ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อ็อทโทที่ 1 มหาราช"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox royalty |
{{Infobox royalty |
||
| type = monarch |
| type = monarch |
||
| name = |
| name = อ็อทโทที่ 1 มหาราช |
||
| more = Emperor of the Holy Roman Empire |
| more = Emperor of the Holy Roman Empire |
||
| image = Alter Markt (Magdeburg-Altstadt).Magdeburger Reiter edit.jpg |
| image = Alter Markt (Magdeburg-Altstadt).Magdeburger Reiter edit.jpg |
||
บรรทัด 8: | บรรทัด 8: | ||
| reign2 = 2 กรกฎาคม 936 – 7 พฤษภาคม 973 |
| reign2 = 2 กรกฎาคม 936 – 7 พฤษภาคม 973 |
||
| predecessor2 = [[พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 แห่งเยอรมนี|พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1]] |
| predecessor2 = [[พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 แห่งเยอรมนี|พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1]] |
||
| successor2 = [[จักรพรรดิ |
| successor2 = [[จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2]] |
||
| coronation2 = 7 สิงหาคม 936<br>ณ [[อาเคิน]] |
| coronation2 = 7 สิงหาคม 936<br>ณ [[อาเคิน]] |
||
| succession1 = [[พระมหากษัตริย์อิตาลี|กษัตริย์แห่งอิตาลี]] |
| succession1 = [[พระมหากษัตริย์อิตาลี|กษัตริย์แห่งอิตาลี]] |
||
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
| coronation1 = 10 ตุลาคม 951{{efn|[[Berengar II]] ruled from 952 until 961 as "King of Italy", but as Otto's vassal.}}<br>ณ [[ปาวีอา]] |
| coronation1 = 10 ตุลาคม 951{{efn|[[Berengar II]] ruled from 952 until 961 as "King of Italy", but as Otto's vassal.}}<br>ณ [[ปาวีอา]] |
||
| predecessor1 = [[เบเรนการ์ที่ 2 แห่งอิตาลี|พระเจ้าเบเรนการ์ที่ 2]] |
| predecessor1 = [[เบเรนการ์ที่ 2 แห่งอิตาลี|พระเจ้าเบเรนการ์ที่ 2]] |
||
| successor1 = [[จักรพรรดิ |
| successor1 = [[จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2]] |
||
| succession = [[จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] |
| succession = [[จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] |
||
| reign = 2 กุมภาพันธ์ 962 – 7 เมษายน 973 |
| reign = 2 กุมภาพันธ์ 962 – 7 เมษายน 973 |
||
| coronation = 2 กุมภาพันธ์ 962{{sfn|Heather|2014|p=281}}<br>ณ กรุงโรม |
| coronation = 2 กุมภาพันธ์ 962{{sfn|Heather|2014|p=281}}<br>ณ กรุงโรม |
||
| predecessor = [[เบเรนการ์ที่ 2 แห่งอิตาลี|พระเจ้าเบเรนการ์ที่ 2]] |
| predecessor = [[เบเรนการ์ที่ 2 แห่งอิตาลี|พระเจ้าเบเรนการ์ที่ 2]] |
||
| successor = [[จักรพรรดิ |
| successor = [[จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2]] |
||
| succession3 = ดยุกแห่งซัคเซิน |
| succession3 = ดยุกแห่งซัคเซิน |
||
| reign3 = 2 กรกฎาคม 936 – 7 พฤษภาคม 973 |
| reign3 = 2 กรกฎาคม 936 – 7 พฤษภาคม 973 |
||
บรรทัด 26: | บรรทัด 26: | ||
| successor3 = [[Bernard I, Duke of Saxony|เบอร์นาร์ดที่ 1]] |
| successor3 = [[Bernard I, Duke of Saxony|เบอร์นาร์ดที่ 1]] |
||
| full name = |
| full name = |
||
| house = |
| house = อ็อทโท |
||
| house-type = ราชวงศ์ |
| house-type = ราชวงศ์ |
||
|spouse=[[Eadgyth|แอดกิธแห่งอังกฤษ]] (930–946)<br>อาเดลาอีเดแห่งอิตาลี (951–973) |
|spouse=[[Eadgyth|แอดกิธแห่งอังกฤษ]] (930–946)<br>อาเดลาอีเดแห่งอิตาลี (951–973) |
||
บรรทัด 41: | บรรทัด 41: | ||
{{ใช้ปีคศ|width=264px}} |
{{ใช้ปีคศ|width=264px}} |
||
''' |
