ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 59: บรรทัด 59:


=== คำนำหน้านาม (ฝ่ายใน) ===
=== คำนำหน้านาม (ฝ่ายใน) ===
สตรีที่ได้รับพระราชานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สามารถใช้คำนำหน้านามได้ คือ ใช้คำนำหน้านามว่า "[[ท่านผู้หญิง]]" สำหรับผู้ที่สมรสแล้ว หรือ "คุณ" สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สมรส
สตรีที่ได้รับพระราชานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สามารถใช้คำนำหน้านามได้ คือ "คุณ" สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สมรส หรือ ใช้คำนำหน้านามว่า "[[ท่านผู้หญิง]]" สำหรับผู้ที่สมรสแล้วกับ หม่อมราชวงศ์ ลงมา ส่วนสตรี ผู้ที่สมรสกับเจ้านายฝ่ายหน้าในราชวงศ์จักรี คือ ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป ใช้คำว่า หม่อม หรือ สกุลยศเดิม เช่น [[หม่อมราชวงศ์]] และ[[หม่อมหลวง]] ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นท่านผู้หญิง


สำหรับสตรีใน[[ราชสกุล]] ชั้น[[หม่อมเจ้า]]ขึ้นไปให้ใช้คำนำพระนามตามเดิม ไม่ว่าจะได้รับพระราชทานชั้นใด ส่วนสตรีในราชสกุล ชั้น[[หม่อมราชวงศ์]] และ[[หม่อมหลวง]] เมื่อได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ใช้คำนำนามว่า "ท่านผู้หญิง"<ref>[http://www.cabinet.thaigov.go.th/d_Chula00.htm เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า] จาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี</ref>
สำหรับสตรีใน[[ราชสกุล]] ชั้น[[หม่อมเจ้า]]ขึ้นไปให้ใช้คำนำพระนามตามเดิม ไม่ว่าจะได้รับพระราชทานชั้นใด ส่วนสตรีในราชสกุล ชั้น[[หม่อมราชวงศ์]] และ[[หม่อมหลวง]] เมื่อได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ใช้คำนำนามว่า "ท่านผู้หญิง"<ref>[http://www.cabinet.thaigov.go.th/d_Chula00.htm เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า] จาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:20, 10 ธันวาคม 2561

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ฝ่ายหน้า
อักษรย่อท.จ.ว.
ประเภทฝ่ายหน้า : คล้องคอมีดารา
ฝ่ายใน : สายสะพายไม่มีดารา
วันสถาปนาฝ่ายหน้า : พ.ศ. 2416
ฝ่ายใน : พ.ศ. 2442
ประเทศไทย ประเทศไทย
จำนวนสำรับฝ่ายหน้า : 200 สำรับ
ฝ่ายใน : 100 สำรับ
ผู้สมควรได้รับพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการทั้งปวง
(พระราชทานตามอัธยาศัย)
มอบเพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงอิสริยยศและระลึกถึงความดีความชอบของบุคคลซึ่งได้รักษาแผ่นดินมาแต่ก่อนถึงปัจจุบัน
ผู้สถาปนาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประธานพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย
ลำดับเกียรติ
สูงกว่าดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์
รองมารามาธิบดี ชั้นมหาโยธิน
หมายเหตุฝ่ายหน้า : มอบสืบตระกูลได้
ฝ่ายใน : มีคำนำหน้านาม

ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ มีอักษรย่อว่า ท.จ.ว. เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานทั้งฝ่ายหน้า (บุรุษ) จำนวน 200 สำรับ และฝ่ายใน (สตรี) จำนวน 100 สำรับ โดยทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษจัดเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีลำดับเกียรติอันดับที่ 13 ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย[1]

ลักษณะ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สามารถแบ่งออกสำหรับพระราชทานให้ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน โดยมีลักษณะดังนี้[2]

