ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปราสาทเมืองแขก"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ต้องการอ้างอิง}} |
|||
[[ไฟล์:ปราสาทเมืองแขก.jpg|thumb|ปราสาทเมืองแขก ภาพจากสถ.ชวนเที่ยว]] |
[[ไฟล์:ปราสาทเมืองแขก.jpg|thumb|ปราสาทเมืองแขก ภาพจากสถ.ชวนเที่ยว]] |
||
'''ปราสาทเมืองแขก''' เป็นปราสาทขอมที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในบ้านกกกอก ตำบลโคราช [[อำเภอสูงเนิน]] [[จังหวัดนครราชสีมา]] ทว่าเหลือแต่เพียงซากฐานอาคาร พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งครั้งล่าสุด ได้พบโบราณวัตถุหลายชิ้น ที่สำคัญคือทับหลังรูปเทวดานั่งในซุ้มเหนือหน้ากาล มีสถาปัตยกรรมแบบเกาะแกร์ในศิลปขอม ซึ่งเป็นยุคสมัยเดียวกับ[[ปราสาทโนนกู่]]ห่างกันประมาณ 500 ม. |
'''ปราสาทเมืองแขก''' เป็นปราสาทขอมที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในบ้านกกกอก ตำบลโคราช [[อำเภอสูงเนิน]] [[จังหวัดนครราชสีมา]] ทว่าเหลือแต่เพียงซากฐานอาคาร พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งครั้งล่าสุด ได้พบโบราณวัตถุหลายชิ้น ที่สำคัญคือทับหลังรูปเทวดานั่งในซุ้มเหนือหน้ากาล มีสถาปัตยกรรมแบบเกาะแกร์ในศิลปขอม ซึ่งเป็นยุคสมัยเดียวกับ[[ปราสาทโนนกู่]]ห่างกันประมาณ 500 ม. |
||
บรรทัด 9: | บรรทัด 10: | ||
== ที่ตั้งและการเดินทาง == |
== ที่ตั้งและการเดินทาง == |
||
'''รถยนต์ส่วนตัว '''ใช้เส้นทางเดียวกับปราสาทโนนกู่ ห่างจากปราสาทโนนกู่ประมาณ 500 ม. |
'''รถยนต์ส่วนตัว '''ใช้เส้นทางเดียวกับปราสาทโนนกู่ ห่างจากปราสาทโนนกู่ประมาณ 500 ม. |
||
{{สถานที่สมัยพระนคร}} |
{{สถานที่สมัยพระนคร}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:51, 9 มีนาคม 2562
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ปราสาทเมืองแขก เป็นปราสาทขอมที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในบ้านกกกอก ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ทว่าเหลือแต่เพียงซากฐานอาคาร พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งครั้งล่าสุด ได้พบโบราณวัตถุหลายชิ้น ที่สำคัญคือทับหลังรูปเทวดานั่งในซุ้มเหนือหน้ากาล มีสถาปัตยกรรมแบบเกาะแกร์ในศิลปขอม ซึ่งเป็นยุคสมัยเดียวกับปราสาทโนนกู่ห่างกันประมาณ 500 ม.
สถาปัตยกรรม
เป็นปราสาทหินทรายผสมอิฐ แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆด้านนอกเป็นแนวคูน้ำขนานกับแนวคันดินเกือบรอบโบราณสถานทางด้านเหนือมีประตูหรือโคปุระ เป็นทางเดินเชื่อมไปยังด้านใน ซึ่งมีซากฐานปราสาทสามองค์ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันโดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ
พ้นจากแนวคูน้ำคันดินออกไปนอกสุด มีซากอาคารสองหลังสร้างหันหน้าเข้าหากัน อาคารทั้งสองหลังนี้มีแนวกำแพงล้อมรอบ เมื่อคราวที่กรมศิลปากรบูรณะ ได้พบทับหลังสลักลายก้านต่อดอกซึ่งเทียบได้กับลวดลายในศิลปะเขมรโบรณสมัยบันทายศรี ราวปี พ.ศ. 1510-1550 นอกจากนี้ยังพบศิลาจารึกที่ถูกนำมาก่อเป็นฐานประูตูซุ้มชั้นนอกระบุปี พ.ศ. 1514 และพ .ศ. 1517 นักโบราณคดีจึงสันนิษฐานจากหลักฐานที่พบทั้งหมดว่า ปราสาทแห่งนี้น่าจะเป็นศาสนสถาน ในคติฮินดูหรือพรามณ์ ที่สร้างขึ้นในราวพุูทธศตวรรษที่ 16 เพื่อประกอบพิธีกรรมถวายแด่พระศิวะ
ที่ตั้งและการเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางเดียวกับปราสาทโนนกู่ ห่างจากปราสาทโนนกู่ประมาณ 500 ม.