ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยิมนาสติก"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: เพิ่มข้อความไม่เป็นวิกิขนาดใหญ่ |
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
[[ไฟล์:Daniele Hypólito 16072007.jpg|thumb|250px|Daniele Hypólito บนคานทรงตัว]] |
|||
ยิมนาสติก เป็นกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันเพื่อทดสอบความแข็งแรง (Strength) ของนักกีฬา รวมทั้งจังหวะ (Rhythm) ความยืดหยุ่นตัวหรือความอ่อนตัว (Flexibility) และ ความคล่องแคล่วว่องไว (Agility) กีฬายิมนาสติกที่ใช้ในการแข่งขันมี 3 แบบคือ ยิมนาสติกสากล (Artistic Gymnastics) ยิมนาสติกลีลา (Rhythmic Gymnastics) และ แทรมโปลิน (Trampoline) สำหรับยิมนาสติกสากลและแทรมโปลินจะแข่งขันได้ทั้งชายและหญิง ส่วนยิมนาสติกลีลาจะแข่งขันเฉพาะหญิงเท่านั้น |
|||
'''ยิมนาสติก''' ({{Lang-en|Gymnastics}}) เป็น[[กีฬา]]ที่เกี่ยวกับการแสดง ความแข็งแรง ความสวยงาม ความคล่องแคล่ว และการทำงานประสานกันของร่างกาย เป็นกีฬาสากลประเภทหนึ่งที่จัดเข้าแข่งขันในกีฬา[[โอลิมปิก]] ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มมาเมื่อใด แต่มาปรากฏก่อนคริสต์ศักราช 2,600 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ชาวจีนได้มีการฝึกฝนท่ากายบริหารและคิดประดิษฐ์ท่ากายบริหารขึ้น แต่การเริ่มต้นยิมนาสติกอย่างแท้จริงน่าจะเริ่มสมัยเริ่มต้นของประวัติศาสตร์แห่งชาว[[กรีก]]และ[[โรมัน]] โดยเฉพาะกรีกโบราณ คำว่ายิมนาสติก เป็น[[ภาษากรีก]] มาจากคำว่า Gymnos แปลว่า Nude หรือแปลว่า Naked Art มีความหมายว่า "ศิลปะแห่งการเปลือยเปล่า" |
|||
ในปี พ.ศ. 2495 ได้มีการกำหนดประเภท[[ยิมนาสติกสากล]] ประเภทชายมี 6 อุปกรณ์ และหญิงมี 4 อุปกรณ์ |
|||
ยิมนาสติกสากลจะประกอบด้วยประเภทแข่งขันต่างๆ และในแต่ละประเภทก็จะมีกรรมการตัดสินเพื่อให้ได้ผู้ชนะ ยิมนาสติกลีลาก็ประกอบด้วยประเภทแข่งขันต่างๆ โดยจำแนกตามอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น ลูกบอล ห่วงฮูล่า เป็นต้น ส่วนในการแข่งขันแทรมโปลินก็จะพิจารณาหาผู้ชนะจากท่าที่ใช้ขณะที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ |
|||
;อุปกรณ์ในประเภทชาย |
|||
กติกาการแข่งขันยิมนาสติกถูกกำหนดขึ้นโดยสหพันธ์ยิมนาสติกสากล (Federation Internationale de Gymnastique |
|||
# ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (Floor exercise) |
|||
# ม้าหู หรือม้าหมุน (Pommel horse) |
|||
# ห่วง (Rings) |
|||
# ม้ากระโดด (Long horse) |
|||
# บาร์คู่ (Parallel bars) |
|||
# บาร์เดี่ยว (Horizontal bar) |
|||
;อุปกรณ์ในประเภทหญิง |
|||
(FIG) ตั้งอยู่ที่เมืองมัวเตีย (Moutier) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสาขาในสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ที่เมืองอินเดียนาโปลิส มลรัฐอินเดียนา สาขาในแคนาดาอยู่ที่เขตกลูเชสเตอร์ เมืองออนตาริโอ |
|||
# ม้ากระโดด (Vaulting horse) |
|||
# บาร์ต่างระดับ (Uneven bars) |
|||
# คานทรงตัว (Balance bars) |
|||
# ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (Floor exercise) |
|||
