ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หม่อมไกรสร"
ล เพิ่มไฮเปอร์ลิงค์ของเจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ในรัชกาลที่ 1 |
ล เพิ่มลิ้งค์เชื่อมไปยังข้อมูลของต้นราชสกุล พึ่งบุญ |
||
บรรทัด 25: | บรรทัด 25: | ||
}} |
}} |
||
'''หม่อมไกรสร''' เดิมคือ '''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ''' (26 ธันวาคม พ.ศ. 2334 – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391) เป็นพระราชโอรสใน[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก]]และ[[เจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ในรัชกาลที่ 1|เจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว]] ทรงเป็นต้น[[ราชสกุลพึ่งบุญ|ราชสกุล พึ่งบุญ]] และ สกุล อนิรุทธเทวา |
'''หม่อมไกรสร''' เดิมคือ '''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ''' (26 ธันวาคม พ.ศ. 2334 – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391) เป็นพระราชโอรสใน[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก]]และ[[เจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ในรัชกาลที่ 1|เจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว]] ทรงเป็นต้น[[:หมวดหมู่:ราชสกุลพึ่งบุญ|ราชสกุล พึ่งบุญ]] และ สกุล อนิรุทธเทวา |
||
== พระประวัติ == |
== พระประวัติ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:10, 26 มีนาคม 2561
หม่อมไกรสร พึ่งบุญ | |
---|---|
เกิด | 26 ธันวาคม พ.ศ. 2334 |
เสียชีวิต | 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391 (56 ปี) |
ชื่ออื่น | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ |
บุตร | 11 คน |
บิดามารดา | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว |
หม่อมไกรสร เดิมคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ (26 ธันวาคม พ.ศ. 2334 – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกและเจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ทรงเป็นต้นราชสกุล พึ่งบุญ และ สกุล อนิรุทธเทวา
พระประวัติ
หม่อมไกรสรเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกกับเจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ธิดาพระจักรีเมืองนครศรีธรรมราช พระองค์เจ้าไกรสรประสูติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2334 ตรงกับวันจันทร์ เดือนยี่ ขึ้นสองค่ำ ปีกุน สัมฤทธิศก จ.ศ. 1210 พระประวัติเมื่อทรงพระเยาวน์นั้น ก.ศ.ร. กุหลาบบันทึกไว้ว่า "พระองค์ท่านเปนจอมปราชญ์ จินตะกระวีบัณฑิตย์ ชาติ์ราชตระกูลสุริยวงศ์อันประเสริฐ" และจากวารสารภาษาอังกฤษที่ชื่อ Siam Repository กล่าวถึงความโดดเด่นโดยเฉพาะด้านการศาสนาและโหราศาสตร์ ว่า "ทรงมีความรู้ทางด้านพุทธศาสนาอย่างดีเยี่ยม เหนือกว่าพระบรมวงศานุวงศ์อื่น ๆ"[1] ด้วยเหตุนี้รัชกาลที่ 2 จึงทรงสถาปนาเป็น กรมหมื่นรักษรณเรศร กำกับกรมสังฆการี ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ทรงกำกับกรมวังและอธิบดีกรมพระคชบาลต่อจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอภัยทัต กรมหลวงเทพพลภักดิ์ ซึ่งเป็นพระเชษฐา
นอกจากนี้หม่อมไกรสร เมื่อยังทรงเป็นกรมหมื่นรักษรณเรศรได้ทรงงานเคียงคู่กับกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 และในฐานะพระปิตุลาหรือ "อา" ทรงงานรับใช้ราชการเคียงคู่กับพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเกือบตลอดรัชกาล โปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น กรมหลวงรักษ์รณเรศ และโปรดให้กำกับกรมวัง
ผลงานของหม่อมไกรสร ทรงมีอำนาจหน้าที่อย่างกว้างขวางทั้งในทางการตัดสินคดีความ กำกับกรมวัง ดูแลการจ่ายเบี้ยหวัดประจำปีของพระราชวงศ์และขุนนาง
