ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟุตบอลทีมชาติไทย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mayrakis (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนกลับไปรุ่นที่ 8066972 โดย 2405:9800:B910:302D:D9DC:BD64:A405:2101: ย้อนการก่อกวนด้วยสจห.
ป้ายระบุ: ทำกลับ
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 13: บรรทัด 13:
| Captain = [[ธีรศิลป์ แดงดา]]
| Captain = [[ธีรศิลป์ แดงดา]]
| Most caps = {{nowrap begin}} [[เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง]] (134)
| Most caps = {{nowrap begin}} [[เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง]] (134)
| Top scorer = {{nowrap begin}} [[เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง]] (71)
| Top scorer = {{nowrap begin}} [[โรเมลู ลูกากู]] (71)
| Home Stadium = [[ราชมังคลากีฬาสถาน]]
| Home Stadium = [[ราชมังคลากีฬาสถาน]]
| FIFA Trigramme = THA
| FIFA Trigramme = THA

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:23, 15 มกราคม 2562

หน้านี้สำหรับทีมฟุตบอลชาย สำหรับทีมหญิงดูได้ที่ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
ฟุตบอลทีมชาติไทย
Shirt badge/Association crest
ฉายาช้างศึก
สมาคมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
สมาพันธ์ย่อยสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
สมาพันธ์สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (ทวีปเอเชีย)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย (รักษาการ)
กัปตันธีรศิลป์ แดงดา
ติดทีมชาติสูงสุด เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (134)
ทำประตูสูงสุด โรเมลู ลูกากู (71)
สนามเหย้าราชมังคลากีฬาสถาน
รหัสฟีฟ่าTHA
อันดับฟีฟ่า
อันดับปัจจุบัน118 เพิ่มขึ้น (14 ตุลาคม 2561)
อันดับสูงสุด42 (กันยายน พ.ศ. 2541)
อันดับต่ำสุด165 (ตุลาคม พ.ศ. 2558)
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน 6–1 ไทย ไทย
(กรุงเทพ, ไทย; 20 สิงหาคม พ.ศ. 2491) [1]
ชนะสูงสุด
ไทย ไทย 10–0 บรูไน บรูไน
(กรุงเทพ, ไทย; 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2514)
แพ้สูงสุด
สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร 9–0 ไทย ไทย
(เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย; 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499)
เอเอฟซี เอเชียนคัพ
เข้าร่วม7 (ครั้งแรกใน 1972)
ผลงานดีที่สุดอันดับ 3 (ปี 1972)
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน
เข้าร่วม12 (ครั้งแรกใน 1996)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ (1996, 2000, 2002, 2014, 2016)

ฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ และอยู่ภายใต้การบริหารของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยทีมมีประวัติของความสำเร็จในการแข่งขันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือชนะเลิศอาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 5 สมัย และชนะเลิศซีเกมส์ 10 สมัย โดยทีมชาติไทยยังสามารถคว้าอันดับ 3 ในเอเชียนคัพ 1972 และเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อน 2 ครั้ง และในเอเชียนเกมส์ 4 ครั้ง โดยอันดับโลกฟีฟ่าที่ทีมชาติไทยทำอันดับได้ดีที่สุด คือ อันดับที่ 42 ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2541 ปัจจุบันทีมชาติไทยอยู่อันดับที่ 122 ของโลก อันดับที่ 23 ของเอเชีย และอยู่ในอันดับที่ 3 ของอาเซียน จากการจัดอันดับโดยฟีฟ่า (12 เมษายน พ.ศ. 2561)

ประวัติ

ปี สมาคม
2459 ก่อตั้ง
2468 ฟีฟ่า
2500 เอเอฟซี
2537 เอเอฟเอฟ

ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2458 ในนามคณะฟุตบอลสำหรับชาติสยาม และเล่นการแข่งขันอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรก (พบกับทีมฝ่ายยุโรป) ที่สนามราชกรีฑาสโมสร ในวันที่ 20 ธันวาคม ในปีนั้น จนวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงก่อตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งสยามฯ โดยลงเล่นในการแข่งขันระหว่างประเทศครั้งแรกใน พ.ศ. 2473 พบกับทีมชาติอินโดจีน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เล่นเวียดนามใต้ และ ฝรั่งเศส เพื่อต้อนรับการเสด็จประพาสอินโดจีนของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชื่อของทีมชาติและชื่อของสมาคมได้ถูกเปลี่ยนชื่อในปี พ.ศ. 2482 เมื่อสยามกลายเป็นประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2499 พล.ต.เผชิญ นิมิบุตร ซึ่งเป็นนายกสมาคม ได้มีการหาผู้เล่นจากหลายสโมสรเพื่อจัดตั้งทีมที่จะลงแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1956ที่เมลเบิร์น โดยเป็นครั้งแรกของทางทีมที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิก ในการแข่งขันนั้นเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก ทีมไทยจับฉลากพบกับสหราชอาณาจักร ในวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยทีมไทยพ่ายแพ้ไป 0-9 (ความพ่ายแพ้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์) ตกรอบทันที โดยในรอบที่สอง ทีมสหราชอาณาจักรก็พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติบัลแกเรีย 6 ประตูต่อ 1 โดยทีมชาติบัลแกเรียได้เหรียญทองแดง ทีมชาติยูโกสลาเวีย ได้เหรียญเงิน และสหภาพโซเวียตได้เหรียญทองไปครอง[2] ภายหลังจากการแข่งขัน หนังสือพิมพ์สยามนิกร ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน ได้พาดหัวข่าวหน้ากีฬาว่า "ทีมชาติอังกฤษเฆี่ยนทีมชาติไทย 9 - 0" ซึ่งภายหลังจบการแข่งขัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีรับสั่งถึงสมาคมฟุตบอลฯ ให้ส่ง พล.ต.ดร.สำเริง ไชยยงค์ หนึ่งในนักฟุตบอลชุดโอลิมปิกไปศึกษาพื้นฐานการเล่นฟุตบอลจากประเทศเยอรมนี เพื่อให้กลับมาสอนการเล่นฟุตบอลให้แก่ทีมไทย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2508 ฟุตบอลทีมชาติไทยก็คว้าเหรียญทองในกีฬาแหลมทอง (ปัจจุบันเรียกว่าซีเกมส์) ครั้งที่ 3 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จนถึง พ.ศ. 2552 ประเทศไทยชนะเลิศการแข่งขันทุก ๆ สองปีรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง

ทีมไทยได้เข้าร่วมโอลิมปิกฤดูร้อนอีกครั้งในหาปีพ.ศ. 2511 โดยแพ้ต่อทีมชาติบัลแกเรีย 0-7, ทีมชาติกัวเตมาลา 1-4 และทีมชาติเช็กโกสโลวาเกีย 0-8 ตกรอบแรกในการแข่งขัน ซึ่งผู้ชนะในคราวนี้ คือทีมชาติฮังการี ได้เหรียญทองไปครอง ซึ่งเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกเป็นครั้งสุดท้ายจนถึงปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2515 ประเทศไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอล เอเชียนคัพ 1972 ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันเอเชียนคัพครั้งที่ 5 โดยในการแข่งขันนี้ ทีมชาติไทยได้อันดับที่ 3 โดยยิงลูกโทษชนะทีมชาติกัมพูชา 5 ประตูต่อ 3 ภายหลังจากเสมอกัน 2 ต่อ 2 ซึ่งในการแข่งขันนี้ ทีมชาติอิหร่าน ชนะเลิศ และทีมชาติเกาหลีใต้ ได้รางวัลรองชนะเลิศตามลำดับ

ในปี พ.ศ. 2519 ประเทศไทยได้แชมป์คิงส์คัพครั้งแรก โดยเป็นแชมป์ร่วมกับทีมชาติมาเลเซีย ภายหลังจากที่มีการเริ่มมีการจัดคิงส์คัพในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 โดยต่อมาทีมชาติไทยได้เป็นแชมป์คิงส์คัพอีกหลายครั้งรวมทั้งสิ้น 11 ครั้งด้วยกัน

สำหรับการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ ทีมชาติไทยยังไม่สามารถที่จะชนะเลิศได้ โดยความสำเร็จสูงสุดคือเข้ารอบรองชนะเลิศ ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2533 เช่นเดียวกับ เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2541 และเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 14 ที่จัดขึ้นที่ ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในปี พ.ศ. 2545และครั้งล่าสุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่จัดขึ้นที่ โดฮา ในปี พ.ศ. 2549 ทีมชาติไทยก็เป็นทีมเดียวในอาเซียนที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ (8 ทีมสุดท้าย) ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเข้ารอบโดยเป็นที่ 1 ของกลุ่มซี