ยิมนาสติกอีกประเภท คือ [[ยิมนาสติกลีลาประกอบดนตรี]] (Rhythmic Sportive Gymnastic) เกิดขึ้นในปี [[พ.ศ. 2513]] ทางแถบยุโรปตอนเหนือ ผู้เล่นจะเป็นผู้หญิงเท่านั้น เป็นการแสดงบนฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ โดยจะเป็นการเคลื่อนไหวประกอบเสียงดนตรี และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น บอล (Ball) ริบบิ้น (Ribbin) คทา หรือคลับ (Club) ห่วง (Hoop) เชือก (Robe) |
|||
ยิมนาสติกทั้งสองประเภทจะอยู่ภายใต้การควบคุมของสหพันธ์ยิมนาสติกสากล |
|||
2. ความหมาย |
|||
ส่วนยิมนาสติกายกรรม หรือยิมนาสติกผาดโผนมิได้ขึ้นกับ[[สหพันธ์ยิมนาสติกสากล]] มีลักษณะการแข่งขันทั้งประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ และประเภททีม เป็นลักษณะของการต่อตัว ผสมกับการแสดงท่ายืดหยุ่น หรือการตีลังกาทั้งบนฟลอร์ และกลางอากาศ โดยผู้เล่นแสดงเข้าจังหวะเสียงดนตรีให้มีความกลมกลืน ในเวลาที่กำหนด |
|||
ยิมนาสติก (Gymnastics) เป็นกิจกรรมทางกีฬาชนิดหนึ่ง ที่มีการแสดงออกด้วยการเคลื่อนไหวอย่างมีหลักเกณฑ์ แบบแผนและศิลปะ โดยประสาทและกล้ามเนื้อจะต้องทำงานสัมพันธ์กันอย่างมีประสิทธิภาพจากผลของการแสดงออก และการเคลื่อนไหวเหล่านั้นจะทำให้ร่างกายเกิดพัฒนาการด้านสมรรถภาพทางกายเป็นหลัก |
|||
== อ้างอิง == |
|||
ยืดหยุ่น (Tumbling) เป็นกิจกรรมการเล่นโลดโผน อันประกอบไปด้วยการกลิ้ง การม้วนตัว การดีดสปริง การหมุนตัว และการตีลังกาแบบต่างๆ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนไหวร่างกาย ความสามารถในการทรงตัว การควบคุมอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้ตามความต้องการ และยังแสดงถึงความสามารถในการเพิ่มแรง เพิ่มความเร็ว หรือการผ่อนแรงกระแทกให้เบาลง โดยอาศัยหลักทางวิทยาศาสตร์ |
|||
* [http://www.siamsport.co.th/Sportdata_gymnastic_data.html ประวัติยิมนาสติก] siamsport.co.th |
|||
{{กีฬาในโอลิมปิกฤดูร้อน}} |
|||
ยืดหยุ่นเป็นกิจกรรมย่อยอย่างหนึ่งของกีฬายิมนาสติก โดยจัดเป็นยิมนาสติกกายกรรม (Acrobatic Gymnastics) และยังเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของฟลอร์เอ็กเซอไซด์ด้วย |
|||
[[หมวดหมู่:ยิมนาสติก]] |
|||
{{โครงกีฬา}} |
|||
อิไตยยย# |
|||
2. ประวัติและพัฒนาการของกีฬายิมนาสติก |
|||
กีฬายิมนาสติกถือกำเนิดขึ้นเมื่อไร ที่ไหน ไม่มีหลักฐานปรากฏที่แน่ชัด ทราบแต่เพียงว่าในสมัยก่อนนั้นคำว่า “ยิมนาสติก” มีความหมายว่า “กิจกรรมเพื่อการออกกำลังกาย” หรือบางทีก็อาจจะตีความหมายว่า ยิมนาสติกคือกีฬาหรือกรีฑาก็ได้ แม้ในปัจจุบันในประเทศเยอรมันก็ยังเรียกการพลศึกษาว่า “ยิมนาสติก” |
|||
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าชาวจีนได้มีการคิดท่ากายบริหารขึ้นมาเพื่อการบริหารร่างกายให้เกิดความแข็งแรง และถือเป็นการป้องกันและรักษาโรคได้ด้วย นอกจากนี้ชาวจีนยังรู้จักการเล่นกายกรรมในลักษณะของการต่อตัว การไต่เชือกและการตีลังกาแบบต่างๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายยิมนาสติกในปัจจุบัน |
|||
เชื่อกันว่าชาวกรีกและชาวโรมันเป็นผู้ริเริ่มสนใจและฝึกฝนยิมนาสติกอย่างจริงจัง ชาวกรีกได้เน้นให้เยาวชนได้ฝึกยิมนาสติก เช่น การวิ่ง การกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง การเต้นรำประกอบดนตรี และการเล่นเกมต่างๆ โดยเรียกกิจกรรมเหล่านี้ว่า “ยิมนาสติกเพื่อเยาวชน” |
|||
ชาวโรมันได้รับอารยธรรมจากกรีก ได้นำกิจกรรมยิมนาสติกมาสร้างความเข้มแข็งให้กับทหารในกองทัพ กิจกรรมที่นำมาฝึกได้แก่ การวิ่ง การกระโดดข้ามม้า การพุ่งหอก การขว้างก้อนหิน ฟันดาบ ไต่เชือก ไต่กำแพง และมวยปล้ำ โดยเรียกยิมนาสติกของชาวโรมันว่า “ยิมนาสติกเพื่อการทหาร” |
