ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดของประเทศไทย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Mayrakis (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 7203660 สร้างโดย Potapt (พูดคุย)
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{เขตการปกครองของประเทศไทย}}
{{เขตการปกครองของประเทศไทย}}

'''[[จังหวัด]]''' เป็น[[การแบ่งเขตการปกครองของประเทศไทย|เขตบริหารราชการส่วนภูมิภาค]]ของ[[ประเทศไทย]] ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 76 จังหวัด{{Ref_label|A|ก|none}} (ทั้งนี้ [[กรุงเทพมหานคร]]ไม่เป็นจังหวัด{{Ref_label|B|ข|none}}) จังหวัดถือเป็นระดับการปกครองของรัฐบาลลำดับแรก โดยเป็นหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคที่รวมท้องที่หลาย ๆ [[อำเภอ]]เข้าด้วยกันและมีฐานะเป็น[[นิติบุคคล]] ในแต่ละจังหวัดปกครองด้วย[[ผู้ว่าราชการจังหวัด]]
'''[[จังหวัด]]''' เป็น[[การแบ่งเขตการปกครองของประเทศไทย|เขตบริหารราชการส่วนภูมิภาค]]ของ[[ประเทศไทย]] ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 76 จังหวัด{{Ref_label|A|ก|none}} (ทั้งนี้ [[กรุงเทพมหานคร]]ไม่เป็นจังหวัด{{Ref_label|B|ข|none}}) จังหวัดถือเป็นระดับการปกครองของรัฐบาลลำดับแรก โดยเป็นหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคที่รวมท้องที่หลาย ๆ [[อำเภอ]]เข้าด้วยกันและมีฐานะเป็น[[นิติบุคคล]] ในแต่ละจังหวัดปกครองด้วย[[ผู้ว่าราชการจังหวัด]]


บรรทัด 13: บรรทัด 12:
=== การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2435 ===
=== การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2435 ===
[[ไฟล์:Thailand monthon 1915.png|thumb|300px|แผนที่มณฑลเทศาภิบาล [[พ.ศ. 2458]]]]
[[ไฟล์:Thailand monthon 1915.png|thumb|300px|แผนที่มณฑลเทศาภิบาล [[พ.ศ. 2458]]]]
[[พ.ศ. 2435]] [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]โปรดเกล้าฯ ให้มีการปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดินครั้งใหญ่ ให้เป็นไปตามอย่างอารยประเทศในโลกตะวันตก โดยทรงตั้ง[[กระทรวง]]ขึ้นใหม่ 12 กระทรวง และโอนการปกครองหัวเมืองทั้งหมดให้มาขึ้นกับ[[กระทรวงมหาดไทย]] โดยมี[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ]] (ขณะนั้นดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ) เป็นองค์ปฐมเสนาบดี
[[พ.ศ. 2435]] [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]โปรดเกล้าฯ ให้มีการปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดินครั้งใหญ่ ให้เป็นไปตามอย่างอารยประเทศในโลกตะวันตก โดยทรงตั้ง[[กระทรวง]]ขึ้นใหม่ 12 กระทรวง และโอนการปกครองหัวเมืองทั้งหมดให้มาขึ้นกับ[[กระทรวงมหาดไทย]] โดยมี[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ]] (ขณะนั้นดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ) เป็นองค์[[ปฐมเสนาบดี]]


เมื่องานการปกครองส่วนภูมิภาคขึ้นกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว การจัดการปกครองด้วยระบบ[[มณฑลเทศาภิบาล]]จึงได้เริ่มมีขึ้นในปี [[พ.ศ. 2437]] โดยแบ่งระดับการปกครองจากสูงสุดไปหาต่ำสุดเป็นมณฑล, เมือง (เทียบเท่าจังหวัด), อำเภอ, ตำบล และหมู่บ้าน มีข้าหลวงเทศาภิบาลเป็นผู้กำกับดูแลมณฑล การก่อตั้งมณฑลนั้นจะเป็นไปตามลำดับโดยขึ้นอยู่กับความเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ด้วย วัตถุประสงค์สำคัญในการจัดการปกครองเช่นนี้ ก็เพื่อให้ส่วนกลางสามารถควบคุมดูแลหัวเมืองและจัดการผลประโยชน์แผ่นดินได้อย่างใกล้ชิด และลิดรอนอำนาจและอิทธิพลของเจ้าเมืองในระบบเดิมลงอย่างสิ้นเชิง
เมื่องานการปกครองส่วนภูมิภาคขึ้นกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว การจัดการปกครองด้วยระบบ[[มณฑลเทศาภิบาล]]จึงได้เริ่มมีขึ้นในปี [[พ.ศ. 2437]] โดยแบ่งระดับการปกครองจากสูงสุดไปหาต่ำสุดเป็นมณฑล, เมือง (เทียบเท่าจังหวัด), อำเภอ, ตำบล และหมู่บ้าน มีข้าหลวงเทศาภิบาลเป็นผู้กำกับดูแลมณฑล การก่อตั้งมณฑลนั้นจะเป็นไปตามลำดับโดยขึ้นอยู่กับความเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ด้วย วัตถุประสงค์สำคัญในการจัดการปกครองเช่นนี้ ก็เพื่อให้ส่วนกลางสามารถควบคุมดูแลหัวเมืองและจัดการผลประโยชน์แผ่นดินได้อย่างใกล้ชิด และลิดรอนอำนาจและอิทธิพลของเจ้าเมืองในระบบเดิมลงอย่างสิ้นเชิง
บรรทัด 23: บรรทัด 22:
เมื่อ[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ]] ทรงลาออกจาตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปี [[พ.ศ. 2458]] นั้น ประเทศสยามได้แบ่งการปกครองออกเป็น 19 มณฑล 72 จังหวัด ทั้งนี้ ได้รวมถึง[[จังหวัดพระนคร]] ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ[[กระทรวงนครบาล]]จนถึง [[พ.ศ. 2465]]
เมื่อ[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ]] ทรงลาออกจาตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปี [[พ.ศ. 2458]] นั้น ประเทศสยามได้แบ่งการปกครองออกเป็น 19 มณฑล 72 จังหวัด ทั้งนี้ ได้รวมถึง[[จังหวัดพระนคร]] ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ[[กระทรวงนครบาล]]จนถึง [[พ.ศ. 2465]]


