ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ประเทศไทย)"
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 216: | บรรทัด 216: | ||
== นามเดิมแต่ละจังหวัด == |
== นามเดิมแต่ละจังหวัด == |
||
# [[จังหวัดกาฬสินธุ์]] (เดิมชื่อ บ้านแก่งสำโรง,ฟ้าแดดสงยาง |
# [[จังหวัดกาฬสินธุ์]] (เดิมชื่อ บ้านแก่งสำโรง,ฟ้าแดดสงยาง,ทวารวดีมิ่งหล้าฟ้าแดดสงยาง |
||
# [[จังหวัดขอนแก่น]] (เดิมชื่อ บ้านโนนทัน) |
# [[จังหวัดขอนแก่น]] (เดิมชื่อ บ้านโนนทัน) |
||
# [[จังหวัดชัยภูมิ]] (เดิมชื่อ บ้านไชยภูมิ์ ตั้งขึ้นใหม่) |
# [[จังหวัดชัยภูมิ]] (เดิมชื่อ บ้านไชยภูมิ์ ตั้งขึ้นใหม่) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:05, 15 มีนาคม 2562
ภาคอีสาน | |
---|---|
จากซ้ายบนไปล่างขวา: สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1, อุทยานแห่งชาติภูกระดึง, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และ แห่เทียนเข้าพรรษา | |
ภาคอีสานในประเทศไทย | |
จังหวัด | 20 จังหวัด |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 168,854 ตร.กม. (65,195 ตร.ไมล์) |
ประชากร (พ.ศ. 2560) | |
• ทั้งหมด | 22,240,574 คน |
• ความหนาแน่น | 130 คน/ตร.กม. (340 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+7 (Thailand) |
ภาคอีสาน (มาจากภาษาบาลีหรือภาษาสันสกฤต ऐशान aiśāna แปลว่า "ตะวันออกเฉียงเหนือ")[1] หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่บนแอ่งโคราชและแอ่งสกลนคร มีแม่น้ำโขงกั้นประเทศลาวทางทิศเหนือและตะวันออกของภาค ทางทิศใต้มีเทือกเขาพนมดงรักกั้นประเทศกัมพูชาและภาคตะวันออกของประเทศไทย และมีทิวเขาเพชรบูรณ์และทิวเขาดงพญาเย็นเป็นแนวกั้นทางตะวันตกแยกจากภาคกลาง
ภาคอีสานยังมีเนื้อที่มากที่สุดของประเทศไทย ประมาณ 168,854 ตารางกิโลเมตร หรือมีเนื้อที่ร้อยละ 33.17 เทียบได้กับหนี่งในสามของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศไทยได้จัดว่าเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เทือกเขาที่สูงที่สุดในภาคอีสานคือ ยอดภูลมโล ภูหลวง และภูกระดึง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญของชาวอีสานในหลายจังหวัดด้วยกัน เช่น แม่น้ำห้วยหลวง แม่น้ำชี ลำตะคอง แม่น้ำพอง แม่น้ำเลย แม่น้ำพรม แม่น้ำมูล แม่น้ำสงคราม
ภาษาหลักของภาคนี้ คือ ภาษาอีสาน ซึ่งเป็นภาษาอีสานสำเนียงหนึ่งทางฝั่งขวาแม่น้ำโขง ส่วนภาษาไทยนิยมใช้กันทั่วไปโดยเฉพาะในเมืองใหญ่และจังหวัดนครราชสีมาแต่ไม่ถือเป็นภาษาหลัก ขณะเดียวกันยังมีภาษาเขมรที่ใช้กันมากในบริเวณอีสานใต้ นอกจากนี้ มีภาษาถิ่นอื่น ๆ อีกมาก เช่น ภาษาผู้ไท ภาษาโส้ ภาษาไทโคราช ภาษากวย (ส่วย) ภาษาแสก ภาษาข่า ภาษากะเลิง ภาษาโย้ย ภาษาย้อ เป็นต้น ภาคอีสานยังมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นที่สุดของประเทศ[ต้องการอ้างอิง] เช่น อาหาร ภาษา อักษร เช่น อักษรไทน้อย ดนตรีหมอลำ ดนตรีกันตรึม ดนตรีเจรียง และศิลปะการฟ้อนรำ การเซิ้ง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นต้น
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศของภาคอีสานเต็มไปขุนเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณตอนกลางของภูมิภาค เช่น จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครพนม จังหวัดนครราชสีมา และ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีจุดสูงสุดของภาคอีสานอยู่ที่ ยอดเขาหลวง 1,835 เมตร เหนือระดับทะเลหมอกปานกลาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง (จังหวัดเลย)