ในปี พ.ศ. 2537 ไทยได้ร่วมก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) กับอีก 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการเชิญสโมสรชั้นนำจากทั่วโลก มาแข่งขันกับในประเทศไทยหลายครั้ง ได้แก่ เอฟซีปอร์โต (2540) อินเตอร์มิลาน (2540) โบคาจูเนียร์ (2540) ลิเวอร์พูล (2544) นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (2547) เอฟเวอร์ตัน (2548) โบลตันวันเดอร์เรอร์ (2548) แมนเชสเตอร์ซิตี (2548 ที่ไทย และ 2550 ที่อังกฤษ[3]) และสโมสรชั้นนำอื่น ๆ และในปี 2551 ไทยตกรอบฟุตบอลรอบคัดเลือก รอบ 20 ทีมสุดท้าย โดยได้อยู่สายเดียวกับทีมอย่าง ญี่ปุ่น โอมาน บาห์เรน โดยไทยแข่ง 6 นัด ไม่ชนะใครเลย แพ้ 5 เสมอ 1 ทำให้ชาญวิทย์ ผลชีวิน ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่นาน ปีเตอร์ รีด อดีตนักเตะเอฟเวอร์ตันและทีมชาติอังกฤษก็เข้ามารับตำแหน่งแทนแต่ไทย ก็พลาดแชมป์ อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 2007 โดยการแพ้ทีมชาติเวียดนามรวมผลสองนัด 3-2 และยังพลาดคิงส์คัพอีกรายการหนึ่ง โดยดวลจุดโทษแพ้ ทีมชาติเดนมาร์ก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ปีเตอร์ รีด จึงถูกปลดออกจากตำแหน่งรวมทั้งอนาคตที่ไม่แน่นอนในการคุมทีมชาติเพราะรีดมีข่าวว่าจะไปทำงานที่สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี โดยเป็นผู้ช่วยของ โทนี พูลิส ผู้จัดการทีมสโตกซิตี

ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552, ไบรอัน ร็อบสัน ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยซึ่งเซ็นสัญญากับทีมชาติไทยไปจนถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014.[4] ต่อมาในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552, ร็อบสันสามารถนำทีมชาติไทยชนะนัดแรกในการคุมทีมของในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2011 รอบคัดเลือก ที่พบกับ ทีมชาตสิงคโปร์ ด้วยสกอร์ 3-1.[5] แต่ในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552, ร็อบสันนำทีมชาติไทยแพ้นัดแรกต่อทีมชาตสิงคโปร์ เช่นกันด้วยสกอร์ 1-0 ด้วยการแพ้ในบ้านที่ประเทศไทย. ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ทีมชาติไทยสามารถยันเสมอกับจอร์แดน และ ทีมชาตอิหร่าน ด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งสองนัดในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมชาติไทยได้เข้ารอบสุดท้ายในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2011 ที่ประเทศกาตาร์ได้ ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ร็อบสันสามารถนำทีมชาติไทยชนะทีมชาติสิงคโปร์ด้วยสกอร์ 1-0 ที่ประเทศไทย ในการแข่งขันกระชับมิตร ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 ร็อบสันนำทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติอินเดีย ได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในการแข่งขันกระชับมิตรเช่นกัน แต่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 ร็อบสันนำทีมชาติไทยตกรอบ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม หลังจากการเสมอ 2 นัดกับ ทีมชาติลาว และ ทีมชาติมาเลเซีย และแพ้ให้กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งช่วงนั้นถือเป็นยุคมืดของทีมชาติไทยอย่างแท้จริง ทำให้ร็อบสันยกเลิกสัญญาจากการเป็นผู้จัดการทีมในวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554.[6]

ต่อมา วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตผู้จัดการทีมเฟาเอฟเบชตุทท์การ์ท กับอดีตแมวมองสโมสรโบรุสเซียเมินเชนกลัดบัคสโมสรฟุตบอลชื่อดังในบุนเดสลีกาและอดีตผู้จัดการทีมทีมชาติแคเมอรูนวัย 61 ปีได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยแทนไบรอัน ร็อบสัน ที่มีปัญหาในเรื่องสุขภาพ โดยงานแรกของเชเฟอร์คือการนำทีมชาติไทยไปแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2014 ในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ซึ่งแฟนบอลทุกคนได้สนับสนุนการทำงานของเชเฟอร์มาตลอดไม่ว่าการแข่งขันในบ้านหรือนอกบ้านจะมีแฟนบอลคอยติดตามอยู่ทุกเมื่อ

โดยนัดแรกทีมชาติไทยได้บุกไปแพ้ให้แก่ฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลีย ด้วยสกอร์ 1-2 ซึ่งออกนำไปก่อนจากประตูของธีรศิลป์ แดงดา.[7] แล้วในการแข่งขันต่อมาทีมชาติไทยสามารถเอาชนะฟุตบอลทีมชาติโอมานได้ 3-0 จากประตูของสมปอง สอเหลบ, ธีรศิลป์ แดงดา และการทำเข้าประตูตัวเองของราชิค จูมา อัล-ฟาร์ซี โดยเป็นชัยชนะนัดที่สองของทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ซึ่งนัดแรกคือนัดที่เอาชนะทีมชาติปาเสลสไตน์ได้ 3-2 ในรอบคัดเลือกรอบที่ 2.[8] และสามารถยันเสมอทีมชาติซาอุดีอาระเบียได้ 0-0 ในนัดถัดมาแต่หลังจากนั้นทีมชาติไทยได้แพ้อีกทั้ง 3 นัดในการไปเยือน 2 นัดและเล่นในบ้าน 1 นัดจึงทำให้หยุดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ไว้ที่รอบแบ่งกลุ่ม (คัดเลือกรอบที่ 3 โซนเอเชีย) และในการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ทีมชาติไทยสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ซึ่งต้องไปพบกับทีมชาตสิงคโปร์ด้วยการเอาชนะทีมชาติมาเลเซีย ด้วยสกอร์ 3-1 ในรอบก่อนรอบชิงชนะเลิศ[9] ในรอบชิงชนะเลิศนัดแรกทีมชาติไทยบุกไปแพ้ทีมชาติสิงคโปร์แต่ก็ได้ประตูทีมเยือน (อเวย์โกล์) จากอดุลย์ หละโสะและในนัดที่สองแข่งกันที่กรีฑาสถานแห่งชาติทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติสิงคโปร์ด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูของกีรติ เขียวสมบัติแต่รวมผลสกอร์ทีมชาติไทยแพ้ 3-2 [10] ต่อมาเชเฟอร์ได้นำทีมชาติไทยไปแข่งในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก (แบ่งกลุ่ม) ซึ่งเขานำทีมชาติไทยแพ้ทั้ง 2 นัดและทำให้เขายกเลิกสัญญาระหว่างเขากับทีมชาติไทยในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 โดยทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แต่งตั้ง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยชื่อดังเป็นผู้จัดการทีมชาติคนใหม่ ซึ่งนัดแรกของเกียรติศักดิ์ในการคุมทีมชาติไทยคือในการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมชาติจีน โดยเกียรติศักดิ์สามารถนำทีมชาติไทยบุกไปชนะทีมชาติจีนถึงถิ่นด้วยสกอร์ 5-1[11]

ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แต่งตั้งให้ สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ อดีตนักฟุตบอลชื่อดังชาวไทย เป็นผู้ฝึกสอนและเตรียมทีมชาติไทยไปแข่งกับทีมชาติอิหร่าน ในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก (แบ่งกลุ่ม)[12] ก่อนที่เกียรติศักดิ์จะมาคุมทีมต่อและสร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี และรองแชมป์คิงส์คัพในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 รวมทั้งในปี พ.ศ. 2559 ก็สามารถพาทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่มเอฟในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 ผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี และสามารถผ่านเข้าไปเล่นเอเชียนคัพ 2019 ทันที ซึ่งเป็นการผ่านเข้าไปเล่นเอเชียนคัพได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีอีกด้วย และยังสามารถคว้าแชมป์ได้อีก 2 รายการ คือ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 และเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016

แต่ในรอบที่ 3 ของการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ไทยทำผลงานได้แย่มาก โดยนับจนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 ไทยเสมอเพียงนัดเดียว นอกนั้นแพ้รวด ทำให้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ประกาศลาออก หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็ได้แต่งตั้ง มิลอวัน ราเยวัตส์ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติกานาชุดสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคนใหม่ ซึ่งก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ได้สำเร็จ แต่ผลงานยังถือว่าแย่เช่นเดิมเมื่อจบทั้ง 10 นัดแพ้ถึง 8 นัด เสมออีก 2 นัด ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 ไทยลงแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ไปสองนัด ปรากฏว่านัดแรกเสมอกาบอง 0-0 ก่อนจะชนะจุดโทษไปได้ 4-2 แต่ในนัดชิงชนะเลิศกลับแพ้สโลวาเกีย 2-3 พลาดแชมป์อย่างน่าเสียดาย

