ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระนางตารา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ขยายความ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
[[Image:Green Tara, Kumbm, Gyantse, Tibet, 1993.JPG|right|thumb|200px|พระนางตาราเขียวใน Kumbm, Gyantse, Tibet, 2536]] |
|||
⚫ | '''พระนางตารา'''เป็น[[พระโพธิสัตว์]]ฝ่ายหญิงในพระ[[พุทธศาสนา]]แบบทิเบต คำว่าตารามาจาก[[ภาษาสันสกฤต]]หมายถึงข้าม การบูชาพระนางเริ่มเมื่อพุทธศตวรรษที่ 11 ใน[[อินเดีย]]เหนือและแพร่หลายที่สุดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 - 17 โดยถือว่าเป็นชายาของ[[พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์]] ปัจจุบันมีนับถือใน[[ทิเบต]] ส่วนชาวพุทธใน[[จีน]]จะนับถือ[[เจ้าแม่กวนอิม]]ที่เป็นภาคหญิงของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แทน |
||
⚫ | |||
⚫ | '''พระนางตารา'''เป็น[[พระโพธิสัตว์]]ฝ่ายหญิงในพระ[[พุทธศาสนา]]แบบทิเบต คำว่าตารามาจาก[[ภาษาสันสกฤต]]หมายถึงข้าม การบูชาพระนางเริ่มเมื่อพุทธศตวรรษที่ 8 - 11 ใน[[อินเดีย]]เหนือและแพร่หลายที่สุดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 - 17 โดยถือว่าเป็นชายาของ[[พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์]] ปัจจุบันมีนับถือใน[[ทิเบต]] ส่วนชาวพุทธใน[[จีน]]จะนับถือ[[เจ้าแม่กวนอิม]]ที่เป็นภาคหญิงของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แทน |
||
== ประวัติการนับถือ == |
|||
คาดว่าแนวคิดการนับถือพระนางตาราเริ่มเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 8 และกลายเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีผู้นับถือแพร่หลายในพุทธศตวรรษที่ 13-17 มีผู้นับถือมากในทิเบต เนปาล และ[[มองโกเลีย]] เชื่อกันว่าแนวคิดการบูชาพระนางตาราเริ่มขึ้นในอินเดียเพื่อต่อต้านพิธีกรรมสตี |
|||
พระนางตาราได้รับการยกย่องว่าเป็นมารดาของ[[พระพุทธเจ้า]]และพระโพธิสัตว์ทั้งหลายในด้านของกรุณา ภาพลักษณ์ของพระนางส่วนหนึ่งจีนตนาการมาจาก[[พระนางสิริมหามายาเทวี]] มารดาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน |
|||
== กำเนิดและรูปลักษณ์ == |
|||
ตำนานทางพุทธศาสนา[[มหายาน]]กล่าวว่าพระนางตาราเกิดจากน้ำตาของ[[พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์]] เมื่อมองเห็นว่าสัตว์โลกมีแต่ความทุกข์ เมื่อน้ำตาของพระองค์ไหลลงมาจนกลายเป็น[[ทะเลสาบ]] จึงเกิดดอกบัวขึ้น และในดอกบัวนั้นมีพระนางตาราสถิตย์อยู่ ตำนานบางฉบับกล่าวว่า พระนางตาราเกิดจากรังสีธรรมของ[[พระอมิตาภะพุทธะ]] |
|||
รูปลักษณ์ดั้งเดิมของพระนางตารามี 2 แบบ คือพระนางตาราเขียวมีผู้นับถือมากในทิเบต และพระนางตาราขาวมีผู้นับถือมากในมองโกเลีย เมื่อแนวคิดเกี่ยวกับการบูชาพระนางตาราพัฒนาขึ้น จึงมีการสร้างภาคโกรธและภาคดุขึ้นมาหลายแบบ เช่น พระนางตาราน้ำเงิน อุครตารา เอกชฎะ ภาคเอกชฎะนี้เป็นภาคดุที่แพร่หลายที่สุด กายสีน้ำเงิน มีตาที่สามบนหน้าผาก ตกแต่งร่างกายด้วยงูและพวงมาลัยศีรษะคน เหยียบอยู่บนร่างของคนตาย นอกจากนี้ยังมีการสร้างพระนางตาราในภาคที่เป็นเทพแห่งความรักหรือเทพแห่งการรักษาโรคอีกด้วย |
|||
⚫ | |||
[[Image:RedTara4.jpg|right|thumb|250px|พระนางตาราแดง]] |
|||
ในทิเบต พระนางตารามีหลายปางคือ |
ในทิเบต พระนางตารามีหลายปางคือ |
||
* พระนางตาราขาว ทรงชุดขาวล้วน ถือดอกบัวบาน เป็นตัวแทนของความกรุณา มีพระเนตร 7 ดวง หมายถึงเฝ้ามองสรรพสัตว์อยู่ตลอดเวลา พระหัตถ์ขวาประทานพร พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว และทำ[[มุทรา]]ไตรลักษณ์ |
* พระนางตาราขาว ทรงชุดขาวล้วน ถือดอกบัวบาน เป็นตัวแทนของความกรุณา มีพระเนตร 7 ดวง หมายถึงเฝ้ามองสรรพสัตว์อยู่ตลอดเวลา พระหัตถ์ขวาประทานพร พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว และทำ[[มุทรา]]ไตรลักษณ์ |
