ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชุทซ์ชตัฟเฟิล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "Reichsführer-SS" → "ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส" +แทนที่ "เอสเอส" → "เอ็สเอ็ส" +แทนที่ "วัฟฟัน" → "วัฟเฟิน"...
บรรทัด 9: บรรทัด 9:
|picture = Bundesarchiv Bild 183-H04436, Klagenfurt, Adolf Hitler, Ehrenkompanie.jpg
|picture = Bundesarchiv Bild 183-H04436, Klagenfurt, Adolf Hitler, Ehrenkompanie.jpg
|picture_width = 300px
|picture_width = 300px
|picture_caption = [[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]ตรวจ ''[[กองพลเอสเอสที่ 1 ไลป์สตันดาร์ท เอสเอส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์|ไลป์สตันดาร์ท เอสเอส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]'' ครั้งเยือนเมืองคลาเกินฟวร์ท เมษายน ค.ศ. 1938 [[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]] ยืนอยู่ทางขวาข้างหลังฮิตเลอร์
|picture_caption = [[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]ตรวจ ''[[กองพลเอ็สเอ็สที่ 1 ไลป์สตันดาร์ท เอ็สเอ็ส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์|ไลป์สตันดาร์ท เอ็สเอ็ส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]'' ครั้งเยือนเมืองคลาเกินฟวร์ท เมษายน ค.ศ. 1938 [[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]] ยืนอยู่ทางขวาข้างหลังฮิตเลอร์
|formed = 4 เมษายน ค.ศ. 1925
|formed = 4 เมษายน ค.ศ. 1925
|preceding1 = [[ไฟล์:SA-Logo.svg|23px]] [[ชตูร์มับไทลุง]]
|preceding1 = [[ไฟล์:SA-Logo.svg|23px]] [[ชตูร์มับไทลุง]]
บรรทัด 24: บรรทัด 24:
|minister1_pfo = [[ฟือเรอร์]]
|minister1_pfo = [[ฟือเรอร์]]
|minister2_name = [[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]
|minister2_name = [[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]
|minister2_pfo = ''[[Reichsführer-SS|ไรช์ฟือเรอร์]]''
|minister2_pfo = ''[[ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส|ไรชส์ฟือเรอร์]]''
|chief1_name = [[Julius Schreck]]
|chief1_name = [[Julius Schreck|ยูลิอุส เชร็ค]]
|chief1_position = [[Reichsführer-SS|''ไรช์ฟือเรอร์-เอสเอส'']]<br>(1925–26)
|chief1_position = [[ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส|''ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส'']]<br>(1925–26)
|chief2_name = [[Joseph Berchtold]]
|chief2_name = [[Joseph Berchtold|โยเซฟ แบร์ชโทลด์]]
|chief2_position = ''[[ไรช์ฟือเรอร์-เอสเอส]]''<br>(1926–27)
|chief2_position = ''[[ไรช์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส]]''<br>(1926–27)
|chief3_name = [[Erhard Heiden]]
|chief3_name = [[Erhard Heiden|แอร์ฮาร์ด ไฮเดิน]]
|chief3_position = ''[[ไรช์ฟือเรอร์-เอสเอส]]''<br>(1927–29)
|chief3_position = ''[[ไรช์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส]]''<br>(1927–29)
|chief4_name = [[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]
|chief4_name = [[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]
|chief4_position = ''[[ไรช์ฟือเรอร์-เอสเอส]]''<br>(1929–45)<br>[[Karl Hanke]], ''Reichsführer-SS''<br>(April–May 1945)
|chief4_position = ''[[ไรช์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส]]''<br>(1929–45)<br>[[Karl Hanke|คาร์ล ฮันเคอ]], ''ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส''<br>(เม.ย.-พ.ค. 1945)
|agency_type = [[กำลังกึ่งทหาร]]
|agency_type = [[กำลังกึ่งทหาร]]
|parent_agency = {{flagicon|Nazi Germany|Nazi}} [[พรรคนาซี|พรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน]]
|parent_agency = {{flagicon|Nazi Germany|Nazi}} [[พรรคนาซี|พรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน]]
|child1_agency = ''[[อัลเกอมาน เอสเอส]]''
|child1_agency = ''[[อัลเกอมาน เอ็สเอ็ส]]''
|child2_agency = ''[[วัฟฟัน-เอสเอส]]'' (''[[SS-Verfügungstruppe]]'')
|child2_agency = ''[[วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส]]'' (''[[SS-Verfügungstruppe]]'')
|child3_agency = ''[[เอสเอส-โทเทนคอฟฟาบานเดอ]]''
|child3_agency = ''[[เอ็สเอ็ส-โทเทนคอฟฟาบานเดอ]]''
|child4_agency = [[RSHA]] – ''[[Sicherheitspolizei]]'' (SiPo) and ''[[Sicherheitsdienst]]'' (SD)
|child4_agency = [[RSHA]] – ''[[Sicherheitspolizei]]'' (SiPo) and ''[[Sicherheitsdienst]]'' (SD)
|child5_agency = [[Ordnungspolizei]] (Orpo)
|child5_agency = [[Ordnungspolizei]] (Orpo)
บรรทัด 45: บรรทัด 45:
}}
}}
{{นาซี}}
{{นาซี}}
'''ชุทซ์ชทัฟเฟิล''' ({{lang-de|Schutzstaffel}} หมายถึง "กองอารักขา" หรือ "เหล่าคุ้มกัน", ย่อเป็น SS หรือซิก ([[ไฟล์:Schutzstaffel SS SVG1.1.svg|16px|"ᛋᛋ" ที่เป็นอักษรรูน]]) ในอักษรรูนอาร์มาเนน ([[Armanen runes]]) เป็นองค์การ[[กำลังกึ่งทหาร|กึ่งทหาร]]หลักภายใต้[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]และ[[พรรคนาซี]] ก่อตั้งขึ้นบนอุดมการณ์นาซี เอสเอสภายใต้บังคับบัญชาของ[[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]มีส่วนรับผิดชอบต่อ[[อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ]]หลายครั้งระหว่าง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] หลัง ค.ศ. 1945 เอสเอสถูกกฎหมายต้องห้ามในเยอรมนี เช่นเดียวกับพรรคนาซี โดยถูกระบุว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม
'''ชุทซ์ชทัฟเฟิล''' ({{lang-de|''Schutzstaffel''}} หมายถึง "กองอารักขา" หรือ "เหล่าคุ้มกัน", ย่อเป็น SS หรือซิก ([[ไฟล์:Schutzstaffel SS SVG1.1.svg|16px|"ᛋᛋ" ที่เป็นอักษรรูน]]) ในอักษรรูนอาร์มาเนน ([[Armanen runes]]) เป็นองค์การ[[กำลังกึ่งทหาร|กึ่งทหาร]]หลักภายใต้[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]และ[[พรรคนาซี]] ก่อตั้งขึ้นบนอุดมการณ์นาซี เอ็สเอ็สภายใต้บังคับบัญชาของ[[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]มีส่วนรับผิดชอบต่อ[[อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ]]หลายครั้งระหว่าง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] หลัง ค.ศ. 1945 เอ็สเอ็สถูกกฎหมายต้องห้ามในเยอรมนี เช่นเดียวกับพรรคนาซี โดยถูกระบุว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม


==ประวัติการก่อตั้ง==
==ประวัติการก่อตั้ง==
เอสเอสก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1925 ภายใต้ชื่อ "ซาล-ชุทซ์" (อารักษ์หอประชุม) ตั้งใจให้เกิดความปลอดภัยแก่การประชุมของพรรคนาซี และเป็นหน่วยคุ้มกันส่วนบุคคลของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์<ref>Kogon, Eugen; Der SS-Staat; 1974</ref> แต่เนื่องจากช่วงแรกของการก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองของฮิตแลอร์นั้นยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเยอรมนีอย่างเต็มที่ ซึ่งตัวฮิตเลอร์เองก็ไม่ได้ไว้วางใจกองทัพเยอรมันว่า จงรักภักดีกับเขาอย่างเต็มที่หรือไม่ รวมทั้ง[[ชตูร์มับไทลุง]] (เอสเอ, "เสื้อน้ำตาล" หรือ "พลรบวายุ") ซึ่งเดิมนี้คือแหล่งชุมนุมของเหล่าทหารผ่านศึกใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] และ อดีตหน่วยเสรีเยอรมัน โดยมี[[ร้อยเอก]] [[แอนสท์ เริม]] เป็นผู้บังคับบัญชา
เอ็สเอ็สก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1925 ภายใต้ชื่อ "ซาล-ชุทซ์" (อารักษ์หอประชุม) ตั้งใจให้เกิดความปลอดภัยแก่การประชุมของพรรคนาซี และเป็นหน่วยคุ้มกันส่วนบุคคลของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์<ref>Kogon, Eugen; Der SS-Staat; 1974</ref> แต่เนื่องจากช่วงแรกของการก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองของฮิตแลอร์นั้นยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเยอรมนีอย่างเต็มที่ ซึ่งตัวฮิตเลอร์เองก็ไม่ได้ไว้วางใจกองทัพเยอรมันว่า จงรักภักดีกับเขาอย่างเต็มที่หรือไม่ รวมทั้ง[[ชตูร์มับไทลุง]] (เอ็สเอ, "เสื้อน้ำตาล" หรือ "พลรบวายุ") ซึ่งเดิมนี้คือแหล่งชุมนุมของเหล่าทหารผ่านศึกใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] และ อดีตหน่วยเสรีเยอรมัน โดยมี[[ร้อยเอก]] [[แอนสท์ เริม]] เป็นผู้บังคับบัญชา