ข้อมูลทั่วไป

ราชมังคลากีฬาสถาน

สนามเหย้า

ชุดที่ใช้สำหรับการแข่งขัน

แต่เดิมชุดแข่งขันของฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดที่หนึ่งประกอบด้วย เสื้อ สีแดง กางเกงสีแดง และถุงเท้าสีแดง ส่วนชุดที่สองประกอบด้วย เสื้อ สีน้ำเงิน กางเกงสีน้ำเงิน และ ถุงเท้าสีน้ำเงิน ต่อมาในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2550 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทำเรื่องขอเปลี่ยนชุดที่หนึ่ง ไปยัง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เป็นเสื้อ สีเหลือง กางเกงสีเหลือง และถุงเท้าสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ ใน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554 ที่ประชุมกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติให้ทำเรื่องขอเปลี่ยนชุดที่หนึ่งไปยังฟีฟ่า กลับมาเป็นเสื้อสีแดง กางเกงสีแดง และถุงเท้าสีแดงอีกครั้ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2560 สมาคมฯได้ ขอทางฟิฟ่า เปลื่ยนสีเสื้อทั้งเย้าและเยือนเป็นสีดำ และ ขาว เพื่อเป็นการถวายอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นเวลา 1 ปี [13]

ผู้ผลิตชุดแข่งทีมชาติไทย
ปี ผู้ผลิต ชุดแข่ง
2545–2550 ไทย เอฟบีที
  • 2545 (เหย้า - เยือน)
  • 2546-2547 (เหย้า - เยือน)
  • 2547-2548 (เหย้า - เยือน)
  • 2549-2550 (เหย้า - เยือน)
2550–2554 สหรัฐ ไนกี
  • เอเซียนคัพ 2550 (เหย้า - เยือน)
  • 2550 (ชุดที่สาม)
  • 2551-2553 (เหย้า - เยือน)
  • 2553-2555 (เหย้า - เยือน)
2555–2559 ไทย แกรนด์สปอร์ต
  • 2555-2557 (เหย้า - เยือน)
  • 2557-2559 (เหย้า - เยือน)
  • คิงส์คัพ 2559
  • 2559 (เหย้า - เยือน)
2560–ปัจจุบัน ไทย วาริกซ์
  • 2560–ปัจจุบัน (เหย้า - เยือน - ชุดที่สาม)
เหย้า
2545
2546-2547
2547-2548
2549-2550
เอเชียนคัพ 2550
2551-2553
2553-2555
2555-2557
2557-2559
2559
2560
2561–ปัจจุบัน
เยือน
2545
2546-2547
2547-2548
2549-2550
เอเชียนคัพ 2550
2551-2553
2553-2555
2555-2557
2557-2559
2559
2560
2561–ปัจจุบัน
ชุดที่สาม (ชุดพิเศษ)
2550
คิงส์คัพ 2559

ประวัติการแข่งขัน

ฟุตบอลโลก 2010

จากการจับสลากสำหรับรอบที่ 1 และ รอบที่ 2 ในการแข่งขันรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เพื่อหาตัวแทนไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยในรอบที่ 1 ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะมาเก๊า ด้วยผลประตูรวม 13-2 และต้องพบกับเยเมนในรอบที่ 2 โดยทีมชาติไทยสามารถเอาชนะด้วยผลประตูรวม 2-1 โดยทีมชาติไทยถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับญี่ปุ่น, บาห์เรน, และ โอมาน ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก

เอเอฟซีรอบที่ 3 : กลุ่ม 2

ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย รวม แต้ม
ธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น 6 4 1 1 12 3 +9 13
ธงชาติบาห์เรน บาห์เรน 6 3 2 1 7 5 +2 11
ธงชาติโอมาน โอมาน 6 2 2 2 5 7 −2 8
ธงชาติไทย ไทย 6 0 1 5 5 14 −9 1
  บาห์เรน ญี่ปุ่น โอมาน ไทย
บาห์เรน ธงชาติบาห์เรน 1 – 0 1 – 1 1 – 1
ญี่ปุ่น ธงชาติญี่ปุ่น 1 – 0 3 – 0 4 – 1
โอมาน ธงชาติโอมาน 0 – 1 1 – 1 2 – 1
ไทย ธงชาติไทย 2 – 3 0 – 3 0 – 1

ฟุตบอลโลก 2018

ตารางสรุปคะแนน

อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1 ธงชาติไทย ไทย (Q) 6 4 2 0 14 6 +8 14 รอบที่ 3 และ เอเชียน คัพ 2–2 1–0 4–2
2 ธงชาติอิรัก อิรัก (Q) 6 3 3 0 13 6 +7 12 2–2 1–0 5–1
3 ธงชาติเวียดนาม เวียดนาม (Q) 6 2 1 3 7 8 −1 7 เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก รอบที่ 3 0–3 1–1 4–1
4 ธงชาติจีนไทเป จีนไทเป (Q) 6 0 0 6 5 19 −14 0 เอเชียนคัพ รอบคัดเลือกเพลย์ออฟ 0–2 0–2 1–2
5 ธงชาติอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย (D) 0 0 0 0 0 0 0 0 ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากฟีฟ่าสั่งระงับการแข่งขันหลังจากเกิดปัญหาการแทรกแซงการเมืองสู่วงการฟุตบอล[a]
แหล่งที่มา : ฟีฟ่า
(D) ตัดสิทธิ์; (Q) ผ่านเข้าสู่รอบที่ระบุ.
หมายเหตุ :
  1. On 30 May 2015, FIFA announced that the Football Association of Indonesia (PSSI) was suspended with immediate effect for governmental interference.[14] On 3 June 2015, the AFC confirmed that Indonesia have been excluded from the qualifying competition, and all matches involving them have been cancelled.[15]

การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่แฟนบอลทีมชาติไทยคาดหวังมากที่สุด เนื่องจากชุดนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนตกเป็นของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งสามารถพาทีมชุดนี้คว้าแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลระดับอาเซียนกลับประเทศได้หมดแล้ว ทั้งซีเกมส์ 2013 และ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014[16] รวมทั้งการจับสลากแบ่งกลุ่มในการแข่งขันในรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มเอฟร่วมกับอิรัก ซึ่งมีอันดับโลกฟีฟ่าต่ำสุดในโถที่ 1 ซึ่งเป็นหัวแถวของเอเชีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย ซึ่ง 2 ประเทศนี้อยู่ในเขตอาเซียน และไต้หวัน ซึ่งมีอันดับโลกฟีฟ่าต่ำสุดในเอเชีย จึงนับว่าเป็นเรื่องง่ายของไทยที่จะผ่านไปเล่นในรอบที่ 3[17]

และนัดแรกก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เพราะการแข่งขันระหว่างไทยกับเวียดนามที่ราชมังคลากีฬาสถานเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่ง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ในขณะนั้นส่งเรื่องไปยังฟีฟ่า และได้รับอนุมัติให้เลื่อนออกมาหลังไปทับกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์[18] ไทยสามารถเอาชนะเวียดนามได้ 1-0 จากปกเกล้า อนันต์ ในนาทีที่ 81[19] แต่แล้วในวันที่ 30 พฤษภาคม ก็เกิดเหตุการณ์โชคร้ายของทีมไทย เมื่ออินโดนีเซียถูกฟีฟ่าสั่งแบนจากการนำการเมืองเข้ามาแทรกแทรงวงการฟุตบอล หมดสิทธิ์ลงแข่งฟุตบอลโลก[20] แต่เกียรติศักดิ์ กุนซือ ช้างศึก เห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะการแข่งขันจะลดลงถึง 2 นัด ทำให้มีเวลาเตรียมทีมและฝึกซ้อมมากกว่าเดิม[21] แล้วก็เป็นผล เพราะเมื่อ 16 มิถุนายน ไทยสามารถบุกไปชนะไต้หวันได้ถึงถิ่น 2-0 จาก ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 21 และ 39[22] และเปิดบ้านยันเสมอกับอิรักเมื่อ 8 กันยายน ไป 2-2 จากจุดโทษของ ธีราทร บุญมาทัน ในนาทีที่ 80 และ มงคล ทศไกร ในนาทีที่ 83[23] ต่อมาในวันที่ 13 ตุลาคม ไทยก็บุกไปชนะเวียดนามได้ถึง 3-0 จาก เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ในนาทีที่ 28, การสกัดเข้าประตูตัวเองของ ดิน เทียน ทันห์ ในนาทีที่ 56 และการต่อบอลอันสวยงาม 16 ครั้ง ก่อนปิดกล่องที่ ธีราทร บุญมาทัน ในนาทีที่ 70[24][25] และในวันที่ 12 พฤศจิกายน ไทยก็เปิดบ้านเอาชนะไต้หวันไป 4-2 จาก ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 41, ปกเกล้า อนันต์ ในนาทีที่ 52, อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 72 และ ธนา ชะนะบุตร ในนาทีที่ 74[26]

และนัดสุดท้ายในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559 ที่สนามกลางในประเทศอิหร่าน ซึ่งอิรักใช้แข่งเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองอันไม่สงบภายในประเทศอิรัก[27] ไทยสามารถยันเสมออิรักได้ 2-2 จาก มงคล ทศไกร ในนาทีที่ 40 และ อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 86 ทำให้ไทยเข้ารอบที่ 3 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี และสามารถเข้ารอบสุดท้ายของศึก เอเชียนคัพ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีอีกด้วย[28][29]

เอเชียนคัพ 2019

อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1 Flag of the United Arab Emirates สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (H) 3 1 2 0 4 2 +2 5 รอบแพ้คัดออก
2 ธงชาติไทย ไทย 3 1 1 1 3 5 −2 4[a]
3 ธงชาติบาห์เรน บาห์เรน 3 1 1 1 2 2 0 4[a]
4 ธงชาติอินเดีย อินเดีย 3 1 0 2 4 4 0 3
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562. แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
(H) เจ้าภาพ.
หมายเหตุ :
  1. 1.0 1.1 คะแนน เฮด-ทู-เฮด: ไทย 3, บาห์เรน 0.