'''อ็อทโทที่ 1 มหาราช''' ({{lang-de|Otto I. der Große}})<ref>Otto I, Holy Roman Emperor[http://www.answers.com/topic/otto-i-holy-roman-emperor]</ref> ทรงเป็นกษัตริย์แห่ง[[อาณาจักรแฟรงก์ตะวันออก]] (ชื่อเรียกบริเวณที่เป็นประเทศเยอรมนีในยุคนั้น) ในปี ค.ศ. 936 และทรงเป็น[[จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]]ตั้งแต่ปี ค.ศ. 962 จนสวรรคตในปี ค.ศ. 973 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ใน[[พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 แห่งเยอรมนี|พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1]]กับพระนางมาทิลเดอแห่งริงเงิลไฮม์ |
||
พระองค์ได้ขึ้นสืบบัลลังก์แห่ง[[ดัชชีซัคเซิน]]และบัลลังก์เยอรมันภายหลังที่พระราชบิดาสวรรคตในปี ค.ศ. 936 และออกพระนามว่า '''พระเจ้า |
พระองค์ได้ขึ้นสืบบัลลังก์แห่ง[[ดัชชีซัคเซิน]]และบัลลังก์เยอรมันภายหลังที่พระราชบิดาสวรรคตในปี ค.ศ. 936 และออกพระนามว่า '''พระเจ้าอ็อทโทที่ 1 แห่งเยอรมนี''' เมื่อขึ้นครองราชสมบัติแล้วพระองค์ก็เจริญรอยตามพระปณิธานของพระราชบิดาที่จะรวบรวมแผ่นดินของชนเยอรมันให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง พระราชอำนาจของพระองค์แผ่ขยายไปอย่างกว้างไกลผ่านชั้นเชิงการเมืองที่เยี่ยมยอด ไม่ว่าจะด้วยวิธีแต่งงานทางการเมืองหรือการแต่งตั้งสมาชิกพระราชวงศ์ของพระองค์ไปปกครองดัชชีและดินแดงต่างๆ นโยบายของพระองค์ได้ลดอำนาจและจำนวนดยุกลงไปมาก ซึ่งแต่ก่อนทำหน้าที่ปกครองดินแดนร่วมกับกษัตริย์ ดยุกจำนวนมากแปรสถานะจากผู้ปกครองอิสระมาเป็นผู้ปกครองใต้พระราชอำนาจของพระองค์ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงนำศาสนจักร[[โรมันคาทอลิก]]เข้ามาสู่อาณาจักรเพื่อเสริมสร้างพระราชอำนาจของพระองค์ |
||
หลังทรงจัดการสงครามกลางเมืองระหว่างดัชชีต่างๆได้ พระองค์ก็สามารถมีชัยเหนือพวกแมกยาร์ (ฮังการี) ในยุทธการที่เลชเฟิลด์ ค.ศ. 955 ได้ ทำให้ยุโรปตะวันตกพ้นภัยจากการรุกรานของฮังการี{{sfn|Reuter|1991|p=254}} นอกจากนี้ การมีชัยเหนือพวกฮังการี[[ลัทธินอกศาสนา|นอกศาสนา]]ยังทำให้พระองค์มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างมากในฐานะ "ผู้กอบกู้แห่งคริสตจักร" ต่อมาในปี ค.ศ. 961 พระองค์สามารถพิชิต[[ราชอาณาจักรอิตาลี]] และขยายดินแดนของพระองค์ไปทางเหนือ, ตะวันออก และใต้ ในปีค.ศ. 962 พระองค์ทรงราชาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยให้พระสันตะปาปาสวมมงกุฎให้ในกรุงโรม เหมือนอย่างที่[[ชาร์เลอมาญ]]เคยทำ |
หลังทรงจัดการสงครามกลางเมืองระหว่างดัชชีต่างๆได้ พระองค์ก็สามารถมีชัยเหนือพวกแมกยาร์ (ฮังการี) ในยุทธการที่เลชเฟิลด์ ค.ศ. 955 ได้ ทำให้ยุโรปตะวันตกพ้นภัยจากการรุกรานของฮังการี{{sfn|Reuter|1991|p=254}} นอกจากนี้ การมีชัยเหนือพวกฮังการี[[ลัทธินอกศาสนา|นอกศาสนา]]ยังทำให้พระองค์มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างมากในฐานะ "ผู้กอบกู้แห่งคริสตจักร" ต่อมาในปี ค.ศ. 961 พระองค์สามารถพิชิต[[ราชอาณาจักรอิตาลี]] และขยายดินแดนของพระองค์ไปทางเหนือ, ตะวันออก และใต้ ในปีค.ศ. 962 พระองค์ทรงราชาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยให้พระสันตะปาปาสวมมงกุฎให้ในกรุงโรม เหมือนอย่างที่[[ชาร์เลอมาญ]]เคยทำ |
||
บรรทัด 52: | บรรทัด 52: | ||
== ก่อนครองบัลลังก์ == |
== ก่อนครองบัลลังก์ == |
||
อ็อทโทเป็นพระโอรสของ[[พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 แห่งเยอรมนี|พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1]] แห่งลิวดอลฟิงหรือราชวงศ์ซัคเซิน (ขณะนั้นยังไม่เป็นกษัตริย์) กับ[[แมธิล์เดอแห่งริงเงินเฮล์ม|แมธิล์เดอ]] พระมเหสีคนที่สอง ข้อมูลชีวิตช่วงวัยเด็กของพระองค์มีไม่มาก แต่เชื่อกันว่าพระองค์น่าจะเคยร่วมทำศึกกับพระเจ้าไฮน์ริชอยู่หลายครั้งในช่วงปลายวัยรุ่น ในปี ค.ศ. 930 อ็อทโทสมรสกับ[[อีดจิธแห่งเวสเซ็กซ์ สมเด็จพระราชินีแห่งเยอรมนี|อีดจิธ]] พระธิดาของ[[เอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโส|พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโสแห่งอังกฤษ]] อีดิธให้กำเนิดพระโอรสหนึ่งคนกับพระธิดาหนึ่งคน |
