งยังสามารถรับสั่งภาษาเยอรมัน รัสเซีย และสเปน ในระดับมาตรฐานได้[3][4]

ชีวิตในราชสำนัก

พระจริยวัตร

ก่อนการอภิเษกสมรส ประชาชนและผู้คนส่วนใหญ่ต่างหวังว่า มาซาโกะ ผู้ซึ่งมีภาพลักษณ์ของคนสมัยใหม่ จะสามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ของราชสำนักที่คร่ำครึได้ แต่สถานการณ์ภายหลังการอภิเษกสมรสกลับไม่เป็นดังที่ผู้คนหวัง เจ้าหญิงมาซาโกะแทบจะไม่เคยปรากฏพระองค์ในที่สาธารณะ นอกเสียจากพิธีการสำคัญ ๆ เท่านั้น ผู้คนตั้งข้อสังเกตว่าหากทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแล้วจะทรงแย่งรัศมี ไปจากเจ้าฟ้าชายนะรุฮิโตะ พระสวามี ดังเช่นกรณีเจ้าหญิงไดอานา

ด้วยเหตุที่แทบจะไม่ได้เสด็จออกต่อสาธาณะชน จึงมีคนเรียกขานพระองค์เสียใหม่เป็น “เจ้าหญิงผู้เงียบเชียบ” ทรงกลายเป็นคนไม่มีปากมีเสียง และแทบจะไม่เคยตรัสกับเหล่าพสกนิกรที่มาเข้าเฝ้าฯ นอกจากทรงแย้มพระสรวลให้เท่านั้น

ความคาดหวังต่อการให้ประสูติพระรัชทายาท

แม้ว่าจะทรงเข้าราชสำนักมาแล้วหลายปี แต่ก็ยังไม่ทรงมีวี่แววว่าจะทรงพระครรภ์ ทางสำนักพระราชวังและเหล่าประชาชนต่างหวังให้พระองค์ทรงพระครรภ์โดยเร็ว เนื่องด้วยพระชนมายุก็มากขึ้นทุกขณะ แม้ว่ามกุฎราชกุมารจะทรงช่วยตรัสเพื่อลดความสนใจของผู้คนลง แต่สื่อก็ยังคงรายงานเรื่องการทรงพระครรภ์ของเจ้าหญิง ทรงถูกจับจ้องทุกพระอิริยาบถอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้เองกลายเป็นความกดดันให้แก่พระองค์เป็นอย่างมาก จนทรงแท้งในการทรงพระครรภ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 การแท้งครั้งนี้ได้นำความเสียพระทัยอย่างสาหัสมาสู่เจ้าหญิงมาซาโกะ และสร้างความผิดหวังแก่เหล่าผู้คนอย่างมาก จนสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะต้องทรงมีพระราชดำรัสผ่านสื่อว่า "ไม่มีใครหรอกที่จะเข้าใจความรู้สึกของมาซาโกะว่าจะต้องใช้ความพยายามสักเพียงไหนกับการตั้งครรภ์ครั้งแรก ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าเธอคงรู้ว่าเธออยากระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจให้ใครสักคนฟัง ข้าพเจ้าก็พร้อมที่จะเป็นคนคนนั้น ข้าพเจ้าจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ"

ในที่สุด ปี พ.ศ. 2544 เจ้าหญิงมาซาโกะทรงมีพระประสูติกาล เจ้าหญิงไอโกะ ซึ่งสามารถบรรเทาความกังวลของสาธารณชนลงได้ส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามกฏมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ บัญญัติห้ามสตรีขึ้นครองราชย์ เรื่องนี้นำไปสู่การถกเถียงกันขนานใหญ่ว่าสมควรจะต้องมีการแก้กฎมณเฑียรบาลเสียใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหญิงไอโกะได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดา แต่สำนักพระราชวังและรัฐสภาของก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในเรื่องนี้

ความคาดหวังให้ทรงมีพระราชโอรสกลายเป็นความกดดันใหม่แก่ทั้งมกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงมาซาโกะ เจ้าหญิงทรงเครียดจัดและมีภาวะซึมเศร้าจนส่งผลไปถึงพระพลานามัย ที่ทำให้ต้องทรงประทับ รักษาพระองค์อยู่แต่ในวังตั้งแต่ปี พ.ศ 2545 โดยไม่ได้เสด็จออกสู่สาธารณชนอีกเลย นอกจากเฉพาะในงานพิธีการสำคัญ อาทิ วันเฉลิมพระชนพรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดิ เป็นต้น

พระราชอิสริยยศ

ธรรมเนียมพระยศของ
มกุฏราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น
ธงประจำพระอิสริยยศ
การทูลโคไตชิฮิ (皇太子妃)
หรือ ชินโนฮิ (親王妃)
การแทนตนโบะกุ (บุรุษ) / วะตะชิ (สตรี)
การขานรับเด็งกะ (殿下)

เจ้าหญิงมาซาโกะดำรงพระราชอิสริยยศตั้งแต่ทรงอภิเษกสมรส เป็น เจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น พระวรชายา และพระราชสวามีเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์จะกลายเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ

พงศาวลี

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
คะเนะโยชิ โอะวะดะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ทะเคะโอะ โอะวะดะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ทะเคะโนะ โคงะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ฮิซะชิ โอะวะดะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
มะตะชิโระ ทะมุระ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชิซุกะ ทะมุระ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจ้าหญิงมะซะโกะ
(มะซะโกะ โอะวะดะ)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ยะซุตะโร เอะงะชิระ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ยุทะกะ เอะงะชิระ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โยะเนะโกะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ยุมิโกะ เอะงะชิระ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ทานิน ยะมะยะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ซึซึโกะ ยะมะยะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ซะดะโกะ นิวะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

อ้างอิง

  1. "The Princess Bride". People Magazine. June 21, 1993. {{cite web}}: ไม่อนุญาตให้ใช้มาร์กอัปตัวเอียงหรือตัวหนาใน: |work= (help)
  2. "Weight of Imperial world on Princess Masako" The Japan Times. May 19, 2009. Retrieved November 4, 2009.
  3. Hills, Ben (2006). Princess Masako: Prisoner of the Chrysanthemum Throne. VNU Business Media, Inc. p. 336. ISBN 1585425680. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |coauthors= (help)
  4. Ruoff, Kenneth (2003). The People's Emperor: Democracy and the Japanese Monarchy, 1945-1995. VNU Business Media, Inc. p. 331. ISBN 0674008405. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |coauthors= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น