ในปี พ.ศ. 2381 หม่อมไกรสรเป็นตุลาการชำระความคดีเจ้าจอมอิ่มกับพระสุริยภักดี ซึ่งแม้จำเลยทั้งสองคนจะไม่เคยพบกันคุยตัวต่อตัว แต่มีพ่อสื่อแม่ชักเป็นตัวกลางให้ทั้งสองคน แต่ก็ได้รับพิพากษาประหารชีวิตทั้งชายหญิง[2]
พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) บันทึกเกี่ยวกับหม่อมไกรสร มีประเด็นคำพิพากษา คือ หม่อมไกรสรประพฤติกำเริบ ทำตนเทียมเจ้าในงานลอยกระทง เกลี้ยกล่อมเจ้านาย ขุนนางและซ่องสุมกองทหารรามัญไว้เป็นพวกพ้อง แต่ถูกสอบสวนว่าซ่องสุมผู้คนไว้มากเพื่อคิดกบฏหรือไม่ หม่อมไกรสรตอบปฏิเสธว่า "ไม่ได้คิดกบฏ" แต่เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนแผ่นดินเมื่อไหร่ก็จะไม่ยอมเป็นข้าใคร[3] ตุลาการในสมัยนั้นจึงมีคำตัดสินออกมาส่วนหนึ่ง ว่า "...กรมหลวงรักษ์ณรเรศมีความผิด ต้องลดอิสริยศักดิ์สมญาเป็นหม่อม ตลอดทั้งวงศ์วาน..."[4]
นอกจากนี้มูลเหตุอีกอย่างหนึ่งที่พระองค์เจ้าไกรสรถูกถอดอิสริยยศคือ ทรงเลี้ยงโขนผู้ชายไว้มากมาย บรรทมอยู่แต่กับพวกโขนละคร ไม่บรรทมกับพวกหม่อมห้ามในวังเลย รัชกาลที่ 3 มีรับสั่งให้เอาพวกโขนละครมาไต่สวน ได้ความสมกันว่า "...ทรงเป็นสวาทกับพวกละคร ไม่ถึงกับชำเรา แต่เอามือพวกละครและมือของพระองค์ท่านกำคุยหฐานของทั้งสองฝ่ายจนภาวธาตุเคลื่อน..." [5]
หม่อมไกรสรถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคา เมื่อวันพุธ เดือนอ้าย แรม 3 ค่ำ ปีวอก สัมฤทธิศก จ.ศ. 1210 ตรงกับวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391 รวมพระชันษา 56 ปี และเป็นพระราชวงศ์องค์สุดท้ายที่ถูกสำเร็จโทษด้วยวิธีนี้[6]
พระโอรส-พระธิดา (ดูสายเครือญาติผ่าน แผนภูมิลำดับเชื้อสาย)
หม่อมไกรสรเป็นต้นราชสกุล พึ่งบุญ ได้รับพระราชทานเป็นลำดับที่ 3 ในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่แปลกกว่าราชสกุลอื่นตรงที่จะนำพระนามของต้นสกุลมาตั้งออกพระนาม ส่วนราชสกุล "พึ่งบุญ" กลับไม่ใช้พระนามของพระองค์เจ้าไกรสร หม่อมไกรสรมีหม่อมหลายท่านแต่ไม่ปรากฏนาม มีพระบุตรทั้งหมด 11 องค์ เดิมมียศเป็น หม่อมเจ้า ที่ต่อมาถูกลดเป็น หม่อม ทั้งหมด ได้แก่
- หม่อมเจ้าหญิงนิลบน พึ่งบุญ
- หม่อมเจ้าหญิงอุบลรัศมี พึ่งบุญ
- หม่อมเจ้าหญิงขนิษฐา พึ่งบุญ
- หม่อมเจ้าชายสิงหรา พึ่งบุญ (พ.ศ. 2362 - ไม่มีข้อมูล)
- หม่อมเจ้าชายกรุง พึ่งบุญ (พ.ศ. 2366 - 9 มิถุนายน พ.ศ. 2431)[7]
- หม่อมเจ้าชายนก พึ่งบุญ
- หม่อมเจ้าหญิงบุษบง พึ่งบุญ
- หม่อมเจ้าหญิงไม่ปรากฏพระนาม
- หม่อมเจ้าชายเผือก พึ่งบุญ
- หม่อมเจ้าชายโกเมศ พึ่งบุญ
- หม่อมเจ้าอำพล พึ่งบุญ
- พระยาประสิทธิ์ศุภการ (หม่อมราชวงศ์ละม้าย พึ่งบุญ) สมรสกับทัด พึ่งบุญ ณ อยุธยา
- หม่อมหลวงหญิงเชื้อ พึ่งบุญ (ท้าวอินทรสุริยา)
- พลเอก พลเรือเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ)
- พลตรี พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ)
- หม่อมหลวงหญิงถนอม พึ่งบุญ
- หม่อมราชวงศ์นุช พึ่งบุญ
- หม่อมหลวงอ้น พึ่งบุญ
- พระยาประสิทธิ์ศุภการ (หม่อมราชวงศ์ละม้าย พึ่งบุญ) สมรสกับทัด พึ่งบุญ ณ อยุธยา
ต้นตระกูล , พึ่งบุญ ณ อยุธยา (กทม), ไกรสรฤทธิ์ , เกษร (มาเก๊า), เท่าที่ปรากฏ[ต้องการอ้างอิง]
อ้างอิง
- ↑ Siam J. Smith. Siam Repository, Vol 1, January 1869, p. 337.
- ↑ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3. (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2538) น. 76.
- ↑ เหตุประหาร "หม่อมไกรสร" เพื่อนยากในรัชกาลที่ 3
- ↑ ภาณุพันธุวงศ์วรเดช, สมเด็จฯ เจ้าฟ้า กรมพระยา. เรื่องเดิม, หน้า 117-118.
- ↑ นัดดา อิศรเสนา ณ อยุธยา. เรื่องเดิม, หน้า 23.
- ↑ การประหารด้วยท่อนจันทน์ครั้งสุดท้าย
- ↑ "ข่าวตาย" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 5 (13): 112. 2 สิงหาคม พ.ศ. 2431.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help)
- ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-221-818-8