แอ่งโคราชเป็นตัวแบ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามภูมิศาสตร์ โดยแอ่งโคราชจะอยู่ในอีสานตอนล่าง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธ์ มหาสารคาม บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร ศรีสะกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ทิศเหนือจะจรดแอ่งสกลนครโดยมีเทือกเขาภูพานกั้นไว้ ทิศตะวันตกกั้นด้วยเทือกเขาเพชรบูรณ์ ทิศใต้กั้นด้วยทิวเขาพนมดงรัก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การแบ่งเขตการปกครอง
จังหวัดในภาคอีสานมีทั้งหมด 20 จังหวัด ตามสำนักงานราชบัณฑิตยสภา และตามคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ[2] ได้แก่
ตราประจำ จังหวัด |
ชื่อจังหวัด อักษรไทย |
ชื่อจังหวัด อักษรโรมัน |
จำนวนประชากร (คน) |
พื้นที่ (ตร.กม.) |
ความหนาแน่น (คน/ตร.กม.) |
---|---|---|---|---|---|
กาฬสินธุ์ | Kalasin | 982,578 | 6,946.7 | 141.4 | |
ขอนแก่น | Khon Kaen | 1,767,601 | 10,886.0 | 162.4 | |
ชัยภูมิ | Chaiyaphum | 1,127,423 | 12,778.3 | 88.2 | |
นครพนม | Nakhon Phanom | 703,392 | 5,512.7 | 127.6 | |
นครราชสีมา | Nakhon Ratchasima | 2,628,818 | 20,494.0 | 126.0 | |
บึงกาฬ | Bueng Kan | 385,053 | 4,305 | 89.4 | |
บุรีรัมย์ | Buri Ram | 1,553,765 | 10,322.9 | 150.5 | |
มหาสารคาม | Maha Sarakham | 940,911 | 5,291.7 | 177.8 | |
มุกดาหาร | Mukdahan | 339,575 | 4,339.8 | 78.2 | |
ยโสธร | Yasothon | 539,257 | 4,161.7 | 129.6 | |
ร้อยเอ็ด | Roi Et | 1,309,708 | 8,299.4 | 157.8 | |
เลย | Loei | 624,066 | 11,424.6 | 54.6 | |
ศรีสะเกษ | Si Sa Ket | 1,452,472 | 8,840.0 | 164.3 | |
สกลนคร | Sakon Nakhon | 1,122,905 | 9,605.8 | 116.9 | |
สุรินทร์ | Surin | 1,381,761 | 8,124.1 | 170.1 | |
หนองคาย | Nong Khai | 521,886 | 3,027.0 | 124.5 | |
หนองบัวลำภู | Nong Bua Lam Phu | 502,868 | 3,859.0 | 130.3 | |
อำนาจเจริญ | Amnat Charoen | 372,137 | 3,161.2 | 117.7 | |
อุดรธานี | Udon Thani | 1,544,786 | 11,730.3 | 131.7 | |
อุบลราชธานี | Ubon Ratchathani | 1,813,088 | 15,744.8 | 115.2 |
นามเดิมแต่ละจังหวัด
- จังหวัดกาฬสินธุ์ (เดิมชื่อ บ้านแก่งสำโรง,ฟ้าแดดสงยาง,ทวารวดีมิ่งหล้าฟ้าแดดสงยาง
- จังหวัดขอนแก่น (เดิมชื่อ บ้านโนนทัน)
- จังหวัดชัยภูมิ (เดิมชื่อ บ้านไชยภูมิ์ ตั้งขึ้นใหม่)
- จังหวัดนครพนม (เดิมชื่อ มรุกขรนคร)
- จังหวัดนครราชสีมา (เดิมชื่อ เมืองโคราฆะปุระและเมืองเสมา)
- จังหวัดบึงกาฬ (เดิมชื่อ เมืองกาฬวาปี)
- จังหวัดบุรีรัมย์ (เดิมชื่อ เมืองแปะ, โนนม่วง)
- จังหวัดมหาสารคาม (เดิมชื่อ กุดยางใหญ่ต่อมาเพี้ยนเป็นกุดนางใย)
- จังหวัดมุกดาหาร (เดิมชื่อ เมืองมุกดาหารบุรี, เมืองบังมุก)
- จังหวัดยโสธร (เดิมชื่อ เมืองยศสุนทร, เมืองสิงห์โคกสิงห์ท่า)
- จังหวัดร้อยเอ็ด (เดิมชื่อ เมืองสาเกตุนคร, เมืองฮ้อยเอ็ด)
- จังหวัดเลย (เดิมชื่อ เมืองเซไล)
- จังหวัดศรีสะเกษ (เดิมชื่อ เมืองคูขันธ์-เมืองศรีนครลำดวน)
- จังหวัดสกลนคร (เดิมชื่อ เมืองหนองหานหลวง)
- จังหวัดสุรินทร์ (เดิมชื่อ เมืองประทายสมันต์)
- จังหวัดหนองคาย (เดิมชื่อ เมืองหล้าหนองคาย)