|||
เราจะเห็นว่ายิมนาสติกเหล่านี้ไม่มีรูปแบบที่แน่นอนเหมือนในปัจจุบัน แต่มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกันคือสร้างความ |
|||
แข็งแรงให้กับคนโดยใช้การออกกำลังกายเป็นสื่อ พอจะสรุปได้ว่ายิมนาสติกพัฒนามาจาก |
|||
- สงครามและการต่อสู้ - การเต้นรำและศิลปะดนตรี |
|||
- กายกรรม - เกมเพื่อการออกกำลังกาย |
|||
เมื่ออาณาจักรโรมันเข้าสู่ยุคมืด กิจกรรมยิมนาสติกก็เสื่อมลงไปด้วย จนถึงสมัยกลางยิมนาสติกก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่อย่างจริงจัง โดยเฉพาะประเทศต่างๆ ในยุโรป |
|||
ในประเทศเยอรมันได้มีการพัฒนายิมนาสติกขึ้นอย่างจริงจัง ในปี ค.ศ.1776 โยฮัน เบสโดว์ (Basedow Johann Bernhard) ได้บรรจุยิมนาสติกเข้าไว้ในหลักสูตรการพลศึกษา เบสโดว์จึงได้ชื่อว่าเป็นครูสอนยิมนาสติกคนแรก กิจกรรมยิมนาสติกที่เขานำมาสอนได้แก่ การวิ่ง กระโดดสูง ขี่ม้า ยกน้ำหนัก เดินทรงตัวบนคานไม้ ปีนต้นไม้ ว่ายน้ำ และเกมต่างๆ |
|||
ต่อมาในปี ค.ศ.1793 กุตมุธส์ (Guts Muths Johann Christian) ชาวเยอรมัน ได้เขียนตำรายิมนาสติกขึ้นเป็นเล่มแรกชื่อ “Gymnastic For Youth” เขาจึงได้ชื่อว่าเป็นคุณปู่แห่งวงการยิมนาสติก กิจกรรมต่างๆ ที่เขาได้บรรจุไว้ในหนังสือ เขาได้ใช้หลักการและการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ พบว่ากิจกรรมเหล่านี้จะพัฒนาคนได้เกือบทุกด้าน กิจกรรมดังกล่าวได้แก่ วิ่งเร็ว กระโดดสูง กระโดดไกล ฟันดาบ ปีนต้นไม้ มวยปล้ำ การขว้างปา ยิงธนู ว่ายน้ำ การเต้นรำ การเดินทรงตัวบนคานไม้ และเกมต่างๆ |
|||
ต่อมา จาห์น (Friedrich Ludwig Jahn) ได้คิดประดิษฐ์อุปกรณ์และสถานที่สำหรับฝึกยิมนาสติกขึ้นด้วย เขาจึงได้ชื่อว่า “บิดาแห่งยิมนาสติก” อุปกรณ์ที่เขาได้คิดค้นขึ้น ได้แก่ ราวเดี่ยว (Horizontal Bar) ราวคู่ (Parallel Bar) ม้ากระโดด (Vaulting Horse) คานทรงตัว (Balance Beam) ฟรีเอ็กเซอร์ไซด์ (Floor Exercise) ม้าหู (Side Horse) ส่วนห่วง (Rings) และ |
|||
ราวต่างระดับ (Uneven Bars) คิดขึ้นในสมัยกลาง |
|||
ต่อมาในปี ค.ศ.1800 นักยิมนาสติกชาวสวีเดนชื่อ “ลิงก์” (Pehr Henrik Ling) ได้นำจังหวะและการประสานงานของท่าต่างๆ อย่างต่อเนื่องโดยใช้อุปกรณ์ห่วงฮูล่า คฑา และลูกบอลเล็ก ซึ่งปัจจุบันก็คือยิมนาสติกลีลา |
|||
ยิมนาสติกเริ่มการแข่งขันครั้งแรก ในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 1 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อปี ค.ศ.1896 |
|||
ในปี ค.ศ.1903 ตั้งสหพันธ์ยิมนาสติกสากล (Federation International De Gymnastic = FIG) ได้จัดให้มีการแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลกขึ้นนับเป็นครั้งที่ 7 และให้เปลี่ยนการแข่งขันเป็น 4 ปีต่อครั้ง เหมือนกับกีฬาโอลิมปิก โดยจะจัดก่อนกีฬาโอลิมปิก 1 ปี |
|||
ในระยะแรกของการแข่งขันกีฬายิมนาสติกจะแข่งขันเฉพาะชาย ต่อมาในปี ค.ศ.1928 จึงจัดให้มีการแข่งขันประเภทหญิงด้วย (ตรงกับกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 9 ค.ศ.1928) |
|||
ในช่วงระยะเวลาที่กล่าวมาแล้ว กิจกรรมยิมนาสติกที่ใช้ในการแข่งขัน มีลักษณะคล้ายกับยิมนาสติกในปัจจุบัน อีกส่วนหนึ่งก็คล้ายกับกรีฑา บางครั้งก็มีว่ายน้ำรวมอยู่ด้วย ทางสหพันธ์ยิมนาสติกสากลจึงคิดว่าควรจะแยกการแข่งขันยิมนาสติกออกจากกรีฑา |
|||
