ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซุนเซียง"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 24: | บรรทัด 24: | ||
==<span lang="en" dir="ltr">อ้างอิง</span>== |
==<span lang="en" dir="ltr">อ้างอิง</span>== |
||
[https://www.samkok911.com/2014/07/Sun-Yi.html <span lang="en" dir="ltr">https://www.samkok911.com/2014/07/Sun-Yi.html</span>] |
[https://www.samkok911.com/2014/07/Sun-Yi.html <span lang="en" dir="ltr">https://www.samkok911.com/2014/07/Sun-Yi.html</span>] |
||
{{อายุขัย|727|747}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:30, 23 กันยายน 2561
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ซุนเซียง | |
---|---|
ข้าราชการแห่งง่อก๊ก | |
เกิด | ค.ศ.184 |
ถึงแก่กรรม | ค.ศ.203 |
สถานที่ถึงแก่กรรม | เมืองง่อกุ๋น |
ชื่อรอง | ซู้ปี่ (Shubi , 叔弼) |
ในยุคสามก๊ก ผู้นำของแผ่นดินกังตั๋งสืบทอดกันในวงศ์สกุล"ซุน"แบบรุ่นต่อรุ่น ผู้พ่อซุนเกี๋ยน ส่งให้ซุนเซ็กบุตรคนโต เมื่อซุนเซ็กสิ้นบุญจึงส่งต่อให้ซุนกวนน้องชายคนรองปกครองตามลำดับ แผ่ขยายจนกลายเป็น"ง่อก๊ก"หนึ่งในสามขั้วอำนาจใหญ่แห่งแผ่นดินจีน
แต่ในบรรทัดหนึ่งของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ก่อนซุนเซ็กสิ้นใจ เหล่าที่ปรึกษาของซุนเซ็กเคยเสนอแนะให้ตั้งชายผู้หนึ่งขึ้นมาสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่ทั้งซุนกวน จิวยี่หรือขุนนางอื่นใด แต่เป็นบุตรชายคนที่สามของตระกูลซุน นั่นคือ"ซุนเซียง"
กำเนิด
ซุนเซียง เป็นบุตรชายคนที่สามของซุนเกี๋ยน ซึ่งเกิดจากนางง่อฮูหยิน เป็นน้องชายของซุนกวน เป็นสามีของนางชีฮูหยิน ซุนเซียงเป็นคนองอาจ ห้าวหาญ มีฝีมือการรบรุนแรง เด็ดขาดทัดเทียมกับซุนเซ็ก อีกทั้งยังมีสติปัญญาความรู้ความสามารถมาก ทำให้จูตีหนึ่งในที่ปรึกษาของซุนเซ็กยอมรับนับถือเป็นอย่างมาก และเสนอให้ซุนเซ็กแต่งตั้งเขาเป็น เซียวเหลียน (孝廉,ตำแหน่งข้าราชการระดับสูง)
ในปี ค.ศ.198 โจโฉ ส่งเทียบเชิญให้ซุนเซียง หนุ่มน้อยวัย 14 ปีเข้าร่วมทำงานในสำนักงานของคณะมหาเสนาบดี แต่ซุนเซียงขอเลือกอยู่กับครอบครัวในแผ่นดินแดนใต้มากกว่า
ปี ค.ศ.200 เมื่อซุนเซ็กล้มป่วยลง ที่ปรึกษาของเขานำโดยเตียวเจียวและจูตี เสนอแนะว่าควรแต่งตั้งให้ซุนเซียงเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของแผ่นดินกังตั๋ง แต่ซุนเซ็กเลือกที่จะแต่งตั้งซุนกวนน้องชายคนรอง เนื่องจากเห็นว่าซุนกวนมีวัยวุฒิที่เหมาะสมกว่า
ค.ศ.202 ซุนกวนปราบปรามหัวเมืองง่อได้สำเร็จ แต่ขุนนางแดนเมืองง่อหลายคนหนีเข้าป่าไป จึงมอบหมายให้ งอเก๋ง ผู้มีศักดิ์เป็นลุงขึ้นเป็นเจ้าเมืองตันเอี๋ยงปกครองชายแดนเมืองง่อ
เสียชีวิต
ปี ค.ศ. 203 งอเก๋งเสียชีวิต ซุนเซียงจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองแทน ซุนเซียงมีความตั้งใจจะให้กลุ่มขุนนางเก่า ๆ เข้ามารับราชการตามเดิม จึงเรียกอิหลำกับไต้อ้วน ที่หนีเข้าป่ากลับเข้ารับราชการ แต่อิหลำ ไต้อ้วนยังคงมีความแค้นฝังใจอยู่ จึงคิดก่อการกบฎ โดยคบคิดกับเปียนหอง คนสนิทของซุนเซียงให้ทรยศฆ่านาย
วันหนึ่งซุนเซียงแต่งโต๊ะเลี้ยงขุนนางที่ศาลากลาง นางชีฮูหยินผู้เป็นภรรยาได้ร้องทักว่า"อย่าได้ไปเลย จะมีเคราะห์หนักรออยู่"แต่ซุนเซียงไม่เชื่อ หลังงานเลี้ยง ซุนเซียงจะกลับเข้าในจวน เปียนหองซึ่งเดินตามมาจึงใช้กระบี่ฟันซุนเซียนตาย ด้วยวัยเพียง 20 ปี
การล้างแค้นของภรรยา
เมื่อซุนเซียงตายแล้ว อิหลำและไต้อ้วนจับตัวเปียนหองฆ่าเสียเพื่อปกปิดความผิด อิหลำคิดจะเอานางชีฮูหยิน ภรรยาของซุนเซียงเป็นภรรยา แต่ด้วยไหวพริบสติปัญญาของนางซีฮูหยิน จึงแสร้งตกลงแล้วขอเลื่อนไปอีกหนึ่งเดือนตามประเพณีที่ภรรยาม่ายยังไม่ควรรีบแต่งงานใหม่ จึงสามารถรวบรวมกำลังพลที่จงรักภักดีต่อตระกูลซุน จับอิหลำกับไต้อ้วน ตัดศีรษะไปเซ่นไหว้ที่หลุมศพซุนเซียงได้ในที่สุด