- จังหวัดหนองบัวลำภู (เดิมชื่อ เมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน, เมืองจำปากาบแก้วนคร, เมืองกมุทาสัย)
- จังหวัดอำนาจเจริญ (เดิมชื่อ เมืองอำนาจเจริญ, บ้านค้อใหญ่)
- จังหวัดอุดรธานี (เดิมชื่อ บ้านเดื่อหมากแข้ง)
- จังหวัดอุบลราชธานี (เดิมชื่อ เมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช)
ประชากรศาสตร์
สถิติประชากร
อันดับ | จังหวัด | จำนวน (คน) (31 ธันวาคม 2558) [3] |
จำนวน (คน) (31 ธันวาคม 2557) [4] |
จำนวน (คน) (31 ธันวาคม 2556) [5] |
จำนวน (คน) (31 ธันวาคม 2555) [6] |
จำนวน (คน) (31 ธันวาคม 2554) [7] |
จำนวน (คน) (31 ธันวาคม 2553) [8] |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | นครราชสีมา | 2,628,818 | 2,620,517 | 2,610,164 | 2,605,014 | 2,585,325 | 2,582,089 |
2 | อุบลราชธานี | 1,857,429 | 1,844,669 | 1,836,523 | 1,826,920 | 1,816,057 | 1,813,088 |
3 | ขอนแก่น | 1,798,014 | 1,790,049 | 1,781,655 | 1,774,816 | 1,766,066 | 1,767,601 |
4 | บุรีรัมย์ | 1,584,661 | 1,579,248 | 1,573,438 | 1,566,740 | 1,559,085 | 1,553,765 |
5 | อุดรธานี | 1,575,152 | 1,570,300 | 1,563,964 | 1,557,298 | 1,548,107 | 1,544,786 |
6 | ศรีสะเกษ | 1,468,798 | 1,465,213 | 1,462,028 | 1,458,370 | 1,452,203 | 1,452,471 |
7 | สุรินทร์ | 1,395,024 | 1,391,636 | 1,388,194 | 1,386,277 | 1,380,399 | 1,381,761 |
8 | ร้อยเอ็ด | 1,308,166 | 1,308,318 | 1,308,958 | 1,308,570 | 1,305,058 | 1,309,708 |
9 | สกลนคร | 1,142,737 | 1,138,609 | 1,134,322 | 1,129,174 | 1,123,351 | 1,122,905 |
10 | ชัยภูมิ | 1,138,252 | 1,137,049 | 1,135,723 | 1,133,034 | 1,127,423 | 1,127,423 |
11 | กาฬสินธุ์ | 985,203 | 984,907 | 984,030 | 985,084 | 981,655 | 982,578 |
12 | มหาสารคาม | 964,596 | 960,588 | 955,644 | 945,149 | 939,736 | 940,911 |
13 | นครพนม | 715,399 | 713,341 | 710,860 | 708,350 | 704,768 | 703,392 |
14 | เลย | 638,819 | 634,513 | 632,205 | 629,787 | 624,920 | 624,066 |
15 | ยโสธร | 540,182 | 540,211 | 540,383 | 540,267 | 538,853 | 539,257 |
16 | หนองคาย | 519,580 | 517,260 | 514,943 | 512,439 | 509,870 | 509,395 |
17 | หนองบัวลำภู | 510,074 | 508,864 | 507,137 | 505,071 | 502,551 | 502,868 |
18 | บึงกาฬ | 420,647 | 418,566 | 416,236 | 412,613 | 407,634 | 403,542 |
19 | อำนาจเจริญ | 376,382 | 375,380 | 374,698 | 373,494 | 372,241 | 372,137 |
20 | มุกดาหาร | 348,101 | 346,016 | 344,302 | 342,868 | 340,581 | 339,575 |
— | รวม | 21,916,034 | 21,845,254 | 21,775,407 | 21,701,335 | 21,585,883 | 21,573,318 |
เมืองใหญ่สุด
การขนส่ง
ทางอากาศ สนามบิน
- ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี
- ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี
- ท่าอากาศยานขอนแก่น
- ท่าอากาศยานสกลนคร
- ท่าอากาศยานเลย
- ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด
- ท่าอากาศยานบุรีรัมย์
- ท่าอากาศยานนครพนม
อาหาร
ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่มีวัฒนธรรมการกินหลากหลายที่สุดของประเทศไทย ดังตัวอย่างประเภทอาหารต่อไปนี้
- ข้าวหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์ข้าวหอมขึ้นชื่อที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก[ต้องการอ้างอิง] นิยมปลูกกันมากในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และนครราชสีมา
