ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
|||
บรรทัด 44: | บรรทัด 44: | ||
=== เครื่องยศ === |
=== เครื่องยศ === |
||
ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น'''ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ'''นั้นจะได้รับพระราชทาน[[เครื่องยศ]]ประกอบด้วย |
|||
1. [[เสื้อครุย]]ปัก จ.จ.จ. (ฝ่ายในพระราชทานผ้าปักทองแล่ง) |
|||
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีระเบียบกำหนดเครื่องยศประกอบ แต่ก็มิได้พระราชทานให้ครอบครองอย่างประเพณีเดิม คงเชิญเครื่องยศมาตั้งประกอบในพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าเท่านั้น<ref>ปถพีรดี, [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=1708&stissueid=2502&stcolcatid=9&stauthorid=10 เครื่องยศ], สกุลไทย, ฉบับที่ 2502, ปีที่ 48, ประจำวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2545 </ref> |
|||
2.พานหมากทองคำเครื่องพร้อม |
|||
3.คณโฑทองคำพร้อมพานรอง |
|||
4.กาน้ำทองคำพร้อมโต๊ะทองคำ |
|||
5.กระโถนทองคำ |
|||
ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ [[ทุติยจุลจอมเกล้า|ท.จ]]. และ [[ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ|ท.จ.ว]] จะมีบรรดาศักดิ์เทียบเท่า '''พระยาพานทอง''' |
|||
=== คำนำหน้านาม (ฝ่ายใน) === |
=== คำนำหน้านาม (ฝ่ายใน) === |
||
บรรทัด 58: | บรรทัด 68: | ||
=== เกียรติยศศพ === |
=== เกียรติยศศพ === |
||
ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เมื่อวายชนม์จะใช้คำว่า "ถึงแก่อนิจกรรม"<ref>สุดสงวน, [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=3669&stissueid=2629&stcolcatid=2&stauthorid=17 ตอน “การใช้ภาษาในภาวะวิกฤต”], สกุลไทย, ฉบับที่ 2629, ปีที่ 51, ประจำวันอังคารที่ 8 มีนาคม 2548</ref><ref>[http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (ออนไลน์) พ.ศ. 2542 : อสัญกรรม]</ref> และจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ แต่ถ้าผู้วายชนม์เป็นสมาชิกราชตระกูล ดำรงตำแหน่งสำคัญ หรือได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่นที่มีลำดับเกียรติสูงกว่าก็อาจได้รับเกียรติยศศพสูงขึ้น โดยจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ ดังนี้ |
ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น'''ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ''' เมื่อวายชนม์จะใช้คำว่า "ถึงแก่อนิจกรรม"<ref>สุดสงวน, [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=3669&stissueid=2629&stcolcatid=2&stauthorid=17 ตอน “การใช้ภาษาในภาวะวิกฤต”], สกุลไทย, ฉบับที่ 2629, ปีที่ 51, ประจำวันอังคารที่ 8 มีนาคม 2548</ref><ref>[http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (ออนไลน์) พ.ศ. 2542 : อสัญกรรม]</ref> และจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ แต่ถ้าผู้วายชนม์เป็นสมาชิกราชตระกูล ดำรงตำแหน่งสำคัญ หรือได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่นที่มีลำดับเกียรติสูงกว่าก็อาจได้รับเกียรติยศศพสูงขึ้น โดยจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ ดังนี้ |
||
{{col-begin}} |
|||
⚫ | |||
{{col-2}} |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
# น้ำหลวงอาบศพ |
|||
⚫ | |||
# ฉัตรเบญจา 4คันตั้งประกอบเกียรติยศข้างโกศศพ และ 10คัน เวลาแห่เวียนเมรุ |
|||
* [[ฉัตรเบญจา]] |
|||
# รถวอเชิญโกศศพ |
|||
* [[ปี่]] [[กลองชนะ]] ประโคมเวลารับพระราชทานน้ำอาบศพ |
|||
⚫ | |||
* พระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรม 3 คืน |
|||
{{col-2}} |
|||
'''ท.จ.ว. (ฝ่ายหน้า)''' |
|||
⚫ | |||
เกียรติยศศพเหมือน ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชออสริยาภรณ์ '''[[ทุติยจุลจอมเกล้า]]''' ทุกประการ |
|||
* [[โกศโถ]] |
|||
* [[ฉัตรเบญจา]] |
|||
* [[ปี่]] [[กลองชนะ]] ประโคมเวลารับพระราชทานน้ำอาบศพ |
|||
{{col-end}} |
|||
== การพระราชทาน == |
== การพระราชทาน == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:02, 28 พฤษภาคม 2561
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ | |
---|---|
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ฝ่ายหน้า | |
