ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ประเทศไทย)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 186: บรรทัด 186:
| align="center"|[[ไฟล์:Seal Nong Khai.png|40px]] || '''[[จังหวัดหนองคาย|หนองคาย]]'''
| align="center"|[[ไฟล์:Seal Nong Khai.png|40px]] || '''[[จังหวัดหนองคาย|หนองคาย]]'''
| Nong Khai
| Nong Khai
| align="right"|521886
| align="right"|521,886
| align="right"|3,027.0
| align="right"|3,027.0
| align="right"|124.5
| align="right"|124.5

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:06, 8 กุมภาพันธ์ 2562

ภาคอีสาน
สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
แห่เทียนเข้าพรรษา
ภาคอีสานในประเทศไทย
ภาคอีสานในประเทศไทย
จังหวัด
พื้นที่
 • ทั้งหมด168,854 ตร.กม. (65,195 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (พ.ศ. 2560)
 • ทั้งหมด22,240,574 คน
 • ความหนาแน่น130 คน/ตร.กม. (340 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+7 (Thailand)
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ภาคอีสาน (มาจากภาษาบาลีหรือภาษาสันสกฤต ऐशान aiśāna แปลว่า "ตะวันออกเฉียงเหนือ")[1] หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่บนแอ่งโคราชและแอ่งสกลนคร มีแม่น้ำโขงกั้นประเทศลาวทางทิศเหนือและตะวันออกของภาค ทางทิศใต้มีเทือกเขาพนมดงรักกั้นประเทศกัมพูชาและภาคตะวันออกของประเทศไทย และมีทิวเขาเพชรบูรณ์และทิวเขาดงพญาเย็นเป็นแนวกั้นทางตะวันตกแยกจากภาคกลาง

ภาคอีสานยังมีเนื้อที่มากที่สุดของประเทศไทย ประมาณ 168,854 ตารางกิโลเมตร หรือมีเนื้อที่ร้อยละ 33.17 เทียบได้กับหนี่งในสามของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศไทยได้จัดว่าเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เทือกเขาที่สูงที่สุดในภาคอีสานคือ ยอดภูลมโล ภูหลวง และภูกระดึง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญของชาวอีสานในหลายจังหวัดด้วยกัน เช่น แม่น้ำห้วยหลวง แม่น้ำชี ลำตะคอง แม่น้ำพอง แม่น้ำเลย แม่น้ำพรม แม่น้ำมูล แม่น้ำสงคราม

ภาษาหลักของภาคนี้ คือ ภาษาอีสาน ซึ่งเป็นภาษาอีสานสำเนียงหนึ่งทางฝั่งขวาแม่น้ำโขง ส่วนภาษาไทยนิยมใช้กันทั่วไปโดยเฉพาะในเมืองใหญ่และจังหวัดนครราชสีมาแต่ไม่ถือเป็นภาษาหลัก ขณะเดียวกันยังมีภาษาเขมรที่ใช้กันมากในบริเวณอีสานใต้ นอกจากนี้ มีภาษาถิ่นอื่น ๆ อีกมาก เช่น ภาษาผู้ไท ภาษาโส้ ภาษาไทโคราช ภาษากวย (ส่วย) ภาษาแสก ภาษาข่า ภาษากะเลิง ภาษาโย้ย ภาษาย้อ เป็นต้น ภาคอีสานยังมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นที่สุดของประเทศ[ต้องการอ้างอิง] เช่น อาหาร ภาษา อักษร เช่น อักษรไทน้อย ดนตรีหมอลำ ดนตรีกันตรึม ดนตรีเจรียง และศิลปะการฟ้อนรำ การเซิ้ง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นต้น

ภูมิศาสตร์

ภูมิประเทศของภาคอีสานเต็มไปขุนเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณตอนกลางของภูมิภาค เช่น จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครพนม จังหวัดนครราชสีมา และ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีจุดสูงสุดของภาคอีสานอยู่ที่ ยอดเขาหลวง 1,835 เมตร เหนือระดับทะเลหมอกปานกลาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง (จังหวัดเลย)

แอ่งโคราชเป็นตัวแบ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามภูมิศาสตร์ โดยแอ่งโคราชจะอยู่ในอีสานตอนล่าง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธ์ มหาสารคาม บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร ศรีสะกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ทิศเหนือจะจรดแอ่งสกลนครโดยมีเทือกเขาภูพานกั้นไว้ ทิศตะวันตกกั้นด้วยเทือกเขาเพชรบูรณ์ ทิศใต้กั้นด้วยทิวเขาพนมดงรัก