ต่อมา มีเหตุทำให้ฮิตเลอร์และไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ร่วมมือกันกำจัดแอร์นสท์ เริมและหน่วยเอสเอ และตั้งซาล-ชุทซ์เป็นหน่วยคุ้มกันทดแทนหน่วยเอสเอภายใต้การนำของไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ระหว่าง ค.ศ. 1929 และ 1945 เอสเอสถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ชุทซ์ชทัฟเฟิล" และเติบโตขึ้นจากรูปแบบหน่วยกึ่งทหารขนาดเล็กเป็นหนึ่งในองค์การที่ใหญ่และทรงอำนาจที่สุดใน[[นาซีเยอรมนี]]
ต่อมา มีเหตุทำให้ฮิตเลอร์และฮิมม์เลอร์ร่วมมือกันกำจัดแอร์นสท์ เริม และหน่วยเอ็สเอ และตั้งซาล-ชุทซ์เป็นหน่วยคุ้มกันทดแทนหน่วยเอ็สเอภายใต้การนำของไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ระหว่าง ค.ศ. 1929 และ 1945 เอ็สเอ็สถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ชุทซ์ชทัฟเฟิล" และเติบโตขึ้นจากรูปแบบหน่วยกึ่งทหารขนาดเล็กเป็นหนึ่งในองค์การที่ใหญ่และทรงอำนาจที่สุดใน[[นาซีเยอรมนี]]