การแข่งขัน

การแข่งขันที่สำคัญ

# วันที่ สถานที่ คู่แข่ง สกอร์ ผล หมายเหตุ
1. 26/11/56 ออสเตรเลีย เมลเบิร์น, ประเทศออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร บริเตนใหญ่ 0-9 แพ้ การแข่งขันของทีมชาติไทยที่แพ้สูงสุด
2. 19/10/68 เม็กซิโก เอสตาดีโอโนว์กัมป์, เลออน ประเทศกัวเตมาลา กัวเตมาลา 4-1 แพ้ การแข่งขันและประตูครั้งแรกของทีมชาติไทยในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์
3. 24/5/71 ไทย กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย บรูไนบรูไน 10-0 ชนะ การแข่งขันของทีมชาติไทยที่ชนะสูงสุด
4. 19/5/72 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร ธงชาติกัมพูชา กัมพูชา กัมพูชา 2-2 จุดโทษ 3-5 ชนะ ทีมชาติไทยคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 1972
5. 4/6/83 เกาหลีใต้ สนามตองแตมุน, โซล ไนจีเรีย ไนจีเรีย 0-0 เสมอ
6. 12/6/83 เกาหลีใต้ สนามชอนจู, ชอนจู สหรัฐ สหรัฐอเมริกา 3-2 แพ้
7. 15/4/84 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น 5-2 ชนะ
8. 21/6/92 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร เกาหลีใต้ เกาหลีใต้ 2-1 ชนะ เอเชียนคัพ 1992 รอบคัดเลือก
9. 29/6/93 สิงคโปร์ สิงคโปร์ ประเทศพม่า เมียนมาร์ 4-3 ชนะ เริ่มประสบความสำเร็จในระดับทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
10. 15/9/96 สิงคโปร์ สนามกีฬาแห่งชาติ, สิงคโปร์ มาเลเซีย มาเลเซีย 1-0 ชนะ ชนะการแข่งขัน อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ รอบชิงชนะเลิศ
11. 16/2/96 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร ฟินแลนด์ ฟินแลนด์ 5-2 ชนะ
12. 13/2/97 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร โรมาเนีย โรมาเนีย 1-0 ชนะ
13. 15/3/97 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น 3-1 ชนะ
14. 14/12/98 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร เกาหลีใต้ เกาหลีใต้ 2-1 ชนะ
15. 23/2/00 ไทย ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร บราซิล บราซิล 0-7 แพ้
16. 21/12/04 ไทย ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร เยอรมนี เยอรมนี 1-5 แพ้
17. 6/6/07 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร เนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ 1-3 แพ้
18. 3/10/07 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-1 เสมอ การแข่งขันครั้งสุดท้ายของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในนามทีมชาติไทย
19. 28/3/09 ไทย สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร นิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ 3-1 ชนะ การแข่งขันครั้งสุดท้ายของ ธชตวัน ศรีปาน ในนามทีมชาติไทย
20. 16/5/10 แอฟริกาใต้ สนามกีฬาเคปทาวน์, เคปทาวน์ แอฟริกาใต้ แอฟริกาใต้ 4-0 แพ้
21. 2/9/11 ออสเตรเลีย สนามกีฬาซันคอร์ป, บริสเบน ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย 2-1 แพ้ การแข่งขันครั้งแรกกับออสเตรเลีย
22. 6/9/11 ไทย ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร โอมาน โอมาน 3-0 ชนะ

สถิติฟุตบอลโลก

ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ปี ผล อันดับ ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
อุรุกวัย 1930 -
เม็กซิโก 1970
ไม่ได้เข้าร่วม - - - - - - - - - - - - -
เยอรมนีตะวันตก 1974 ไม่ผ่านเข้ารอบ - - - - - - - 4 0 0 4 0 13
อาร์เจนตินา 1978 - - - - - - - 4 1 0 3 8 12
สเปน 1982 - - - - - - - 3 0 1 2 3 13
เม็กซิโก 1986 - - - - - - - 6 1 2 3 4 4
อิตาลี 1990 - - - - - - - 6 1 0 5 2 14
สหรัฐ 1994 - - - - - - - 8 4 0 4 13 7
ฝรั่งเศส 1998 - - - - - - - 4 1 1 2 5 6
เกาหลีใต้ญี่ปุ่น 2002 - - - - - - - 14 5 5 4 25 20
เยอรมนี 2006 - - - - - - - 6 2 1 3 9 10
แอฟริกาใต้ 2010 - - - - - - - 10 3 2 5 20 17
บราซิล 2014 - - - - - - - 5 2 2 1 7 4
รัสเซีย 2018 - - - - - - - 16 4 2 8 20 30
ประเทศกาตาร์ 2022 ยังไม่แข่งขัน - - - - - - - - - - - - -
รวม - - - - - - - 81 22 14 43 109 146

ประวัติในการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก

(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2535)

สถิติเอเอฟซี เอเชียนคัพ

เอเชียนคัพ นัดแข่งขันกับโอมาน ในปี 2007
เอเชียนคัพรอบสุดท้าย เอเชียนคัพรอบคัดเลือก
ปี ผลการแข่งขัน อันดับ ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
ฮ่องกง 1956 to อิสราเอล 1964 ไม่ได้เข้าร่วม - - - - - - - - - - - - -
อิหร่าน 1968 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 4 2 0 2 5 4
ไทย 1972 อันดับ 3 5 0 3 2 6 9
อิหร่าน 1976 ถอนทีมหลังจากผ่านการคัดเลือก - - - - - - - 4 3 0 1 8 2
คูเวต 1980 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 5 3 0 2 11 3
สิงคโปร์ 1984 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 5 3 0 2 9 10
ประเทศกาตาร์ 1988 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 5 1 2 2 5 12
ญี่ปุ่น 1992 รอบที่ 1 3 0 2 1 1 5 2 2 0 0 3 1
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1996 รอบที่ 1 3 0 0 3 2 13 6 4 2 0 31 5
เลบานอน 2000 รอบที่ 1 3 0 2 1 2 4 6 4 1 1 13 8
จีน 2004 รอบที่ 1 3 0 0 3 1 9 6 3 0 3 10 7
อินโดนีเซียมาเลเซียไทยเวียดนาม 2007 รอบที่ 1 3 1 1 1 3 5
ประเทศกาตาร์ 2011 ไม่ผ่านเข้ารอบคัดเลือก - - - - - -
ออสเตรเลีย 2015 ไม่ผ่านเข้ารอบคัดเลือก - - - - - 6 0 0 6 7 21
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2019 รอบสุดท้าย(ยังไม่แข่งขัน) - - - - -
รวม ดีที่สุด: อันดับ 3 20 1 8 11 15 45 43 25 5 13 95 52

สถิติเอเชียนเกมส์

(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2545)

เอเชียนเกมส์
ปี รอบ ลงเล่น ชนะ เสมอ แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
อินเดีย 1951 ถึง
อินโดนีเซีย 1962
ไม่ได้เข้าร่วม
-
-
-
-
-
-
ไทย 1966
รอบก่อนรองชนะเลิศ
4
1
1
2
5
8
ไทย 1970
รอบก่อนรองชนะเลิศ
4
1
2
1
6
6
อิหร่าน 1974
รอบที่ 1
2
0
0
2
2
4
ไทย 1978
รอบที่ 2
5
2
0
3
6
12
อินเดีย 1982
รอบที่ 1
3
1
0
2
3
5
เกาหลีใต้ 1986
รอบที่ 1
4
1
1
2
8
4
จีน 1990
รอบรองชนะเลิศ
6
3
1
2
5
3
ญี่ปุ่น 1994
รอบที่ 1
4
0
1
3
8
12
ไทย 1998
รอบรองชนะเลิศ
8
4
1
3
12
10
เกาหลีใต้ 2002
รอบรองชนะเลิศ
5
4
0
1
0
4
ประเทศกาตาร์ 2006
รอบก่อนรองชนะเลิศ
4
3
0
1
4
3
จีน 2010
รอบก่อนรองชนะเลิศ
5
2
2
1
8
2
เกาหลีใต้ 2014
รอบรองชนะเลิศ
7
5
0
2
15
3
อินโดนีเซีย 2018
รอบที่ 1
3
0
2
1
2
3
รวม
ดีที่สุด: รอบรองชนะเลิศ
63
25
11
25
97
78

