ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระแม่มาเหศวรี"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 3: | บรรทัด 3: | ||
| ไฟล์ภาพ = [[ภาพ:Maheshvari.jpg|thumb|]] |
| ไฟล์ภาพ = [[ภาพ:Maheshvari.jpg|thumb|]] |
||
| คำอธิบายภาพ = |
| คำอธิบายภาพ = |
||
| พระนาม = พระแม่มเหศวรี |
| พระนาม = พระแม่มเหศวรี |
||
[[ภาษาสันสกฤต|สันสกฤต]]:माहेस्वरी |
|||
| เทวนาครี = |
| เทวนาครี =माहेस्वरी |
||
| กันนาดา = |
| กันนาดา = |
||
| สันสกฤต = माहेस्वरी |
| สันสกฤต = माहेस्वरी |
||
| เตลูกู = |
| เตลูกู = |
||
| ทมิฬ = |
| ทมิฬ = |
||
| จำพวก = [[ |
| จำพวก = [[มาตฤกา|พระแม่มาตฤกา]] |
||
| เทวฉายา =ศักติแห่งมหาเทพ,ศักติแห่งพระศิวะ,มเหศวรศักติเทวี |
|||
| เทวฉายา = |
|||
| มนต์ = |
| มนต์ = |
||
| อาวุธ = [[ตรีศูล]] |
| อาวุธ = [[ตรีศูล]] |
||
บรรทัด 17: | บรรทัด 18: | ||
| เทวพาหนะ = [[โค]] |
| เทวพาหนะ = [[โค]] |
||
}} |
}} |
||
'''พระแม่มเหศวรี'''({{lang-sa|माहेस्वरी }}{{lang-en|Maheshvari}})เป็น[[เทวีในศาสนาฮินดู]]องค์หนึ่งในคณะของ[[พระแม่สัปตมาตฤกา]] โดยถือว่าเป็นพลังของ[[พระศิวะ|พระอิศวร]]และ[[พระแม่ปารวตี|พระอุมาเทวี]] ใน[[ศาสนาฮินดู]]และยังปรากฏ[[เทวรูป]]ใน[[ประเทศไทย]]ที่[[ประเทศไทย]][[เทวสถานโบสถ์พราหมณ์]] [[กรุงเทพมหานคร]]โดยประดิษฐานในบุษบกขนาบข้างร่วมกับ[[เทวรูป]][[พระวิษณุ|พระนารายณ์]]และ[[เทวรูป]][[พระลักษมี]] ในหอพระนารายณ์. ทั้งยังปารกฎใน[[จิตรกรรม]]ฝาผนัง[[วัดบวรสถานสุทธาวาส]]และสมุดข่อยตำราเทพเจ้าในช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์. |
'''พระแม่มเหศวรี'''({{lang-sa|माहेस्वरी }}{{lang-en|Maheshvari}})หรือ '''มเหศวรีเทวี''' หรือ '''พระเทวีมเหศวรี''' หรือ '''พระแม่มาเหศวรี''' เป็น[[เทวีในศาสนาฮินดู]]องค์หนึ่งในคณะของ[[พระแม่สัปตมาตฤกา|พระแม่มาตฤกา]] โดยถือว่าเป็นพลังของ[[พระศิวะ|พระอิศวร]]และ[[พระแม่ปารวตี|พระอุมาเทวี]] ใน[[ศาสนาฮินดู]]และยังปรากฏ[[เทวรูป]]ใน[[ประเทศไทย]]ที่[[ประเทศไทย]][[เทวสถานโบสถ์พราหมณ์]] [[กรุงเทพมหานคร]]โดยประดิษฐานในบุษบกขนาบข้างร่วมกับ[[เทวรูป]][[พระวิษณุ|พระนารายณ์]]และ[[เทวรูป]][[พระลักษมี]] ในหอพระนารายณ์. ทั้งยังปารกฎใน[[จิตรกรรม]]ฝาผนัง[[วัดบวรสถานสุทธาวาส]]และสมุดข่อยตำราเทพเจ้าในช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์. |
||
==เทวตำนาน== |
==เทวตำนาน== |
||