เดือน[[ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2458]] [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยการปกครองระดับ "ภาค" ขึ้นเพื่อกำกับมณฑล โดยมีผู้ปกครองภาคเรียกว่า "อุปราช" ในระยะนี้ได้มีการตั้งมณฑลต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงปี [[พ.ศ. 2465]] อีก 4 มณฑล แต่มณฑลดังกล่าวก็ถูกยุบลงในปี [[พ.ศ. 2468]] และมีอีกหลายมณฑลที่ถูกยุบรวมในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในช่วงหลัง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]]
เดือน[[ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2458]] [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยการปกครองระดับ "ภาค" ขึ้นเพื่อกำกับมณฑล โดยมีผู้ปกครองภาคเรียกว่า "[[อุปราช]]" ในระยะนี้ได้มีการตั้งมณฑลต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงปี [[พ.ศ. 2465]] อีก 4 มณฑล แต่มณฑลดังกล่าวก็ถูกยุบลงในปี [[พ.ศ. 2468]] และมีอีกหลายมณฑลที่ถูกยุบรวมในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในช่วงหลัง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]]


=== สมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ===
=== สมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ===
บรรทัด 29: บรรทัด 28:
หลัง[[การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475]] ระบบ[[มณฑลเทศาภิบาล]]ถูกยกเลิกในปี [[พ.ศ. 2476]] ทำให้จังหวัดกลายเป็นหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคระดับสูงสุด และตั้งแต่หลัง [[พ.ศ. 2500]] เป็นต้นมา ก็ได้มีการจัดตั้งจังหวัดเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง โดยการตัดแบ่งอาณาเขตบางส่วนจากจังหวัดที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ในปี [[พ.ศ. 2515]] ได้มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของ[[จังหวัดอุบลราชธานี]]มาจัดตั้งเป็น[[จังหวัดยโสธร]] ในปี [[พ.ศ. 2520]] มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของ[[จังหวัดเชียงราย]]มาจัดตั้งเป็น[[จังหวัดพะเยา]] ในปี [[พ.ศ. 2525]] ได้มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของ[[จังหวัดนครพนม]]มาตั้งเป็นจังหวัด[[จังหวัดมุกดาหาร]] ในปี [[พ.ศ. 2536]] ได้มีการตั้งจังหวัดขึ้นมาพร้อมกัน 3 จังหวัดคือ[[จังหวัดหนองบัวลำภู]] (แยกจาก[[จังหวัดอุดรธานี]]) [[จังหวัดสระแก้ว]] (แยกจาก[[จังหวัดปราจีนบุรี]]) และ[[จังหวัดอำนาจเจริญ]] (แยกจาก[[จังหวัดอุบลราชธานี]]) และจังหวัดล่าสุดของ[[ประเทศไทย]]คือ[[จังหวัดบึงกาฬ]] (แยกจาก[[จังหวัดหนองคาย]]) ในปี [[พ.ศ. 2554]]
หลัง[[การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475]] ระบบ[[มณฑลเทศาภิบาล]]ถูกยกเลิกในปี [[พ.ศ. 2476]] ทำให้จังหวัดกลายเป็นหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคระดับสูงสุด และตั้งแต่หลัง [[พ.ศ. 2500]] เป็นต้นมา ก็ได้มีการจัดตั้งจังหวัดเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง โดยการตัดแบ่งอาณาเขตบางส่วนจากจังหวัดที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ในปี [[พ.ศ. 2515]] ได้มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของ[[จังหวัดอุบลราชธานี]]มาจัดตั้งเป็น[[จังหวัดยโสธร]] ในปี [[พ.ศ. 2520]] มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของ[[จังหวัดเชียงราย]]มาจัดตั้งเป็น[[จังหวัดพะเยา]] ในปี [[พ.ศ. 2525]] ได้มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของ[[จังหวัดนครพนม]]มาตั้งเป็นจังหวัด[[จังหวัดมุกดาหาร]] ในปี [[พ.ศ. 2536]] ได้มีการตั้งจังหวัดขึ้นมาพร้อมกัน 3 จังหวัดคือ[[จังหวัดหนองบัวลำภู]] (แยกจาก[[จังหวัดอุดรธานี]]) [[จังหวัดสระแก้ว]] (แยกจาก[[จังหวัดปราจีนบุรี]]) และ[[จังหวัดอำนาจเจริญ]] (แยกจาก[[จังหวัดอุบลราชธานี]]) และจังหวัดล่าสุดของ[[ประเทศไทย]]คือ[[จังหวัดบึงกาฬ]] (แยกจาก[[จังหวัดหนองคาย]]) ในปี [[พ.ศ. 2554]]