การแบ่งเขตการปกครอง

จังหวัดในภาคอีสานมีทั้งหมด 20 จังหวัด ตามสำนักงานราชบัณฑิตยสภา และตามคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ[2] ได้แก่

ตราประจำ
จังหวัด
ชื่อจังหวัด
อักษรไทย
ชื่อจังหวัด
อักษรโรมัน
จำนวนประชากร
(คน)
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
(คน/ตร.กม.)
กาฬสินธุ์ Kalasin 982,578 6,946.7 141.4
ขอนแก่น Khon Kaen 1,767,601 10,886.0 162.4
ชัยภูมิ Chaiyaphum 1,127,423 12,778.3 88.2
นครพนม Nakhon Phanom 703,392 5,512.7 127.6
นครราชสีมา Nakhon Ratchasima 2,628,818 20,494.0 126.0
บึงกาฬ Bueng Kan 385,053 4,305 89.4
บุรีรัมย์ Buri Ram 1,553,765 10,322.9 150.5
มหาสารคาม Maha Sarakham 940,911 5,291.7 177.8
มุกดาหาร Mukdahan 339,575 4,339.8 78.2
ยโสธร Yasothon 539,257 4,161.7 129.6
ร้อยเอ็ด Roi Et 1,309,708 8,299.4 157.8
เลย Loei 624,066 11,424.6 54.6
ศรีสะเกษ Si Sa Ket 1,452,471 8,840.0 164.3
สกลนคร Sakon Nakhon 1,122,905 9,605.8 116.9
สุรินทร์ Surin 1,381,761 8,124.1 170.1
หนองคาย Nong Khai 521,886 3,027.0 124.5
หนองบัวลำภู Nong Bua Lam Phu 502,868 3,859.0 130.3
อำนาจเจริญ Amnat Charoen 372,137 3,161.2 117.7
อุดรธานี Udon Thani 1,544,786 11,730.3 131.7
อุบลราชธานี Ubon Ratchathani 1,813,088 15,744.8 115.2

นามเดิมแต่ละจังหวัด

  1. จังหวัดกาฬสินธุ์ (เดิมชื่อ บ้านแก่งสำโรง)
  2. จังหวัดขอนแก่น (เดิมชื่อ บ้านโนนทัน)
  3. จังหวัดชัยภูมิ (เดิมชื่อ บ้านไชยภูมิ์ ตั้งขึ้นใหม่)
  4. จังหวัดนครพนม (เดิมชื่อ มรุกขรนคร)
  5. จังหวัดนครราชสีมา (เดิมชื่อ เมืองโคราฆะปุระและเมืองเสมา)
  6. จังหวัดบึงกาฬ (เดิมชื่อ เมืองกาฬวาปี)
  7. จังหวัดบุรีรัมย์ (เดิมชื่อ เมืองแปะ)
  8. จังหวัดมหาสารคาม (เดิมชื่อ กุดยางใหญ่ต่อมาเพี้ยนเป็นกุดนางใย)
  9. จังหวัดมุกดาหาร (เดิมชื่อ เมืองมุกดาหารบุรี, เมืองบังมุก)
  10. จังหวัดยโสธร (เดิมชื่อ เมืองยศสุนทร, เมืองสิงห์โคกสิงห์ท่า)
  11. จังหวัดร้อยเอ็ด (เดิมชื่อ เมืองสาเกตุนคร, เมืองฮ้อยเอ็ด)
  12. จังหวัดเลย (เดิมชื่อ เมืองเซไล)
  13. จังหวัดศรีสะเกษ (เดิมชื่อ เมืองคูขันธ์-เมืองศรีนครลำดวน)
  14. จังหวัดสกลนคร (เดิมชื่อ เมืองหนองหานหลวง)
  15. จังหวัดสุรินทร์ (เดิมชื่อ เมืองประทายสมันต์)
  16. จังหวัดหนองคาย (เดิมชื่อ เมืองหล้าหนองคาย)
  17. จังหวัดหนองบัวลำภู (เดิมชื่อ เมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน, เมืองจำปากาบแก้วนคร, เมืองกมุทาสัย)
  18. จังหวัดอำนาจเจริญ (เดิมชื่อ เมืองอำนาจเจริญ, บ้านค้อใหญ่)
  19. จังหวัดอุดรธานี (เดิมชื่อ บ้านเดื่อหมากแข้ง)
  20. จังหวัดอุบลราชธานี (เดิมชื่อ เมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช)

