ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา)"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ล เพิ่มกล่องข้อมูล ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ขาดกล่องข้อมูล}} |
{{ขาดกล่องข้อมูล}} |
||
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์ |
|||
| พระนาม = สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 |
|||
| พระอิสริยยศ = อาณาจักรเขมรละแวก |
|||
| ภาพ = |
|||
| ครองราชย์ = พ.ศ. 2119- 2137 |
|||
| ปีครองราชย์ = [[18 ปี]] |
|||
| บรมราชาภิเษก = |
|||
| พระอิสริยยศอื่นๆ = |
|||
| พระนามเต็ม = |
|||
| รัชกาลก่อนหน้า = [[สมเด็จพระบรมราชาที่ 3]] |
|||
| รัชกาลถัดไป = [[พระไชยเชษฐาที่ 1]] |
|||
| suc-type = |
|||
| รัชทายาท = |
|||
| พระอัครมเหสี = |
|||
| พระมเหสี = |
|||
| พระราชบิดา = [[สมเด็จพระบรมราชาที่ 3]] |
|||
| พระราชมารดา = [[พระนางศรีชัยราชจุฑามณี|ศรีชัยราชจุฑามณี]] |
|||
| พระราชสมภพ = พ.ศ. 2083 |
|||
| สถานที่พระราชสมภพ =[[เมืองพระนคร]] |
|||
| สวรรคต = |
|||
| สถานที่เสด็จสวรรคต =[[เมืองพระนคร]] |
|||
| วันฝังพระศพ = |
|||
| สถานที่ฝังพระศพ = |
|||
|}} |
|||
{{ความหมายอื่น|พระมหากษัตริย์กัมพูชา|พระมหากษัตริย์ไทย|สมเด็จพระบรมราชาที่ 4}} |
{{ความหมายอื่น|พระมหากษัตริย์กัมพูชา|พระมหากษัตริย์ไทย|สมเด็จพระบรมราชาที่ 4}} |
||
'''สมเด็จพระบรมราชาที่ 4''' หรือ'''สมเด็จพระมหินทราชา''' พระนามเดิมว่านักพระสัตถาหรือนักพระสัฏฐา เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชาในสมัยที่กรุงละแวกเป็นราชธานี ประสูติราว พ.ศ. 2083 ครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 2119- 2137 เป็นพระโอรสของ[[สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (พระยาละแวก)|สมเด็จพระบรมราชาที่ 3]] ในรัชกาลของพระองค์นั้น ได้ทำสงครามขับเคี่ยวกับสยามหลายครั้ง ก่อนจะรบแพ้[[สมเด็จพระนเรศวรมหาราช]] จนเสียกรุงละแวกให้สยาม |
'''สมเด็จพระบรมราชาที่ 4''' หรือ'''สมเด็จพระมหินทราชา''' พระนามเดิมว่านักพระสัตถาหรือนักพระสัฏฐา เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชาในสมัยที่กรุงละแวกเป็นราชธานี ประสูติราว พ.ศ. 2083 ครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 2119- 2137 เป็นพระโอรสของ[[สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (พระยาละแวก)|สมเด็จพระบรมราชาที่ 3]] ในรัชกาลของพระองค์นั้น ได้ทำสงครามขับเคี่ยวกับสยามหลายครั้ง ก่อนจะรบแพ้[[สมเด็จพระนเรศวรมหาราช]] จนเสียกรุงละแวกให้สยาม |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:42, 19 กันยายน 2561
บทความนี้ขาดการสรุปข้อมูลที่จำเป็นในรูปแบบกล่องข้อมูล คุณสามารถช่วยเราได้ โดยการเพิ่มกล่องข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเหมาะสม ลงในบทความ |
สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) | |
---|---|
สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 | |
อาณาจักรเขมรละแวก | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 2119- 2137 |
รัชกาลก่อนหน้า | สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 |
พระไชยเชษฐาที่ 1 | |
ประสูติ | พ.ศ. 2083 |
พระราชบิดา | สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 |
พระราชมารดา | ศรีชัยราชจุฑามณี |
สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 หรือสมเด็จพระมหินทราชา พระนามเดิมว่านักพระสัตถาหรือนักพระสัฏฐา เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชาในสมัยที่กรุงละแวกเป็นราชธานี ประสูติราว พ.ศ. 2083 ครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 2119- 2137 เป็นพระโอรสของสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ในรัชกาลของพระองค์นั้น ได้ทำสงครามขับเคี่ยวกับสยามหลายครั้ง ก่อนจะรบแพ้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จนเสียกรุงละแวกให้สยาม