|||
[[ไฟล์:Aachener Dom BW 2016-07-09 13-53-18.jpg|thumb|ภาพมุมข้างของบัลลังก์ชาร์เลอมาญใน[[อาสนวิหารอาเคิน]]ที่พระเจ้า |
[[ไฟล์:Aachener Dom BW 2016-07-09 13-53-18.jpg|thumb|ภาพมุมข้างของบัลลังก์ชาร์เลอมาญใน[[อาสนวิหารอาเคิน]]ที่พระเจ้าอ็อทโทเข้ารับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์ในปี ค.ศ. 936]] |
||
พระเจ้า |
พระเจ้าไฮน์ริชประกาศให้อ็อทโทเป็นผู้สืบบัลลังก์ของพระองค์ หนึ่งเดือนต่อมาพระเจ้าไฮน์ริชสิ้นพระชนม์ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 936 ดยุคของเยอรมนีได้เลือกอ็อทโทเป็นกษัตริย์ พระองค์ได้รับการสวมมงกุฎจากอาร์ชบิชอปแห่งไมนซ์และอาร์ชบิชอปแห่งโคโลญที่[[อาเคิน]] นครซึ่งเคยเป็นที่พำนักโปรดของ[[ชาร์เลอมาญ|จักรพรรดิชาร์เลอมาญ]] พระองค์มีพระชนมายุ 23 พรรษาขณะขึ้นเป็นกษัตริย์ |
||
== กษัตริย์แห่งเยอรมนี == |
== กษัตริย์แห่งเยอรมนี == |
||
[[ไฟล์:Central Europe, 919-1125.jpg|left|thumb|[[ยุโรปกลาง]]ในช่วงปี ค.ศ. 919–1125 [[ราชอาณาจักรเยอรมนี]]ประกอบด้วย[[ดัชชีซัคเซิน]] (เหลือง), [[ดัชชีฟรังโกเนีย]] (ฟ้า), [[ดัชชีบาวาเรีย]] (เขียว), [[ดัชชีชวาเบิน]] (ส้ม), [[ดัชชีลอแรน]] (ชมพูที่เหลือ)]] |
[[ไฟล์:Central Europe, 919-1125.jpg|left|thumb|[[ยุโรปกลาง]]ในช่วงปี ค.ศ. 919–1125 [[ราชอาณาจักรเยอรมนี]]ประกอบด้วย[[ดัชชีซัคเซิน]] (เหลือง), [[ดัชชีฟรังโกเนีย]] (ฟ้า), [[ดัชชีบาวาเรีย]] (เขียว), [[ดัชชีชวาเบิน]] (ส้ม), [[ดัชชีลอแรน]] (ชมพูที่เหลือ)]] |
||
กษัตริย์หนุ่มต้องการที่จะขึ้นมามีอำนาจเหนือเหล่าดยุคซึ่งพระบิดาของพระองค์ไม่เคยทำได้ นโยบายดังกล่าวก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในทันที เอเบอร์ฮาร์ดแห่งฟรังโกเนีย, เอเบอร์ฮาร์ดแห่งบาวาเรีย และกลุ่มชาวซัคเซินผู้ไม่พอใจที่มีแธงค์มาร์ พระเชษฐาต่างมารดาของพระเจ้า |
กษัตริย์หนุ่มต้องการที่จะขึ้นมามีอำนาจเหนือเหล่าดยุคซึ่งพระบิดาของพระองค์ไม่เคยทำได้ นโยบายดังกล่าวก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในทันที เอเบอร์ฮาร์ดแห่งฟรังโกเนีย, เอเบอร์ฮาร์ดแห่งบาวาเรีย และกลุ่มชาวซัคเซินผู้ไม่พอใจที่มีแธงค์มาร์ พระเชษฐาต่างมารดาของพระเจ้าอ็อทโทเป็นผู้นำเริ่มกระด้างกระเดื่องในปี ค.ศ. 937 แต่ถูกพระเจ้าอ็อทโทกำราบเรียบอย่างรวดเร็ว แธงค์มาร์ถูกสังหาร เอเบอร์ฮาร์ดแห่งบาวาเรียถูกปลดจากตำแหน่ง ส่วนเอเบอร์ฮาร์ดแห่งฟรังโกเนียยอมสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์ |
||
แต่การสวามิภักดิ์ของเอเบอร์ฮาร์ดเป็นเพียงการแสดงตบตา ในปี ค.ศ. 939 เขาได้ร่วมกับกิเซลแบร์ตแห่งโลธาริงเกียและ[[ไฮน์ริชที่ 1 ดยุคแห่งบาวาเรีย|ไฮน์ริช]] พระอนุชาของพระเจ้า |
แต่การสวามิภักดิ์ของเอเบอร์ฮาร์ดเป็นเพียงการแสดงตบตา ในปี ค.ศ. 939 เขาได้ร่วมกับกิเซลแบร์ตแห่งโลธาริงเกียและ[[ไฮน์ริชที่ 1 ดยุคแห่งบาวาเรีย|ไฮน์ริช]] พระอนุชาของพระเจ้าอ็อทโทก่อกบฎต่อพระเจ้าอ็อทโทโดยมี[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศส]]ให้การสนับสนุน ครั้งนี้เอเบอร์ฮาร์ดถูกสังหารในสมรภูมิ ส่วนกิเซลแบร์ตจมน้ำเสียชีวิตขณะกำลังหนี ไฮน์ริชยอมสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์และพระเจ้าอ็อทโทเองก็ให้อภัย ไฮน์ริชที่ยังคงคิดว่าตนเองคือคนที่พระบิดาอยากให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้สมคบคิดวางแผนฆาตกรรมพระเจ้าอ็อทโทในปี ค.ศ. 941 แผนการถูกเปิดโปงและทุกคนที่ร่วมกันสมคบคิดถูกลงโทษยกเว้นไฮน์ริชที่ได้รับการให้อภัยอีกครั้ง ความเมตตาของพระเจ้าอ็อทโททำให้ไฮน์ริชภักดีต่อพระเชษฐานับตั้งแต่นั้นมาและในปี ค.ศ. 947 พระองค์ได้รับพระราชทานตำแหน่งดยุคแห่งบาวาเรีย ตำแหน่งดยุคของเยอรมนีตำแหน่งอื่นๆ ตกเป็นของเหล่าพระญาติของพระเจ้าอ็อทโท |