ในปี ค.ศ.1934 เริ่มบรรจุม้ากระโดดและราวต่างระดับเข้าไว้ในการแข่งขันยิมนาสติกด้วย |
|||
ในปี ค.ศ.1952 ได้มีการกำหนดอุปกรณ์ชายมี 6 อุปกรณ์ และหญิงมี 4 อุปกรณ์ ดังนี้ ชาย 6 อุปกรณ์ได้แก่ ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ ม้าหู ห่วงนิ่ง ม้ากระโดด ราวเดี่ยว ราวคู่ ส่วนหญิงมี 4 อุปกรณ์ได้แก่ ม้ากระโดด ราวต่างระดับ คานทรงตัว |
|||
และฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ เรียกยิมนาสติกดังกล่าวนี้ว่า “ยิมนาสติกสากล” (Artistic Gymnastics) |
|||
จากนั้นยิมนาสติกได้รับการพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาเรื่อยๆ ทั้งทางด้านกติกา เทคนิค วิธีการต่างๆ จนทำให้ยิมนาสติกเจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ และในปี ค.ศ.1970 ยิมนาสติกจากสวีเดนก็ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงจัดให้มีการแข่งขันขึ้น ประเภทการแข่งขันยิมนาสติกนี้ว่า “ยิมนาสติกลีลาใหม่” (Modern Rhythmic Gymnastics) ซึ่งจะแข่งขันเฉพาะหญิงเท่านั้น อุปกรณ์ที่ใช้ได้แก่ เชือกกระโดด ห่วงฮูล่า ลูกบอล คฑา และริบิ้นประโยชน์ของยืดหยุ่นและยิมนาสติก |
|||
3. ประโยชน์ของยืดหยุ่นและยิมนาสติก |
|||
3.1 พัฒนาการด้านสมรรถภาพทางกายดีขึ้น ได้แก่ |
|||
3.1.1ความแข็งแรง โดยเฉพาะแขนและขา |
|||
3.1.2ความทนทาน ทั้งความทนทานของกล้ามเนื้อแต่ละส่วนและความทนทานของระบบไหลเวียน-หายใจ |
|||
3.1.3ความเร็ว ได้จากการวิ่งและกระทำกิจกรรมต่างๆ |
|||
3.1.4ความคล่องแคล่วว่องไว ทั้งการหลบหลีกและเปลี่ยนทิศทาง |
|||
3.1.5การทรงตัว ทั้งขณะที่อยู่นิ่งและขณะที่กำลังเคลื่อนไหว |
|||
3.1.6พลังและอำนาจบังคับตัว |
|||
3.1.7ความยืดหยุ่นตัวหรือความอ่อนตัว |
|||
3.1.8การทำงานประสานกันของระบบประสาทและระบบกล้ามเนื้อ |
|||
3.2 พัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ดีขึ้น ได้แก่ |
|||
3.2.1 มีจิตใจกล้าหาญ กล้าแสดงออกในท่าที่อาจอาจเสี่ยงต่ออันตราย |
|||
3.2.2 การตัดสินใจในการกระทำกิจกรรมต่างๆ |
|||
3.2.3 ความสามารถในการรวบรวมสติ สมาธิ |
|||
3.2.4 มีความเยือกเย็น สุขุมรอบคอบ หรือระมัดระวังมากขึ้น |
|||
3.2.5 มีความอดทน อดกลั้น และเพียรพยายาม |
|||
3.3 พัฒนาการด้านสติปัญญาดีขึ้น ได้แก่ |
|||
3.3.1ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จินตนาการ |
|||
3.3.2รู้จักคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ |
|||
3.3.3รู้จักยั้งคิดหรือยับยั้งชั่งใจ ไตร่ตรอง |
|||
ั 3.4 พัฒนาการทางสังคมดีขึ้น ได้แก่ |
|||
3.4.1 ทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ได้ |
|||
3.4.2 รู้จักการให้เกียรติผู้อื่นและเคารพในสิทธิของผู้อื่น |
|||
3.4.3 ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งกฏ กติกา ข้อบังคับ |
|||
3.4.4 เชื่อฟังและยอมรับในผู้ฝึกสอนหรือผู้ควบคุมทีม |
|||
3.4.5 สร้างเสริมความเป็นพลเมืองดีของชาติ |
|||
4. คุณสมบัติของนักยิมนาสติก |
|||
4.1 คุณสมบัติด้านร่างกาย ได้แก่ |
|||
4.1.1มีร่างกายแข็งแรงในทุกๆ ส่วน |
|||
4.1.2มีความยืดหยุ่นตัวสูง |
|||
4.1.3มีความเร็วในการเคลื่อนไหวอวัยวะส่วนต่างๆ รวมทั้งยังสามารถเร่งความเร็วได้ดี |
|||
4.1.4มีความอดทน และความสามารถฝึกซ้อมได้นานๆ |
|||
4.1.5มีรูปร่าง สัดส่วนสวยงาม ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป |
|||
4.1.6มีสติปัญญาดี เฉลียวฉลาด รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี |
|||
4.2 คุณสมบัติด้านจิตใจ ได้แก่ |
|||
4.2.1มีความกล้าหาญ กล้าเสี่ยง |
|||
4.2.2มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร |
|||
4.2.3มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ |
|||
5. คุณสมบัติของผู้ฝึกสอนยิมนาสติก |
|||
5.1 มีความเข้าใจและรู้ซึ้งเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ |
|||
5.2 มีความรู้ทันสมัยเกี่ยวกับหลักวิธีการฝึกและการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายแก่นักกีฬา |
|||
5.3 มีความสามารถในการวิเคราะห์ท่าทางและสไตล์ของนักกีฬา |
|||
5.4 มีความสามารถใช้คนให้เกิดประโยชน์สูงสุด |
|||
5.5 มีจริยธรรมและมีความเชื่อถึงคุณค่าของการแข่งขัน |
|||
5.6 รู้จักพัฒนาบุคลิกภาพของตน |
|||
5.7 มีปรัชญาเป็นของตนเอง |
|||
5.8 ต้องอุทิศตน กระตือรือร้น และมีความคิดริเริ่ม |
|||
5.9 มีเป้าหมาย |
|||
5.10 ต้องสร้างวินัยในทีม |
|||
5.11 ต้องมีจิตวิทยา |
|||
5.12 ต้องไม่เห็นแก่ตัว |
|||
5.13 มีมนุษยสัมพันธ์ |
|||
5.14 มีความรับผิดชอบต่อผู้เล่น ชุมชน สังคม และต้นสังกัด |
|||
5.15 ต้องมีความรู้และถ่ายทอดความรู้แก่ผู้เล่น |
|||
5.16 มีความเป็นผู้นำ |
|||
5.17 ต้องมีนักกีฬาดีและเก่ง |
|||
6. ความปลอดภัยในการเล่นยิมนาสติก |
|||
6.1 สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ |
|||
6.1.1การกระทำที่ผิดรูปแบบหรือข้ามขั้นตอน |
|||
6.1.2สมรรถภาพทางกายไม่ดีพอ |
|||
6.1.3อุปกรณ์ชำรุดหรือบกพร่อง |
|||
6.1.4ความไม่กล้าตัดสินใจ หรือกลัวๆ กล้าๆ |
|||
6.1.5ฝึกซ้อมมากเกินไป (Over Training) ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเมื่อยล้ามากเกินไป |
|||
6.1.6ความไม่สัมพันธ์หรือไม่เข้าใจกันระหว่างผู้เล่น (Player) และผู้ให้ความช่วยเหลือ (Supporter) |
|||
6.2 หลักการป้องกันความปลอดภัยในการเล่นยิมนาสติก |
|||
6.2.1ควรสำรวจความพร้อมของตัวผู้เล่นเอง |
|||
(1) สำรวจความพร้องของเครื่องแต่งกายว่า ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัยหรือไม่ เพียงใด |
|||
(1) สำรวจความพร้อมด้านสมรรถภาพทางกาย เช่น ความแข็งแรง ความยืดหยุ่นตัว ฯลฯ |
|||
(2) สำรวจความพร้อมด้านจิตใจ เช่น ความอยากเล่น ความสนุกสนาน ความวิตกกังวล ฯลฯ |
|||
6.2.2ควรสำรวจความพร้อมของวัสดุอุปกรณ์ที่เล่น |
|||
(1) สำรวจความเรียบร้อยของวัสดุอุปกรณ์แต่ละอย่างว่ายังใช้การได้ดีอยู่ไรือไม่ เพียงใด |
|||
(2) สำรวจรอยต่อของเบาะจะต้องแนบสนิทไม่มีช่องว่าง รวมทั้งรอยฉีกขาดที่มี |
|||
(3) สำรวจสลักยึดอุปกรณ์ที่เล่น ต้องไม่หลวมหรือหย่อนยาน |
|||
(4) อุปกรณ์บางชนิดที่ปรับระดับหรือระยะได้ ต้องปรับให้เหมาะสมกับผู้เล่นในแต่ละคน |
|||
(5) อุปกรณ์บางชนิดควรใช้ผงแมกนีเซียม ชอล์ก (Magnesium Chalk) ทาทั้งที่มือและบริเวณอุปกรณ์ที่มือจะไปสัมผัส เพื่อกันลื่น |
|||
6.2.3ควรมีการบริหารอบอุ่นร่างกาย และสร้างความพร้อมให้กับร่างกายก่อนเล่นเสมอ |
|||
6.2.4ควรเล่นจากท่าง่ายไปสู่ท่ายาก ในกรณีท่าที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย ไม่ควรเล่นเพียงลำพังคนเดียว จำเป็นต้องมีผู้ช่วยเหลือหรือเครื่องช่วยให้เกิดความปลอดภัย เช่น เบาะหนาๆ หรือเข็มขัดรัดเอวผูกโยงด้วยเชือกเหนียว |
|||
6.2.5ควรเล่นตามขั้นตอนของแบบฝึก คำนึงถึงความถูกต้องของท่า ไม่ควรเล่นข้ามขั้นตอน หรือเล่นโดยประมาท โดยเฉพาะในการเล่นท่าใหม่ๆ |
|||
