ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 90: | บรรทัด 90: | ||
=== สำนักวิชา === |
=== สำนักวิชา === |
||
* สำนักวิชาวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
* สำนักวิชาวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
||
** ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน |
|||
** ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร |
|||
** ภาควิชาวิศวกรรมระบบอุตสาหการ |
|||
* สำนักวิชาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา |
* สำนักวิชาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา |
||
** ภาควิชาการพัฒนาและความยั่งยืน |
|||
** ภาควิชาพลังงาน สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ |
|||
** ภาควิชาอาหาร เกษตรกรรม และทรัพยากรชีวภาพ |
|||
* สำนักวิชาการจัดการ |
* สำนักวิชาการจัดการ |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:41, 1 เมษายน 2561
ชื่อเดิม | โรงเรียนวิศวกรรม สปอ. SEATO Graduate School of Engineering |
---|---|
ชื่อย่อ | เอไอที / AIT |
คติพจน์ | .....Towards Excellence |
ประเภท | องค์การระหว่างประเทศ[1] |
สถาปนา | 8 กันยายน พ.ศ. 2502 (64 ปี) |
อธิการบดี | ศ.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย |
อธิการบดี | ศ.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย |
ที่ตั้ง | • ศูนย์ใหญ่ 58 หมู่ 9 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 ประเทศไทย • ศูนย์เวียดนาม อาคาร B3 มหาวิทยาลัยการสื่อสารและคมนาคม Lang Thuong Ward, Dong Da Dist. ฮานอย ประเทศเวียดนาม |
วิทยาเขต | 2 วิทยาเขตหลัก |
สี | |
เครือข่าย | LAOTSE, ASAIHL, GMSARN |
เว็บไซต์ | www.ait.ac.th |
สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (อังกฤษ: Asian Institute of Technology) หรือ เอไอที เป็นสถาบันการศึกษาที่มีสถานะเป็นองค์การระหว่างประเทศ[2] ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2502 โดยความร่วมมือจากกลุ่มประเทศสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีโต้ หรือ สปอ.) ในชื่อ โรงเรียนวิศวกรรม สปอ. (SEATO Graduate School of Engineering) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสถาบันอิสระในชื่อปัจจุบันเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2510 เปิดสอนระดับอุดมศึกษา (ปริญญาโท และปริญญาเอก) โดยเน้นทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการจัดการ ในสาขาที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย มีศูนย์กลางการบริหารงานตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีศูนย์การศึกษาในประเทศเวียดนามด้วย
สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย เป็นสมาชิกของเครือข่าย LAOTSE ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียและยุโรป ตามกรอบความร่วมมืออาเซม
ประวัติ
เมื่อปี พ.ศ. 2500 องค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มีแนวคิดที่จะก่อตั้งโรงเรียนวิศวกรรมขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกองค์กรซีโต้ ทั้งประเทศออสเตรเลีย ประเทศฝรั่งเศส ประเทศนิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศสมาชิกในภูมิภาค ได้แก่ ประเทศปากีสถาน ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศไทย โดยแนวคิดนี้ได้รับการอนุมัติในการประชุมที่กรุงมะนิลาในปีถัดมา จนกระทั่งมีการประกาศก่อตั้งโรงเรียนวิศวกรรม สปอ. ขึ้นภายหลังจากการประชุมที่กรุงเวลลิงตันในปี พ.ศ. 2502 ต่อมาโรงเรียนวิศวกรรม สปอ. ได้เปลี่ยนสถานะเป็นสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียในปี พ.ศ. 2510 เมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญได้ประกาศให้กฎบัตรสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียมีผลตามกฎหมาย ซึ่งทำให้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียเป็นสถาบันอิสระและไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานใด
เมื่อปี พ.ศ. 2532 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียได้รับรางวัลรามอน แมกไซไซ ในสาขาสันติภาพและความเข้าใจระหว่างประเทศ จากการพัฒนาทรัพยากรบุคคลยุคใหม่ โดยเฉพาะวิศวกรและผู้จัดการ ในทวีปเอเชีย โดยมีบรรยากาศการเรียนการสอนที่ดีเยี่ยมและมีความเป็นมิตร[3] ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียได้ลงบันทึกความร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามในการเปิดศูนย์เวียดนามที่กรุงฮานอย ทำให้หลังจากนั้นรัฐบาลเวียดนามได้มอบรางวัลเหรียญมิตรภาพให้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียในปี พ.ศ. 2549[4] ซึ่งถือเป็นรางวัลที่สูงที่สุดที่มีการมอบในระดับระหว่างประเทศ และมีการเสนอไปยังสถาบันระหว่างประเทศที่กระจายการฝึกทักษะทรัพยากรบุคคลแก่เวียดนาม และการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศอื่น