||
ในช่วงที่การแก่งแย่งชิงดีภายในดำเนินอยู่นั้น พระเจ้า |
ในช่วงที่การแก่งแย่งชิงดีภายในดำเนินอยู่นั้น พระเจ้าอ็อทโทได้เสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันและได้ขยายขอบเขตอาณาจักรของพระองค์ ทรงปราบ[[ชาวสลาฟ]]ทางฝั่งตะวันออกและได้พื้นที่ส่วนหนึ่งของเดนมาร์กมาอยู่ใต้การปกครอง ทรงตั้งตำแหน่งบิชอปในดินแดนดังกล่าวเพื่อผนึกความเป็นเจ้าประเทศราชของเยอรมนีในดินแดนนั้น โบฮีเมียสร้างปัญหาให้แก่พระเจ้าอ็อทโท แต่พระองค์ก็บีบเจ้าชายโบลสวัฟที่ 1 ให้ยอมจำนนได้ในปี ค.ศ. 950 และบังคับให้จ่ายบรรณาการให้แก่พระองค์ เมื่อฐานในบ้านเกิดแข็งแกร่ง พระเจ้าอ็อทโทไม่เพียงกำจัดการอ้างสิทธิ์ในโลธาริงเกียของฝรั่งเศสได้ แต่พระองค์ยังเข้าไปเป็นตัวลางไกล่เกลี่ยปัญหาภายในของฝรั่งเศสด้วย |
||
[[ไฟล์:Meissner-dom-stifter.jpg|thumb|รูปปั้นของพระเจ้า |
[[ไฟล์:Meissner-dom-stifter.jpg|thumb|รูปปั้นของพระเจ้าอ็อทโทที่ 1 (ขวา) กับอาเดอแลดในอาสนวิรไมเซิน พระเจ้าอ็อทโทกับอาเดอแลดอภิเสกสมรสกันหลังทรงผนวกอิตาลี]] |
||
อีดิธสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 946 ปี ค.ศ. 951 พระเจ้า |
อีดิธสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 946 ปี ค.ศ. 951 พระเจ้าอ็อทโทบุกอิตาลีที่เบเรนการ์แห่งอิฟเรอา ลอร์ดของอิตาลีได้ทำการยึดบัลลังก์และลักพาตัว[[อาเดอแลดแห่งอิตาลี จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|อาเดอแลด]] เจ้าหญิงบูร์กอญซึ่งเป็นพระราชินีม่ายของกษัตริย์คนก่อน เบเรนการ์พยายามบังคับให้พระนางสมรสกับบุตรชายของตนแต่พระนางหนีไปได้และได้ไปขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์เยอรมนี พระเจ้าอ็อทโทข้าม[[เทือกเขาแอลป์]]มายึดตำแหน่งกษัตริย์ของ[[ลอมบาร์ด|ชาวลอมบาร์ด]]และอภิเษกสมรสกับอาเดอแลด พระองค์อนุญาตให้เบเรนการ์ปกครองอิตาลีต่อไปในฐานะในฐานะข้าราชบริวารของพระองค์ |
||
ในเวลาเดียวกันนั้นในเยอรมนี ลิวดอล์ฟ พระโอรสของพระเจ้า |
ในเวลาเดียวกันนั้นในเยอรมนี ลิวดอล์ฟ พระโอรสของพระเจ้าอ็อทโทกับอีดิธได้ร่วมกับบุคคสำคัญหลายคนของเยอรมันก่อปฏิวัติต่อกษัตริย์ ความสำเร็จลอยมาอยู่ตรงหน้าหนุ่มน้อย และพระเจ้าอ็อทโทได้ต้องถอนทัพกลับซัคเซิน แต่ในปี ค.ศ. 954 การรุกรานของชาวแมกยาร์เริ่มสร้างปัญหาให้กลุ่มกบฏที่ถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับศัตรูของเยอรมนี การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งลิวดอล์ฟยอมจำนนต่อพระบิดาในปี ค.ศ. 955 พระเจ้าอ็อทโทสามารถบดขยี้ชาวแมกยาร์ได้ที่สมรภูมิเลชเฟล์ด จากนั้นชาวแมกยาร์ก็ไม่เคยบุกเยอรมนีอีกเลย พระเจ้าอ็อทโทยังคงประสบความสำเร็จทางทหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับชาวสลาฟ |
||
<br /> |
<br /> |
||
== จักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ == |
== จักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ == |
||
[[ไฟล์:Otto I begegnet Papst Johannes XII.jpg|thumb|การพบปะกันของจักรพรรดิ |
[[ไฟล์:Otto I begegnet Papst Johannes XII.jpg|thumb|การพบปะกันของจักรพรรดิอ็อทโทที่ 1 กับสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 12 (วาดราวปี ค.ศ. 1450)]] |
||
ปี ค.ศ. 961 [[สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 12]] (ซึ่งรู้จักกันดีจากการพฤติกรรมตนผิดศีลธรรมทางโลกีย์) ต้องการคนมาช่วยต่อกรกับเบเรนการ์ที่เข้ายึดพื้นที่ส่วนหนึ่งของ[[รัฐสันตะปาปา]] พระองค์หันมาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า |