อักษรย่อ | ท.จ.ว. |
ประเภท | ฝ่ายหน้า : คล้องคอมีดารา ฝ่ายใน : สายสะพายไม่มีดารา |
วันสถาปนา | ฝ่ายหน้า : พ.ศ. 2416 ฝ่ายใน : พ.ศ. 2442 |
ประเทศ | ประเทศไทย |
จำนวนสำรับ | ฝ่ายหน้า : 200 สำรับ ฝ่ายใน : 100 สำรับ |
ผู้สมควรได้รับ | พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการทั้งปวง (พระราชทานตามอัธยาศัย) |
มอบเพื่อ | เป็นเครื่องหมายแสดงอิสริยยศและระลึกถึงความดีความชอบของบุคคลซึ่งได้รักษาแผ่นดินมาแต่ก่อนถึงปัจจุบัน |
ผู้สถาปนา | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ประธาน | พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย |
ลำดับเกียรติ | |
สูงกว่า | ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์ |
รองมา | รามาธิบดี ชั้นมหาโยธิน |
หมายเหตุ | ฝ่ายหน้า : มอบสืบตระกูลได้ ฝ่ายใน : มีคำนำหน้านาม |
ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ มีอักษรย่อว่า ท.จ.ว. เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานทั้งฝ่ายหน้า (บุรุษ) จำนวน 200 สำรับ และฝ่ายใน (สตรี) จำนวน 100 สำรับ โดยทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษจัดเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีลำดับเกียรติอันดับที่ 13 ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย[1]
ลักษณะ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สามารถแบ่งออกสำหรับพระราชทานให้ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน โดยมีลักษณะดังนี้[2]
ฝ่ายหน้า
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สำหรับฝ่ายหน้า 1 สำรับ ประกอบด้วย ดารา ดวงตรา และแพรแถบ
- ดวงตรา
- ด้านหน้า มีลักษณะเป็นรัศมี 8 แฉก ลงยาสีชมพู มีรัศมีทองแทรกตามระหว่างแฉก มีใบชัยพฤกษ์สองข้าง ลงยาสีเขียว กลางดวงตรามีพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอบลงยาสีขาบ มีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ" เบื้องบนมี พระจุลมงกุฎเปล่งรัศมีลงยาสีเขียว สีแดง สีขาบ สีขาว
- ด้านหลัง มีลักษณะเหมือนด้านหน้า แต่ที่กลางดวงตราเป็นรูปช้างไอราพต ลงยาสีขาว บนหลังช้างเป็นรูปตรีศูล ลงยาสีขาว ที่ขอบมีอักษรทองว่า "ปีระกา เบญจศก ศักราช ๑๒๓๕" รอบขอบเป็นรูปจักร ลงยาสีขาวพื้นแดง
ดวงตราใช้สำหรับประดับห้อยกับแพรแถบสีชมพู กว้าง 5 เซนติเมตร สำหรับสวมคอ
- ดารา มีลักษณะเป็นรัศมีเงิน 8 แฉก กลางดารามีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "จ.จ.จ." ทำด้วยทองคำ อยู่บนพื้นลงยาสีชมพู ขอบลงยาสีขาบ มีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ" ใช้สำหรับประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
ฝ่ายใน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สำหรับฝ่ายใน 1 สำรับ ประกอบด้วย
- ดวงตรา มีลักษณะเหมือนเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า สำหรับพระราชทานฝ่ายใน แต่ไม่ประดับเพชร ใช้สำหรับห้อยกับสายสะพายสีชมพู ขนาดกว้าง 7.5 เซนติเมตร ใช้สะพายบ่าซ้ายเฉียงลงทางขวา หรือจะใช้ห้อยกับแพรแถบสีชมพูขนาดกว้าง 5 เซนติเมตร ผูกเป็นรูปแมลงปอ ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย
ลักษณะพิเศษ
เครื่องยศ
ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษนั้นจะได้รับพระราชทานเครื่องยศประกอบด้วย
1. เสื้อครุยปัก จ.จ.จ. (ฝ่ายในพระราชทานผ้าปักทองแล่ง)
2.พานหมากทองคำเครื่องพร้อม
3.คณโฑทองคำพร้อมพานรอง
4.กาน้ำทองคำพร้อมโต๊ะทองคำ
5.กระโถนทองคำ
ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.จ. และ ท.จ.ว จะมีบรรดาศักดิ์เทียบเท่า พระยาพานทอง
คำนำหน้านาม (ฝ่ายใน)
สตรีที่ได้รับพระราชานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ สามารถใช้คำนำหน้านามได้ คือ ใช้คำนำหน้านามว่า "ท่านผู้หญิง" สำหรับผู้ที่สมรสแล้ว หรือ "คุณ" สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สมรส
สำหรับสตรีในราชสกุล ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไปให้ใช้คำนำพระนามตามเดิม ไม่ว่าจะได้รับพระราชทานชั้นใด ส่วนสตรีในราชสกุล ชั้นหม่อมราชวงศ์ และหม่อมหลวง เมื่อได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ใช้คำนำนามว่า "ท่านผู้หญิง"[3]
การสืบตระกูล (ฝ่ายหน้า)