ฝ่ายหน้า

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สำหรับฝ่ายหน้า 1 สำรับ ประกอบด้วย ดารา ดวงตรา และแพรแถบ

  • ดวงตรา
    • ด้านหน้า มีลักษณะเป็นรัศมี 8 แฉก ลงยาสีชมพู มีรัศมีทองแทรกตามระหว่างแฉก มีใบชัยพฤกษ์สองข้าง ลงยาสีเขียว กลางดวงตรามีพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอบลงยาสีขาบ มีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ" เบื้องบนมี พระจุลมงกุฎเปล่งรัศมีลงยาสีเขียว สีแดง สีขาบ สีขาว
    • ด้านหลัง มีลักษณะเหมือนด้านหน้า แต่ที่กลางดวงตราเป็นรูปช้างไอราพต ลงยาสีขาว บนหลังช้างเป็นรูปตรีศูล ลงยาสีขาว ที่ขอบมีอักษรทองว่า "ปีระกา เบญจศก ศักราช ๑๒๓๕" รอบขอบเป็นรูปจักร ลงยาสีขาวพื้นแดง

ดวงตราใช้สำหรับประดับห้อยกับแพรแถบสีชมพู กว้าง 5 เซนติเมตร สำหรับสวมคอ

  • ดารา มีลักษณะเป็นรัศมีเงิน 8 แฉก กลางดารามีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "จ.จ.จ." ทำด้วยทองคำ อยู่บนพื้นลงยาสีชมพู ขอบลงยาสีขาบ มีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ" ใช้สำหรับประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย

ฝ่ายใน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สำหรับฝ่ายใน 1 สำรับ ประกอบด้วย

  • ดวงตรา มีลักษณะเหมือนเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า สำหรับพระราชทานฝ่ายใน แต่ไม่ประดับเพชร ใช้สำหรับห้อยกับสายสะพายสีชมพู ขนาดกว้าง 7.5 เซนติเมตร ใช้สะพายบ่าซ้ายเฉียงลงทางขวา หรือจะใช้ห้อยกับแพรแถบสีชมพูขนาดกว้าง 5 เซนติเมตร ผูกเป็นรูปแมลงปอ ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย

ลักษณะพิเศษ

เครื่องยศ

ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษนั้นจะได้รับพระราชทานเครื่องยศประกอบด้วย

1. เสื้อครุยปัก จ.จ.จ. (ฝ่ายในพระราชทานผ้าปักทองแล่ง)

2.พานหมากทองคำเครื่องพร้อม

3.คณโฑทองคำพร้อมพานรอง

4.กาน้ำทองคำพร้อมโต๊ะทองคำ

5.กระโถนทองคำ

ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.จ. และ ท.จ.ว จะมีบรรดาศักดิ์เทียบเท่า พระยาพานทอง

คำนำหน้านาม (ฝ่ายใน)

สตรีที่ได้รับพระราชานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สามารถใช้คำนำหน้านามได้ คือ "คุณ" สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สมรส หรือ ใช้คำนำหน้านามว่า "ท่านผู้หญิง" สำหรับผู้ที่สมรสแล้วกับ หม่อมราชวงศ์ ลงมา ส่วนสตรี ผู้ที่สมรสกับเจ้านายฝ่ายหน้าในราชวงศ์จักรี คือ ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป ใช้คำว่า หม่อม หรือ สกุลยศเดิม เช่น หม่อมราชวงศ์ และหม่อมหลวง ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นท่านผู้หญิง

สำหรับสตรีในราชสกุล ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไปให้ใช้คำนำพระนามตามเดิม ไม่ว่าจะได้รับพระราชทานชั้นใด ส่วนสตรีในราชสกุล ชั้นหม่อมราชวงศ์ และหม่อมหลวง เมื่อได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ใช้คำนำนามว่า "ท่านผู้หญิง"[3]

การสืบตระกูล (ฝ่ายหน้า)

