ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์"
ลบlogo20ปี |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 12: | บรรทัด 12: | ||
| สถานปฏิบัติการ = [http://hospital.tu.ac.th โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ] |
| สถานปฏิบัติการ = [http://hospital.tu.ac.th โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ] |
||
}} |
}} |
||
'''คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''' เป็น[[ส่วนราชการ]]ระดับ[[คณะวิชา]] สังกัด[[มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]] [[กระทรวงศึกษาธิการ]] โดยเป็นคณะวิชาที่จัดตั้งขึ้นเป็นอันดับ 11 ของมหาวิทยาลัย และเป็นสถาบันทางแพทยศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นเป็นอันดับ |
'''คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''' เป็น[[ส่วนราชการ]]ระดับ[[คณะวิชา]] สังกัด[[มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]] [[กระทรวงศึกษาธิการ]] โดยเป็นคณะวิชาที่จัดตั้งขึ้นเป็นอันดับ 11 ของมหาวิทยาลัย และเป็นสถาบันทางแพทยศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นเป็นอันดับ 10 ของประเทศ ตามที่ได้รับการสถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2533 ตามแผนการขยายการเรียนการสอนในสายวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ นับเป็นคณะแรกในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดตั้งขึ้นด้วยแนวคิดการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community-Based Learning : CBL) ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียนแพทย์ใดริเริ่มการเรียนการสอนดังกล่าว |
||
การเรียนการสอนของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการปรับปรุงหลักสูตรทุก ๆ 5 ปี ตามนโยบายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในระยะแรกของการก่อตั้ง ทางคณะได้จัดให้มีการเรียนการสอนในรูปแบบ 100% [[Problem-based learning]] และ 0% Lectures ตามแนวทางการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาแผนใหม่ โดยมีช่วงเวลาที่ให้นักศึกษาได้เพิ่มเติมความรู้โดยตนเองเป็นผู้กำกับ (Self-directed learning) ภายหลังได้มีการปรับสัดส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับ 80% Problem-based learning และ 20% Lectures หลักสูตรที่ใช้ในปัจจุบันคือ หลักสูตรปีพุทธศักราช 2552 โดยในระดับพรีคลินิค (ชั้นปีที่ 2-3) มีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Hybrid Problem-based Learning (Hybrid PBL) คือมีการเรียนการสอนแบบบรรยาย ประกอบกับการใช้โจทย์ปัญหาในกระบวนการกลุ่มย่อยที่อ้างอิงทางคลินิก และในระดับคลินิก (ชั้นปีที่ 4-6) มีการจัดการเรียนการสอนคล้ายคลึงกับสถาบันอื่น ๆ โดยเน้นการปฏิการทางคลินิกบนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ |
การเรียนการสอนของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการปรับปรุงหลักสูตรทุก ๆ 5 ปี ตามนโยบายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในระยะแรกของการก่อตั้ง ทางคณะได้จัดให้มีการเรียนการสอนในรูปแบบ 100% [[Problem-based learning]] และ 0% Lectures ตามแนวทางการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาแผนใหม่ โดยมีช่วงเวลาที่ให้นักศึกษาได้เพิ่มเติมความรู้โดยตนเองเป็นผู้กำกับ (Self-directed learning) ภายหลังได้มีการปรับสัดส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับ 80% Problem-based learning และ 20% Lectures หลักสูตรที่ใช้ในปัจจุบันคือ หลักสูตรปีพุทธศักราช 2552 โดยในระดับพรีคลินิค (ชั้นปีที่ 2-3) มีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Hybrid Problem-based Learning (Hybrid PBL) คือมีการเรียนการสอนแบบบรรยาย ประกอบกับการใช้โจทย์ปัญหาในกระบวนการกลุ่มย่อยที่อ้างอิงทางคลินิก และในระดับคลินิก (ชั้นปีที่ 4-6) มีการจัดการเรียนการสอนคล้ายคลึงกับสถาบันอื่น ๆ โดยเน้นการปฏิการทางคลินิกบนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:10, 27 กุมภาพันธ์ 2561
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
Faculty of Medicine, Thammasat University | |
สถาปนา | 20 มีนาคม พ.ศ. 2533[1] (ครบรอบ 34 ปี) |
---|---|
คณบดี | รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย |
ที่อยู่ | 95 หมู่ 8 ถนนพหลโยธิน คลองหนึ่ง คลองหลวง ปทุมธานี 12120 |
วารสาร | ธรรมศาสตร์เวชสาร |
สี | สีเขียว |
สถานปฏิบัติ | โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ |
เว็บไซต์ | www.med.tu.ac.th |
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นส่วนราชการระดับคณะวิชา สังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ โดยเป็นคณะวิชาที่จัดตั้งขึ้นเป็นอันดับ 11 ของมหาวิทยาลัย และเป็นสถาบันทางแพทยศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นเป็นอันดับ 10 ของประเทศ ตามที่ได้รับการสถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2533 ตามแผนการขยายการเรียนการสอนในสายวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ นับเป็นคณะแรกในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดตั้งขึ้นด้วยแนวคิดการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community-Based Learning : CBL) ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียนแพทย์ใดริเริ่มการเรียนการสอนดังกล่าว
การเรียนการสอนของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการปรับปรุงหลักสูตรทุก ๆ 5 ปี ตามนโยบายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในระยะแรกของการก่อตั้ง ทางคณะได้จัดให้มีการเรียนการสอนในรูปแบบ 100% Problem-based learning และ 0% Lectures ตามแนวทางการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาแผนใหม่ โดยมีช่วงเวลาที่ให้นักศึกษาได้เพิ่มเติมความรู้โดยตนเองเป็นผู้กำกับ (Self-directed learning) ภายหลังได้มีการปรับสัดส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับ 80% Problem-based learning และ 20% Lectures หลักสูตรที่ใช้ในปัจจุบันคือ หลักสูตรปีพุทธศักราช 2552 โดยในระดับพรีคลินิค (ชั้นปีที่ 2-3) มีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Hybrid Problem-based Learning (Hybrid PBL) คือมีการเรียนการสอนแบบบรรยาย ประกอบกับการใช้โจทย์ปัญหาในกระบวนการกลุ่มย่อยที่อ้างอิงทางคลินิก และในระดับคลินิก (ชั้นปีที่ 4-6) มีการจัดการเรียนการสอนคล้ายคลึงกับสถาบันอื่น ๆ โดยเน้นการปฏิการทางคลินิกบนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ประวัติ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีนโยบายจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 โดยมีศ.ปรีดี พนมยงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่างโครงการจัดตั้งขึ้นชุดหนึ่ง และได้ดำเนินการอย่างจริงจังในสมัย ศาสตราจารย์คุณหญิงนงเยาว์ ชัยเสรี ดำรงตำแหน่งอธิการบดี โดยสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการประชุมครั้งที่ 8/2526 ได้ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับนโยบายทางวิชาการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ประยุกต์ โดยเฉพาะการผลิตบัณฑิตแพทย์ และมอบหมายให้อธิการบดีดำเนินการตามนโยบาย
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ดำเนินตามแผนโดยการสร้างโรงพยาบาลขึ้น โดยศาสตราจารย์คุณหญิงนงเยาว์ ชัยเสรี ดำรงตำแหน่งอธิการบดี มีคำสั่ง ที่ 747/2529 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2529 แต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนสร้างโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีศาสตราจารย์ สุธี นาทวรทัน เป็นประธานกรรมการ และ นายประมวล สภาวสุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในขณะนั้น เป็นประธานกิตติมศักดิ์ ระดมทุนจากศิกษ์เก่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การดำเนินการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ได้ดำเนินการต่อมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นชอบด้วยตามหนังสือของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร.0203/126 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2529 ซึ่งอธิการบดีได้พบปลัดทบวงมหาวิทยาลัย ขอดำเนินการโรงพยาบาลให้ครบ 1 ปีก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานของคณะแพทยศาสตร์ แล้วจึงจะดำเนินการเรื่องคณะแพทยศาสตร์ โดยมีการสานต่อในสมัย ศาสตราจารย์เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ดำรงตำแหน่งอธิการบดีในปี พ.ศ. 2531 ในการดำเนินการได้มีการประสานกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการผลิตบัณฑิตแพทย์พึงประสงค์ อันสอดคล้องกับนโยบายผู้บริหารมหาวิทยาลัย และนโยบายของทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งสภามหาวิทยาลัยได้พิจารณาอนุมัติโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ในเดือนสิงหาคม 2531 คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2533
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกา การจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2533 มีผลใช้บังคับในวันถัดมา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นคณะแพทย์อันดับที่ 9 ของประเทศไทย มีการแบ่งส่วนราชการของคณะแพทยศาสตร์ เป็น 4 ส่วน คือ สำนักงานเลขานุการสถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก สถานวิทยาศาสตร์คลินิก และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ในปี พ.ศ. 2543 สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งขณะนั้น ศาสตราจารย์ คุณหญิง นงเยาว์ ชัยเสรี เป็นนายสภามหาวิทยาลัย มีคำสั่งให้การบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นอิสระโดยสังกัดสำนักงานอธิการบดี แยกออกจากคณะแพทยศาสตร์ ดังนั้นด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการประจำคณะจึงได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริหารคณะ โดยถือหลักการปรับโครงสร้างของคณะแพทยศาสตร์ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ ของคณะแพทยศาสตร์
และในปี พ.ศ. 2553 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนมาเป็นระยะเวลาครบ 20 ปี จึงได้มีโครงการจัดทำหนังสืออนุสรณ์ กิจกรรมทางวิชาการรวมถึงการประชุมวิชาการต่าง ๆ และมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าว อีกทั้งได้มีการจัดทำตราสัญลักษณ์ "20 ปี แพทย์ธรรมศาสตร์" เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ของคณะตลอดปีการศึกษาอีกด้วย
การแบ่งส่วนราชการ
- หน่วยงาน
- บริหารการวิจัย
- ฝ่ายวิชาการ
- สถานวิทยาศาสตร์คลินิค
- ภาควิชาอายุรศาสตร์
- ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
- ภาควิชาศัลยศาสตร์
- ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- ภาควิชาออร์โธปิดิกส์
- ภาควิขาวิสัญญีวิทยา
- ภาควิขาโสต ศอ นาสิกวิทยา
- ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
- ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
- ภาควิชารังสีวิทยา
- ภาควิชาจักษุวิทยา
- ภาควิชาพยาธิวิทยาและนิติเวชศาสตร์
- ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
- ภาควิชาวิทยาการระบาดคลินิก
- สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก
- สาขากายวิภาคศาสตร์
- สาขาสรีรวิทยา
- สาขาปรสิตวิทยา
- สาขาเภสัชวิทยา
- สาขาจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกัน
- สาขาชีวเคมี
- สาขาเซลล์ชีววิทยา
- สาขาอณูพันธุศาสตร์-อณูชีววิทยาทางการแพทย์
- สถานเวชศาสตร์ชุมชนและเวชศาสตร์ครอบครัว
- บัณฑิตศึกษา
- สถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์
ทำเนียบคณบดี
ลำดับที่ | นาม | ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อารี วัลยะเสวี | 9 เม.ย. 2533 - 30 ก.ย. 2539 |
2 | ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุชาติ อินทรประสิทธิ์ | 1 ต.ค. 2539 - 8 ส.ค. 2542 |
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ เฉลิม วราวิทย์ (รักษาราชการ) | 9 ส.ค. 2542 - 30 พ.ย. 2542 | |
3 | รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ กัมมาล กุมาร ปาวา | 1 ธ.ค. 2542 - 30 พ.ย. 2548 |
4 | รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ จิตตินัดด์ หะวานนท์ | 1 ธ.ค. 2548 - 30 ก.ย. 2554 |
5 | รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล | 1 ม.ค. 2555 - 31 ธ.ค.2560 |
6 | รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดิลก ภิยโยทัย | 1 ม.ค. 2561 - ปัจจุบัน |
รายนามผู้บริหาร
รายนามผู้บริหารชุดปัจจุบัน[2]
ตำแหน่ง | นาม |
---|---|
คณบดี | รศ.นพ. ดิลก ภิยโยทัย |
รองคณบดีฝ่ายวิชาการ | รศ.พญ. นงลักษณ์ คณิตทรัพย์ |
รองคณบดีฝ่ายการคลังและแผน | รศ.พญ. อัจฉรา ตั้งสถาพรพงษ์ |
รองคณบดีฝ่ายบริการสุขภาพ | ผศ.นพ. สกล มนูสุข |
รองคณบดีฝ่ายบริหารและวิเทศสัมพันธ์ | ศ.ดร.นพ. ประกิตพันธุ์ ทมทิตชงค์ |
รองคณบดีฝ่ายวิจัย | รศ.นพ. สมบัติ มุ่งทวีพงษา |
