ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เมซุท เออซิล"
ล ย้อนการก่อกวน 1 ครั้งของ Panda Fonnapha (พูดคุย) ไปยังรุ่นโดย 27.145.43.179.ด้วย[[WP... |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 30: | บรรทัด 30: | ||
| clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]] |
| clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]] |
||
| caps3 = 105 |
| caps3 = 105 |
||
| goals3 = |
| goals3 = 74 |
||
| years4 = 2013- |
| years4 = 2013- |
||
| clubs4 = [[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] |
| clubs4 = [[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] |
||
บรรทัด 64: | บรรทัด 64: | ||
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 เออซิลได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติในชื่อ ''The Magic of the Game / Gunning for Greatness''<ref>{{cite news | url=http://metro.co.uk/2017/03/03/revealed-how-mesut-ozil-pleaded-with-arsenal-manager-arsene-wenger-to-end-his-real-madrid-hell-6485256/ | title= Revealed: How Mesut Ozil pleaded with Arsenal manager Arsene Wenger to end his Real Madrid hell | publisher = Metro.co.uk | date = 3 March 2017 | accessdate = 13 March 2017}}</ref><ref>{{cite news | url=http://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/arsenal-news-mesut-ozil-jose-mourinho-row-real-madrid-coward-a7607316.html | title= Arsenal's Mesut Özil was called a 'coward' by Jose Mourinho in blistering dressing-room row at Real Madrid | publisher = Independent.co.uk | date = 2 March 2017 | accessdate = 13 March 2017}}</ref> |
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 เออซิลได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติในชื่อ ''The Magic of the Game / Gunning for Greatness''<ref>{{cite news | url=http://metro.co.uk/2017/03/03/revealed-how-mesut-ozil-pleaded-with-arsenal-manager-arsene-wenger-to-end-his-real-madrid-hell-6485256/ | title= Revealed: How Mesut Ozil pleaded with Arsenal manager Arsene Wenger to end his Real Madrid hell | publisher = Metro.co.uk | date = 3 March 2017 | accessdate = 13 March 2017}}</ref><ref>{{cite news | url=http://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/arsenal-news-mesut-ozil-jose-mourinho-row-real-madrid-coward-a7607316.html | title= Arsenal's Mesut Özil was called a 'coward' by Jose Mourinho in blistering dressing-room row at Real Madrid | publisher = Independent.co.uk | date = 2 March 2017 | accessdate = 13 March 2017}}</ref> |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:27, 19 ธันวาคม 2560
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เมซุท เออซิล | ||
เกิด | 15 ตุลาคม ค.ศ. 1988 | ||
เกิดที่ | เกลเซนเคียร์เชิน, เยอรมนีตะวันตก | ||
สูง | 1.81 m (5 ft 11 in)[1] | ||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรุก / ปีก | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | อาร์เซนอล | ||
หมายเลข | 11 | ||
ชุดเยาวชน | |||
1995-1998 | เวสต์ฟาเลีย 04 เกลเซนเคียร์เชิน | ||
1998-1999 | ทอยโทเนียชัลเคอ-นอร์ด | ||
1999-2000 | ฟัลเคอเกลเซนเคียร์เชิน | ||
2000-2005 | รอท-ไวสส์เอสเซิน | ||
2005-2006 | ชาลเก 04 | ||
ชุดใหญ่* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น† | (ประตู)† |
2006-2008 | ชาลเก 04 | 30 | (0) |
2008-2010 | แวร์เดอร์เบรเมิน | 71 | (13) |
2010-2013 | เรอัลมาดริด | 105 | (74) |
2013- | อาร์เซนอล | 107 | (21) |
ทีมชาติ‡ | |||
2006-2007 | เยอรมนีชุดยู 19 | 23 | (4) |
2007- | เยอรมนีชุดยู 21 | 16 | (5) |