'''พระแม่มเหศวรี''' เป็นเทวีในรูปศักติของ[[พระศิวะ]] ในคราวหนึ่ง มีศึกสงครามของเหล่า[[เทพ]] กับ อสูร ศุมภะ({{lang-sa|शुमभअ}}{{lang-en|Shumbha}}) และ นิศุมภะ({{lang-sa|निशुम्भउ}}{{lang-en|Nishumbha}}) นิสุมภะได้ถูกพระแม่เกาศิกีหรืออัมพิกาฆ่าตายไป แต่อสูรศุมภะได้ขอพรต่อ[[พระพรหม]]ว่า ให้ตนตายเพราะฝีมือของ[[สตรี]]ที่เกิดจาก[[บุรุษ]]เท่านั้น พระแม่เกาศิกีหรืออัมพิกา จึงให้เหล่า[[เทพ]]ปลุกพลัง[[สตรี]]เพศในตัวทุกคนออกมา ได้เหล่า[[พระแม่สัปตมาตฤกา|พระแม่มาตฤกา]] เพื่อรบกับอสูรศุมภะ |
|||
{{โครงส่วน}} |
|||
== ความเข้าใจผิดใน[[ประเทศไทย]] == |
== ความเข้าใจผิดใน[[ประเทศไทย]] == |
||
ในภาษาสันสกฤต คำว่า มเหศวร นั้นหมายถึง [[พระศิวะ|พระอิศวร]]และคำว่า มเหศวรี นั่นย่อมหมายถึง [[พระแม่ปารวตี|พระอุมาเทวี]]พระชายาของ [[พระศิวะ|พระอิศวร]]และใน[[ศาสนาฮินดู|ศาสนาพราหมณ์]]ใน[[ประเทศอินเดีย]]ซึ่งเป็นต้นฉบับนั้น หาก[[เทวรูป]][[พระวิษณุ|พระนารายณ์]]แล้วขนาบข้างด้วย[[เทวรูป]][[เทวี]]สองพระองค์นั้น คือ [[พระลักษมี]]และ[[พระแม่ภูมี|พระภูเทวี]] ซึ่งลักษณะนี้ส่วนใหญ่นิยมปารากฏในภาคใต้ของ[[ประเทศอินเดีย]]แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาถึง[[ประเทศไทย]] คติได้ผันแปรไป กลายเป็นพระลักษมีและพระมเหศวรีไปแทน [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]](รัชกาลที่6)ทรงพระราชวิจารณ์ไว้ในหนังสือพระเป็นเจ้าของพราหมณ์ในทำนองว่า เป็ฯความเข้าใจผิดของพราหมณ์ไทย ที่คิดว่าชื่อ [[พระลักษมี]]และชื่อมเหศวรี เป็นคนละองค์กัน แต่ที่แท้แล้วทรงเห็นว่าทั้งสองชื่อหมายถึงพระเทวีพระองค์เดียวกันคือ [[พระลักษมี]] ดังนั้นจึงอาจอนุมานได้ว่า[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงเป็นต้นทางของคติในเมืองไทยที่ว่า[[พระนารายณ์]]ทรงมีพระชายาเพียงพระองค์เดียวคือ[[พระลักษมี]] ซึ่งตรงกับพระราชประสงค์จำนงหมายในเวลานั้นเช่นกัน. |
ในภาษาสันสกฤต คำว่า มเหศวร นั้นหมายถึง [[พระศิวะ|พระอิศวร]]และคำว่า มเหศวรี นั่นย่อมหมายถึง [[พระแม่ปารวตี|พระอุมาเทวี]]พระชายาของ [[พระศิวะ|พระอิศวร]]และใน[[ศาสนาฮินดู|ศาสนาพราหมณ์]]ใน[[ประเทศอินเดีย]]ซึ่งเป็นต้นฉบับนั้น หาก[[เทวรูป]][[พระวิษณุ|พระนารายณ์]]แล้วขนาบข้างด้วย[[เทวรูป]][[เทวี]]สองพระองค์นั้น คือ [[พระลักษมี]]และ[[พระแม่ภูมี|พระภูเทวี]] ซึ่งลักษณะนี้ส่วนใหญ่นิยมปารากฏในภาคใต้ของ[[ประเทศอินเดีย]]แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาถึง[[ประเทศไทย]] คติได้ผันแปรไป กลายเป็นพระลักษมีและพระมเหศวรีไปแทน [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]](รัชกาลที่6)ทรงพระราชวิจารณ์ไว้ในหนังสือพระเป็นเจ้าของพราหมณ์ในทำนองว่า เป็ฯความเข้าใจผิดของพราหมณ์ไทย ที่คิดว่าชื่อ [[พระลักษมี]]และชื่อมเหศวรี เป็นคนละองค์กัน แต่ที่แท้แล้วทรงเห็นว่าทั้งสองชื่อหมายถึงพระเทวีพระองค์เดียวกันคือ [[พระลักษมี]] ดังนั้นจึงอาจอนุมานได้ว่า[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงเป็นต้นทางของคติในเมืองไทยที่ว่า[[พระนารายณ์]]ทรงมีพระชายาเพียงพระองค์เดียวคือ[[พระลักษมี]] ซึ่งตรงกับพระราชประสงค์จำนงหมายในเวลานั้นเช่นกัน. |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:17, 5 มีนาคม 2562