ปี ค.ศ. 961 [[สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 12]] (ซึ่งรู้จักกันดีจากการพฤติกรรมตนผิดศีลธรรมทางโลกีย์) ต้องการคนมาช่วยต่อกรกับเบเรนการ์ที่เข้ายึดพื้นที่ส่วนหนึ่งของ[[รัฐสันตะปาปา]] พระองค์หันมาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอ็อทโทที่รีบเดินทางไปช่วยเหลือทันทีเพื่อแลกกับการได้รับการสวมมงกุฎเป็นจักรพรรดิจากสมเด็จพระสันตะปาปา พระองค์ปราบและจองจำเบเรนการ์ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 962 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 12 สวมมงกุฎให้พระเจ้าอ็อทโทเป็นจักรพรรดิ แต่ต่อมาไม่นานสมเด็จพระสันตะปาปาก็ไม่พอใจต่อการตกอยู่ภายใต้อำนาจของจักรพรรดิอ็อทโทจึงลอบวางแผนต่อต้านพระองค์ จักรพรรดิอ็อทโทกลับมาที่โรมในปี ค.ศ. 963 สภาบิชอปที่ก้มหัวให้พระองค์และจัดการประชุมตามความประสงค์ของพระองค์ได้ปลดสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นออกจากตำแหน่ง ต่อมาพระองค์ได้เลือกชาวโรมันมาครองตำแหน่งแทนเป็น[[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 8]] |
||
จักรพรรดิ |
จักรพรรดิอ็อทโทแทรกแซงกิจการภายในของโรมอีกครั้งในปีต่อมาเมื่อเกิดการก่อกบฏต่อสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอและมีการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาอีกคนมาแทนที่ การแทรกแซงยุติลงหลังสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 965 จักรพรรดิกลับไปโรมอีกครั้งเพื่อส่งผู้ท้าชิงอีกคนที่พระองค์เลือกไว้ขึ้นครองบัลลังก์พระสันตะปาปาเป็น[[สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 14]] เมื่อเกิดการก่อปฏิวัติต่อสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น จักรพรรดิอ็อทโทสามารถกำราบได้ พระองค์ได้ยึดอำนาจควบคุมสมเด็จพระสันตะปาปาโดยไม่สนใจสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นอีกต่อไป |
||
จักรพรรดิ |
จักรพรรดิอ็อทโทเข้ายึดอาณาเขตของ[[จักรวรรดิไบแซนไทน์|จักรวรรดิโรมันตะวันออก]]ทางตอนใต้ของอิตาลีจนส่งผลให้ในปี ค.ศ. 972 ชาวไบเซนไทน์ได้ทำสนธิสัญญากับพระองค์ ยอมรับในตำแหน่งจักรพรรดิของพระองค์อย่างเป็นทางการ ทั้งยังยก[[เธโอฟาโน จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|เธโอฟาโน]] เจ้าหญิงบาเซนไทน์ให้เป็นเจ้าสาวของอ็อทโท พระโอรสและทายาทของพระองค์ |
||
หลังจักรพรรดิ |
หลังจักรพรรดิอ็อทโทกลับถึงเยอรมนีได้ไม่นาน ทรงเรียกประชุมสภาครั้งใหญ่ที่ราชสำนักใน[[เควดลินบวร์ค]] ทรงสิ้นพระชนม์ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 973 ร่างของพระองค์ถูกฝังเคียงข้างอีดิธใน[[มัคเดอบวร์ค]] |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
บรรทัด 95: | บรรทัด 95: | ||
{{พระมหากษัตริย์เยอรมัน}} |
{{พระมหากษัตริย์เยอรมัน}} |
||
{{สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์}} |
{{สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์}} |
||
{{เรียงลำดับ| |
{{เรียงลำดับ|อ็อทโทที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์}} |
||
{{birth|912}} |
{{birth|912}} |
||
{{death|973}} |
{{death|973}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:49, 18 มีนาคม 2562
อ็อทโทที่ 1 มหาราช | |
---|---|
รูปปั้นในมัคเดอบวร์ค | |
จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | |
ครองราชย์ | 2 กุมภาพันธ์ 962 – 7 เมษายน 973 |
ราชาภิเษก | 2 กุมภาพันธ์ 962[1] ณ กรุงโรม |
ก่อนหน้า | พระเจ้าเบเรนการ์ที่ 2 |
ถัดไป | จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2 |
กษัตริย์แห่งอิตาลี | |
ครองราชย์ | 25 ธันวาคม 961 – 7 พฤษภาคม 973 |
ราชาภิเษก | 10 ตุลาคม 951[a] ณ ปาวีอา |
ก่อนหน้า | พระเจ้าเบเรนการ์ที่ 2 |
ถัดไป | จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2 |