2009- | เยอรมนี | 84 | (21) |
† ลงเล่น (ประตู) |
เมซุท เออซิล (เยอรมัน: Mesut Özil; เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1988 ที่เมืองเกลเซนเคียร์เชิน) เป็นนักฟุตบอลชาวเยอรมันเชื้อสายตุรกี[2] โดยเป็นที่รู้จักกันดีจากการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้
เออซิลเล่นให้กับแวร์เดอร์เบรเมินและทีมชาติเยอรมนี ต่อมาได้ย้ายไปเรอัลมาดริด และได้ย้ายมาอาร์เซนอลด้วยค่าตัวราว 42.5 ล้านปอนด์ในไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดการซื้อขายตัวนักฟุตบอล ในช่วงต้นฤดูกาล 2013–14 เออซิลเป็นผู้เล่นตัวทำเกมที่มากความสามารถ โดยยิงประตูให้เรอัลมาดริดถึง 74 ลูก ในปี 2010–13
โดยการย้ายมาอาร์เซนอลครั้งนี้ นับเป็นการทำสถิติการซื้อตัวนักฟุตบอลที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซนอล[3]
ในฤดูกาล 2014–15 เออซิลถูกวิจารณ์ว่าการเล่นตกลงไป ไม่โดดเด่นเหมือนฤดูกาลที่แล้ว ในต้นเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 ขณะที่เดินทางกลับไปเยอรมนี เออซิลได้ถูกตรวจพบว่าได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ต้องพักรักษาเป็นเวลาราว 3 เดือน[4] ก่อนที่จะเริ่มกลับมาซ้อมและกลับมาลงเล่นอีกครั้งได้ในต้นปี ค.ศ. 2015[5] ในฐานะตัวสำรอง ที่เปลี่ยนตัวลงไปในนาทีที่ 73 แทนที่ออลีวีเย ฌีรู ที่ถูกเปลี่ยนออก ในนัดที่อาร์เซนอลพบกับสโตกซิตี ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ผลการแข่งขันอาร์เซนอลชนะไป 3-0[6] เออซิลถูกส่งลงแข่งขันเป็นตัวจริงนัดแรกหลังจากหายบาดเจ็บกลับมา ในรายการเอฟเอคัพรอบสี่ ที่อาร์เซนอลบุกไปเอาชนะไบรตัน & โฮปอัลเบียน ไปได้ 3-2 โดยเป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ได้ในนาทีที่ 24 ด้วย[7] และยิงเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกหลังจากหายอาการบาดเจ็บกลับมา ในนัดที่ 23 ของฤดูกาล ที่อาร์เซนอลเป็นฝ่ายเอาชนะแอสตันวิลลา ไปได้ถึง 5-0 ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม โดยเออซิลยิงได้ในนาทีที่ 56 นับเป็นประตูที่ 2 ของการแข่งขันนัดนี้[8]
และต่อมาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ประจำเดือนเมษายน ค.ศ. 2015[9]
ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม อาร์เซนอลอยู่ในกลุ่มเอฟ และมีสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องชนะบาเยิร์นมิวนิกให้ได้ที่สนามเอมิเรตส์ เนื่องจากอาร์เซนอลก่อนหน้านั้นแพ้มาแล้ว 2 นัด ยังไม่มีคะแนนเลย ขณะที่บาเยิร์นมิวนิกตั้งแต่เปิดฤดูกาลมายังไม่เคยแพ้ใคร ซ้ำยังเป็นผู้ชนะติดต่อกันรวด 12 นัดในทุกรายการ และผู้เล่นทุกคนเล่นได้อย่างโดดเด่นมาก โดยเฉพาะรอแบร์ต แลวันดอฟสกี กองหน้าของทีม ที่ยิงในบุนเดสลีกาได้ถึง 5 ลูกก่อนหน้านั้น แต่ในครั้งนี้ เออซิลสามารถยิงประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ของครึ่งหลัง นับเป็นประตูที่ 2 จบการแข่งขันอาร์เซนอลชนะบาเยิร์นมิวนิกไป 2-0 ทำให้ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์เข้ารอบต่อไป และทำให้บาเยิร์นมิวนิกแพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาลอีกด้วย[10]
ในฤดูกาล 2015–16 เออซิลได้ทำสถิติใหม่ ด้วยเป็นผู้จ่ายส่งลูกบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ในลีกมากที่สุด โดยลงเล่นทั้งหมด 57 นัดทำไป 21 การจ่ายส่ง คิดเป็นจ่าย 1 ประตูต่อ 2.71 นัด และยังทำสถิตินี้ติดต่อกันถึง 10 ครั้งด้วยกัน ชนิดที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนทำได้มาก่อน[11] ทำลายสถิติเดิมของเอริก ก็องโตนา ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้ที่ 1 ประตูต่อ 2.79 นัด[12]
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 เออซิลได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติในชื่อ The Magic of the Game / Gunning for Greatness[13][14]
อ้างอิง
- ↑ "Biography for Mesut Özil".