ในปี [[พ.ศ. 2514]] ได้มีการรวม[[จังหวัดพระนคร]]และ[[จังหวัดธนบุรี]]ขึ้นเป็นเขตปกครองรูปแบบพิเศษชื่อ "นครหลวงกรุงเทพธนบุรี" และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "[[กรุงเทพมหานคร]]" เมื่อ [[พ.ศ. 2515]] ซึ่งเป็นการรวมภารกิจในการปกครองของทั้งสองจังหวัดในรูปแบบเทศบาลเข้าไว้ด้วยกัน ที่มาของ[[ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร]]ซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของกรุงเทพมหานครนั้นมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่การแต่งตั้งจาก[[กระทรวงมหาดไทย]]อย่างผู้ว่าราชการจังหวัด <!--ในปัจจุบันนี้มีทั้งหมด77จังหวัด(ถ้านับ[[กรุงเทพมหานคร]]ด้วย)ซึ่งจังหวัดที่เพิ่มมาคือ[[จังหวัดบึงกาฬ]]เมื่อก่อนเป็น[[อำเภอ]]หนึ่งใน[[หนองคาย]]-->
ในปี [[พ.ศ. 2514]] ได้มีการรวม[[จังหวัดพระนคร]]และ[[จังหวัดธนบุรี]]ขึ้นเป็นเขตปกครองรูปแบบพิเศษชื่อ '''นครหลวงกรุงเทพธนบุรี''' และได้เปลี่ยนชื่อเป็น '''[[กรุงเทพมหานคร]]''' เมื่อ [[พ.ศ. 2515]] ซึ่งเป็นการรวมภารกิจในการปกครองของทั้งสองจังหวัดในรูปแบบเทศบาลเข้าไว้ด้วยกัน ที่มาของ[[ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร]]ซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของกรุงเทพมหานครนั้นมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่การแต่งตั้งจาก[[กระทรวงมหาดไทย]]อย่างผู้ว่าราชการจังหวัด <!--ในปัจจุบันนี้มีทั้งหมด77จังหวัด(ถ้านับ[[กรุงเทพมหานคร]]ด้วย)ซึ่งจังหวัดที่เพิ่มมาคือ[[จังหวัดบึงกาฬ]]เมื่อก่อนเป็น[[อำเภอ]]หนึ่งใน[[หนองคาย]]-->


== การแบ่งอย่างเป็นทางการ ==
== การแบ่งอย่างเป็นทางการ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:43, 25 ตุลาคม 2560

จังหวัด เป็นเขตบริหารราชการส่วนภูมิภาคของประเทศไทย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 76 จังหวัด[ก] (ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครไม่เป็นจังหวัด[ข]) จังหวัดถือเป็นระดับการปกครองของรัฐบาลลำดับแรก โดยเป็นหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคที่รวมท้องที่หลาย ๆ อำเภอเข้าด้วยกันและมีฐานะเป็นนิติบุคคล ในแต่ละจังหวัดปกครองด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด

การจัดแบ่งกลุ่มจังหวัดออกเป็นภาคต่าง ๆ มีการใช้เกณฑ์ที่แตกต่างกัน โดยมีทั้งการแบ่งอย่างเป็นทางการโดยราชบัณฑิตยสถานสำหรับใช้ในแบบเรียน และการแบ่งขององค์กรต่าง ๆ ตามแต่การใช้ประโยชน์ ชื่อของจังหวัดนั้นจะเป็นชื่อเดียวกับชื่ออำเภอที่เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางจังหวัด เช่น ศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดเพชรบุรีอยู่ที่อำเภอเมืองเพชรบุรี เป็นต้น แต่ชื่ออำเภอเหล่านี้มักเรียกย่อแต่เพียงว่า "อำเภอเมือง" ยกเว้นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ใช้ชื่อจังหวัดเป็นชื่ออำเภอที่ตั้งศูนย์กลางการปกครองโดยตรง (อำเภอพระนครศรีอยุธยา)