กษัตริย์แห่งแฟรงก์ตะวันออก | |
ครองราชย์ | 2 กรกฎาคม 936 – 7 พฤษภาคม 973 |
ราชาภิเษก | 7 สิงหาคม 936 ณ อาเคิน |
ก่อนหน้า | พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 |
ถัดไป | จักรพรรดิอ็อทโทที่ 2 |
ดยุกแห่งซัคเซิน | |
ครองราชย์ | 2 กรกฎาคม 936 – 7 พฤษภาคม 973 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 แห่งเยอรมนี |
ถัดไป | เบอร์นาร์ดที่ 1 |
ประสูติ | 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 912 อาณาจักรแฟรงก์ตะวันออก[2] |
สวรรคต | 7 พฤษภาคม ค.ศ. 973 เมมเลเบิน, จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | (60 ปี)
ชายา | แอดกิธแห่งอังกฤษ (930–946) อาเดลาอีเดแห่งอิตาลี (951–973) |
ราชวงศ์ | อ็อทโท |
พระราชบิดา | พระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 |
พระราชมารดา | มาทิลดา |
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
อ็อทโทที่ 1 มหาราช (เยอรมัน: Otto I. der Große)[3] ทรงเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรแฟรงก์ตะวันออก (ชื่อเรียกบริเวณที่เป็นประเทศเยอรมนีในยุคนั้น) ในปี ค.ศ. 936 และทรงเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 962 จนสวรรคตในปี ค.ศ. 973 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ในพระเจ้าไฮน์ริชที่ 1กับพระนางมาทิลเดอแห่งริงเงิลไฮม์
พระองค์ได้ขึ้นสืบบัลลังก์แห่งดัชชีซัคเซินและบัลลังก์เยอรมันภายหลังที่พระราชบิดาสวรรคตในปี ค.ศ. 936 และออกพระนามว่า พระเจ้าอ็อทโทที่ 1 แห่งเยอรมนี เมื่อขึ้นครองราชสมบัติแล้วพระองค์ก็เจริญรอยตามพระปณิธานของพระราชบิดาที่จะรวบรวมแผ่นดินของชนเยอรมันให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง พระราชอำนาจของพระองค์แผ่ขยายไปอย่างกว้างไกลผ่านชั้นเชิงการเมืองที่เยี่ยมยอด ไม่ว่าจะด้วยวิธีแต่งงานทางการเมืองหรือการแต่งตั้งสมาชิกพระราชวงศ์ของพระองค์ไปปกครองดัชชีและดินแดงต่างๆ นโยบายของพระองค์ได้ลดอำนาจและจำนวนดยุกลงไปมาก ซึ่งแต่ก่อนทำหน้าที่ปกครองดินแดนร่วมกับกษัตริย์ ดยุกจำนวนมากแปรสถานะจากผู้ปกครองอิสระมาเป็นผู้ปกครองใต้พระราชอำนาจของพระองค์ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงนำศาสนจักรโรมันคาทอลิกเข้ามาสู่อาณาจักรเพื่อเสริมสร้างพระราชอำนาจของพระองค์
หลังทรงจัดการสงครามกลางเมืองระหว่างดัชชีต่างๆได้ พระองค์ก็สามารถมีชัยเหนือพวกแมกยาร์ (ฮังการี) ในยุทธการที่เลชเฟิลด์ ค.ศ. 955 ได้ ทำให้ยุโรปตะวันตกพ้นภัยจากการรุกรานของฮังการี[4] นอกจากนี้ การมีชัยเหนือพวกฮังการีนอกศาสนายังทำให้พระองค์มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างมากในฐานะ "ผู้กอบกู้แห่งคริสตจักร" ต่อมาในปี ค.ศ. 961 พระองค์สามารถพิชิตราชอาณาจักรอิตาลี และขยายดินแดนของพระองค์ไปทางเหนือ, ตะวันออก และใต้ ในปีค.ศ. 962 พระองค์ทรงราชาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยให้พระสันตะปาปาสวมมงกุฎให้ในกรุงโรม เหมือนอย่างที่ชาร์เลอมาญเคยทำ
ประวัติศาสตร์ก่อนหน้า
หลังจักรพรรดิชาร์เลอมาญสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 814 จักรวรรดิของพระองค์ถูกแบ่งออก จักรพรรดิคนท้ายๆ ของราชวงศ์การอแล็งเฌียงมีอำนาจเพียงแค่ในอิตาลีเหนือและอิตาลีกาลาง เบเรงการ์แห่งฟรีอูลี จักรพรรดิคนสุดท้ายของราชวงศ์การอแล็งเฌียงถูกฆาตกรรมในปี ค.ศ. 924 ตำแหน่งจึงตกเป็นของกษัตริย์ของชาวแฟรงก์ตะวันออกที่ต่อมากลายเป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนี ในปี ค.ศ. 919 ดยุคของเยอรมนีได้เลือกไฮน์ริชพรานล่านก ดยุคแห่งซัคเซินได้รับเลือกเป็นกษัตริย์และสกัดกั้นชาวแมกยาร์, ชาวสลาฟ และชาวเดนไว้ได้
ก่อนครองบัลลังก์