จากการที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียเป็นสถาบันการศึกษาที่มีสถานะแตกต่างจากสถาบันการศึกษาอื่นในประเทศไทย เนื่องจากมีสถานะเป็นองค์การระหว่างประเทศ จึงไม่ได้เป็นทั้งสถาบันของรัฐบาลและเอกชน แต่มีสถานะเทียบเท่ากับสถาบันระหว่างประเทศ โดยเมื่อปี พ.ศ. 2555 ได้เกิดประเด็นเกี่ยวกับการไม่รับรองในระบบราชการไทยขึ้นจากการที่ไม่ได้เป็นสถาบันการศึกษาเอกชน แต่ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขในเวลาต่อมา ซึ่งสำนักงาน ก.พ. ได้ให้การรับรองคุณวุฒิจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียจัดอยู่ในการรับรองคุณวุฒิต่างประเทศ[5]
ปัจจุบันสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียมีการเปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก โดยนักศึกษาส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 เป็นนักศึกษาจากต่างประเทศ และนักศึกษาของสถาบันส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเรียนดีที่ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลของประเทศต่างๆที่ร่วมกันก่อตั้งสถาบัน[6][7]
ทำเนียบอธิการบดี
ที่ตั้ง
ระยะแรกของการก่อตั้ง บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ สปอ. (ชื่อของสถาบันในขณะนั้น) ตั้งอยู่ในพื้นที่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาได้รับการอนุมัติให้ใช้พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐบาลไทย อยู่บริเวณติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตในปัจจุบัน จึงได้พัฒนาเป็นที่ตั้งจนถึงทุกวันนี้
ด้านหน้าของสถาบันฯ เป็นพื้นที่สีเขียวเป็นแนวกว้าง เดิมได้ออกแบบเพื่อเป็นพื้นที่ถอยร่นใช้กันเสียงและมลภาวะจากภายนอก และใช้เป็นพื้นที่สนามกอล์ฟ 9 หลุมสำหรับนักศึกษาและบุคลากรของสถาบันฯ จนเมื่อปี พ.ศ. 2546 ได้มีโครงการเปลี่ยนพื้นที่สนามกอล์ฟเป็นพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์เปิดให้บุคคลภายนอกได้ใช้ เป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานี
นอกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว พื้นที่ติดกับสถาบันยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำคัญอย่าง อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
หน่วยงาน
สำนักวิชา
- สำนักวิชาวิศวกรรมและเทคโนโลยี
- ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน
- ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ภาควิชาวิศวกรรมระบบอุตสาหการ
- สำนักวิชาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา
- ภาควิชาการพัฒนาและความยั่งยืน
- ภาควิชาพลังงาน สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
- ภาควิชาอาหาร เกษตรกรรม และทรัพยากรชีวภาพ
- สำนักวิชาการจัดการ
ศูนย์
- ศูนย์เอไอทีเวียดนาม
- โครงการพัฒนาการจัดการ สวิส-เอไอที-เวียดนาม
- ศูนย์การศึกษาทางไกล
- ห้องสมุดเอไอที
อันดับมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย อยู่ในอันดับที่ 1,104 ของโลก อันดับที่ 35 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 13 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[8]
สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียได้การจัดอันดับมหาวิทยาลัยนานาชาติยอดเยี่ยมของโลกจาก U-Multirank 2015 International Ranking ในฐานะมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นความเป็นนานาชาติเมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยเป็นสถาบันการศึกษานานาชาติเพียงแห่งเดียวในทวีปเอเชียที่ได้รับการจัดระดับในระดับ A ครบทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การเรียนการสอน การวิจัย การถ่ายทอดองค์ความรู้ การมุ่งเน้นความเป็นนานาชาติ และความเกี่ยวข้องในระดับภูมิภาค และยังได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 15 ของเอเชีย ในการวัดระดับในภาพรวมด้วย[9][10]
บุคคลที่มีชื่อเสียงจากสถาบัน
- สุบิน ปิ่นขยัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และทบวงมหาวิทยาลัย และผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็มดีเอ็กซ์ จำกัด
- อาณัติ อาภาภิรม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- ประเสริฐ ภัทรมัย ผู้ก่อตั้งบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด
- พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด
อ้างอิง
- ↑ รายชื่อองค์การระหว่างประเทศ| กระทรวงการต่างประเทศ
- ↑ INTERNATIONAL ORGANIZATIONS : AIT| กระทรวงการต่างประเทศ
- ↑ The 1989 Ramon Magsaysay Award for International Understanding http://www.rmaf.org.ph/Awardees/Citation/CitationAIT.htm
- ↑ "Vietnam bestows highest international relations honor to AIT". ait.asia. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
- ↑ การพิจารณารับรองคุณวุฒิและกําหนดอัตราเงินเดือนของผู้สําเร็จการศึกษาจาก Asian Institute of Technology สำนักงาน ก.พ.
- ↑ ทุนเยอะ!เอไอทีเปิดบ้านโชว์หลักสูตร-แจงข้อมูลทุน
- ↑ Scholarships
- ↑ Ranking Web of World UniversitiesTop South East Asia
- ↑ สถาบัน"เอไอที" ยอดเยี่ยมโลก ฐานะ"ม.อินเตอร์" ไทยโพสต์
- ↑ "เอไอที" ติดอันดับโลกเร่งเสริมจุดแข็ง ไทยรัฐออนไลน์