หน่วยการปกครองย่อยรองไปจากจังหวัดคือ "อำเภอ" ซึ่งมีทั้งสิ้น 878 อำเภอ ซึ่งจำนวนอำเภอนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด ส่วนเขตการปกครองย่อยของกรุงเทพมหานครมีทั้งหมด 50 เขต

ประวัติ

สมัยก่อนการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน

การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2435

แผนที่มณฑลเทศาภิบาล พ.ศ. 2458

พ.ศ. 2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้มีการปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดินครั้งใหญ่ ให้เป็นไปตามอย่างอารยประเทศในโลกตะวันตก โดยทรงตั้งกระทรวงขึ้นใหม่ 12 กระทรวง และโอนการปกครองหัวเมืองทั้งหมดให้มาขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ขณะนั้นดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ) เป็นองค์ปฐมเสนาบดี

เมื่องานการปกครองส่วนภูมิภาคขึ้นกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว การจัดการปกครองด้วยระบบมณฑลเทศาภิบาลจึงได้เริ่มมีขึ้นในปี พ.ศ. 2437 โดยแบ่งระดับการปกครองจากสูงสุดไปหาต่ำสุดเป็นมณฑล, เมือง (เทียบเท่าจังหวัด), อำเภอ, ตำบล และหมู่บ้าน มีข้าหลวงเทศาภิบาลเป็นผู้กำกับดูแลมณฑล การก่อตั้งมณฑลนั้นจะเป็นไปตามลำดับโดยขึ้นอยู่กับความเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ด้วย วัตถุประสงค์สำคัญในการจัดการปกครองเช่นนี้ ก็เพื่อให้ส่วนกลางสามารถควบคุมดูแลหัวเมืองและจัดการผลประโยชน์แผ่นดินได้อย่างใกล้ชิด และลิดรอนอำนาจและอิทธิพลของเจ้าเมืองในระบบเดิมลงอย่างสิ้นเชิง

การเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองดังกล่าว ทำให้ขุนนางท้องถิ่นที่ต้องการรักษาฐานอำนาจและอิทธิพลของตนไว้ ก่อการกบฏต่อต้านอำนาจรัฐในบางภูมิภาค เหตุการณ์กบฏครั้งสำคัญคือกบฏผู้มีบุญอีสาน (หรือ "กบฏผีบาปผีบุญ") ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2445 โดยอาศัยความเชื่อเรื่องยุคพระศรีอาริยเมตไตรย เป็นเครื่องมือในการปลุกระดมประชาชนให้ต่อต้านอำนาจรัฐ ขบวนการผู้มีบุญได้เคลื่อนไหวตามทั่วภาคอีสาน แต่ที่เป็นเหตุใหญ่ที่สุดอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกลุ่มกบฏได้ก่อการถึงขั้นเผาเมืองเขมราฐและบังคับให้เจ้าเมืองเขมราฐร่วมขบวนการ แต่ที่สุดแล้วกบฏครั้งนี้ก็ถูกปราบปรามลงในเวลาไม่กี่เดือนต่อมา

หลังปี พ.ศ. 2459 คำว่า "จังหวัด" ได้กลายเป็นคำที่เรียกหน่วยการปกครองระดับต่ำกว่ามณฑลแทนคำว่า "เมือง" เพื่อแยกความกำกวมจากคำว่าเมืองที่ใช้เรียกที่ตั้งศูนย์กลางการปกครองของจังหวัด (อำเภอเมือง)

เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงลาออกจาตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปี พ.ศ. 2458 นั้น ประเทศสยามได้แบ่งการปกครองออกเป็น 19 มณฑล 72 จังหวัด ทั้งนี้ ได้รวมถึงจังหวัดพระนคร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงนครบาลจนถึง พ.ศ. 2465

เดือนธันวาคม พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยการปกครองระดับ "ภาค" ขึ้นเพื่อกำกับมณฑล โดยมีผู้ปกครองภาคเรียกว่า "อุปราช" ในระยะนี้ได้มีการตั้งมณฑลต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงปี พ.ศ. 2465 อีก 4 มณฑล แต่มณฑลดังกล่าวก็ถูกยุบลงในปี พ.ศ. 2468 และมีอีกหลายมณฑลที่ถูกยุบรวมในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

สมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง

หลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 ระบบมณฑลเทศาภิบาลถูกยกเลิกในปี พ.ศ. 2476 ทำให้จังหวัดกลายเป็นหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคระดับสูงสุด และตั้งแต่หลัง พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา ก็ได้มีการจัดตั้งจังหวัดเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง โดยการตัดแบ่งอาณาเขตบางส่วนจากจังหวัดที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ในปี พ.ศ. 2515 ได้มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของจังหวัดอุบลราชธานีมาจัดตั้งเป็นจังหวัดยโสธร ในปี พ.ศ. 2520 มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของจังหวัดเชียงรายมาจัดตั้งเป็นจังหวัดพะเยา ในปี พ.ศ. 2525 ได้มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนของจังหวัดนครพนมมาตั้งเป็นจังหวัดจังหวัดมุกดาหาร ในปี พ.ศ. 2536 ได้มีการตั้งจังหวัดขึ้นมาพร้อมกัน 3 จังหวัดคือจังหวัดหนองบัวลำภู (แยกจากจังหวัดอุดรธานี) จังหวัดสระแก้ว (แยกจากจังหวัดปราจีนบุรี) และจังหวัดอำนาจเจริญ (แยกจากจังหวัดอุบลราชธานี) และจังหวัดล่าสุดของประเทศไทยคือจังหวัดบึงกาฬ (แยกจากจังหวัดหนองคาย) ในปี พ.ศ. 2554

ในปี พ.ศ. 2514 ได้มีการรวมจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรีขึ้นเป็นเขตปกครองรูปแบบพิเศษชื่อ นครหลวงกรุงเทพธนบุรี และได้เปลี่ยนชื่อเป็น กรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ. 2515 ซึ่งเป็นการรวมภารกิจในการปกครองของทั้งสองจังหวัดในรูปแบบเทศบาลเข้าไว้ด้วยกัน ที่มาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของกรุงเทพมหานครนั้นมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่การแต่งตั้งจากกระทรวงมหาดไทยอย่างผู้ว่าราชการจังหวัด

การแบ่งอย่างเป็นทางการ

ราชบัณฑิตยสถานแบ่งประเทศไทยออกเป็น 6 ภาค โดยใช้เกณฑ์ด้านภูมิศาสตร์[1] ซึ่งเป็นการแบ่งที่ใช้อย่างเป็นทางการและมีใช้ทั่วไปในแบบเรียน

จังหวัดเชียงรายจังหวัดพะเยาจังหวัดน่านจังหวัดแพร่จังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดลำปางจังหวัดลำพูนจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอนจังหวัดเลยจังหวัดหนองคายจังหวัดบึงกาฬจังหวัดหนองบัวลำภูจังหวัดอุดรธานีจังหวัดสกลนครจังหวัดนครพนมจังหวัดชัยภูมิจังหวัดขอนแก่นจังหวัดกาฬสินธุ์จังหวัดมุกดาหารจังหวัดมหาสารคามจังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดยโสธรจังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดนครราชสีมาจังหวัดบุรีรัมย์จังหวัดสุรินทร์จังหวัดศรีสะเกษจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดสุโขทัยจังหวัดพิษณุโลกจังหวัดกำแพงเพชรจังหวัดพิจิตรจังหวัดเพชรบูรณ์จังหวัดนครสวรรค์จังหวัดอุทัยธานีจังหวัดชัยนาทจังหวัดสิงห์บุรีจังหวัดลพบุรีจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดอ่างทองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจังหวัดสระบุรีจังหวัดนครปฐมจังหวัดนนทบุรีจังหวัดปทุมธานีจังหวัดนครนายกจังหวัดสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสาครกรุงเทพมหานครจังหวัดสมุทรปราการจังหวัดฉะเชิงเทราจังหวัดปราจีนบุรีจังหวัดสระแก้วจังหวัดชลบุรีจังหวัดระยองจังหวัดจันทบุรีจังหวัดตราดจังหวัดตากจังหวัดกาญจนบุรีจังหวัดราชบุรีจังหวัดเพชรบุรีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดระนองจังหวัดชุมพรจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดพังงาจังหวัดภูเก็ตจังหวัดกระบี่จังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดตรังจังหวัดพัทลุงจังหวัดสตูลจังหวัดสงขลาจังหวัดปัตตานีจังหวัดยะลาจังหวัดนราธิวาส
แผนที่ประเทศไทยแสดงเขตรัฐกิจของจังหวัดต่าง ๆ
(คลิกที่จังหวัดเพื่อไปยังบทความจังหวัดนั้นได้)
███ ภาคเหนือ
███ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
███ ภาคกลาง
███ ภาคตะวันออก
███ ภาคตะวันตก
███ ภาคใต้


ภาคเหนือ

ชื่อจังหวัด
อักษรไทย
ชื่อจังหวัด
อักษรโรมัน
จำนวนประชากร
(คน)
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
ประชากร