ดูบทความหลัก การสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษนั้น สามารถสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ โดยบุตรชายของผู้ได้รับพระราชทานนั้น จะได้รับสืบตระกูลเมื่อบิดาล่วงลับไปแล้ว และการสืบตระกูลจะสิ้นสุดลงเพียงชั้นนี้เท่านั้น[2]

เกียรติยศศพ

ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เมื่อวายชนม์จะใช้คำว่า "ถึงแก่อนิจกรรม"[4][5] และจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ แต่ถ้าผู้วายชนม์เป็นสมาชิกราชตระกูล ดำรงตำแหน่งสำคัญ หรือได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่นที่มีลำดับเกียรติสูงกว่าก็อาจได้รับเกียรติยศศพสูงขึ้น โดยจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ ดังนี้

  1. โกศแปดเหลี่ยม
  2. น้ำหลวงอาบศพ
  3. ฉัตรเบญจา 4คันตั้งประกอบเกียรติยศข้างโกศศพ และ 10คัน เวลาแห่เวียนเมรุ
  4. ปี่ไฉน1 กลองชนะ10 ประโคมเวลารับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ , แห่โกศศพเวียนรอบเมรุ และ เวลารับพระราชทานเพลิงศพ
  5. รถวอเชิญโกศศพ
  6. เพลิงหลวง

การพระราชทาน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้ามีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธานของเครื่องอิสริยาภรณ์ รวมทั้งทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะพระราชทานแก่ผู้ที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควรและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ได้ ปัจจุบัน เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ แบ่งออกสำหรับพระราชทานฝ่ายหน้าจำนวน 200 สำรับ และฝ่ายในจำนวน 100 สำรับ[6] นอกจากนี้ ยังสามารถพระราชทานแก่เจ้านายหรือผู้มีเกียรติจากต่างประเทศซึ่งไม่นับรวมกับจำนวนดังกล่าว

ผู้ได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษจะได้รับใบประกาศนียบัตรทรงลงพระปรมาภิไธยและประทับพระราชลัญจกร เว้นแต่กรณีที่ได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าแล้วเลื่อนขึ้นรับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษจะไม่มีใบประกาศนียบัตร และเมื่อผู้ได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้าวายชนม์ลง ผู้รับมรดกจะต้องส่งเครื่องราชอิรสริยาภรณ์คืนภายใน 30 วัน ถ้าส่งคืนไม่ได้กองมรดกจะต้องรับผิดชอบ ส่วนกรณีผู้ได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลจุลจอมเกล้าในชั้นที่สูงขึ้นหรือทรงเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ถ้าผู้รับพระราชทานไม่สามารถส่งคืนได้ ต้องชดใช้ราคาสำหรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น[2] สำหรับฝ่ายหน้าต้องชดใช้เป็นจำนวนเงิน 341,000 บาท และฝ่ายใน 187,000 บาท[7]

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ลำดับเกียรติเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย, เล่ม ๑๑๐, ตอน ๒๙ง ฉบับพิเศษ, ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๖, หน้า ๑
  2. 2.0 2.1 2.2 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า พุทธศักราช ๒๔๘๔, เล่ม ๕๘, ตอน ๐ ก, ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๔, หน้า ๑๕๕๓
  3. เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า จาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
  4. สุดสงวน, ตอน “การใช้ภาษาในภาวะวิกฤต”, สกุลไทย, ฉบับที่ 2629, ปีที่ 51, ประจำวันอังคารที่ 8 มีนาคม 2548
  5. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (ออนไลน์) พ.ศ. 2542 : อสัญกรรม
  6. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๙, เล่ม ๘๓, ตอน ๓๓ ก, ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙, หน้า ๒๕๓
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การปรับราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืนตามกฎหมาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ – ๒๕๕๓, เล่ม ๑๒๕, ตอน พิเศษ ๔๙ ง, ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑, หน้า ๘

แหล่งข้อมูลอื่น