ประวัติการแข่งขันในอาเซียน

สถิติอาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ

การแข่งขันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อไทเกอร์คัพและเอเอฟเอฟซูซูกิคัพ

สถิติซีเกมส์

ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2001 - ค.ศ. 2015 ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2017

ซีเกมส์
เจ้าภาพ/ปี รอบ ลงเล่น ชนะ เสมอ แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
ไทย 1959 รองชนะเลิศ 4 2 0 2 9 10
ประเทศพม่า 1961 อันดับ 3 3 1 2 0 7 4
มาเลเซีย 1965 ชนะเลิศ 3 2 1 0 6 3
ไทย 1967 อันดับ 3 4 2 0 2 9 8
ประเทศพม่า 1969 รองชนะเลิศ 3 1 1 1 4 4
มาเลเซีย 1971 อันดับ 3 5 1 2 2 7 8
สิงคโปร์ 1973 รอบที่ 1 2 0 1 1 1 2
ไทย 1975 ชนะเลิศ 3 1 2 0 5 4
มาเลเซีย 1977 รองชนะเลิศ 4 1 1 2 3 6
อินโดนีเซีย 1979 อันดับ 3 5 2 2 1 6 5
ฟิลิปปินส์ 1981 ชนะเลิศ 4 2 2 0 9 6
สิงคโปร์ 1983 ชนะเลิศ 5 3 1 1 10 4
ไทย 1985
ชนะเลิศ
4
3
1
0
17
1
อินโดนีเซีย 1987
อันดับ 3
4
2
1
1
7
3
มาเลเซีย 1989
รอบรองชนะเลิศ
4
1
2
1
5
3
ฟิลิปปินส์ 1991
รองชนะเลิศ
4
2
1
1
10
2
สิงคโปร์ 1993
ชนะเลิศ
6
6
0
0
18
6
ไทย 1995
ชนะเลิศ
6
5
1
0
19
2
อินโดนีเซีย 1997
ชนะเลิศ
6
4
2
0
15
3
บรูไน 1999
ชนะเลิศ
6
5
1
0
24
1
มาเลเซีย 2001
ชนะเลิศ
6
6
0
0
14
2
เวียดนาม 2003
ชนะเลิศ
5
4
1
0
20
2
ฟิลิปปินส์ 2005
ชนะเลิศ
5
5
0
0
10
2
ไทย 2007
ชนะเลิศ
5
5
0
0
18
3
ลาว 2009
รอบที่ 1
4
2
1
1
15
3
อินโดนีเซีย 2011
รอบที่ 1
4
1
0
3
6
7
ประเทศพม่า 2013
ชนะเลิศ
6
4
2
0
10
3
สิงคโปร์ 2015
ชนะเลิศ
6
6
0
0
21
1
มาเลเซีย 2017
ชนะเลิศ
7
6
1
0
12
1
รวม
ดีที่สุด: ชนะเลิศ
133
85
29
19
317
109

เกียรติยศอื่น ๆ

ผลงานชุดเยาวชน

ระดับโลก

ระดับเอเชีย

ระดับอาเซียน

ผู้ฝึกสอนทีมชาติ

ผู้ฝึกสอนตั้งแต่ (พ.ศ. 2499–ปัจจุบัน)

ชื่อ สัญชาติ ช่วงเวลา สถิติ ผลงาน
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ Win %
บุญชู สมุทรโคจร ไทย 2499-2507 ? ? ? ? ?
ประเทียบ เทศวิศาล ไทย 2508-2511 ? ? ? ? ?
กึนเทอร์ กลอมบ์ เยอรมนี 2511-2518 ? ? ? ? ? โอลิมปิกฤดูร้อน 1968 - รอบแบ่งกลุ่ม
Naowarat Patanon ไทย 2518 ? ? ? ? ?
เพเทอร์ ชนิทเกอร์ เยอรมนี 2519-2521 ? ? ? ? ?
แวร์เนอร์ บิคเคลเฮาพท์ เยอรมนี 2522 ? ? ? ? ?
วิชิต แย้มบุญเรือง ไทย 2522 ? ? ? ? ?
ศุภกิจ มีลาภกิจ ไทย 2523 ? ? ? ? ?
ประวิทย์ ไชยสาม ไทย 2524-2526 ? 2 3 ? ?
ยรรยง ณ หนองคาย ไทย 2526 ? 2 3 ? ?
เสนอ ไชยยงค์ ไทย 2527 ? 2 3 ? ?
บัวร์กฮาร์ด ซีเซอ เยอรมนี 2528–2529 ? ? ? ? ?
เชิดศักดิ์ ชัยบุตร ไทย 2530 ? ? ? ? ?
ประวิทย์ ไชยสาม ไทย 2531-2532 ? ? ? ? ?
คาร์ลอส โรแบร์โต คาร์วัลโญ บราซิล 2532–2534 ? ? ? ? ? คิงส์คัพ 1989
อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 1990
ปีเตอร์ สตัปป์ เยอรมนี 2534–2537 ? 6 2 1 ? 1992 AFC Asian Cup - Group Stage
ซีเกมส์ 1993 - ชนะเลิศ
วรวิทย์ สัมปชัญญสถิตย์ ไทย 2537 ? 2 3 ? ?
ชัชชัย พหลแพทย์ ไทย 2537–2538 ? ? ? ? ? 1995 Southeast Asian Games - ชนะเลิศ
อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ ไทย 2539 15 9 3 3 60.0 1996 AFC Asian Cup - รอบแบ่งกลุ่ม
ธวัชชัย สัจจกุล ไทย 2539 ? ? ? ? ? 1996 ASEAN Football Championship - ชนะเลิศ
เดทท์มาร์ คราเมอร์ เยอรมนี 2540 ? ? ? ? ?
วิทยา เลาหกุล ไทย 2540–2541 24 10 9 5 41.7 ซีเกมส์ 1997 - ชนะเลิศ
ปีเตอร์ วิธ อังกฤษ 2541–2546 101 46 25 30 45.5 อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 1998
ซีเกมส์ 1999 - ชนะเลิศ
2000 AFC Asian Cup - รอบแบ่งกลุ่ม
2000 ASEAN Football Championship - ชนะเลิศ
คิงส์คัพ 2000 - ชนะเลิศ
2002 ASEAN Football Championship - ชนะเลิศ
อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2002
คาร์ลอส โรแบร์โต คาร์วัลโญ บราซิล 2546–2547 13 6 2 5 46.1
ชัชชัย พหลแพทย์ ไทย มิถุนายน - สิงหาคม 2547 8 2 1 5 25.0 2004 AFC Asian Cup - รอบแบ่งกลุ่ม
ซิกกี เฮลด์ เยอรมนี สิงหาคม 2547-2548 11 4 4 3 36.4 ไทเกอร์คัพ 2004 - รอบแบ่งกลุ่ม
ชาญวิทย์ ผลชีวิน ไทย 2548-มิถุนายน 2551 39 18 11 10 46.1 2006 King's Cup - ชนะเลิศ
2006 T&T Cup - ชนะเลิศ
คิงส์คัพ 2007 - ชนะเลิศ
2007 AFC Asian Cup - รอบแบ่งกลุ่ม
อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 2007- รองชนะเลิศ
ปีเตอร์ รีด อังกฤษ กันยายน 2551-กันยายน 2552 15 8 4 3 53.3 2008 T&T Cup - ชนะเลิศ
เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008 - รองชนะเลิศ
ไบรอัน ร็อบสัน อังกฤษ กันยายน 2552 - มิถุนายน 2554 18 7 4 7 38.8 ภูเก็ต กะตะกรุ๊ป คัพ 2009 (รายการการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมสโมสร)
เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 - รอบแบ่งกลุ่ม
วินเฟรด เชเฟอร์ เยอรมนี กรกฎาคม 2554 - มิถุนายน 2556 28 14 6 8 เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 - รองชนะเลิศ
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ไทย กรกฎาคม 2556 - 31 มีนาคม 2560 42 21 7 14 50 เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 - ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 ชนะเลิศ
เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 - ชนะเลิศ
มิลอวัน ราเยวัตส์
เซอร์เบีย 5 พฤษภาคม 2560 - 7 มกราคม 2562 20 8 7 5 40% ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 รองชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2018 รอบรองชนะเลิศ
เอเชียนคัพ 2019
ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย
ไทย 7 มกราคม 2562 - - - - - - เอเชียนคัพ 2019

