ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทะเลสาบหนองหาน"

พิกัด: 17°11′56″N 104°11′9″W / 17.19889°N 104.18583°W / 17.19889; -104.18583
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Orn1465 (คุย | ส่วนร่วม)
หนองหาน มาจากคำว่า ห้วยละหาน หมายถึงบ่อน้ำ
หนองหาร (ร) หมายถึงหนองหารส่วนจังหวัดสกลนคร หนองหาน (น) หมายถึงหนองหานส่วนจังหวัดอุดรธานี
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
[[ไฟล์:Nong Han Lake.jpg|thumb|หนองหาน]]
[[ไฟล์:Nong Han Lake.jpg|thumb|หนองหาน]]


'''ทะเลสาบหนองหาน''' หรือ '''หนองหานหลวง'''<ref>{{cite web |url= http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349061680 |title= หนองหาน ไม่ใช่ หนองหาร ยุคสุโขทัย ปลูกเรือนเสาสูง |author= สุจิตต์ วงษ์เทศ |date= 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 |work= |publisher= มติชนออนไลน์ |accessdate= 14 ตุลาคม 2557 }}</ref> เป็น[[บึง|ทะเลสาบน้ำจืด]]ขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองจาก[[บึงบอระเพ็ด]]<ref>นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 267 พ.ค. 2550 หน้า 172</ref> ตั้งอยู่บริเวณ[[อำเภอเมืองสกลนคร]] [[อำเภอโพนนาแก้ว]] [[จังหวัดสกลนคร]] มีเนื้อที่กว่า 77,000 ไร่ ความลึกเฉลี่ยประมาณ 2.0-10.0 เมตร เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด นกน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทย สันนิษฐานว่าหนองหารเกิดจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลกอันเนื่องมาจากการถูกชะล้างของชั้นหินเกลือใต้ดินจนเกิดโพรงขนาดใหญ่ และเกิดการพังทลายยุบตัวลงเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา ตามคติความเชื่อของชาวสกลนคร หนองหาน เป็นผลจากการกระทำของ[[พญานาค]] สืบเนื่องมาจากการกระทำอันผิดทำนองคลองธรรมของชาย-หญิง ในตำนานผาแดง นางไอ่
'''ทะเลสาบหนองหาร''' หรือ '''หนองหารหลวง'''<ref>{{cite web |url= http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349061680 |title= หนองหาน ไม่ใช่ หนองหาร ยุคสุโขทัย ปลูกเรือนเสาสูง |author= สุจิตต์ วงษ์เทศ |date= 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 |work= |publisher= มติชนออนไลน์ |accessdate= 14 ตุลาคม 2557 }}</ref> เป็น[[บึง|ทะเลสาบน้ำจืด]]ขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองจาก[[บึงบอระเพ็ด]]<ref>นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 267 พ.ค. 2550 หน้า 172</ref> ตั้งอยู่บริเวณ[[อำเภอเมืองสกลนคร]] [[อำเภอโพนนาแก้ว]] [[จังหวัดสกลนคร]] มีเนื้อที่กว่า 77,000 ไร่ ความลึกเฉลี่ยประมาณ 2.0-10.0 เมตร เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด นกน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทย สันนิษฐานว่าหนองหารเกิดจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลกอันเนื่องมาจากการถูกชะล้างของชั้นหินเกลือใต้ดินจนเกิดโพรงขนาดใหญ่ และเกิดการพังทลายยุบตัวลงเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา ตามคติความเชื่อของชาวสกลนคร หนองหาร เป็นผลจากการกระทำของ[[พญานาค]] สืบเนื่องมาจากการกระทำอันผิดทำนองคลองธรรมของชาย-หญิง ในตำนานผาแดง นางไอ่


ทะเลสาบหนองหาน ประกอบ เกาะน้อยใหญ่ มากกว่า 30 เกาะ เกาะที่ขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะดอนสวรรค์ โดยมีพุทธสถานโบราณ ภายในเกาะ สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวเยียมชม รวมทั้งทัศนียภาพ น้ำใส สาหร่ายสีทอง นกน้ำ ปลา นานาพันธุ์ และวิถีชีวิตของชาวประมงหนองหาน
ทะเลสาบหนองหาร ประกอบ เกาะน้อยใหญ่ มากกว่า 30 เกาะ เกาะที่ขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะดอนสวรรค์ โดยมีพุทธสถานโบราณ ภายในเกาะ สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวเยียมชม รวมทั้งทัศนียภาพ น้ำใส สาหร่ายสีทอง นกน้ำ ปลา นานาพันธุ์ และวิถีชีวิตของชาวประมงหนองหาน


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:47, 25 กรกฎาคม 2560

หนองหาน

ทะเลสาบหนองหาร หรือ หนองหารหลวง[1] เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองจากบึงบอระเพ็ด[2] ตั้งอยู่บริเวณอำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร มีเนื้อที่กว่า 77,000 ไร่ ความลึกเฉลี่ยประมาณ 2.0-10.0 เมตร เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด นกน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทย สันนิษฐานว่าหนองหารเกิดจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลกอันเนื่องมาจากการถูกชะล้างของชั้นหินเกลือใต้ดินจนเกิดโพรงขนาดใหญ่ และเกิดการพังทลายยุบตัวลงเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา ตามคติความเชื่อของชาวสกลนคร หนองหาร เป็นผลจากการกระทำของพญานาค สืบเนื่องมาจากการกระทำอันผิดทำนองคลองธรรมของชาย-หญิง ในตำนานผาแดง นางไอ่

ทะเลสาบหนองหาร ประกอบ เกาะน้อยใหญ่ มากกว่า 30 เกาะ เกาะที่ขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะดอนสวรรค์ โดยมีพุทธสถานโบราณ ภายในเกาะ สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวเยียมชม รวมทั้งทัศนียภาพ น้ำใส สาหร่ายสีทอง นกน้ำ ปลา นานาพันธุ์ และวิถีชีวิตของชาวประมงหนองหาน

อ้างอิง

  1. สุจิตต์ วงษ์เทศ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2555). "หนองหาน ไม่ใช่ หนองหาร ยุคสุโขทัย ปลูกเรือนเสาสูง". มติชนออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 14 ตุลาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  2. นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 267 พ.ค. 2550 หน้า 172

17°11′56″N 104°11′9″W / 17.19889°N 104.18583°W / 17.19889; -104.18583