ประชากรศาสตร์

สถิติประชากร

อันดับ จังหวัด จำนวน (คน)
(31 ธันวาคม 2558) [3]
จำนวน (คน)
(31 ธันวาคม 2557) [4]
จำนวน (คน)
(31 ธันวาคม 2556) [5]
จำนวน (คน)
(31 ธันวาคม 2555) [6]
จำนวน (คน)
(31 ธันวาคม 2554) [7]
จำนวน (คน)
(31 ธันวาคม 2553) [8]
1 นครราชสีมา 2,628,818 2,620,517 2,610,164 2,605,014 2,585,325 2,582,089
2 อุบลราชธานี 1,857,429 1,844,669 1,836,523 1,826,920 1,816,057 1,813,088
3 ขอนแก่น 1,798,014 1,790,049 1,781,655 1,774,816 1,766,066 1,767,601
4 บุรีรัมย์ 1,584,661 1,579,248 1,573,438 1,566,740 1,559,085 1,553,765
5 อุดรธานี 1,575,152 1,570,300 1,563,964 1,557,298 1,548,107 1,544,786
6 ศรีสะเกษ 1,468,798 1,465,213 1,462,028 1,458,370 1,452,203 1,452,471
7 สุรินทร์ 1,395,024 1,391,636 1,388,194 1,386,277 1,380,399 1,381,761
8 ร้อยเอ็ด 1,308,166 1,308,318 1,308,958 1,308,570 1,305,058 1,309,708
9 สกลนคร 1,142,737 1,138,609 1,134,322 1,129,174 1,123,351 1,122,905
10 ชัยภูมิ 1,138,252 1,137,049 1,135,723 1,133,034 1,127,423 1,127,423
11 กาฬสินธุ์ 985,203 984,907 984,030 985,084 981,655 982,578
12 มหาสารคาม 964,596 960,588 955,644 945,149 939,736 940,911
13 นครพนม 715,399 713,341 710,860 708,350 704,768 703,392
14 เลย 638,819 634,513 632,205 629,787 624,920 624,066
15 ยโสธร 540,182 540,211 540,383 540,267 538,853 539,257
16 หนองคาย 519,580 517,260 514,943 512,439 509,870 509,395
17 หนองบัวลำภู 510,074 508,864 507,137 505,071 502,551 502,868
18 บึงกาฬ 420,647 418,566 416,236 412,613 407,634 403,542
19 อำนาจเจริญ 376,382 375,380 374,698 373,494 372,241 372,137
20 มุกดาหาร 348,101 346,016 344,302 342,868 340,581 339,575
รวม 21,916,034 21,845,254 21,775,407 21,701,335 21,585,883 21,573,318

เมืองใหญ่สุด

รายชื่อเมืองใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน 20 อันดับแรก เรียงตามจำนวนประชากร

การขนส่ง

ทางอากาศ

อาหาร

ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่มีวัฒนธรรมการกินหลากหลายที่สุดของประเทศไทย ดังตัวอย่างประเภทอาหารต่อไปนี้