(คน/ตร.กม.)
ดพม.[2] ตัวย่อ
อักษรไทย
ตัวย่อ
อักษรโรมัน
รหัส
ไอเอสโอ
รหัสฟิปส์
  เชียงราย Chiang Rai 1,198,218 11,678.4 102.6 0.716 ชร CRI TH-57 TH03
  เชียงใหม่ Chiang Mai 1,640,479 20,107.0 81.6 0.904 ชม CMI TH-50 TH02
  น่าน Nan 476,363 11,472.1 41.5 0.705 นน NAN TH-55 TH04
  พะเยา Phayao 486,304 6,335.1 76.8 0.722 พย PYO TH-56 TH41
  แพร่ Phrae 460,756 6,538.6 70.5 0.702 พร PRE TH-54 TH07
  แม่ฮ่องสอน Mae Hong Son 242,742 12,681.3 19.1 0.704 มส MSN TH-58 TH01
  ลำปาง Lampang 761,949 12,534.0 60.8 0.748 ลป LPG TH-52 TH06
  ลำพูน Lamphun 404,560 4,505.9 89.8 0.729 ลพ LPN TH-51 TH05
  อุตรดิตถ์ Uttaradit 462,618 7,838.6 59.0 0.711 อต UTD TH-53 TH10

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ชื่อจังหวัด
อักษรไทย
ชื่อจังหวัด
อักษรโรมัน
จำนวนประชากร
(คน)
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
ประชากร

(คน/ตร.กม.)
ดพม.[2] ตัวย่อ
อักษรไทย
ตัวย่อ
อักษรโรมัน
รหัส
ไอเอสโอ
รหัสฟิปส์
  กาฬสินธุ์ Kalasin 982,578 6,946.7 141.4 0.718 กส KSN TH-46 TH23
  ขอนแก่น Khon Kaen 1,767,601 10,886.0 162.4 0.850 ขก KKN TH-40 TH22
  ชัยภูมิ Chaiyaphum 1,127,423 12,778.3 88.2 0.748 ชย CPM TH-36 TH26
  นครพนม Nakhon Phanom 703,392 5,512.7 127.6 0.778 นพ NPM TH-48 TH73
  นครราชสีมา Nakhon Ratchasima 2,628,818 20,494.0 128.27 0.815 นม NMA TH-30 TH27
  บึงกาฬ Bueng Kan 385,053 4,305 89.4 --- บก BKN TH-38 TH81
  บุรีรัมย์ Buri Ram 1,553,765 10,322.9 150.5 0.729 บร BRM TH-31 TH28
  มหาสารคาม Maha Sarakham 940,911 5,291.7 177.8 0.729 มค MKM TH-44 TH24
  มุกดาหาร Mukdahan 339,575 4,339.8 78.2 0.728 มห MDH TH-49 TH78
  ยโสธร Yasothon 539,257 4,161.7 129.6 0.782 ยส YST TH-35 TH72
  ร้อยเอ็ด Roi Et 1,309,708 8,299.4 157.8 0.732 รอ RET TH-45 TH25
  เลย Loei 624,066 11,424.6 54.6 0.731 ลย LEI TH-42 TH18
  ศรีสะเกษ Si Sa Ket 1,452,471 8,840.0 164.3 0.734 ศก SSK TH-33 TH30
  สกลนคร Sakon Nakhon 1,122,905 9,605.8 116.9 0.705 สน SNK TH-47 TH20
  สุรินทร์ Surin 1,381,761 8,124.1 170.1 0.751 สร SRN TH-32 TH29
  หนองคาย Nong Khai 912,937 3,027.0 124.5 0.755 นค NKI TH-43 TH17
  หนองบัวลำภู Nong Bua Lam Phu 502,868 3,859.0 130.3 0.714 นภ NBP TH-39 TH79
  อำนาจเจริญ Amnat Charoen 372,137 3,161.2 117.7 0.712 อจ ACR TH-37 TH77
  อุดรธานี Udon Thani 1,544,786 11,730.3 131.7 0.907 อด UDN TH-41 TH76
  อุบลราชธานี Ubon Ratchathani 1,813,088 15,744.8 115.2 0.800 อบ UBN TH-34 TH75

ภาคกลาง

ชื่อจังหวัด
อักษรไทย
ชื่อจังหวัด
อักษรโรมัน
จำนวนประชากร
(คน)
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
ประชากร