รองคณบดีฝ่ายการนักศึกษา | รศ. ศิริเพ็ญ ต่ออุดม |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายนโยบายและแผน | ผศ.นพ.ประกาศิต สงวนจิตร |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพ | ผศ.พญ. ศิริภัทร เกียรติพันธ์สดใส |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ | รศ.พญ. วินิทรา นวลละออง |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย | รศ.พญ. ทิพาพร ธาระวนิช |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายเทคโนโลยีทางการศึกษา | ผศ.นพ. อัสนี ทองอยู่ |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบัณฑิตศึกษา | รศ.นพ. ภาสกร ศรีทิพย์สุโข |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายการคลังและแผน | อ.พญ. นิพัทธา วินะยานุวัติคุณ |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายบริหารและวิเทศสัมพันธ์ | อ.ดร.นพ. สิระ นันทพิศาล |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายบริการสุขภาพ | รศ.นพ. ธนา ขอเจริญพร |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายบริการสุขภาพ | อ.พญ. เรือนขวัญ กัณหสิงห์ |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายวิชาการ | รศ.พญ. อารยา ศรัทธาพุทธ |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายวิชาการ | ผศ.ดร. กัลยา อารีย์ |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายวิชาการ | ผศ.นพ. ภัทรวิน ภัทรนิธิมา |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายวิชาการ | ผศ.นพ. อินทนนท์ อิ่มสุวรรณ |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายการนักศึกษา | ผศ.นพ. ชินกาจ บุญญสิริกูล |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายการนักศึกษา | ผศ.ดร. นันทวรรณ ศูนย์กลาง |
ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายวิจัย | อ.ดร. ปรรณณวัชญ์ ไชยวัฒนนันทน์ |
Facts & Figures
อัตรากำลัง
- อาจารย์ 296 คน
- บุคลากรสายสนับสนุน 265 คน
หลักสูตรการศึกษา
ปริญญาตรี
- หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556)[3]
- หลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556)[4]
- หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ)[5]
บัณฑิตศึกษา
- สาขาวิชาเซลล์ต้นกำเนิดและอณูชีววิทยา (ปริญญาโท และปริญญาเอก)
- สาขาวิชาระบาดวิทยาคลินิก (ปริญญาโท และปริญญาเอก)
- สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ (ปริญญาโท และปริญญาเอก)
- สาขาวิชาชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุล (ปริญญาโท และปริญญาเอก)
- สาขาวิชาเวชศาสตร์ชุมชนและเวชศาสตร์ครอบครัว (ปริญญาเอก)
- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ปริญญาโท และปริญญาเอก)
แพทย์ประจำบ้าน
- เวชศาสตร์ครอบครัว (ไม่ต้องผ่านการเพิ่มพูนทักษะ)
- อายุรศาสตร์
- กุมารเวชศาสตร์
- สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- ศัลยศาสตร์
- ออร์โธปิดิกส์
- รังสีวิทยาวินิจฉัย
- วิสัญญีวิทยา
- เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
- จักษุวิทยา
- โสต ศอ นาสิกวิทยา
- จิตเวชศาสตร์
- ประสาทวิทยา
- จิตวิทยา
- ประสาทศัลยศาสตร์
- อายุรศาสตร์โรคเลือด
- พยาธิวิทยากายวิภาค (ไม่ต้องผ่านการเพิ่มพูนทักษะ)
- ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา
แพทย์ประจำบ้านต่อยอด
- จักษุวิทยากระจกตา และการผ่าตัดแก้ไขสายตา
- จักษุวิทยาโรคจอประสาทตา
- จักษุวิทยาโรคต้อหิน
- ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์กระดูกสันหลัง
- ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ข้อสะโพกข้อเข่า
- ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ทางมือ
- ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์เวชศาสตร์การกีฬา
- อายุรศาสตร์โรคไต
- อายุรศาสตร์โรคทางเดินอาหาร
- อายุรศาสตร์โรคหัวใจ
อาคารและสถานที่
ด้านการเรียนการสอน
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีอาคารหลักคือ "อาคารคุณากร" (รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ) ความสูง 9 ชั้น โดยในปัจจุบันอาคารดังกล่าวเป็นสถานที่ติดต่อราชการ ที่ทำการสถานและสาขาวิชา และห้องประชุมต่าง ๆ ดังนี้
ชั้น 1 : ประชาสัมพันธ์, ลานอเนกประสงค์, สำนักงานคณะกรรมการนักศึกษา คณะแพทยศาสตร์ (กนพ.), ศูนย์หนังสือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาคณะแพทยศาสตร์, ร้านถ่ายเอกสาร, สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาศูนย์สุขศาสตร์, สมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์, ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ (Self Directed Learning;SDL)
ชั้น 2 : ห้องประชุมแพทย์โดม 1 (ห้องประชุมทางไกลแพทย์โดม), ห้องประชุมแพทย์โดม 2 และ 3, สำนักงานคณบดี, สำนักงานเลขนุการคณะ, พระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (ลานพระบิดา)
ชั้น 3 : งานบริการการศึกษา, กลุ่มห้องบรรยาย, ห้องปฏิบัติการสถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก, หน่วยส่งเสริมการวิจัย
ชั้น 4 : สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก, ห้องประชุมสโมสรคณะแพทยศาสตร์, ห้องเรียนกลุ่มย่อย, ห้องบรรยาย, ชุมนุมและนันทนาการ, สำนักงานสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์