6.2.6ในกรณีที่ฝึกหรือเล่นหลายๆ คน ควรวางเงื่อนไขให้เล่นไปในทิศทางเดียวกัน อย่าเล่นสวนทางกัน |
|||
6.2.7การตัดสินใจในการเล่นจะต้องเด็ดขาดและตัดสินใจเพียงครั้งเดียว ไม่ควรลังเลใจ เพราะจะทำให้จังหวะและการทรงตัวเสียไป อันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ |
|||
7. การอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นยิมนาสติก |
|||
การเล่นกีฬาทุกชนิดจำเป็นต้องมีการอบอุ่นร่างกาย เพื่อเตรียมร่างกายให้เกิดความพร้อมที่จะทำงาน อีกทั้งยังช่วยในการป้องกันการบาดเจ็บ การอบอุ่นร่างกายในการเล่นยิมนาสติกนั้น นิยมกระทำกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ลักษณะของการ อบอุ่นร่างกายในชั้นต้น จะกระทำเกี่ยวกับการเหยียดหรือยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อ (ความยืดหยุ่นตัว) ซึ่งถือว่าเป็นการอบอุ่นร่างกายและเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายไปในตัว อวัยวะที่เน้นในการอบอุ่นร่างกาย ได้แก่ ข้อมือ ข้อเท้า เข่า หัวไหล่ สะโพก และ ลำตัว |
|||
นอกจากการอบอุ่นร่างกายเพื่อความยืดหยุ่นตัวแล้ว ควรอบอุ่นร่างกายในลักษณะที่ต้องใช้ความแข็งแรงบ้าง เช่น การดึงข้อ ดันข้อ การแอ่นหลัง การก้มตัว การบิดหรือเหวี่ยง การกระโดด และ การหกสูงลักษณะต่างๆ |
|||
8. การแข่งขันยืดหยุ่น |
|||
8.1 ยืดหยุ่น มีการแข่งขันแตกต่างไปจากยิมนาสติกสากล โดยการแข่งขันยืดหยุ่นจะไปรวมอยู่ในยิมนาสติกกายกรรม การแข่งขันยืดหยุ่นจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ |
|||
8.1.1การแข่งขันประเภทเดี่ยว (Tumbling) มีทั้งชายเดี่ยว และ หญิงเดี่ยว |
|||
8.1.2การแข่งขันประเภทคู่ (Pairs) มีทั้งชายคู่ หญิงคู่ และ คู่ผสม |
|||
8.1.3การแข่งขันประเภทหมู่ (Group) มี หมู่ชาย 4 คน และ หมู่หญิง 3 คน |
|||
8.2 สนามที่ใช้ในการแข่งขันยืดหยุ่น |
|||
8.2.1สนามประเภทเดี่ยว กว้าง 1.50 เมตร ยาว 20 เมตร และมีทางวิ่งยาว 10 เมตร |
|||
8.2.2สนามประเภทคู่และหมู่ จะใช้สนามของฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ ขนาด 12 x 12 เมตร |
|||
8.3 ลักษณะของการแข่งขันยืดหยุ่น |
|||
8.3.1ประเภทเดี่ยว ผู้แสดงจะต้องแสดงท่ายืดหยุ่นติดต่อกันเป็นชุด ชุดละ 4-5 ท่า เป็นจำนวน 3-6 ชุด (ท่าสมัคร 3 ชุด และท่าบังคับ 3 ชุด) โดยจะต้องแสดงให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ |
|||
8.3.2ประเภทคู่และหมู่ จะเป็นการต่อตัวผสมกับการเล่นยืดหยุ่นทั้งบนฟลอร์และท่ากลางอากาศขณะต่อตัว ความสวยงามและการให้คะแนนจะดูจากความยากของการต่อตัว ความมั่นคงและการทรงตัวและความพร้อมเพรียงกันของนักกีฬา การแข่งขันการต่อตัวนี้มักใช้ชื่อว่า “ศิลปกายกรรมต่อตัว” หรือ “กายศิลป์” การแสดง ประเภทคู่และหมู่นี้ จะต้องมีเสียงดนตรีประกอบ ผู้แสดงจะต้องแสดงให้เข้ากับจังหวะดนตรีด้วย ระยะเวลาของการแสดงจะใช้เวลาตั้งแต่ 2 นาที ถึง 3 นาที |
|||
9. การแข่งขันยิมนาสติก |
|||
9.1 การแข่งขันยิมนาสติกสากล เป็นการแข่งขันที่แพร่หลายที่สุด แบ่งการแข่งขันออกเป็น ชาย 6 อุปกรณ์ และ หญิง 4 อุปกรณ์ โดยการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 รอบ คือ |
|||
9.1.1 รอบที่ 1 (Competition I) เป็นการแข่งขันประเภททีม ทีมละ 5-6 คน ประเภทนี้มีการแข่งขัน 2 ครั้งคือ |
|||
ท่าบังคับและท่าสมัคร เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อเข้าแข่งขันในประเภทอื่นๆ |
|||