- ดูบทความหลัก การสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษนั้น สามารถสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ โดยบุตรชายของผู้ได้รับพระราชทานนั้น จะได้รับสืบตระกูลเมื่อบิดาล่วงลับไปแล้ว และการสืบตระกูลจะสิ้นสุดลงเพียงชั้นนี้เท่านั้น[2]
เกียรติยศศพ
ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เมื่อวายชนม์จะใช้คำว่า "ถึงแก่อนิจกรรม"[4][5] และจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ แต่ถ้าผู้วายชนม์เป็นสมาชิกราชตระกูล ดำรงตำแหน่งสำคัญ หรือได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่นที่มีลำดับเกียรติสูงกว่าก็อาจได้รับเกียรติยศศพสูงขึ้น โดยจะได้รับพระราชทานเกียรติยศศพ ดังนี้
ท.จ.ว. (ฝ่ายใน)
- โกศแปดเหลี่ยม
- น้ำหลวงอาบศพ
- ฉัตรเบญจา 4คันตั้งประกอบเกียรติยศข้างโกศศพ และ 10คัน เวลาแห่เวียนเมรุ
- รถวอเชิญโกศศพ
- เพลิงหลวง
ท.จ.ว. (ฝ่ายหน้า)
เกียรติยศศพเหมือน ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชออสริยาภรณ์ ทุติยจุลจอมเกล้า ทุกประการ
การพระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้ามีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธานของเครื่องอิสริยาภรณ์ รวมทั้งทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะพระราชทานแก่ผู้ที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควรและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ได้ ปัจจุบัน เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ แบ่งออกสำหรับพระราชทานฝ่ายหน้าจำนวน 200 สำรับ และฝ่ายในจำนวน 100 สำรับ[6] นอกจากนี้ ยังสามารถพระราชทานแก่เจ้านายหรือผู้มีเกียรติจากต่างประเทศซึ่งไม่นับรวมกับจำนวนดังกล่าว
ผู้ได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษจะได้รับใบประกาศนียบัตรทรงลงพระปรมาภิไธยและประทับพระราชลัญจกร เว้นแต่กรณีที่ได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าแล้วเลื่อนขึ้นรับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษจะไม่มีใบประกาศนียบัตร และเมื่อผู้ได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้าวายชนม์ลง ผู้รับมรดกจะต้องส่งเครื่องราชอิรสริยาภรณ์คืนภายใน 30 วัน ถ้าส่งคืนไม่ได้กองมรดกจะต้องรับผิดชอบ ส่วนกรณีผู้ได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลจุลจอมเกล้าในชั้นที่สูงขึ้นหรือทรงเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ถ้าผู้รับพระราชทานไม่สามารถส่งคืนได้ ต้องชดใช้ราคาสำหรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น[2] สำหรับฝ่ายหน้าต้องชดใช้เป็นจำนวนเงิน 341,000 บาท และฝ่ายใน 187,000 บาท[7]
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ลำดับเกียรติเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย, เล่ม ๑๑๐, ตอน ๒๙ง ฉบับพิเศษ, ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๖, หน้า ๑
- ↑ 2.0 2.1 2.2 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า พุทธศักราช ๒๔๘๔, เล่ม ๕๘, ตอน ๐ ก, ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๔, หน้า ๑๕๕๓
- ↑ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า จาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
- ↑ สุดสงวน, ตอน “การใช้ภาษาในภาวะวิกฤต”, สกุลไทย, ฉบับที่ 2629, ปีที่ 51, ประจำวันอังคารที่ 8 มีนาคม 2548
- ↑ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (ออนไลน์) พ.ศ. 2542 : อสัญกรรม
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๙, เล่ม ๘๓, ตอน ๓๓ ก, ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙, หน้า ๒๕๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การปรับราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืนตามกฎหมาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ – ๒๕๕๓, เล่ม ๑๒๕, ตอน พิเศษ ๔๙ ง, ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑, หน้า ๘
แหล่งข้อมูลอื่น
- ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษฝ่ายหน้า จาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
- ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษฝ่ายใน จาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี