ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ปรับภาษา}} |
{{ปรับภาษา}} |
||
{{ปรับรูปแบบ}} |
{{ปรับรูปแบบ}} |
||
{{กล่องข้อมูล |
{{กล่องข้อมูล พระมเหสี |
||
| สี |
| สี =#3CC |
||
⚫ | |||
| สีอักษร = #8f5f12 |
|||
| พระนามาภิไธย = พระนางฮวนน่าแห่งคาสตีล |
|||
⚫ | |||
| พระ |
| พระมเหสีใน = [[พระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล]] |
||
| วันประสูติ = [[6 พฤศจิกายน]] [[ค.ศ. 1479]] |
|||
⚫ | |||
| วันสิ้นพระชนม์ = [[12 เมษายน]] [[ค.ศ. 1555]] |
|||
| พระราชสวามี = [[พระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งคาสตีล]] |
|||
⚫ | |||
| พระราชโอรส/ธิดา = 6 พระองค์ |
|||
| พระอิสริยยศ = สมเด็จพระราชินีนาถแห่งคาสตีลและลีออง |
|||
⚫ | |||
| |
| พระบิดา = [[พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2]] |
||
⚫ | |||
| รัชกาลถัดมา = [[สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|พระเจ้าชาลส์ที่ 1]] |
|||
}} |
}} |
||
'''สมเด็จพระราชินีฮวนน่าแห่งคาสตีล''' หรืออีกพระนามหนึ่งคือ '''สมเด็จพระราชินีโจแอนนา''' (ฮวนน่าผู้บ้าคลั่ง)([[ภาษาสเปน|สเปน]]:Juana I de Castilla) (ประสูติ: 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2022 ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งคาสตีล: วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2047 - 25 กันยายน พ.ศ. 2049 ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอารากอน: วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2059 - 12 เมษายน พ.ศ. 2098) เป็นพระราชธิดาใน [[พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน|สมเด็จพระเจ้าเฟอร์ดินานที่ 2 แห่งคาสตีล]] และ [[สมเด็จพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล]] เมื่อมีพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับ[[พระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งคาสตีล|เจ้าชายฟิลลิปแห่งออสเตรีย]] พระราชโอรสใน [[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] และ พระนางมารี เดอ บูร์กอญ การอภิเษกสมรสเป็นไปเพื่อการสร้างความมั่นคงทางการเมืองของสเปน สานความสัมพันธ์กับราชวงศ์ต่าง ๆ ในยุโรปเช่นเดียวกันกับการอภิเษกสมรสของพระโอรสธิดาองค์อื่น ๆ |
'''สมเด็จพระราชินีฮวนน่าแห่งคาสตีล''' หรืออีกพระนามหนึ่งคือ '''สมเด็จพระราชินีโจแอนนา''' (ฮวนน่าผู้บ้าคลั่ง)([[ภาษาสเปน|สเปน]]:Juana I de Castilla) (ประสูติ: 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2022 ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งคาสตีล: วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2047 - 25 กันยายน พ.ศ. 2049 ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอารากอน: วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2059 - 12 เมษายน พ.ศ. 2098) เป็นพระราชธิดาใน [[พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน|สมเด็จพระเจ้าเฟอร์ดินานที่ 2 แห่งคาสตีล]] และ [[สมเด็จพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล]] เมื่อมีพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับ[[พระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งคาสตีล|เจ้าชายฟิลลิปแห่งออสเตรีย]] พระราชโอรสใน [[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] และ พระนางมารี เดอ บูร์กอญ การอภิเษกสมรสเป็นไปเพื่อการสร้างความมั่นคงทางการเมืองของสเปน สานความสัมพันธ์กับราชวงศ์ต่าง ๆ ในยุโรปเช่นเดียวกันกับการอภิเษกสมรสของพระโอรสธิดาองค์อื่น ๆ |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:14, 5 กุมภาพันธ์ 2561
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ จัดลิงก์ภายใน และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา | |
---|---|
พระนางฮวนน่าแห่งคาสตีล | |
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งคาสตีลและลีออง | |
ประสูติ | 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1479 |
สิ้นพระชนม์ | 12 เมษายน ค.ศ. 1555 |
จักรพรรดินี | พระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล |
พระนางฮวนน่าแห่งคาสตีล | |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ตรัสทามารา |
พระบิดา | พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 |
พระมารดา | สมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล |
สมเด็จพระราชินีฮวนน่าแห่งคาสตีล หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระราชินีโจแอนนา (ฮวนน่าผู้บ้าคลั่ง)(สเปน:Juana I de Castilla) (ประสูติ: 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2022 ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งคาสตีล: วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2047 - 25 กันยายน พ.ศ. 2049 ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอารากอน: วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2059 - 12 เมษายน พ.ศ. 2098) เป็นพระราชธิดาใน สมเด็จพระเจ้าเฟอร์ดินานที่ 2 แห่งคาสตีล และ สมเด็จพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล เมื่อมีพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลลิปแห่งออสเตรีย พระราชโอรสใน สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และ พระนางมารี เดอ บูร์กอญ การอภิเษกสมรสเป็นไปเพื่อการสร้างความมั่นคงทางการเมืองของสเปน สานความสัมพันธ์กับราชวงศ์ต่าง ๆ ในยุโรปเช่นเดียวกันกับการอภิเษกสมรสของพระโอรสธิดาองค์อื่น ๆ
ต้นเหตุและเรื่องราวแห่งความวิปลาส
หลังจากการอภิเษกสมรส เจ้าชายฟิลิปพระสวามีของพระนางมีพระนิสัยเจ้าชู้มาก ไม่ค่อยสนใจพระนาง มักทำองค์ให้เจ้าหญิงฮวนน่าทรงหึงพระองค์และทะเลาะกันบ่อยครั้งด้วยความรักพระสวามีอย่างมากจึงคอยติดตามตลอดเวลาไม่ว่าพระสวามีจะเสด็จที่ใด ต่อมาเมื่อเจ้าหญิงอิซาเบลล่า และเจ้าชายจอนห์พระเชษฐภคินีและพระเชษฐาที่ทรงสนิทสนมสิ้นพระชนม์ลงในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก ทรงมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปเป็นทรงเก็บพระองค์มากขึ้น ในปีพ.ศ. 2047 สมเด็จพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล สิ้นพระชนม์ลง เจ้าหญิงฮวนน่าจึงทรงขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระมารดาเป็นสมเด็จพระราชินีฮวนน่าแห่งคาสตีล ในขณะที่พระบิดา พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 อารากอนยังมีพระชนม์ชีพอยู่
การสวรรคตของพระเจ้าเฟลีเป
ภายหลังพระเจ้าฟิลิปที่1แห่งคาสตีล(ฟิลลิปรูปหล่อ)ทรงสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันยังความโศกเศร้าพระทัยแก่พระนางฮวนน่าเป็นล้นพ้น(มีการสันนิษฐานว่าอาจทรงต้องยาพิษ โดยพระเจ้าเฟอร์ดินานที่ 2 มีส่วนรู้เห็นด้วย)ทรงกันแสงและกรีดร้องตลอดเวลามิเป็นทรงงานราชการบริหารบ้านเมืองใดๆอีก ต่อมาจึงเริ่มมีกระแสข่าวลือไปทั่วว่าพระราชินีทรงอยู่กินกับพระศพพระสวามี โดยทรงกอดและจุมพิตพระศพทุกๆคืนแต่ความจริงคือพระนางทรงได้รับข่าวลือว่า พระศพถูกขโมยไปจึงทรงเปิดดูเท่านั้น เมื่อมีการเคลื่อนย้ายพระศพไปฝังยังเมืองกรานาดาทางตอนใต้ของสเปน พระนางมิให้หญิงใดเข้าใกล้พระศพพระสวามี ทั้งนางกำนัล นางรับใช้ แม้แต่แม่ชีด้วยทรงหึงหวงพระสวามีมาก ตลอดเวลาที่เดินทางทรงสั่งให้เปิดดูพระศพทุกวัน ถึงกับทรงกอดลูบพระศพ จนเป็นที่น่าสังเวศแก่ข้าราชบริภารทั้งหลายที่เห็น
การถูกขัง
พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2พระบิดาจึงได้ดำเนินการเสนอต่อสภาประกาศให้ สมเด็จพระราชินีฮวนน่า เป็นบุคคลไร้ความสามารถ จากการที่ทรงเสียพระสติและมีคำสั่งกักบริเวณพระราชินีผู้เสียสติไว้ที่ปราสาททอเดซียัส แล้วรวบอำนาจในการปกครองมาไว้ที่พระองค์ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทน
ตำนาน
กษัตริย์และพระราชินีในราชวงศ์ตรัสตามาราเองก็มีหลายพระองค์ที่ประสบชะตากรรมเช่นนี้ โดยมีเรื่องเล่าอ้างถึงเหตุที่ต้องเป็นไปเช่นนี้จากคำสาปในช่วงที่มีการรวมชาติสเปนในปี พ.ศ. 2022 โดยการสมรสกันระหว่าง พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน และ สมเด็จพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล เป็นการรวมอาณาจักรใหญ่ 2 อาณาจักรบนคาบสมุทรไอบีเรียเข้าด้วยกันสร้างความแข็งแกร่งแก่อาณาจักรคริสต์เพื่อต่อต้านมุสลิมและชาวยิว ซึ่งภายหลังเหลือที่มั่นสุดท้ายอยู่ที่กรานาดาในขณะที่อาณาจักรคริสต์แผ่ขยายอำนาจรุกคืบลงไปยึดพื้นที่คืนมาจากพวกมัวร์ ในที่สุดก็สามารถยึดกรานาดาได้ในปี พ.ศ. 203 5แค่ช่วงที่เข้ายึด (กรานาดาแตก) ก็ปรากฏว่ามีการสังหารชาวยิวและมุสลิมจำนวนมากที่หนีออกจากกรานาดาไม่ทัน มีการออกพระราชกฤษฎีกาอารัมบา ให้ชาวยิวเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์โรมันคาทอลิกไม่ก็ต้องออกไปจากสเปน ซึ่งต่อมาพวกมุสลิมก็ต้องทำตามด้วยเมื่อมีผู้ไม่ปฏิบัติตามจึงเกิดการประหารชาวยิวและมุสลิมเป็นจำนวนมากในช่วงนั้น มีเรื่องเล่าว่าในการประหารชีวิตชาวยิวที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา ซึ่งครานั้นกษัตริย์และพระราชินีเสด็จทอดพระเนตรพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์, ขุนนางและข้าราชบริพารจุดไฟเผาชาวยิวทั้งเป็น มีชาวยิวที่โกรธแค้นผู้หนึ่งตะโกนสาปแช่งออกมาจากกองไฟขณะถูกเผาว่าขอให้พระราชวงศ์ของพระองค์วิบัติในที่สุด ว่ากันว่าพระเจ้าเฟอร์ดินานที่ 2 ถึงกับตกพระทัย ตะลึงถึงกับประชวรพระวาโยตกจากพระเก้าอี้ และนี่คงเป็นต้นเหตุคำสาปวิปลาสแห่งราชวงศ์สเปนเพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปีเจ้าชายจอห์น (อินฟอนเตฮวน) และเจ้าหญิงอิซาเบลลาผู้เป็นพระมเหสีในพระเจ้าเอ็มมานูเอลแห่งโปรตุเกส พระเชษฐาและพระเชฐภคินีของเจ้าหญิงฮวนน่าก็สิ้นพระชนม์ในเวลาอันไล่เลี่ยกัน และไม่กี่ปีต่อมาเจ้าชายมิเกลพระโอรสของเจ้าหญิงอิซาเบลลาก็สิ้นพระชนม์ สร้างความปวดร้าวใจแก่พระนางอิซาเบลลาพระมารดาเป็นอย่างมาก
กลับเข้าสู่เรื่อง
มิเพียงราชินีฮวนน่าเท่านั้นที่มีการกล่าวว่าทรงเสียสติ แม้แต่พระมารดา พระราชินีอิซาเบลล่าเองก็มีพระอาการเช่นนี้อ่อนๆเหมือนกัน และเชื้อสายราชวงศ์นี้ส่วนมากก็จะมีพระชนม์ไม่ยืนยาวและไม่ค่อยสมประกอบแม้แต่สมเด็จพระอัยยิกาของเจ้าหญิงฮวนน่าเองก็มีพระสติวิปลาสเช่นกัน
บั้นปลายพระชนม์
ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และการสวรรคต
สมเด็จพระราชินีฮวนน่าพอโอรสขึ้นครองราชย์พระนางเป็นสำเร็จรัชกาล(ปกครองร่วมกับโอรสชาลส์ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2050 พระนางเส็ดจสวรรคตในปี พ.ศ. 2093 พระศพอยู่ที่ คาปิลล่า ลิลร์ กรานดา สเปนพระนางในช่วงชีวิตแรกๆกับพระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งคาสตีลดูไม่สวยงามเลย
พระราชโอรส/ธิดา
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | เสกสมรส |
---|---|---|---|
เจ้าหญิงเอเลเนอร์ | 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1498 | 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1558 | อภิเษกสมรสครั้งแรกในปีค.ศ. 1518กับพระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกส มีพระราชโอรสธิดา 2 พระองค์ และทรงอภิเษกสมรสครั้งที่สองที่ปีค.ศ. 1530กับพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส |
จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 | 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1500 | 21 กันยายน ค.ศ. 1558 | อภิเษกสมรสในปีค.ศ. 1526กับพระนางอิซาเบลลาแห่งโปรตุเกสและมีพระราชโอรสธิดา |
อิซาเบลลา | 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1501 | 19 มกราคม ค.ศ. 1526 | เสกสมรสในปีค.ศ. 1515กับพระเจ้าคริสเตียนที่ 2 แห่งเดนมาร์กและมีพระราชโอรสธิดา |
จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 | 10 มีนาคม ค.ศ. 1503 | 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1564 | อภิเษกสมรสในปีค.ศ. 1521กับพระนางอันนาแห่งโบฮีเมียและฮังการีและมีพระราชโอรสธิดา |
เจ้าหญิงมารีอา | 18 กันยายน ค.ศ. 1505 | 18 ตุลาคม ค.ศ. 1558 | อภิเษกสมรสในปีค.ศ. 1522กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 2 แห่งฮังการี |
เจ้าหญิงแคทเธอรีน | 14 January 1507 | 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1578 | อภิเษกสมรสในปีค.ศ. 1522กับพระเจ้าจอห์นที่ 3 แห่งโปรตุเกสและมีพระราชโอรส-ธิดา |
พงศาวลี
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน | กษัตริย์แห่งอารากอน (ราชวงศ์ตรัสทามารา) |
พระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งสเปน | ||
พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน | กษัตริย์แห่งซิชิลี (ราชวงศ์ตรัสทามารา) |
พระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งสเปน | ||
พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน | กษัตริย์แห่งเนเปิลส์ (ราชวงศ์ตรัสทามารา) |
พระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งสเปน | ||
พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน และสมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล |
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกษัตริย์คาสตีลและลีออน (ราชวงศ์ตรัสทามารา) ร่วมราชบัลลังก์กับเจ้าชายฟิลิปรูปงาม |
พระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งสเปน |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2022
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2098
- พระมหากษัตริย์คาสตีล
- พระมหากษัตริย์เนเปิลส์
- พระมหากษัตริย์ซิซิลี
- พระมหากษัตริย์อารากอน
- ราชวงศ์ฮับส์บูร์ก
- สมเด็จพระราชินีนาถ
- ราชวงศ์ตรัสทามารา
- เคานท์แห่งเบอร์กันดี
- เคานต์แห่งแฟลนเดอส์
- เคานท์แห่งเอโนต์
- เคานท์แห่งอาร์ทัวส์
- เคานท์แห่งฮอลแลนด์
- ดยุกแห่งบราบันต์
- ดยุกแห่งเบอร์กันดี
- ดยุกแห่งลักเซมเบิร์ก
- ดยุกแห่งลิมบูร์ก
- ดยุกแห่งมงบล็อง
- เจ้าชายแห่งอัสตูเรียส
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์