9.1.2 รอบที่ 2 (Competition II) เป็นการแข่งขันประเภทบุคคลรวม นักกีฬาที่เข้าแข่งขันจะต้องผ่านการคัดเลือกจากการแข่งขันประเภททีมมาแล้ว โดยปกติผู้ที่มีคะแนนสูง 36 คนแรก จะมีสิทธิ์เข้าแข่งขันในประเภทบุคคลรวม |
|||
9.1.3 รอบที่ 3 (Competition III) เป็นการแข่งขันประเภทอุปกรณ์ ผู้เข้าแข่งขันจะส่งเข้าแข่งขันได้อุปกรณ์ละไม่เกิน 2 คน โดยคัดเลือกจากประเภททีมเหมือนกัน ผู้ที่คะแนนสูงสุด 6 ถึง 8 คน ก็จะเข้ามาแข่งขันกันใหม่ในรอบนี้ |
|||
การแข่งขันยิมนาสติกนี้ นักยิมนาสติกทุกคนจะต้องเล่นทุกอุปกรณ์ที่มีอยู่ (ชาย 6 อุปกรณ์ หญิง 4 อุปกรณ์) ใน |
|||
รอบทีมและรอบบุคคลรวม ผู้เล่นจะต้องแสดงท่าต่างๆ ที่มีความยากง่ายแตกต่างกันเข้าเป็นชุด ชุดละไม่น้อยกว่า 10 ท่า และ |
|||
จะต้องแสดงท่าในชุดนั้นๆ ติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก (ยกเว้นม้ากระโดดทั้งชายและหญิง จะแสดง 1 หรือ 2 ท่าเท่านั้น) |
|||
คะแนนของการเล่นบนอุปกรณ์แต่ละอย่างเป็น 10 คะแนน (ยกเว้นม้ากระโดด คะแนนจะอยู่ที่ความยากง่ายของท่าที่เลือกแสดง) |
|||
9.2 สนามและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน |
|||
9.2.1ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ เป็นสนามเรียบปูด้วยวัสดุที่ยืดหยุ่น ขนาดกว้างยาว 12 x 12 ม. ทั้งชายและหญิง |
|||
9.2.2ม้ากระโดด เป็นตัวม้า หลังบนกว้าง 30 ซม. ยาว 160 ซม. |
|||
(1) ชายใช้วางตามยาว สูง 135 ซม. |
|||
(2) หญิงวางตามขวาง สูง 120 ม. |
|||
9.2.3ม้าหู คล้ายม้ากระโดด แต่มีหูสำหรับจับ 2 หู หูสูง 12 ซม. อยู่ห่างกัน 40–45 ซม. ม้าสูง 110 ซม. |
|||
9.2.4ห่วง เป็นลักษณะห่วงคู่ แขวนขนานโดยห่วงทั้งคู่ห่างกัน 50 ซม. สูงจากพื้น 2.75 ม. |
|||
9.2.5ราวคู่ เป็นราวไม้ขนานกันยืดหยุ่นตัวได้ ยาว 3.50 ม. สูง 1.70-1.75 ม. ตัวราวทั้งคู่ห่างกัน 42-52 ซม. |
|||
9.2.6ราวเดี่ยว เป็นราวเหล็กตันยืดหยุ่นตัวได้ ยาว 2.40 ม. สูง 2.55-2.60 ม. |
|||
9.2.7ราวต่างระดับ คล้ายราวคู่ แต่ราวทั้งสองสูงไม่เท่ากัน ราวบนสูง 2.30 ม. ราวล่างสูง 1.50 ม. |
|||
9.2.8คานทรงตัว เป็นคานไม้กว้าง 10 ซม. ยาว 5 ม. สูงจากพื้น 1.20 ม. |
|||
9.3 การประกอบที่ชุดในฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (หญิง) |
|||
ชุดการแสดงต้องมีท่ายากระดับ B และท่ายากระดับ C โดยต้องมาจากกลุ่มท่าต่อไปนี้ |
|||
9.3.1ท่าผาดโผนลอยตัวและไม่ลอยตัว ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง |
|||
9.3.2ท่าผาดโผนแข็งแรง |
|||
9.3.3ท่ายิมนาสติกต่างๆ เช่น เดิน วิ่ง กระโดด หมุนตัว กระโดดเขย่ง กระโจน |
|||
9.3.4ท่าทรงตัวในการยืน นั่ง นอน การเหวี่ยงแขนและทำตัวเป็นคลื่น นำมาประกอบต่อเชื่อมกัน |
|||
การแสดงจะต้องมีดนตรีประกอบโดยไม่มีเนื้อร้อง ผู้แสดงจะต้องเคลื่อนไหวให้เข้ากับจังหวะไปตามส่วนต่างๆ ของพื้นที่ ตลอดจนการเปลี่ยนทิศทางหรือเปลี่ยนระดับจากต่ำไปหาสูง |
|||
ชุดที่ใส่แข่งขันต้องเป็นชุดแนบเนื้อ แขนยาวปิดศอก ถ้าเป็นประเภททีมต้องแต่งให้เหมือนกันหมด ส่วนประเภทบุคคลจะแต่งชุดหรือสีอะไรก็ได้ ระยะเวลาในการแข่งขัน 1.10 – 1.30 นาที |
|||
9.4 การประกอบที่ชุดในฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (ชาย) |
|||
ชุดท่าการแสดงจะประกอบด้วย ท่าทรงตัว ท่าหยุดนิ่ง ท่าความแข็งแรง ท่ากระโดด ท่าดีด ท่าสปริงมือ ท่าตีลังกาผาดโผน |
|||