- ↑ White, Duncan (12 June 2010). "Germany v Australia: Mesut Ozil at head of the vanguard for new generation". Telegraph. สืบค้นเมื่อ 17 June 2010.
- ↑ หน้า 20 กีฬา, มองการบริหารจัดการจาก 'ตลาดนักเตะ'. "ฟรีสไตล์" โดย ณัฐวุฒิ ประคองศิลป์. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,340: เสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556
- ↑ "'ปืน'ปวดตับ! 'อินทรี'ยัน'โอซิล' เข่าพังพักยาว 12 วีค". ไทยรัฐ. 8 October 2014. สืบค้นเมื่อ 12 January 2015.
- ↑ "เวนเกอร์เผยโอซิลกระสันโชว์ฟอร์มแจ่ม". สยามสปอร์ต. 11 January 2015. สืบค้นเมื่อ 12 January 2015.
- ↑ "อเล็กซิสเบิ้ล!ปืนยิงสลุตรัวช่างปั้นหม้อยับ3-0". สยามสปอร์ต. 11 January 2015. สืบค้นเมื่อ 12 January 2015.
- ↑ ""ปืนโต" เชือดหวิว 3-2 "วัลคอตต์-โอซิล" คัมแบ็กซัด". ผู้จัดการออนไลน์. 26 January 2015. สืบค้นเมื่อ 26 January 2015.
- ↑ หน้า 17 ต่อ 19 กีฬา, ปืนใหญ่ยิงสลุตวิลลายับ 5-0. "ปืนใหญ่รัวฆ่าสิงห์ผงาด". เดลินิวส์ฉบับที่ 23,853: วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเมีย
- ↑ "โอซิล ผงาดซิวนักเตะยอดเยี่ยม PFA เดือนเมษายน". arsenal.in.th. 1 May 2015. สืบค้นเมื่อ 2 May 2015.
- ↑ "Arsenal 2 - 0 Bayern Munich". livescore.net. 2015-05-31. สืบค้นเมื่อ 2015-10-21.
- ↑ "ราชาแอสซิสต์". ไทยรัฐ. 2015-11-10. สืบค้นเมื่อ 2015-11-11.
- ↑ ""โอซิล" ขึ้นแท่น "ราชาแอสซิสต์" แห่งพรีเมียร์ฯ แซง "ก็องโต"". ผู้จัดการออนไลน์. 2015-10-27. สืบค้นเมื่อ 2015-11-11.
- ↑ "Revealed: How Mesut Ozil pleaded with Arsenal manager Arsene Wenger to end his Real Madrid hell". Metro.co.uk. 3 March 2017. สืบค้นเมื่อ 13 March 2017.
- ↑ "Arsenal's Mesut Özil was called a 'coward' by Jose Mourinho in blistering dressing-room row at Real Madrid". Independent.co.uk. 2 March 2017. สืบค้นเมื่อ 13 March 2017.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- สถิติของ เมซุท เออซิล ที่ Soccerbase
- เมซุท เออซิล ที่ National-Football-Teams.com
- เมซุท เออซิล – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)