||
บรรทัด 8: | บรรทัด 23: | ||
==อ้างอิง== |
==อ้างอิง== |
||
* ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ษัฏเสน. พระพุทธศาสนาแบบทิเบต. ศูนย์ไทยทิเบต. 2538 |
* ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ษัฏเสน. พระพุทธศาสนาแบบทิเบต. ศูนย์ไทยทิเบต. 2538 |
||
* สุมาลี มหณรงค์ชัย. พระชินพุทธะห้าพระองค์. กทม. ศูนย์ไทยธิเบต. 2547 |
|||
[[หมวดหมู่:พระโพธิสัตว์|ตารา]] |
[[หมวดหมู่:พระโพธิสัตว์|ตารา]] |
||
[[หมวดหมู่:พุทธศาสนาแบบทิเบต]] |
[[หมวดหมู่:พุทธศาสนาแบบทิเบต]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:40, 10 กันยายน 2550
พระนางตาราเป็นพระโพธิสัตว์ฝ่ายหญิงในพระพุทธศาสนาแบบทิเบต คำว่าตารามาจากภาษาสันสกฤตหมายถึงข้าม การบูชาพระนางเริ่มเมื่อพุทธศตวรรษที่ 8 - 11 ในอินเดียเหนือและแพร่หลายที่สุดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 - 17 โดยถือว่าเป็นชายาของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ปัจจุบันมีนับถือในทิเบต ส่วนชาวพุทธในจีนจะนับถือเจ้าแม่กวนอิมที่เป็นภาคหญิงของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แทน
ประวัติการนับถือ
คาดว่าแนวคิดการนับถือพระนางตาราเริ่มเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 8 และกลายเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีผู้นับถือแพร่หลายในพุทธศตวรรษที่ 13-17 มีผู้นับถือมากในทิเบต เนปาล และมองโกเลีย เชื่อกันว่าแนวคิดการบูชาพระนางตาราเริ่มขึ้นในอินเดียเพื่อต่อต้านพิธีกรรมสตี
พระนางตาราได้รับการยกย่องว่าเป็นมารดาของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งหลายในด้านของกรุณา ภาพลักษณ์ของพระนางส่วนหนึ่งจีนตนาการมาจากพระนางสิริมหามายาเทวี มารดาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
กำเนิดและรูปลักษณ์
ตำนานทางพุทธศาสนามหายานกล่าวว่าพระนางตาราเกิดจากน้ำตาของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เมื่อมองเห็นว่าสัตว์โลกมีแต่ความทุกข์ เมื่อน้ำตาของพระองค์ไหลลงมาจนกลายเป็นทะเลสาบ จึงเกิดดอกบัวขึ้น และในดอกบัวนั้นมีพระนางตาราสถิตย์อยู่ ตำนานบางฉบับกล่าวว่า พระนางตาราเกิดจากรังสีธรรมของพระอมิตาภะพุทธะ
รูปลักษณ์ดั้งเดิมของพระนางตารามี 2 แบบ คือพระนางตาราเขียวมีผู้นับถือมากในทิเบต และพระนางตาราขาวมีผู้นับถือมากในมองโกเลีย เมื่อแนวคิดเกี่ยวกับการบูชาพระนางตาราพัฒนาขึ้น จึงมีการสร้างภาคโกรธและภาคดุขึ้นมาหลายแบบ เช่น พระนางตาราน้ำเงิน อุครตารา เอกชฎะ ภาคเอกชฎะนี้เป็นภาคดุที่แพร่หลายที่สุด กายสีน้ำเงิน มีตาที่สามบนหน้าผาก ตกแต่งร่างกายด้วยงูและพวงมาลัยศีรษะคน เหยียบอยู่บนร่างของคนตาย นอกจากนี้ยังมีการสร้างพระนางตาราในภาคที่เป็นเทพแห่งความรักหรือเทพแห่งการรักษาโรคอีกด้วย
พระนางตาราปางต่างๆ
ในทิเบต พระนางตารามีหลายปางคือ
- พระนางตาราขาว ทรงชุดขาวล้วน ถือดอกบัวบาน เป็นตัวแทนของความกรุณา มีพระเนตร 7 ดวง หมายถึงเฝ้ามองสรรพสัตว์อยู่ตลอดเวลา พระหัตถ์ขวาประทานพร พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว และทำมุทราไตรลักษณ์
- พระนางตาราเขียว ทรงชุดเขียวล้วน ถือดอกบัวตูมสีน้ำเงิน ออกโปรดสรรพสัตว์ในเวลากลางคืน
- พระนางตาราแดง ทรงสีแดงทับทิม หมายถึงความปราถนาของสรรพสัตว์ที่จะหลุดพ้นจากสังสารวัฏ ประทับบนพระอาทิตย์
- พระนางตาราดำ ทรงสีดำ หมายถึงสุญญตา ซึ่งเป็นความสามารถในการข้ามพ้นอวิชชา ความเห็นผิดต่างๆ
อ้างอิง
- ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ษัฏเสน. พระพุทธศาสนาแบบทิเบต. ศูนย์ไทยทิเบต. 2538
- สุมาลี มหณรงค์ชัย. พระชินพุทธะห้าพระองค์. กทม. ศูนย์ไทยธิเบต. 2547