ผู้แสดงจะต้องแสดงไปยังทุกส่วนของพื้นที่ ท่าที่แสดงต้องมีความสมบูรณ์สวยงาม การเคลื่อนไหวแขน ขา ลำตัว มือ เท้า ศีรษะ จะต้องเป็นไปตามรูปแบบของกีฬายิมนาสติก |
|||
ชุดที่ใส่แข่งขันต้องเป็นเสื้อกล้าม กางเกงขายาวรัดฝ่าเท้า หรือ กางเกงขาสั้นก็ได้ ระยะเวลาในการแข่งขัน 50 – 70 วินาที |
|||
9.2 ยิมนาสติกลีลา เริ่มบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ในปี ค.ศ.1984 สนามแข่งขันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาวด้านละ 12.5 ม. อุปกรณ์ที่ใช้ได้แก่ เชือกกระโดด ห่วงฮูล่า ลูกบอล ไม้คฑา ริบิ้น ในแต่ละประเภทผู้แสดงจะต้องแสดงให้เข้ากับจังหวะดนตรี |
|||
9.3 แทรมโปลิน เริ่มมีการแข่งขันในปี ค.ศ.2000 ในซิดนีย์โอลิมปิก ประเทศออสเตรเลีย แบ่งการแข่งขันออกเป็นชายและหญิง กรรมการให้คะแนนมี 7 คน จะพิจารณาท่าการกระโดดขึ้นและลง การตีลังกา การบิดเกลียว และการเคลื่อนไหวในลักษณะอื่นๆ |
|||
อ้างอิง http://www.l3nr.org/posts/367277 |
|||
หน้าเว็บย่อย (1): สารสนเทศ |
|||
ความคิดเห็น |
|||
คุณไม่มีสิทธิ์เพิ่มความคิดเห็น |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:29, 5 กุมภาพันธ์ 2561
ยิมนาสติก (อังกฤษ: Gymnastics) เป็นกีฬาที่เกี่ยวกับการแสดง ความแข็งแรง ความสวยงาม ความคล่องแคล่ว และการทำงานประสานกันของร่างกาย เป็นกีฬาสากลประเภทหนึ่งที่จัดเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มมาเมื่อใด แต่มาปรากฏก่อนคริสต์ศักราช 2,600 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ชาวจีนได้มีการฝึกฝนท่ากายบริหารและคิดประดิษฐ์ท่ากายบริหารขึ้น แต่การเริ่มต้นยิมนาสติกอย่างแท้จริงน่าจะเริ่มสมัยเริ่มต้นของประวัติศาสตร์แห่งชาวกรีกและโรมัน โดยเฉพาะกรีกโบราณ คำว่ายิมนาสติก เป็นภาษากรีก มาจากคำว่า Gymnos แปลว่า Nude หรือแปลว่า Naked Art มีความหมายว่า "ศิลปะแห่งการเปลือยเปล่า"
ในปี พ.ศ. 2495 ได้มีการกำหนดประเภทยิมนาสติกสากล ประเภทชายมี 6 อุปกรณ์ และหญิงมี 4 อุปกรณ์
- อุปกรณ์ในประเภทชาย
- ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (Floor exercise)
- ม้าหู หรือม้าหมุน (Pommel horse)
- ห่วง (Rings)
- ม้ากระโดด (Long horse)
- บาร์คู่ (Parallel bars)
- บาร์เดี่ยว (Horizontal bar)
- อุปกรณ์ในประเภทหญิง
- ม้ากระโดด (Vaulting horse)
- บาร์ต่างระดับ (Uneven bars)
- คานทรงตัว (Balance bars)
- ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (Floor exercise)
ยิมนาสติกอีกประเภท คือ ยิมนาสติกลีลาประกอบดนตรี (Rhythmic Sportive Gymnastic) เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2513 ทางแถบยุโรปตอนเหนือ ผู้เล่นจะเป็นผู้หญิงเท่านั้น เป็นการแสดงบนฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ โดยจะเป็นการเคลื่อนไหวประกอบเสียงดนตรี และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น บอล (Ball) ริบบิ้น (Ribbin) คทา หรือคลับ (Club) ห่วง (Hoop) เชือก (Robe)
ยิมนาสติกทั้งสองประเภทจะอยู่ภายใต้การควบคุมของสหพันธ์ยิมนาสติกสากล
ส่วนยิมนาสติกายกรรม หรือยิมนาสติกผาดโผนมิได้ขึ้นกับสหพันธ์ยิมนาสติกสากล มีลักษณะการแข่งขันทั้งประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ และประเภททีม เป็นลักษณะของการต่อตัว ผสมกับการแสดงท่ายืดหยุ่น หรือการตีลังกาทั้งบนฟลอร์ และกลางอากาศ โดยผู้เล่นแสดงเข้าจังหวะเสียงดนตรีให้มีความกลมกลืน ในเวลาที่กำหนด
อ้างอิง
- ประวัติยิมนาสติก siamsport.co.th
อิไตยยย#