==การคัดเลือก==
==การคัดเลือก==
การคัดเลือกทหารที่จะมาเข้าหน่วยเอสเอสจะต้องเป็นชายสายเลือดเยอรมันพันธุ์แท้แบบพวกอารยัน สูงอย่างน้อย 180 เซนติเมตร กำลังพลของเอสเอสจะได้รับการอบรม ปลูกฝังให้จงรักภักดีต่อผู้นำของเขาอย่างเหนียวแน่น และปราศจากการตั้งคำถามสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก และถูกปลูกฝังอุดมการณ์ของนาซี ถูกปลูกฝังแนวความคิดเรื่องความเป็นเลิศของชนชาติอารยันเพื่อการสร้างชาติไปสู่[[นาซีเยอรมนี|ไรช์ที่สาม]] รวมทั้งมีการเกณฑ์เด็กชายและหญิงชาวเยอรมันทั้งหมดให้เข้าหน่วย[[ยุวชนฮิตเลอร์]]เพื่อเป็นหลักสูตรวิชาทหาร ให้เข้ารับการเป็นทหารและหน่วยเอสเอส
การคัดเลือกทหารที่จะมาเข้าหน่วยเอ็สเอ็สจะต้องเป็นชายสายเลือดเยอรมันพันธุ์แท้แบบพวกอารยัน สูงอย่างน้อย 180 เซนติเมตร กำลังพลของเอ็สเอ็สจะได้รับการอบรม ปลูกฝังให้จงรักภักดีต่อผู้นำของเขาอย่างเหนียวแน่น และปราศจากการตั้งคำถามสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก และถูกปลูกฝังอุดมการณ์ของนาซี ถูกปลูกฝังแนวความคิดเรื่องความเป็นเลิศของชนชาติอารยันเพื่อการสร้างชาติไปสู่[[นาซีเยอรมนี|ไรช์ที่สาม]] รวมทั้งมีการเกณฑ์เด็กชายและหญิงชาวเยอรมันทั้งหมดให้เข้าหน่วย[[ยุวชนฮิตเลอร์]]เพื่อเป็นหลักสูตรวิชาทหาร ให้เข้ารับการเป็นทหารและหน่วยเอ็สเอ็ส


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:12, 3 สิงหาคม 2560

ชุทซ์ชทัฟเฟิล
Schutzstaffel
ธงชุทซ์ชทัฟเฟิล

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ตรวจ ไลป์สตันดาร์ท เอ็สเอ็ส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ครั้งเยือนเมืองคลาเกินฟวร์ท เมษายน ค.ศ. 1938 ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ ยืนอยู่ทางขวาข้างหลังฮิตเลอร์
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้ง4 เมษายน ค.ศ. 1925
หน่วยงานก่อนหน้า
ยุบเลิก8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945
ประเภทกำลังกึ่งทหาร
เขตอำนาจนาซีเยอรมนี นาซีเยอรมนี
ยุโรปที่ถูกเยอรมนียึดครอง
สำนักงานใหญ่SS-Hauptamt, Prinz-Albrecht-Straße, เบอร์ลิน
52°30′26″N 13°22′57″E / 52.50722°N 13.38250°E / 52.50722; 13.38250
บุคลากร1,250,000 (c. กุมภาพันธ์ 1945)
รัฐมนตรี
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
ต้นสังกัดนาซีเยอรมนี พรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน
ลูกสังกัด

ชุทซ์ชทัฟเฟิล ([Schutzstaffel] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) หมายถึง "กองอารักขา" หรือ "เหล่าคุ้มกัน", ย่อเป็น SS หรือซิก ("ᛋᛋ" ที่เป็นอักษรรูน) ในอักษรรูนอาร์มาเนน (Armanen runes) เป็นองค์การกึ่งทหารหลักภายใต้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์และพรรคนาซี ก่อตั้งขึ้นบนอุดมการณ์นาซี เอ็สเอ็สภายใต้บังคับบัญชาของไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์มีส่วนรับผิดชอบต่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติหลายครั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง หลัง ค.ศ. 1945 เอ็สเอ็สถูกกฎหมายต้องห้ามในเยอรมนี เช่นเดียวกับพรรคนาซี โดยถูกระบุว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม

ประวัติการก่อตั้ง

เอ็สเอ็สก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1925 ภายใต้ชื่อ "ซาล-ชุทซ์" (อารักษ์หอประชุม) ตั้งใจให้เกิดความปลอดภัยแก่การประชุมของพรรคนาซี และเป็นหน่วยคุ้มกันส่วนบุคคลของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์[1] แต่เนื่องจากช่วงแรกของการก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองของฮิตแลอร์นั้นยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเยอรมนีอย่างเต็มที่ ซึ่งตัวฮิตเลอร์เองก็ไม่ได้ไว้วางใจกองทัพเยอรมันว่า จงรักภักดีกับเขาอย่างเต็มที่หรือไม่ รวมทั้งชตูร์มับไทลุง (เอ็สเอ, "เสื้อน้ำตาล" หรือ "พลรบวายุ") ซึ่งเดิมนี้คือแหล่งชุมนุมของเหล่าทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และ อดีตหน่วยเสรีเยอรมัน โดยมีร้อยเอก แอนสท์ เริม เป็นผู้บังคับบัญชา

ต่อมา มีเหตุทำให้ฮิตเลอร์และฮิมม์เลอร์ร่วมมือกันกำจัดแอร์นสท์ เริม และหน่วยเอ็สเอ และตั้งซาล-ชุทซ์เป็นหน่วยคุ้มกันทดแทนหน่วยเอ็สเอภายใต้การนำของไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ระหว่าง ค.ศ. 1929 และ 1945 เอ็สเอ็สถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ชุทซ์ชทัฟเฟิล" และเติบโตขึ้นจากรูปแบบหน่วยกึ่งทหารขนาดเล็กเป็นหนึ่งในองค์การที่ใหญ่และทรงอำนาจที่สุดในนาซีเยอรมนี

การคัดเลือก

การคัดเลือกทหารที่จะมาเข้าหน่วยเอ็สเอ็สจะต้องเป็นชายสายเลือดเยอรมันพันธุ์แท้แบบพวกอารยัน สูงอย่างน้อย 180 เซนติเมตร กำลังพลของเอ็สเอ็สจะได้รับการอบรม ปลูกฝังให้จงรักภักดีต่อผู้นำของเขาอย่างเหนียวแน่น และปราศจากการตั้งคำถามสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก และถูกปลูกฝังอุดมการณ์ของนาซี ถูกปลูกฝังแนวความคิดเรื่องความเป็นเลิศของชนชาติอารยันเพื่อการสร้างชาติไปสู่ไรช์ที่สาม รวมทั้งมีการเกณฑ์เด็กชายและหญิงชาวเยอรมันทั้งหมดให้เข้าหน่วยยุวชนฮิตเลอร์เพื่อเป็นหลักสูตรวิชาทหาร ให้เข้ารับการเป็นทหารและหน่วยเอ็สเอ็ส

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. Kogon, Eugen; Der SS-Staat; 1974