อ็อทโทเป็นพระโอรสของพระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 แห่งลิวดอลฟิงหรือราชวงศ์ซัคเซิน (ขณะนั้นยังไม่เป็นกษัตริย์) กับแมธิล์เดอ พระมเหสีคนที่สอง ข้อมูลชีวิตช่วงวัยเด็กของพระองค์มีไม่มาก แต่เชื่อกันว่าพระองค์น่าจะเคยร่วมทำศึกกับพระเจ้าไฮน์ริชอยู่หลายครั้งในช่วงปลายวัยรุ่น ในปี ค.ศ. 930 อ็อทโทสมรสกับอีดจิธ พระธิดาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโสแห่งอังกฤษ อีดิธให้กำเนิดพระโอรสหนึ่งคนกับพระธิดาหนึ่งคน
พระเจ้าไฮน์ริชประกาศให้อ็อทโทเป็นผู้สืบบัลลังก์ของพระองค์ หนึ่งเดือนต่อมาพระเจ้าไฮน์ริชสิ้นพระชนม์ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 936 ดยุคของเยอรมนีได้เลือกอ็อทโทเป็นกษัตริย์ พระองค์ได้รับการสวมมงกุฎจากอาร์ชบิชอปแห่งไมนซ์และอาร์ชบิชอปแห่งโคโลญที่อาเคิน นครซึ่งเคยเป็นที่พำนักโปรดของจักรพรรดิชาร์เลอมาญ พระองค์มีพระชนมายุ 23 พรรษาขณะขึ้นเป็นกษัตริย์
กษัตริย์แห่งเยอรมนี
กษัตริย์หนุ่มต้องการที่จะขึ้นมามีอำนาจเหนือเหล่าดยุคซึ่งพระบิดาของพระองค์ไม่เคยทำได้ นโยบายดังกล่าวก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในทันที เอเบอร์ฮาร์ดแห่งฟรังโกเนีย, เอเบอร์ฮาร์ดแห่งบาวาเรีย และกลุ่มชาวซัคเซินผู้ไม่พอใจที่มีแธงค์มาร์ พระเชษฐาต่างมารดาของพระเจ้าอ็อทโทเป็นผู้นำเริ่มกระด้างกระเดื่องในปี ค.ศ. 937 แต่ถูกพระเจ้าอ็อทโทกำราบเรียบอย่างรวดเร็ว แธงค์มาร์ถูกสังหาร เอเบอร์ฮาร์ดแห่งบาวาเรียถูกปลดจากตำแหน่ง ส่วนเอเบอร์ฮาร์ดแห่งฟรังโกเนียยอมสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์
แต่การสวามิภักดิ์ของเอเบอร์ฮาร์ดเป็นเพียงการแสดงตบตา ในปี ค.ศ. 939 เขาได้ร่วมกับกิเซลแบร์ตแห่งโลธาริงเกียและไฮน์ริช พระอนุชาของพระเจ้าอ็อทโทก่อกบฎต่อพระเจ้าอ็อทโทโดยมีพระเจ้าหลุยส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศสให้การสนับสนุน ครั้งนี้เอเบอร์ฮาร์ดถูกสังหารในสมรภูมิ ส่วนกิเซลแบร์ตจมน้ำเสียชีวิตขณะกำลังหนี ไฮน์ริชยอมสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์และพระเจ้าอ็อทโทเองก็ให้อภัย ไฮน์ริชที่ยังคงคิดว่าตนเองคือคนที่พระบิดาอยากให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้สมคบคิดวางแผนฆาตกรรมพระเจ้าอ็อทโทในปี ค.ศ. 941 แผนการถูกเปิดโปงและทุกคนที่ร่วมกันสมคบคิดถูกลงโทษยกเว้นไฮน์ริชที่ได้รับการให้อภัยอีกครั้ง ความเมตตาของพระเจ้าอ็อทโททำให้ไฮน์ริชภักดีต่อพระเชษฐานับตั้งแต่นั้นมาและในปี ค.ศ. 947 พระองค์ได้รับพระราชทานตำแหน่งดยุคแห่งบาวาเรีย ตำแหน่งดยุคของเยอรมนีตำแหน่งอื่นๆ ตกเป็นของเหล่าพระญาติของพระเจ้าอ็อทโท
ในช่วงที่การแก่งแย่งชิงดีภายในดำเนินอยู่นั้น พระเจ้าอ็อทโทได้เสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันและได้ขยายขอบเขตอาณาจักรของพระองค์ ทรงปราบชาวสลาฟทางฝั่งตะวันออกและได้พื้นที่ส่วนหนึ่งของเดนมาร์กมาอยู่ใต้การปกครอง ทรงตั้งตำแหน่งบิชอปในดินแดนดังกล่าวเพื่อผนึกความเป็นเจ้าประเทศราชของเยอรมนีในดินแดนนั้น โบฮีเมียสร้างปัญหาให้แก่พระเจ้าอ็อทโท แต่พระองค์ก็บีบเจ้าชายโบลสวัฟที่ 1 ให้ยอมจำนนได้ในปี ค.ศ. 950 และบังคับให้จ่ายบรรณาการให้แก่พระองค์ เมื่อฐานในบ้านเกิดแข็งแกร่ง พระเจ้าอ็อทโทไม่เพียงกำจัดการอ้างสิทธิ์ในโลธาริงเกียของฝรั่งเศสได้ แต่พระองค์ยังเข้าไปเป็นตัวลางไกล่เกลี่ยปัญหาภายในของฝรั่งเศสด้วย
อีดิธสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 946 ปี ค.ศ. 951 พระเจ้าอ็อทโทบุกอิตาลีที่เบเรนการ์แห่งอิฟเรอา ลอร์ดของอิตาลีได้ทำการยึดบัลลังก์และลักพาตัวอาเดอแลด เจ้าหญิงบูร์กอญซึ่งเป็นพระราชินีม่ายของกษัตริย์คนก่อน เบเรนการ์พยายามบังคับให้พระนางสมรสกับบุตรชายของตนแต่พระนางหนีไปได้และได้ไปขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์เยอรมนี พระเจ้าอ็อทโทข้ามเทือกเขาแอลป์มายึดตำแหน่งกษัตริย์ของชาวลอมบาร์ดและอภิเษกสมรสกับอาเดอแลด พระองค์อนุญาตให้เบเรนการ์ปกครองอิตาลีต่อไปในฐานะในฐานะข้าราชบริวารของพระองค์