(คน/ตร.กม.)
ดพม.[2] ตัวย่อ
อักษรไทย
ตัวย่อ
อักษรโรมัน
รหัส
ไอเอสโอ
รหัสฟิปส์
  กำแพงเพชร Kamphaeng Phet 727,093 8,607.5 84.5 0.725 กพ KPT TH-62 TH11
  ชัยนาท Chai Nat 334,934 2,469.7 135.6 0.756 ชน CNT TH-18 TH32
  นครนายก Nakhon Nayok 252,734 2,122.0 119.1 0.758 นย NYK TH-26 TH43
  นครปฐม Nakhon Pathom 860,246 2,168.3 396.7 0.682 นฐ NPT TH-73 TH53
  นครสวรรค์ Nakhon Sawan 1,073,495 9,597.7 111.8 0.752 นว NSN TH-60 TH16
  นนทบุรี Nonthaburi 1,101,743 622.3 1,770.4 0.743 นบ NBI TH-12 TH38
  ปทุมธานี Pathum Thani 985,643 1,525.9 645.9 0.805 ปท PTE TH-13 TH39
  พระนครศรีอยุธยา Phra Nakhon Si Ayutthaya 808,360 2,556.6 305.9 0.729 อย AYA TH-14 TH36
  พิจิตร Phichit 552,690 4,531.0 122.0 0.693 พจ PCT TH-66 TH13
  พิษณุโลก Phitsanulok 849,692 10,815.8 78.6 0.724 พล PLK TH-65 TH12
  เพชรบูรณ์ Phetchabun 996,031 12,668.4 78.6 0.745 พช PNB TH-67 TH14
  ลพบุรี Lop Buri 755,854 6,199.8 121.9 0.742 ลบ LRI TH-16 TH34
  สมุทรปราการ Samut Prakan 1,185,180 1,004.1 1,180.3 0.825 สป SPK TH-11 TH42
  สมุทรสงคราม Samut Songkhram 194,057 416.7 465.7 0.762 สส SKM TH-75 TH54
  สมุทรสาคร Samut Sakhon 491,887 872.3 563.9 0.758 สค SKN TH-74 TH55
  สระบุรี Saraburi 617,384 3,576.5 172.6 0.798 สบ SRI TH-19 TH37
  สิงห์บุรี Sing Buri 214,661 822.5 261.0 0.739 สห SBR TH-17 TH33
  สุโขทัย Sukhothai 601,778 6,596.1 91.2 0.738 สท STI TH-64 TH09
  สุพรรณบุรี Suphan Buri 845,950 5,358.0 157.9 0.744 สพ SPB TH-72 TH51
  อ่างทอง Ang Thong 284,970 968.4 294.3 0.720 อท ATG TH-15 TH35
  อุทัยธานี Uthai Thani 327,959 6,730.3 48.7 0.704 อน UTI TH-61 TH15

ภาคตะวันออก

ชื่อจังหวัด
อักษรไทย
ชื่อจังหวัด
อักษรโรมัน
จำนวนประชากร
(คน)
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
ประชากร

(คน/ตร.กม.)
ดพม.[2] ตัวย่อ
อักษรไทย
ตัวย่อ
อักษรโรมัน
รหัส
ไอเอสโอ
รหัสฟิปส์
  จันทบุรี Chanthaburi 514,616 6,338.0 81.2 0.754 จบ CTI TH-22 TH48
  ฉะเชิงเทรา Chachoengsao 673,933 5,351.0 125.9 0.708 ฉช CCO TH-24 TH44
  ชลบุรี Chon Buri 1,316,293 4,363.0 301.7 0.889 ชบ CBI TH-20 TH46
  ตราด Trat 220,921 2,819.0 78.4 0.675 ตร TRT TH-23 TH49
  ปราจีนบุรี Prachin Buri 466,572 4,762.4 98.0 0.755 ปจ PRI TH-25 TH74
  ระยอง Rayong 626,402 3,552.0 176.4 0.802 รย RYG TH-21 TH47
  สระแก้ว Sa Kaeo 485,632 7,195.1 75.6 0.688 สก SKW TH-27 TH80

ภาคตะวันตก

ชื่อจังหวัด
อักษรไทย
ชื่อจังหวัด
อักษรโรมัน
จำนวนประชากร
(คน)
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
ประชากร

(คน/ตร.กม.)
ดพม.[2] ตัวย่อ
อักษรไทย
ตัวย่อ
อักษรโรมัน
รหัส
ไอเอสโอ
รหัสฟิปส์
  กาญจนบุรี Kanchanaburi 839,776 19,483.2 43.1 0.733 กจ KRI TH-71 TH50
  ตาก Tak 525,684 16,406.6 32.0 0.735 ตก TAK TH-63 TH08
  ประจวบคีรีขันธ์ Prachuap Khiri Khan 509,134 6,367.6 80.0 0.868 ปข PKN TH-77 TH57
  เพชรบุรี Phetchaburi 464,033 6,225.1 74.5 0.798 พบ PBI TH-76 TH56
  ราชบุรี Ratchaburi 839,075 5,196.5 161.5 0.726 รบ RBR TH-70 TH52

ภาคใต้

ชื่อจังหวัด
อักษรไทย
ชื่อจังหวัด
อักษรโรมัน
จำนวนประชากร
(คน)
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
ประชากร