หัวหน้าทีม

หมายเลขเสื้อ ผู้เล่น ดำรงตำแหน่ง
4

เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว

รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
1 กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ พ.ศ. 2560-ปัจจุบัน
10 ธีรศิลป์ แดงดา พ.ศ. 2559–รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016
3 ธีราทร บุญมาทัน พ.ศ. 2558–2559
19 อดุลย์ หละโสะ พ.ศ. 2557–2558
18 สินทวีชัย หทัยรัตนกุล พ.ศ. 2556–2557
2 ภานุพงศ์ วงศ์ษา พ.ศ. 2555–2556
6 ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ พ.ศ. 2553–2554
7 ดัสกร ทองเหลา พ.ศ. 2551–2552
10 ตะวัน ศรีปาน พ.ศ. 2550–2551
17 สุธี สุขสมกิจ พ.ศ. 2549
1

5

กิตติศักดิ์ ระวังป่า

นิเวส ศิริวงศ์

พ.ศ. 2549, พ.ศ. 2551
6 รุ่งโรจน์ สว่างศรี พ.ศ. 2547–2548
8 เทิดศักดิ์ ใจมั่น พ.ศ. 2546
12 สุรชัย จิระศิริโชติ พ.ศ. 2545
13 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง พ.ศ. 2544–พ.ศ. 2545, พ.ศ. 2547, พ.ศ. 2550
5 โชคทวี พรหมรัตน์ พ.ศ. 2542–พ.ศ. 2543, พ.ศ. 2546
7 นที ทองสุขแก้ว พ.ศ. 2539–พ.ศ. 2541
14 วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ พ.ศ. 2538
9 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน พ.ศ. 2536

ผู้ทำประตูสูงสุด

  • สถิติผู้ทำประตูสูงสุดในนามทีมชาติ (แสดงเฉพาะจำนวนประตูได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ บันทึกสถิติโดย RSSSF ข้อมูลบันทึกล่าสุดวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561)[30]

แถบสีฟ้าคือผู้เล่นที่ยังคงเล่นให้ทีมชาติอยู่ในปัจจุบัน

อันดับ ชื่อ ช่วงเวลา ประตู จำนวนนัดที่ลงสนาม ค่าเฉลี่ยการยิงต่อหนึ่งนัด สโมสร
1 น.ท.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน 1981–1997 77 104 0.74 ทหารอากาศ
ลัคกี โกลด์สตาร์
ปะหัง
2 ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง 1993–2007 71 134 0.52 ธนาคารกรุงไทย
ราชประชา
ตำรวจ
3 ธีรศิลป์ แดงดา 2007–ปัจจุบัน 44 94 0.47 เมืองทอง ยูไนเต็ด
อูเด อัลเมรีอา
4 ศรายุทธ ชัยคำดี 2003–2011 31 49 0.63 การท่าเรือ
บินห์ ดินห์
โอสถสภา
บางกอกกล๊าส
5 ร.ต.ต.วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ 1985–1995 29 84 0.34 ถาวรฟาร์ม
ตำรวจ
ปะหัง
6 นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ 1967–1979 28 85 0.32 ราชวิถี
การท่าเรือ
ดาวยศ ดารา 1975–1986 28 70 0.40 การท่าเรือ
วรวุฒิ ศรีมะฆะ 1995–2003 28 63 0.44 ธนาคารกสิกรไทย
บีอีซี เทโร ศาสน
9 เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง 1971–1981 27 79 0.34 การท่าเรือ
10 สุทธา สุดสะอาด 1978–1988 25 51 0.49 การท่าเรือ
ชลอ หงษ์ขจร 1979–1987 25 67 0.37 ทหารอากาศ
เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ 1995–1997 25 55 0.45 ธนาคารกสิกรไทย
13 ประพนธ์ ตันติยานนท์ 1971–1980 23 62 0.37 ราชประชา
ณ วันที่ 5 กรกฎาคม, 2561[31]

ผู้เล่น

ชุดปัจจุบัน

  • รายชื่อผู้เล่น 23 คน สำหรับการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2019
  • จำนวนนัดที่ลงเล่นให้ทีมชาติและจำนวนประตูที่ยิงได้นับถึงวันที่ 10 มกราคม 2561 หลังแข่งกับ ธงชาติบาห์เรน บาห์เรน
0#0 ตำแหน่ง ผู้เล่น วันเกิด (อายุ) ลงเล่น ประตู สโมสร
1 1GK ฉัตรชัย บุตรพรหม (1987-02-04) 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987 (37 ปี) 8 0 ไทย บางกอกกล๊าส
13 1GK สรานนท์ อนุอินทร์ (1994-03-24) 24 มีนาคม ค.ศ. 1994 (30 ปี) 0 0 ไทย เชียงราย ยูไนเต็ด
23 1GK ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (1984-04-20) 20 เมษายน ค.ศ. 1984 (40 ปี) 14 0 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

3 2DF ธีราทร บุญมาทัน (รองกัปตันทีม) (1990-02-06) 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 (34 ปี) 54 5 ไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด
4 2DF เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (1986-11-07) 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1986 (37 ปี) 17 0 ไทย นครราชสีมา มาสด้า
5 2DF อดิศร พรหมรักษ์ (1993-10-21) 21 ตุลาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 26 0 ไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด
6 2DF พรรษา เหมวิบูลย์ (1990-07-08) 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1990 (33 ปี) 17 4 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
11 2DF กรกช วิริยอุดมศิริ (1988-01-19) 19 มกราคม ค.ศ. 1988 (36 ปี) 11 1 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
15 2DF สุพรรณ ทองสงค์ (1994-08-26) 26 สิงหาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 3 0 ไทย สุพรรณบุรี
16 2DF มิก้า ชูนวลศรี (1989-03-26) 26 มีนาคม ค.ศ. 1989 (35 ปี) 5 0 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด
19 2DF ทริสตอง โด (1993-01-31) 31 มกราคม ค.ศ. 1993 (31 ปี) 26 0 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด

2 3MF ศศลักษณ์ ไหประโคน (1996-01-08) 8 มกราคม ค.ศ. 1996 (28 ปี) 4 0 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
7 3MF สุมัญญา ปุริสาย (1986-12-05) 5 ธันวาคม ค.ศ. 1986 (37 ปี) 19 0 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด
8 3MF ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (1993-09-01) 1 กันยายน ค.ศ. 1993 (30 ปี) 26 5 ไทย บางกอกกล๊าส
14 3MF สรรวัชญ์ เดชมิตร (1989-08-03) 3 สิงหาคม ค.ศ. 1989 (34 ปี) 29 0 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด
17 3MF ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (1993-09-21) 21 กันยายน ค.ศ. 1993 (30 ปี) 41 1 ไทย บางกอกกล๊าส
18 3MF ชนาธิป สรงกระสินธ์ (1993-10-05) 5 ตุลาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 48 6 ญี่ปุ่น คอนซาโดเล ซัปโปะโระ
21 3MF ปกเกล้า อนันต์ (1991-03-04) 4 มีนาคม ค.ศ. 1991 (33 ปี) 40 6 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด

9 4FW อดิศักดิ์ ไกรษร (1991-02-01) 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 (33 ปี) 35 16 ไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด
10 4FW ธีรศิลป์ แดงดา (กัปตันทีม) (1988-06-06) 6 มิถุนายน ค.ศ. 1988 (35 ปี) 97 43 ไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด
12 4FW ชนานันท์ ป้อมบุปผา (1992-03-17) 17 มีนาคม ค.ศ. 1992 (32 ปี) 7 0 ไทย สุพรรณบุรี
20 4FW สิโรจน์ ฉัตรทอง (1992-12-08) 8 ธันวาคม ค.ศ. 1992 (31 ปี) 25 3 ไทย พีที ประจวบ
22 4FW ศุภชัย ใจเด็ด (1998-12-01) 1 ธันวาคม ค.ศ. 1998 (25 ปี) 10 3 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ผู้เล่นที่เคยถูกเรียกตัว

รายชื่อผู้เล่นที่เคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยในรอบ 12 เดือนหลังสุด:

ตำแหน่ง ผู้เล่น วันเกิด (อายุ) ลงเล่น ประตู สโมสร ถูกเรียกครั้งล่าสุด
GK กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (1990-01-26) 26 มกราคม ค.ศ. 1990 (34 ปี) 64 0 เบลเยียม เอาด์ เฮเฟอร์เลเลอเฟิน เอเชียนคัพ 2019 INJ
GK ขวัญชัย สุขล้อม (1995-01-12) 12 มกราคม ค.ศ. 1995 (29 ปี) 0 0 ไทย พีที ประจวบ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 PRE
GK วรวุฒิ ศรีสุภา (1992-05-25) 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 (31 ปี) 0 0 ไทย การท่าเรือ v. ธงชาติฮ่องกง ฮ่องกง, 11 ตุลาคม 2561