เชิงอรรถ

  • Art, David (2006). The Politics of the Nazi Past in Germany and Austria. Cambridge University Press. ISBN 0-521-85683-3
  • Baranowski, Shelley (2010). Nazi Empire: German Colonialism and Imperialism from Bismarck to Hitler. New York: Cambridge University Press. ISBN 978-0-52167-408-9
  • Bessel, Richard. Nazism and War. New York: Modern Library, 2006. ISBN 978-0-81297-557-4
  • Bishop, Chris (2005). Hitler's Foreign Divisions: 1940–45. Amber. ISBN 978-1-904687-37-5.
  • Bishop, Chris (2007). Waffen-SS Divisions: 1939–45. Amber. ISBN 1-905704-55-0.
  • Burleigh, Michael, and Wolfgang Wippermann (1991). The Racial State: Germany 1933-1945. Cambridge & New York: Cambridge University Press. ISBN 978-0-52139-802-2
  • Burleigh, Michael (2010). Moral Combat: Good and Evil in World War II. New York: Harper Collins. ISBN 978-0-06058-097-1
  • Cook, Stan & Bender, Roger James (1994). Leibstandarte SS Adolf Hitler: Uniforms, Organization, & History. San Jose, CA: R. James Bender Publishing. ISBN 978-0-912138-55-8.
  • Fischer, Klaus (1995). Nazi Germany: A New History. New York: Continuum. ISBN 978-0-82640-797-9
  • Himmler, Heinrich (1936). Die Schutzstaffel als antibolschewistische Kampforganisation [The SS as an Anti-bolshevist Fighting Organization]. Munich: Franz Eher Nachfolger.
  • Höhne, Heinz (2001). The Order of the Death’s Head: The Story of Hitler’s SS. New York: Penguin Press. ISBN 978-0-14139-012-3
  • International Military Tribunal (IMT) (1947–49). Record of the Nuremberg Trials November 14, 1945 – October 1, 1946. 42 Vols. London: HMSO.
  • Leitz, Christian, ed. (1999). The Third Reich: The Essential Readings. Oxford: Wiley-Blackwell. ISBN 978-0-63120-700-9
  • Lumsden, Robin (1997). Himmler's Black Order 1923–45. Sutton. ISBN 0-7509-1396-7.
  • Lumsden, Robin (2000). A Collector's Guide To: The Waffen-SS. Ian Allan Publishing, Inc. ISBN 0-7110-2285-2.
  • Lumsden, Robin (2002). A Collector's Guide To: The Allgemeine-SS. Ian Allan Publishing, Inc. ISBN 0-7110-2905-9.
  • MacDonogh, Giles (2009). After the Reich: The Brutal History of the Allied Occupation. New York: Basic Books. ISBN 978-0-46500-337-2
  • McNab, Chris (2009). The SS: 1923–1945. Amber Books. ISBN 978-1-906626-49-5. {{cite book}}: |ref=harv ไม่ถูกต้อง (help)
  • Mollo, Andrew (1991). Uniforms of the SS: Volume 3: SS-Verfügungstruppe. Historical Research Unit. ISBN 1-872004-51-2.
  • Mühlenberg, Jutta (2011). Das SS-Helferinnenkorps: Ausbildung, Einsatz und Entnazifizierung der weiblichen Angehörigen der Waffen-SS, 1942–1949. Hamburg: Hamburger Edition HIS VerlagsgesmbH. Retrievable from: https://download.e-bookshelf.de/download/0000/3731/67/L-G-0000373167-0002317697.pdf ISBN 978-3-86854-500-5
  • Murray, Williamson, and Allan R. Millett (2001). A War To Be Won: Fighting the Second World War. Cambridge, MA: Belknap Press of Harvard University Press. ISBN 978-0-67400-680-5
  • "Organizations Book of the NSDAP for 1943", NCA, V, Washington, D.C. 1946: U.S. GPO, 1943
  • Rabinbach, Anson, and Sander L. Gilman (2013). The Third Reich Sourcebook. Berkeley & Los Angeles: University of California Press. ISBN 978-0-52020-867-4
  • Rummel, Rudolph (1992). Democide: Nazi Genocide and Mass Murder. New Brunswick, NJ: Transaction Publishers. ISBN 1-56000-004-X
  • Sereny, Gitta (1974). Into That Darkness: From Mercy Killings to Mass Murder. Republished (1983) as Into That Darkness: An Examination of Conscience. New York: Vintage. ISBN 0-394-71035-5
  • Stein, George H. (1984). The Waffen SS: Hitler's Elite Guard at War, 1939–1945. Cornell University Press. ISBN 0-8014-9275-0.
  • Weale, Adrian (2010). The SS: A New History. London: Little, Brown. ISBN 978-1-4087-0304-5. {{cite book}}: |ref=harv ไม่ถูกต้อง (help)
  • Williams, Max (2001). Reinhard Heydrich: The Biography: Volume 1. Ulric Publishing. ISBN 0-9537577-5-7.
  • Yerger, Mark C. (1997). Allgemeine-SS: The Commands, Units, and Leaders of the General SS. Schiffer Publishing. ISBN 0-7643-0145-4.

แหล่งข้อมูลอื่น