ใน พ.ศ. 2121 และ พ.ศ. 2124 สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ทรงยกทัพเรือมาโจมตีเพชรบุรีในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา โดยใน พ.ศ. 2121 นั้นตีไม่สำเร็จ เจ้าพระยาจีนจันตุ แม่ทัพฝ่ายละแวกเกรงทัณฑ์บน เข้ามาสวามิภักดิ์กับกรุงศรีอยุธยาก่อนจะลอบหนีกลับไปภายหลัง ส่วนใน พ.ศ. 2124 ตีเมืองเพชรบุรีได้สำเร็จ เจ้าเมืองเพชรบุรีเสียชีวิต ฝ่ายเขมรจึงกวาดต้อนครอบครัวกลับไปกรุงละแวกเป็นอันมาก ในปีถัดมาคือ พ.ศ. 2125 สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้แต่งทัพมากวาดต้อนผู้คนทางหัวเมืองตะวันออก สมเด็จพระนเรศวรซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระมหาอุปราช ได้นำทัพไปตีทัพเมืองละแวกแตกไป หลังจากนั้น กรุงละแวกได้ส่งพระราชสาสน์ขอเป็นไมตรีกับกรุงศรีอยุธยา และได้ปักปันเขตแดนไว้ที่ด่านพระจารึก สงครามระหว่างสยามกับกัมพูชาจึงสงบลง [1] หลังจากทำสัญญาเป็นไมตรีกันแล้ว เมื่อเกิดศึกหงสาวดีขึ้นอีก สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 โปรดให้พระอนุชาคือพระศรีสุพรรณมาธิราชหรือพระศรีสุริโยพรรณมาช่วยราชการสงคราม แต่ระหว่างสงครามนั้น พระศรีสุพรรณมาธิราชมีเหตุให้ผิดใจกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้ขาดทางพระราชไมตรีนับแต่นั้น และเกิดสงครามระหว่างสยามและกัมพูชาต่อมาอีก
ใน พ.ศ. 2129 ในรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในขณะที่ยังเป็นพระมหาอุปราช ได้ยกทัพไปตีกรุงละแวก แต่ไม่สามารถตีหักเอากรุงละแวกได้ จึงเลิกทัพกลับมา ใน พ.ศ. 2130 เมื่อมีทัพหงสาวดีมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาอีก สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้ยกทัพมาตีหัวเมืองตะวันออกของสยาม เข้ามาถึงเมืองนครนายก พระยาศรีไสยณรงค์ และพระยาศรีราชเดโชเป็นแม่ทัพออกไปตีทัพกรุงละแวกแตกไป
ตั้งแต่ พ.ศ. 2127 เป็นต้นมา สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้ตั้งให้พระโอรสสองพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ คือพระไชยเชษฐาที่ 1 และสมเด็จพระบรมราชาองค์ตน ทำให้กัมพูชามีกษัตริย์พร้อมกันถึงสามพระองค์ สร้างความไม่พอใจแก่ขุนนางเขมร ในพงศาวดารกัมพูชาฉบับพระองค์นพรัตน์ถึงกับระบุว่าพระองค์เสียพระสติ เสวยแต่น้ำจัณฑ์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2134
ใน พ.ศ. 2136 หลังจากที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว ทรงยกทัพมาโจมตีกรุงละแวกอีก คราวนี้ ทรงตีเมืองละแวก และจับพระศรีสุริโยพรรณ และพระโอรสอีกสองพระองค์คือพระชัยเจษฎาและพระอุทัย นำตัวกลับไปกรุงศรีอยุธยา ส่วนสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 และพระมหากษัตริย์อีก 2 พระองค์หลบหนีไปได้ โดยครั้งแรกไปประทับที่เมืองเสร็ยสนทอร์หรือศรีสุนทร จากนั้นจึงหนีไปเมืองเชียงแตงหรือสตึงเตรง แล้วประชวรเป็นไข้สิ้นพระชนม์ที่นั่นเมื่อพระชนม์ได้ 54 พรรษา ใน พ.ศ. 2137[2] โดยสมเด็จพระชัยเชษฐาประชวรและสิ้นพระชนม์ไปด้วย เหลือแต่สมเด็จพระบรมราชาองค์ตน ต่อมาพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้นำมาบรรจุไว้ที่เจดีย์ที่เขาพระราชทรัพย์ เมืองอุดงค์มีชัยในรัชกาลพระไชยเชษฐาที่ 2[3]
อ้างอิง
- ศานติ ภักดีคำ. 2554. เขมรรบไทย. กทม. มติชน
- ↑ เรียบเรียงตามข้อมูลจากเอกสารผ่ายไทยที่กล่าวถึงในศานติ (2554) ส่วนหลักฐานฝ่ายกัมพูชาไม่ระบุถึงสงครามใน พ.ศ. 2121 และ 2125 ส่วนเหตุการณ์ใน พ.ศ. 2124 และการเป็นไมตรี หลักฐานฝ่ายกัมพูชาระบุศักราชตรงกับรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาที่ 3
- ↑ ตามหลักฐานของสเปนและกัมพูชา ดู ศานติ (2554)
- ↑ ศานติ ภักดีคำ. 2556. เขมรสมัยหลังพระนคร. กทม. มติชน