(คน/ตร.กม.)
ดพม.[2] ตัวย่อ
อักษรไทย
ตัวย่อ
อักษรโรมัน
รหัส
ไอเอสโอ
รหัสฟิปส์
  กระบี่ Krabi 432,704 4,708.5 91.9 0.805 กบ KBI TH-81 TH63
  ชุมพร Chumphon 489,964 6,009.0 81.5 0.710 ชพ CPN TH-86 TH58
  ตรัง Trang 622,659 4,917.5 126.6 0.692 ตง TR้ TH-92 TH65
  นครศรีธรรมราช Nakhon Si Thammarat 1,522,561 9,942.5 153.1 0.769 นศ NRT TH-80 TH64
  นราธิวาส Narathiwat 737,162 4,475.4 164.7 0.636 นธ NWT TH-96 TH31
  ปัตตานี Pattani 655,259 1,940.4 337.7 0.698 ปน PTN TH-94 TH69
  พังงา Phangnga 253,112 4,170.0 60.7 0.758 พง PNA TH-82 TH61
  พัทลุง Phatthalung 509,534 3,424.5 148.8 0.713 พท PLG TH-93 TH66
  ภูเก็ต Phuket 345,067 543.0 635.5 0.921 ภก PKT TH-83 TH62
  ยะลา Yala 500,814 4,521.08 110.77 0.687 ยล YLA TH-95 TH70
  ระนอง Ranong 183,079 3,298.0 55.5 0.678 รน RNG TH-85 TH59
  สงขลา Songkhla 1,357,023 7,393.9 183.5 0.681 สข SKA TH-90 TH68
  สตูล Satun 297,163 2,479.0 119.9 0.655 สต STN TH-91 TH67
  สุราษฎร์ธานี Surat Thani 1,046,772 12,891.5 81.2 0.849 สฎ SNI TH-84 TH60

ผู้ว่าราชการจังหวัด

รายชื่อจังหวัดเรียงตามจำนวนและความหนาแน่นของประชากร

รายชื่อจังหวัดเรียงตามจำนวนประชากร

      หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
      หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
* ปี พ.ศ. 2553 ประชากรจังหวัดหนองคายลดลงเนื่องจากการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ
* ปี พ.ศ. 2558 มีการรวมผูที่ไม่ได้สัญชาติไทยในทะเบียนราษฎร ส่งผลให้ข้อมูลจำนวนประชากรปีดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

รายชื่อจังหวัดเรียงตามความหนาแน่นของประชากร

หน่วย: คนต่อตารางกิโลเมตร

วิธีคิด นำจำนวนประชากรทั้งหมดในแต่ละจังหวัดมาหารกับพื้นที่

เชิงอรรถ

. ^ ตามข้อมูลของกรมการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2552 ประเทศไทยแบ่งการปกครองออกเป็น 75 จังหวัด[23] และต่อมา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554 มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 ทำให้จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่ 76 ของไทย[24]

. ^ กรุงเทพมหานครเป็นองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราชการส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานครเคยเป็นจังหวัด ซึ่งเป็นราชการส่วนภูมิภาค แต่บัดนี้มิใช่แล้ว

อ้างอิง

  1. การแบ่งภูมิภาคในประเทศไทย
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 http://somchaiblessings.blogspot.com/2012/05/human-development-in-thailand.html ดัชนีการพัฒนามนุษย์ในประเทศไทย
  3. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat59.htm 2560. สืบค้น 3 มีนาคม 2560.
  4. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat58.htm 2558. สืบค้น 16 กุมภาพันธ์ 2559.
  5. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_57.pdf 2558. สืบค้น 1 มีนาคม 2558.
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเนกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖, เล่ม ๑๓๑, ตอน ๔๑ ง , ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗, หน้า ๑
  7. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat55.html 2555. สืบค้น 3 เมษายน 2556.
  8. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat54.html 2555. สืบค้น 6 เมษายน 2555.
  9. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/stat/y_stat53.html 2553. สืบค้น 30 มกราคม 2554.
  10. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552."203.113.86.149/stat/y_stat.htmlสืบค้น 30 มีนาคม 2553
  11. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat51.html 2552. สืบค้น 30 มกราคม 2552.
  12. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat50.html 2551. สืบค้น 30 มกราคม 2552.
  13. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat49.html 2550. สืบค้น 30 มกราคม 2552.
  14. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat48.html 2549. สืบค้น 8 มกราคม 2552.
  15. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat47.html 2548. สืบค้น 30 มกราคม 2552.
  16. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat46.html 2547. สืบค้น 30 มกราคม 2552.
  17. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat45.html 2546. สืบค้น 18 กันยายน 2555.
  18. ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสมุทรสาคร
  19. มีการแยก 8 อำเภอในจังหวัดหนองคายสถาปนาขึ้นเป็นจังหวัดบึงกาฬ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554
  20. กรมการปกครองมีการปรับปรุงแก้ไข และจำหน่ายรายการบุคคลในทะเบียนบ้านกลาง ทั่วราชอาณาจักร และโครงการตรวจสอบ แก้ไขรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน กรณีชื่อเกิน และซ้ำซ้อน
  21. มีการแยก 8 อำเภอในจังหวัดหนองคายสถาปนาขึ้นเป็นจังหวักบึงกาฬ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554
  22. มีการแยก 8 อำเภอในจังหวัดหนองคายสถาปนาขึ้นเป็นจังหวักบึงกาฬ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554
  23. "ประกาศกรมการปกครอง เรื่อง แจ้งข้อมูลทางการปกครอง" (PDF). กรมการปกครอง, กระทรวงมหาดไทย. 4 มีนาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 2010-05-08.
  24. "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา (ภาษาThai). 128 (18 ก): 1. 2011-03-22.{{cite journal}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น