ชั้น 5 : ห้องพักอาจารย์สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก, ห้องเรียนกลุ่มย่อย
ชั้น 6 และ 7 : ศูนย์การเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-directed Learning : SDL), งานเทคโนโลยีทางการศึกษา
ชั้น 8 : สถานวิทยาศาสตร์เวชศาสตร์ชุมชนและเวชศาสตร์ครอบครัว
ชั้น 9 : สำนักงานสาขากายวิภาคศาสตร์, ห้องปฏิบัติการจุลกายวิภาคศาสตร์, ห้องปฏิบัติการมหกายวิภาคศาสตร์, ห้องประชุมแพทย์โดมชั้น 9
ในปีการศึกษา 2552 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีนโยบายขยายพื้นที่ทำการของคณะเพื่อรองรับการเรียนการสอนตามหลักสูตรปีพุทธศักราช 2552 ที่มีการขยายจำนวนรับนักศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นไป จึงได้มีการต่อเติมอาคารราชสุดา ชั้น 3-8 (โครงการก่อสร้างอาคารราชสุดาในระยะที่ 2) โดยมีการสร้างห้องบรรยายขนาดใหญ่ อีกทั้งยังได้ย้ายสำนักงานสาขากายวิภาคศาสตร์, ห้องปฏิบัติการจุลกายวิภาคศาสตร์ และห้องปฏิบัติการมหกายวิภาคศาสตร์ มายังอาคารราชสุดา เพื่อความคล่องตัวของการจัดการเรียนการสอน
ด้านสวัสดิการ
เนื่องจากจำนวนผู้ที่เข้าพักอาศัยในหอพักแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถรองรับนักศึกษาแพทย์ทั้งหมดได้ ในปีการศึกษา 2552 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงมีโครงการก่อสร้างอาคารหอพักสำหรับนักศึกษาแพทย์โดยเฉพาะ และทั้งนี้ยังมีการสร้างศูนย์กีฬาคณะแพทยศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้มีสถานที่สำหรับการสร้างเสริมสุขภาพ ตามลักษณะพึงประสงค์ของบัณฑิตแพทย์ธรรมศาสตร์ ข้อที่ 9 ในหัวข้อ "ดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ"
หน่วยงานสนับสนุนการศึกษา
- ห้องสมุดกลุ่มแพทย์ธรรมศาสตร์ Thammasat Medical Library
- ศูนย์แพทย์ปฐมภูมิและแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
- โรงพยาบาลสระบุรี
- โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
- โรงพยาบาลปทุมธานี
- โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
- โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
- โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
- โรงพยาบาลพุทธโสธร
- โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ กองทัพเรือ
การเดินทาง[6]
- รถเมล์ประจำทาง
- สาย 29 รังสิต–หัวลำโพง
- สาย 39 ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต–อนุสาวรีย์ชัยฯ
- สาย 510 รังสิต–อนุสาวรีย์ชัยฯ
- รถตู้ประจำทาง
- อนุสาวรีย์ชัยฯ-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
- BTS หมอชิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
- ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-ศูนย์รังสิต (รถบริการของทางมหาวิทยาลัย)
- รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (เริ่มให้บริการประมาณปี 2560)
- รถประจำทางภายในมหาวิทยาลัย
- รถเมล์ประจำทาง NGV สาย 2
- รถสองแถว สาย 2
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยและสถาบันร่วมผลิตแพทย์
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย | จังหวัด | สังกัด |
---|---|---|
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ | จังหวัดปทุมธานี | สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
อ้างอิง
- ↑ "พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทบวงมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2533" (pdf). ราชกิจจานุเบกษา. กรุงเทพฯ: สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เล่ม 107, ตอนที่ 44, ฉบับพิเศษ): 7. 1990-03-19. สืบค้นเมื่อ 2014-04-09.
- ↑ รายนามผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ↑ http://medtu.tv/edu-service/wp-content/uploads/2017/12/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%B4%E0%B8%9556.pdf หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556)
- ↑ http://medtu.tv/edu-service/wp-content/uploads/2017/12/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A256.pdf หลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556)
- ↑ http://medtu.tv/edu-service/wp-content/uploads/2017/12/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%B4%E0%B8%9556-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9.pdf หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ)
- ↑ http://www4.tu.ac.th/visitingtu