  • ข้าวหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์ข้าวหอมขึ้นชื่อที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก[ต้องการอ้างอิง] นิยมปลูกกันมากในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และนครราชสีมา
  • ปลาแดก คืออาหารที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากกว่า 5,000 ปี[ต้องการอ้างอิง] โดยการนำปลาหรือสัตว์ชนิดอื่น เช่น อึ่งอ่าง มาหมักกับเกลือและรำข้าวหรือข้าวคั่ว ใช้เป็นอาหารและเครื่องปรุงรส
  • ปลาร้าหลน หรือหลนปาแดก คือการนำปลาร้าเป็นตัว ขนาดใหญ่พอประมาณนำไปทอดในกระทะให้สุก นิยมรับประทานกับข้าวเหนียว เครื่องเคียง เช่น พริกสด โหระพา กระเทียม
  • ข้าวจี่ คือนำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วปั้นเป็นก้อนโรยเกลือเสียบไม้ นำไปย่างไฟ แล้วทาทับด้วยไข่ น้ำผึ้ง หรือน้ำตาล
  • ปลาร้าบอง หรือปาแดกบอง คือการนำปลาร้าเป็นตัวมาสับให้ละเอียดพร้อมกับใส่เครื่องปรุง เช่น ตะไคร้ พริก หอม กระเทียม ใบมะกรูด
  • ลาบ เช่น ลาบหมู, ลาบไก่, ลาบซี้น, ลาบเนื้อ, ลาบควาย, ลาบไข่มดแดง, ลาบปลาตอง[10]
  • ไข่มดแดง
  • แกงอ่อม หรืออ่อม
  • แกงเห็ด
  • ก้อย
  • แกงผักหวานไข่มดแดง
  • หม่ำเนื้อ
  • ข้าวเหนียวไก่ย่าง
  • ส้มตำ หรือตำบักหุ่ง
  • เลือดแปลง
  • หมก คืออาหารประเภทหนึ่งที่ใช้ใบตองห่อนิยมใช้กับเนื้อปลา ไก่ แมลง กบ เขียด ผัก และหน่อไม้ หมกหรือห่อหมกของภาคอีสานจะไม่ใส่กะทิ
  • เนื้อหมูแห้งแดดเดียว
  • เนื้อวัวแห้งแดดเดียวหรือซี้นแห้ง
  • ซกเล็ก
  • ซั่ว เช่น ซั่วไก่
  • เอาะ เช่น เอาะกะปู
  • เหนี่ยน เช่น เหนี่ยนบักเขีย เหนี่ยนบักมี่
  • ป่น เช่น ป่นปลา ป่นกบ มีทั้งป่นแห้งและป่นน้ำ
  • ซุบ เช่น ซุบหน่อไม้
  • แจ่ว คือน้ำพริกอีสาน เช่น แจ่วปลา แจ่วกุ้ง แจ่วหมากเผ็ด แจ่วบอง
  • แจ่วฮ้อน คือจิ้มจุ่มอีสาน
  • ซิ้นดาด คือหมูกระทะอีสาน
  • เข้าหลาม คือข้าวหลาม
  • เข้าปุ้น คือขนมจีนอีสาน รับประทานกับน้ำยาประเภทต่าง ๆ เช่น น้ำนัว (น้ำปลาร้า) น้ำยาป่า น้ำยาโคราช น้ำงัว (เนื้อวัว) หรือรับประทานกับส้มตำประเภทต่าง ๆ เช่น ตำเข้าปุ้น ตำป่า ตำซั่ว (ตำซ่า) เป็นต้น
  • เข้าเปียก คือกวยจั๊บอีสานเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลเวียดนาม
  • น้ำผัก
  • ยำสลัดลาว
  • แหนมเนือง คืออาหารที่ได้รับอิทธิพลเวียดนาม รับประทานใส่กะปิ ซอสหวาน ซีอิ๊วขาว และผักโหระพา
  • เฝอ คือก๋วยเตี๋ยวที่ได้รับอิทธิพลเวียดนาม บางท้องถิ่นรับประทานใส่ซอสพริก กะปิ ซีอิ๊วดำ บางท้องที่ใส่มะเขือเทศลงในน้ำซุป
  • หมาน้อยหรือหม้อน้อย
  • ต้ม เช่น ต้มส้ม ต้มไก่ ต้มแซบ ต้มยำ
  • ซ่า หรือซว่า
  • แกงกล้วย เป็นอาหารพื้นบ้านอีสานใต้

อ้างอิง

  1. Klaus Glashoff. "Spoken Sanskrit". Spokensanskrit.de. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
  2. http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1378 ราชบัณฑิตยสถาน
  3. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat58.htm 2558. สืบค้น 16 กุมภาพันธ์ 2559.
  4. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat57.html 2558. สืบค้น 1 มีนาคม 2558.
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖, เล่ม ๑๓๑, ตอน ๔๑ ง, ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗, หน้า ๑
  6. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat55.html 2555. สืบค้น 3 เมษายน 2556.
  7. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat54.html 2555. สืบค้น 6 เมษายน 2555.
  8. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [1] 2553. สืบค้น 22 มีนาคม 2554.
  9. [2]
  10. lovethailand.org

แหล่งข้อมูลอื่น

พิกัดภูมิศาสตร์: 16°N 103°E / 16°N 103°E / 16; 103