DF พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (1993-02-04) 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 (31 ปี) 28 1 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด เอเชียนคัพ 2019 PRE
DF ชินภัทร ลีเอาะ (1997-02-02) 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997 (27 ปี) 0 0 ไทย เชียงราย ยูไนเต็ด เอเชียนคัพ 2019 PRE
DF ฟิลิป โรลเลอร์ (1994-06-10) 10 มิถุนายน ค.ศ. 1994 (29 ปี) 11 1 ไทย ราชบุรี มิตรผล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
DF มานูเอล บีร์ (1993-09-17) 17 กันยายน ค.ศ. 1993 (30 ปี) 4 0 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
DF เควิน ดีรมรัมย์ (1997-09-11) 11 กันยายน ค.ศ. 1997 (26 ปี) 1 0 ไทย การท่าเรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
DF มาร์โค บัลลินี (1998-06-12) 12 มิถุนายน ค.ศ. 1998 (25 ปี) 0 0 ไทย ชัยนาท ฮอร์นบิล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 PRE
DF นิติพงษ์ เสลานนท์ (1993-05-25) 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 0 0 ไทย การท่าเรือ คิงส์คัพ ครั้งที่ 46
DF นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (1994-07-12) 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 24 0 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 INJ

MF สุภโชค สารชาติ (1998-05-22) 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1998 (25 ปี) 1 0 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอเชียนคัพ 2019 PRE
MF นูรูล ศรียานเก็ม (1992-02-08) 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 (32 ปี) 15 0 ไทย การท่าเรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
MF ปกรณ์ เปรมภักดิ์ (1993-02-02) 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 (31 ปี) 5 0 ไทย การท่าเรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
MF อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (1997-11-06) 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997 (26 ปี) 2 0 ไทย แบงค็อก ยูไนเต็ด เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 PRE
MF รัตนากร ใหม่คามิ (1998-01-07) 7 มกราคม ค.ศ. 1998 (26 ปี) 0 0 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 PRE
MF สารัช อยู่เย็น (1992-05-30) 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 (31 ปี) 36 0 ไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด v. ธงชาติจีน จีน, 2 มิถุนายน 2561
MF จักรพันธ์ แก้วพรม (1988-05-24) 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1988 (35 ปี) 21 2 ไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด v. ธงชาติจีน จีน, 2 มิถุนายน 2561
MF ชาริล ชัปปุยส์ (1992-01-12) 12 มกราคม ค.ศ. 1992 (32 ปี) 20 5 ไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด v. ธงชาติจีน จีน, 2 มิถุนายน 2561
MF บดินทร์ ผาลา (1994-12-20) 20 ธันวาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 6 0 ไทย การท่าเรือ v. ธงชาติจีน จีน, 2 มิถุนายน 2561
MF นพพล พลคำ (1996-07-19) 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1996 (27 ปี) 0 0 ไทย โปลิศ เทโร v. ธงชาติจีน จีน, 2 มิถุนายน 2561 PRE

FW เจนรบ สำเภาดี (1995-06-02) 2 มิถุนายน ค.ศ. 1995 (28 ปี) 1 0 ไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด v. ธงชาติจีน จีน, 2 มิถุนายน 2561 INJ
FW สุพจน์ จดจำ (1990-03-02) 2 มีนาคม ค.ศ. 1990 (34 ปี) 1 0 ไทย พีที ประจวบ คิงส์คัพ ครั้งที่ 46
หมายเหตุ
  • RET ผู้เล่นที่เลิกเล่นให้กับทีมชาติ
  • INJ ผู้เล่นที่ถูกเรียกแต่ถอนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บ
  • PRE ผู้เล่นชุดเบื้องต้น
  • WD ผู้เล่นที่ถูกเรียกแต่ถอนตัวเนื่องจากปัญหาส่วนตัว

ผู้สนับสนุน

ฟุตบอลทีมชาติไทยมีผู้สนับสนุนหลักประกอบด้วย เครื่องดื่มตราช้าง,โตโยต้า,เมืองไทยประกันภัย, วาริกซ์, เถ้าแก่น้อย, แกรนด์สปอร์ต, เอ็ม 150, ซิตี้แบงค์, สายการบินไทยแอร์เอเชีย,แบรนด์ และ เน็กซ์แคร์

ฟุตบอลทีมชาติไทยในวัฒนธรรมสมัยนิยม

ในวัฒนธรรมสมัยนิยม ทีมชาติไทยได้มีการถูกอ้างถึงในหลายสื่อ เช่น ภาพยนตร์หมากเตะรีเทิร์นส, ในการ์ตูนญี่ปุ่นกัปตันซึบาสะ และการ์ตูนไทย มหาสนุก รวมไปถึงยังมีการดัดแปลงเป็นตัวละครในวิดีโอเกมชื่อดังหลาย ๆ เกม เช่น เกมชุดแชมเปียนชิพเมเนเจอร์ เกมชุดฟุตบอลเมเนเจอร์ เกมชุดฟีฟ่า และเกมวินนิงอีเลฟเวนภาค 2000 ยู-23 และล่าสุดกับเกมโปร อีโวลูชั่น ซ็อคเกอร์ 2009 นอกจากนั้นแล้ว โปรแกรมเมอร์ชาวไทยบางคนยังได้นำเกมบางเกมเหล่านี้ เช่น วินนิงอีเลฟเวน หรือแชมเปียนชิพเมเนเจอร์ มาดัดแปลงเพื่อเพิ่มทีมชาติไทย นักฟุตบอลไทย และรายการการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับทีมชาติไทยลงไปอีกด้วย

หมากเตะรีเทิร์นส

ในภาพยนตร์หมากเตะรีเทิร์นส เรื่องราวของพงศ์นรินทร์ผู้ฝึกสอนฟุตบอลชาวไทยที่มีฝีมือควบคุมทีมระดับสูงกับน้าสาวเจ๊มิ่งที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 โดยทั้งสองคนต้องการพาทีมฟุตบอลไทยไปแข่งฟุตบอลโลกโดยพร้อมที่จะใช้ค่าใช้จ่าย 192 ล้านบาทที่ได้มาจากรางวัล แต่ปรากฏว่าหลังจากคุยกับทาง "สมาพันธ์ฟุตบอลไทย" ทางสมาพันธ์ไม่เห็นด้วยไม่ยอมให้พงศ์นรินทร์มาเป็นผู้ฝึกสอน โดยได้แต่งตั้งให้ผู้ฝึกสอนชาวบราซิลมาควบคุมทีมแทน เจ๊มิ่งกับหลานชายเลยโมโหและเดินทางไป "ราชรัฐอาวี" ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน และสนับสนุนทีมฟุตบอลราชรัฐอาวีจนในที่สุดทีมฟุตบอลอาวีได้ชนะผ่านเข้ารอบจนถึงรอบสุดท้าย และต้องตัดสินกับทีมชาติไทยที่นำโดยผู้ฝึกสอนชาวบราซิล เพื่อจะชิงสิทธิที่จะไปร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลก

กัปตันซึบาสะ

ไฟล์:Singprasert Bunnaak.png
บุนนาค สิงห์ประเสริฐ ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องกัปตันซึบาสะ เล่นตำแหน่งกองหลังทีมไทย และสโมสรแอทเลติโกมาดริดในสเปน

ในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องกัปตันซึบาสะ ทีมเยาวชนไทยได้แข่งขันกับทีมเยาวชนญี่ปุ่นในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชน โดยทีมไทยมีผู้เล่นหลัก สามพี่น้องนักตะกร้อ ฟ้าลั่น สกุล ชนะ กรสวัสดิ์ เล่นในตำแหน่งกองหน้า และมี บุนนาค สิงห์ประเสริฐ อดีตแชมป์มวยไทย ที่เล่นให้กับสโมสรอัตเลตีโกมาดริดในสเปน ในตำแหน่งกองหลัง โดยเป็นกัปตันทีม และเป็นตัวกดดันซึบาสะจนเล่นไม่ออก ในครึ่งแรกนั้นทีมไทยนำทีมญี่ปุ่นถึง 4 ประตูต่อ 1 แต่ในช่วงครึ่งหลัง วากาบายาชิ และ อาโออิ ได้ลงเล่น ทำให้ญี่ปุ่นพลิกล็อกชนะไป 5 ประตูต่อ 4 (วากาบายาชิ ในขณะนั้น ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวมาก)

โดยนิตยสารอะเดย์ฉบับที่ 70 ได้มีการกล่าวถึงการ์ตูนกัปตันซึบาสะ ที่ทีมชาติญี่ปุ่นได้แข่งกับทีมชาติไทยนี้

