ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การระดมยิงคาโงชิมะ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ล Setawut ย้ายหน้า การระดมยิงคะโงะชิมะ ไปยัง การระดมยิงคาโงชิมะ |
(ไม่แตกต่าง)
|
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:29, 9 กรกฎาคม 2561
การระดมยิงคะโงะชิมะ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ กรณีนะมะมุงิ | |||||||
ภาพแสดงการปะทะกันในอ่าวคะโงะชิมะ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
สหราชอาณาจักร | แคว้นซะสึมะ | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เซอร์ ออกัสตัส คูเปอร์ |
ชิมะซุ ฮิซะมิสึ ชิมะซุ ชิเงะฮิซะ | ||||||
กำลัง | |||||||
เรือรบพลังไอน้ำ 7 ลำ ทหารพลปืนไรเพิลอังกฤษ125นาย ทหารพลปืนไรเพิลนิวซีแลนด์80นาย เรือรบสุ่มยิง 2 ลำ พลระเบิดชาวมาลายู13นาย |
เรือพลังไอน้ำ 5 ลำ ปืนใหญ่ 80 กระบอก ทหารดาบ2,850นาย พลปืน1,000นาย | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
เรือรบ 3 ลำอัปปาง 11 เสียชีวิต, 52 บาดเจ็บ |
เรือ 4 ลำอัปปาง ทหารเสียชวิตจากกระสุนปืน200นาย เสียชีวิตจากปืนใหญ่บนเรือรบ 320 นาย |
การระดมยิงคะโงะชิมะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ สงครามอังกฤษ-ซะสึมะ (ญี่ปุ่น: 薩英戦争; โรมาจิ: ซะสึ-เอ เซ็นโซ) เป็นการปะทะที่เกิดขึ้นในวันที่ 15 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2406 ในยุคเอะโดะตอนปลาย
การปะทะเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีนะมะมุงิ ในปี พ.ศ. 2405 ที่ ชารล์ส เลนน็อก ริชาร์ดสัน ถูกฆาตกรรม ทำให้อังกฤษเรียกร้องเงินสินไหมทดแทนจากไดเมียวแห่งซะสึมะ
เบื้องหลัง
ภายหลังจากกรณีนะมะมุงิ นาวาโท จอห์น นีล อุปทูตอังกฤษ ได้เรียกร้องคำขอโทษและค่าสินไหมจากรัฐบาลเอะโดะ เป็นจำนวนเงิน £100,000 (ประมาณ 1/3 ของรายได้ทั้งปีของรัฐบาลเอะโดะ[1]) ซึ่งนีลได้ยื่นคำขู่ถึงรัฐบาลเอะโดะว่าหากไม่ได้รับค่าสินไหม[2] อาจจำเป็นที่จะต้องมีการจัดการด้วยกำลัง นอกจากนี้ อังกฤษยังเรียกร้องจากแคว้นซะสึมะให้มีการจับกุมและดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิด และเงินอีก £25,000 สำหรับเหยื่อที่รอดชีวิตและครอบครัวของชารล์ส ซึ่งฝ่ายรัฐบาลเอะโดะ โดย โอะงะซะวะระ นะงะมิชิ ผู้แทนโชกุน[3] ได้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีปัญหากับชาติยุโรป ซึ่งขณะนั้นต้องเผชิญกับภัยคุกคามทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ
รัฐบาลเอะโดะได้ปฏิเสธที่จะขอโทษและการจ่ายค่าสินไหมแก่อังกฤษรวมไปถึงการลงโทษสองซะมุไรที่ก่อการฆาตกรรม ซึ่งญี่ปุ่นได้อ้างถึงผลประโยชน์มากมายของชาวยุโรปในญี่ปุ่น รวมถึงสิทธิสภาพนอกอาณาเขตที่กฎหมายญี่ปุ่นไม่มีผลบังคับใช้กับชาวต่างชาติ ซึ่งบรรดาข้อตกลงที่ไม่มีความยุติธรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นถูกบีบบังคับให้จำยอม
จากความอยุติธรรมของชาติมหาอำนาจยุโรป ทำให้เกิดกระแสต่อต้านชาวยุโรปขึ้นในญี่ปุ่น ซึ่งแผ่ขยายไปทั้งประเทศ ในห้วงเวลานั้น สมเด็จพระจักรพรรดิโอะซะฮิโตะ ก็ทรงตรา "โองการขับไล่คนเถื่อน" ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2406 ซึ่งชาติยุโรปเลือกที่จะโต้ตอบด้วยวิธีการทางทหาร เรือสินค้าของอเมริกา, เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศสที่ผ่านช่องแคบชิโมะโนะเซะกิล้วนถูกโจมตี ซึ่งทำให้กองเรือผสมที่นำโดยราชนาวีอังกฤษต้องระดมยิงตอบโต้เพื่อป้องกันเรือสินค้า