- ปลาแดก คืออาหารที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากกว่า 5,000 ปี[ต้องการอ้างอิง] โดยการนำปลาหรือสัตว์ชนิดอื่น เช่น อึ่งอ่าง มาหมักกับเกลือและรำข้าวหรือข้าวคั่ว ใช้เป็นอาหารและเครื่องปรุงรส
- ปลาร้าหลน หรือหลนปาแดก คือการนำปลาร้าเป็นตัว ขนาดใหญ่พอประมาณนำไปทอดในกระทะให้สุก นิยมรับประทานกับข้าวเหนียว เครื่องเคียง เช่น พริกสด โหระพา กระเทียม
- ข้าวจี่ คือนำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วปั้นเป็นก้อนโรยเกลือเสียบไม้ นำไปย่างไฟ แล้วทาทับด้วยไข่ น้ำผึ้ง หรือน้ำตาล
- ปลาร้าบอง หรือปาแดกบอง คือการนำปลาร้าเป็นตัวมาสับให้ละเอียดพร้อมกับใส่เครื่องปรุง เช่น ตะไคร้ พริก หอม กระเทียม ใบมะกรูด
- ลาบ เช่น ลาบหมู, ลาบไก่, ลาบซี้น, ลาบเนื้อ, ลาบควาย, ลาบไข่มดแดง, ลาบปลาตอง[10]
- ไข่มดแดง
- แกงอ่อม หรืออ่อม
- แกงเห็ด
- ก้อย
- แกงผักหวานไข่มดแดง
- หม่ำเนื้อ
- ข้าวเหนียวไก่ย่าง
- ส้มตำ หรือตำบักหุ่ง
- เลือดแปลง
- หมก คืออาหารประเภทหนึ่งที่ใช้ใบตองห่อนิยมใช้กับเนื้อปลา ไก่ แมลง กบ เขียด ผัก และหน่อไม้ หมกหรือห่อหมกของภาคอีสานจะไม่ใส่กะทิ
- เนื้อหมูแห้งแดดเดียว
- เนื้อวัวแห้งแดดเดียวหรือซี้นแห้ง
- ซกเล็ก
- ซั่ว เช่น ซั่วไก่
- เอาะ เช่น เอาะกะปู
- เหนี่ยน เช่น เหนี่ยนบักเขีย เหนี่ยนบักมี่
- ป่น เช่น ป่นปลา ป่นกบ มีทั้งป่นแห้งและป่นน้ำ
- ซุบ เช่น ซุบหน่อไม้
- แจ่ว คือน้ำพริกอีสาน เช่น แจ่วปลา แจ่วกุ้ง แจ่วหมากเผ็ด แจ่วบอง
- แจ่วฮ้อน คือจิ้มจุ่มอีสาน
- ซิ้นดาด คือหมูกระทะอีสาน
- เข้าหลาม คือข้าวหลาม
- เข้าปุ้น คือขนมจีนอีสาน รับประทานกับน้ำยาประเภทต่าง ๆ เช่น น้ำนัว (น้ำปลาร้า) น้ำยาป่า น้ำยาโคราช น้ำงัว (เนื้อวัว) หรือรับประทานกับส้มตำประเภทต่าง ๆ เช่น ตำเข้าปุ้น ตำป่า ตำซั่ว (ตำซ่า) เป็นต้น
- เข้าเปียก คือกวยจั๊บอีสานเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลเวียดนาม
- น้ำผัก
- ยำสลัดลาว
- แหนมเนือง คืออาหารที่ได้รับอิทธิพลเวียดนาม รับประทานใส่กะปิ ซอสหวาน ซีอิ๊วขาว และผักโหระพา
- เฝอ คือก๋วยเตี๋ยวที่ได้รับอิทธิพลเวียดนาม บางท้องถิ่นรับประทานใส่ซอสพริก กะปิ ซีอิ๊วดำ บางท้องที่ใส่มะเขือเทศลงในน้ำซุป
- หมาน้อยหรือหม้อน้อย
- ต้ม เช่น ต้มส้ม ต้มไก่ ต้มแซบ ต้มยำ
- ซ่า หรือซว่า
- แกงกล้วย เป็นอาหารพื้นบ้านอีสานใต้
อ้างอิง
- ↑ Klaus Glashoff. "Spoken Sanskrit". Spokensanskrit.de. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
- ↑ http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1378 ราชบัณฑิตยสถาน
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat58.htm 2558. สืบค้น 16 กุมภาพันธ์ 2559.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat57.html 2558. สืบค้น 1 มีนาคม 2558.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖, เล่ม ๑๓๑, ตอน ๔๑ ง, ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗, หน้า ๑
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat55.html 2555. สืบค้น 3 เมษายน 2556.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat54.html 2555. สืบค้น 6 เมษายน 2555.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [1] 2553. สืบค้น 22 มีนาคม 2554.
- ↑ [2]
- ↑ lovethailand.org