มหาสนุก

ในหนังสือการ์ตูนไทยมหาสนุก ได้เคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเขียนเป็นเรื่องสั้นมีภาพประกอบโดย เฟน สตูดิโอ พิมพ์ลงในมหาสนุก ฉบับกระเป๋า เล่มที่ 25 เดือน กรกฎาคม 2533 ปักษ์แรก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ หนุ่มไทย 3 คน ที่ชอบเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ แต่เนื่องจากไม่มีเงินซื้อลูกฟุตบอล จึงได้ฝึกเล่นฟุตบอลกับลูกมะพร้าวอยู่เป็นเวลานาน จนมาวันหนึ่ง ผู้จัดการทีมชาติไทยได้ขับรถเที่ยวต่างจังหวัด และได้เห็นฝึมือของทั้งสามคนนี้ จึงซื้อลูกฟุตบอลมาให้ พร้อมกับชวนไปเล่นเป็นตัวแทนทีมชาติไทย จนในที่สุด ทีมชาติไทยได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย โดยในระหว่างการแข่งได้เจอกับคู่แข่งที่เก่งกาจไม่ว่านักเตะชื่อดังอย่างรืด คึลลิต, มาร์โก ฟัน บัสเติน และแกรี ลินิเกอร์ ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมไทยชนะ และผ่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในตอนจบนั้น ทีมชาติไทยกำลังจะทำประตูชนะการแข่งขัน แต่เกิดแผ่นดินไหวขึ้น และโลกระเบิด ทำให้ทีมไทยไม่ได้แชมป์บอลโลกในครั้งนั้น

อินาสึมะอิเลฟเวน GO กาแลคซี่

ในอนิเมะและเกม อินาสึมะอิเลฟเวน GO กาแลคซี่ ทีมชาติไทยมีชื่อว่า มัคไทเกอร์ ซึ่งเป็นทีมชาติที่ร่วมการแข่งขันฟุตบอลฟรอนเทียร์อินเตอร์เนชันแนล วิชั่นทู โซนเอเชีย ซึ่งเป็นผู้ผ่านเข้ารอบการแข่งขันระหว่างทีมเดเซิร์ทไลออนของประเทศกาตาร์ โดยมี นภา ลาดำ เป็นกัปตันทีมและเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลังของทีม

การวิพากษ์วิจารณ์

ทีมชาติไทยเคยสร้างความอัปยศโดยพยายามแข่งกันแพ้กับทีมอินโดนีเซียในการแข่งขันไทเกอร์คัพ 1998 ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากทั้งสองทีมเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว แต่ผู้ชนะซึ่งจะเป็นที่หนึ่งของกลุ่มเอจะต้องเดินทางไปแข่งในรอบรองชนะเลิศกับทีมชาติเวียดนามที่ฮานอยในวันชาติเวียดนาม ครึ่งแรกต่างฝ่ายต่างพยายามไม่ยิงประตู แต่หลังจากมีการพูดคุยกันระหว่างกรรมการและผู้ฝึกสอน ครึ่งหลังจึงทำประตูได้ทีมละสองประตู จนกระทั่งใกล้หมดเวลา นักเตะของอินโดนีเซียยิงเข้าประตูตัวเอง ทีมชาติไทยจึงชนะไป 3 ต่อ 2 ประตู การแข่งขันนัดนี้ทำให้ทั้งสองทีมถูกปรับเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,400,000 บาท[32][33][34]

อ้างอิง

  1. "Thailand matches, ratings and points exchanged". World Football Elo Ratings: Thailand. สืบค้นเมื่อ 24 November 2016.
  2. สถิติฟุตบอลในโอลิมปิก 1956
  3. บังยีแจงแม้วควักตังค์พาแข้งไทยบินซ้อมที่เรือใบ ข่าวจากสยามกีฬา
  4. "Bryan Robson to coach Thailand Bryan Robson has agreed to replace his former England team-mate Peter Reid as coach of Thailand". The Daily Telegraph. London. 23 September 2009. สืบค้นเมื่อ 27 April 2010.
  5. Singapore 1–3 Thailand: Sutee Suksomkit gives Bryan Robson crucial win
  6. "Bryan Robson resigns as Thailand manager". BBC Sport. 8 June 2011. สืบค้นเมื่อ 8 June 2011.
  7. "จิงโจ้เฉือนไทย 2-1 ประเดิมคัดบอลโลก". Manger Online. 2 September 2011. สืบค้นเมื่อ 2 September 2011.
  8. "แข้งไทยสุดยอด!ดับโอมาน 3-0 ประเดิมชัยนัดที่สองในฟุตบอลโลก 2014". Siamsport. 6 September 2011. สืบค้นเมื่อ 6 September 2011.
  9. http://www.soccerway.com/news/2012/December/14/aff-suzuki-cup-thailand-2-malaysia-0-3-1-agg/
  10. "ไทยเชือดสิงคโปร์ 1-0 รวมผลได้รองแชมป์อาเซียน". Siamsport. 22 December 2012. สืบค้นเมื่อ 22 December 2012.
  11. "ขุนพลช้างศึกฟอร์มเทพ!บุกขยี้จีนเละคาถิ่น 5-1". Siamsport. 15 June 2013. สืบค้นเมื่อ 15 June 2013.
  12. "ตั้งโค้ชง้วน คุมทีมชาติชุดใหญ่ประเดิมคัดเอเชียนคัพบุกอิหร่าน". Thairath. 22 August 2013. สืบค้นเมื่อ 22 August 2013.
  13. https://www.facebook.com/warrixofficial/photos/a.1620139491615372.1073741827.1620139098282078/1620139468282041/?type=3&theater
  14. "Current allocation of FIFA World Cup™ confederation slots maintained". FIFA.com. 30 May 2015.
  15. "Impact of Football Association of Indonesia suspension". AFC. 3 June 2015.
  16. ซิโก้-เกียรติศักด์ เสนาเมือง ผู้ทวงคืนยุคทองบอลไทย
  17. ไทยไม่หนัก!ชนอิรัก-เวียดนามคัดบอลโลก จากสยามกีฬารายวัน
  18. บังยีเผยฟีฟ่าอนุมัติเลื่อนไทย-เวียดนามเตะ24พ.ค.นี้ จากสยามกีฬารายวัน
  19. ปกเกล้า ซัดตูม!! 'ช้างศึก'บด'ญวน' 10 คน 1-0 ประเดิม 3 แต้ม จากไทยรัฐ
  20. ฟีฟ่าสั่งแบนอินโดห้ามเล่นคัดบอลโลก
  21. 'ซิโก้' ยิ้มบอลโลก! หลัง 'อิเหนา' โดนแบน เชื่อ'ช้างศึก'เข้ารอบ 12 ทีมแน่ จากไทยรัฐ
  22. มุ้ยเหมา! 'ช้างศึก' บุกยำไต้หวัน 2-0 นำฝูงคัดบอลโลก จากไทยรัฐ
  23. 'ช้างศึก' ตายยาก! ไล่เจ๊า 'อิรัก' สุดมัน 2-2 คัดบอลโลก จากไทยรัฐ
  24. 'ช้างศึก' สุดฮอต! บุกถลุง 'เวียดนาม' คาบ้าน 3-0 ศึกคัดบอลโลก จากไทยรัฐ
  25. เป็นไงครับ! ช้างศึกเข้าฝักเข่นเวียดนามยับ 3-0
  26. ไทย แซง ไต้หวัน 4-2 จ่อลิ่ว 12 ทีม จากไทยรัฐ
  27. “อิรัก” ใช้สนามอิหร่านคัดบอลโลก จากผู้จัดการออนไลน์
  28. 'ช้างศึก' ทำได้! บุกเจ๊า 'อิรัก' 2-2 ผงาดแชมป์กลุ่มเอฟคัดบอลโลก จากไทยรัฐ
  29. ชมอีกครั้ง'ไฮไลต์'สุดสะใจ!ช้างศึกไทย เสมอ 'อิรัก'! เป็นแชมป์กลุ่ม
  30. http://www.rsssf.com/miscellaneous/thai-recintlp.html
  31. http://www.rsssf.com/miscellaneous/thai-recintlp.html
  32. The New York Times, Indonesia and Thailand Fined, เข้าถึงเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2550
  33. Game Theory and Business Strategy, Autogoal in the Tiger Cup, เข้าถึงเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2550
  34. 1998 Tiger Cup - Vietnam, เข้าถึงเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2550

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น


ก่อนหน้า ฟุตบอลทีมชาติไทย ถัดไป
เริ่มการแข่งขัน อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ
(1996 (สมัยที่ 1))
1998 สิงคโปร์ สิงคโปร์
1998 สิงคโปร์ สิงคโปร์ อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ
(2000 (สมัยที่ 2)
2002 (สมัยที่ 3))
2004 สิงคโปร์ สิงคโปร์
2012 สิงคโปร์ สิงคโปร์ อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ
(2014 (สมัยที่ 4)
2016 (สมัยที่ 5))
2018