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
จำพวก | พระแม่มาตฤกา |
---|---|
อาวุธ | ตรีศูล |
สัตว์พาหนะ | โค |
พระแม่มเหศวรี(สันสกฤต: माहेस्वरीอังกฤษ: Maheshvari)หรือ มเหศวรีเทวี หรือ พระเทวีมเหศวรี หรือ พระแม่มาเหศวรี เป็นเทวีในศาสนาฮินดูองค์หนึ่งในคณะของพระแม่มาตฤกา โดยถือว่าเป็นพลังของพระอิศวรและพระอุมาเทวี ในศาสนาฮินดูและยังปรากฏเทวรูปในประเทศไทยที่ประเทศไทยเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กรุงเทพมหานครโดยประดิษฐานในบุษบกขนาบข้างร่วมกับเทวรูปพระนารายณ์และเทวรูปพระลักษมี ในหอพระนารายณ์. ทั้งยังปารกฎในจิตรกรรมฝาผนังวัดบวรสถานสุทธาวาสและสมุดข่อยตำราเทพเจ้าในช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์.
เทวตำนาน
พระแม่มเหศวรี เป็นเทวีในรูปศักติของพระศิวะ ในคราวหนึ่ง มีศึกสงครามของเหล่าเทพ กับ อสูร ศุมภะ(สันสกฤต: शुमभअอังกฤษ: Shumbha) และ นิศุมภะ(สันสกฤต: निशुम्भउอังกฤษ: Nishumbha) นิสุมภะได้ถูกพระแม่เกาศิกีหรืออัมพิกาฆ่าตายไป แต่อสูรศุมภะได้ขอพรต่อพระพรหมว่า ให้ตนตายเพราะฝีมือของสตรีที่เกิดจากบุรุษเท่านั้น พระแม่เกาศิกีหรืออัมพิกา จึงให้เหล่าเทพปลุกพลังสตรีเพศในตัวทุกคนออกมา ได้เหล่าพระแม่มาตฤกา เพื่อรบกับอสูรศุมภะ
ความเข้าใจผิดในประเทศไทย
ในภาษาสันสกฤต คำว่า มเหศวร นั้นหมายถึง พระอิศวรและคำว่า มเหศวรี นั่นย่อมหมายถึง พระอุมาเทวีพระชายาของ พระอิศวรและในศาสนาพราหมณ์ในประเทศอินเดียซึ่งเป็นต้นฉบับนั้น หากเทวรูปพระนารายณ์แล้วขนาบข้างด้วยเทวรูปเทวีสองพระองค์นั้น คือ พระลักษมีและพระภูเทวี ซึ่งลักษณะนี้ส่วนใหญ่นิยมปารากฏในภาคใต้ของประเทศอินเดียแต่ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาถึงประเทศไทย คติได้ผันแปรไป กลายเป็นพระลักษมีและพระมเหศวรีไปแทน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่6)ทรงพระราชวิจารณ์ไว้ในหนังสือพระเป็นเจ้าของพราหมณ์ในทำนองว่า เป็ฯความเข้าใจผิดของพราหมณ์ไทย ที่คิดว่าชื่อ พระลักษมีและชื่อมเหศวรี เป็นคนละองค์กัน แต่ที่แท้แล้วทรงเห็นว่าทั้งสองชื่อหมายถึงพระเทวีพระองค์เดียวกันคือ พระลักษมี ดังนั้นจึงอาจอนุมานได้ว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นต้นทางของคติในเมืองไทยที่ว่าพระนารายณ์ทรงมีพระชายาเพียงพระองค์เดียวคือพระลักษมี ซึ่งตรงกับพระราชประสงค์จำนงหมายในเวลานั้นเช่นกัน.