ในเวลาเดียวกันนั้นในเยอรมนี ลิวดอล์ฟ พระโอรสของพระเจ้าอ็อทโทกับอีดิธได้ร่วมกับบุคคสำคัญหลายคนของเยอรมันก่อปฏิวัติต่อกษัตริย์ ความสำเร็จลอยมาอยู่ตรงหน้าหนุ่มน้อย และพระเจ้าอ็อทโทได้ต้องถอนทัพกลับซัคเซิน แต่ในปี ค.ศ. 954 การรุกรานของชาวแมกยาร์เริ่มสร้างปัญหาให้กลุ่มกบฏที่ถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับศัตรูของเยอรมนี การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งลิวดอล์ฟยอมจำนนต่อพระบิดาในปี ค.ศ. 955 พระเจ้าอ็อทโทสามารถบดขยี้ชาวแมกยาร์ได้ที่สมรภูมิเลชเฟล์ด จากนั้นชาวแมกยาร์ก็ไม่เคยบุกเยอรมนีอีกเลย พระเจ้าอ็อทโทยังคงประสบความสำเร็จทางทหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับชาวสลาฟ
จักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ปี ค.ศ. 961 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 12 (ซึ่งรู้จักกันดีจากการพฤติกรรมตนผิดศีลธรรมทางโลกีย์) ต้องการคนมาช่วยต่อกรกับเบเรนการ์ที่เข้ายึดพื้นที่ส่วนหนึ่งของรัฐสันตะปาปา พระองค์หันมาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอ็อทโทที่รีบเดินทางไปช่วยเหลือทันทีเพื่อแลกกับการได้รับการสวมมงกุฎเป็นจักรพรรดิจากสมเด็จพระสันตะปาปา พระองค์ปราบและจองจำเบเรนการ์ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 962 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 12 สวมมงกุฎให้พระเจ้าอ็อทโทเป็นจักรพรรดิ แต่ต่อมาไม่นานสมเด็จพระสันตะปาปาก็ไม่พอใจต่อการตกอยู่ภายใต้อำนาจของจักรพรรดิอ็อทโทจึงลอบวางแผนต่อต้านพระองค์ จักรพรรดิอ็อทโทกลับมาที่โรมในปี ค.ศ. 963 สภาบิชอปที่ก้มหัวให้พระองค์และจัดการประชุมตามความประสงค์ของพระองค์ได้ปลดสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นออกจากตำแหน่ง ต่อมาพระองค์ได้เลือกชาวโรมันมาครองตำแหน่งแทนเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 8
จักรพรรดิอ็อทโทแทรกแซงกิจการภายในของโรมอีกครั้งในปีต่อมาเมื่อเกิดการก่อกบฏต่อสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอและมีการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาอีกคนมาแทนที่ การแทรกแซงยุติลงหลังสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 965 จักรพรรดิกลับไปโรมอีกครั้งเพื่อส่งผู้ท้าชิงอีกคนที่พระองค์เลือกไว้ขึ้นครองบัลลังก์พระสันตะปาปาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 14 เมื่อเกิดการก่อปฏิวัติต่อสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น จักรพรรดิอ็อทโทสามารถกำราบได้ พระองค์ได้ยึดอำนาจควบคุมสมเด็จพระสันตะปาปาโดยไม่สนใจสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นอีกต่อไป
จักรพรรดิอ็อทโทเข้ายึดอาณาเขตของจักรวรรดิโรมันตะวันออกทางตอนใต้ของอิตาลีจนส่งผลให้ในปี ค.ศ. 972 ชาวไบเซนไทน์ได้ทำสนธิสัญญากับพระองค์ ยอมรับในตำแหน่งจักรพรรดิของพระองค์อย่างเป็นทางการ ทั้งยังยกเธโอฟาโน เจ้าหญิงบาเซนไทน์ให้เป็นเจ้าสาวของอ็อทโท พระโอรสและทายาทของพระองค์
หลังจักรพรรดิอ็อทโทกลับถึงเยอรมนีได้ไม่นาน ทรงเรียกประชุมสภาครั้งใหญ่ที่ราชสำนักในเควดลินบวร์ค ทรงสิ้นพระชนม์ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 973 ร่างของพระองค์ถูกฝังเคียงข้างอีดิธในมัคเดอบวร์ค
อ้างอิง
- ↑ Heather 2014, p. 281.
- ↑ Freund, Stephan (2013). Wallhausen – Geburtsort Ottos des Großen, Aufenthaltsort deutscher Könige und Kaiser (ภาษาGerman). Schnell und Steiner. ISBN 978-3-7954-2680-4.
{{cite book}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ Otto I, Holy Roman Emperor[1]
- ↑ Reuter 1991, p. 254.
- ↑ Berengar II ruled from 952 until 961 as "King of Italy", but as Otto's vassal.