ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เสือไฟ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 32: | บรรทัด 32: | ||
มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ [[เอเชียตะวันออก]], ภาคเหนือของ[[เอเชียใต้]] จนถึง[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] คือ ภาคใต้และภาคตะวันออกของ[[จีน]], [[เนปาล]], [[ภูฏาน]], [[พม่า]], [[ไทย]], [[ลาว]], [[กัมพูชา]], [[เวียดนาม]], [[มาเลเซีย]]และ[[เกาะสุมาตรา]]<ref name="nowell96">{{cite book |author= Nowell, K., Jackson, P. |year= 1996 |title= 'Wild Cats: status survey and conservation action plan |publisher=IUCN/SSC Cat Specialist Group, Gland, Switzerland |url=http://www.catsg.org/catsgportal/cat-website/catfolk/temmin01.htm}} </ref> |
มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ [[เอเชียตะวันออก]], ภาคเหนือของ[[เอเชียใต้]] จนถึง[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] คือ ภาคใต้และภาคตะวันออกของ[[จีน]], [[เนปาล]], [[ภูฏาน]], [[พม่า]], [[ไทย]], [[ลาว]], [[กัมพูชา]], [[เวียดนาม]], [[มาเลเซีย]]และ[[เกาะสุมาตรา]]<ref name="nowell96">{{cite book |author= Nowell, K., Jackson, P. |year= 1996 |title= 'Wild Cats: status survey and conservation action plan |publisher=IUCN/SSC Cat Specialist Group, Gland, Switzerland |url=http://www.catsg.org/catsgportal/cat-website/catfolk/temmin01.htm}} </ref> |
||
เสือไฟ สามารถปรับตัวให้อยู่ในป่าได้ทุกสภาพ เช่น [[ป่าดิบ|ป่าดิบแล้ง]], [[ป่าดิบชื้น]], [[ป่าเบญจพรรณ]] สามารถปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่จะล่าเหยื่อบนพื้นดินมากกว่าล่าบน[[ต้นไม้]] และยังพบได้ถึงระดับถึงความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลใน[[เทือกเขาหิมาลัย]]<ref>Baral H.S. and Shah K.B. (2008) ''Wild Mammals of Nepal.'' Himalayan Nature, Kathmandu.</ref> เมื่อเวลาเดินจะยกหางขึ้นเหมือน[[แมวบ้าน]] อาหารของเสือไฟมักเป็น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]]ขนาดเล็ก เช่น [[หนู]], [[กระต่าย]], ลูก[[เก้ง]]และนกเล็ก ๆ ที่หากินตามพื้นดิน ในบางครั้งอาจล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวได้ [[หมูป่า]]ขนาดเล็กและลูก[[กวางป่า]]ได้ด้วย รวมถึงล่า[[ปศุสัตว์]]ที่มนุษย์เลี้ยงได้ด้วย<ref>{{cite web|url=http://www.dailynews.co.th/Content/regional/282280/%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9|title=ตื่นเสือไฟบุกชุมชนขย้ำกินหัวใจหมู|date=20 November 2014|accessdate=21 November 2014|publisher=เดลินิวส์}}</ref> มักอาศัยตามลำพัง ยกเว้นช่วงฤดูผสมพันธุ์หรือมีลูกอ่อนที่พบเห็นว่าอยู่ด้วยกัน 2–3 ตัว ใช้เวลาตั้งท้องนาน 95 วัน ออกลูกครั้งละ 1–2 ตัว ตามโพรงไม้ที่มีความปลอดภัย ปกติเสือไฟจะล่าเหยื่อเพียงลำพัง แต่ถ้าเหยื่อมีขนาดใหญ่ ก็อาจล่าเป็นคู่ได้<ref name="ช่อง 7"/> |
เสือไฟ สามารถปรับตัวให้อยู่ในป่าได้ทุกสภาพ เช่น [[ป่าดิบ|ป่าดิบแล้ง]], [[ป่าดิบชื้น]], [[ป่าเบญจพรรณ]] สามารถปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่จะล่าเหยื่อบนพื้นดินมากกว่าล่าบน[[ต้นไม้]] และยังพบได้ถึงระดับถึงความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลใน[[เทือกเขาหิมาลัย]]<ref>Baral H.S. and Shah K.B. (2008) ''Wild Mammals of Nepal.'' Himalayan Nature, Kathmandu.</ref> เมื่อเวลาเดินจะยกหางขึ้นเหมือน[[แมวบ้าน]] อาหารของเสือไฟมักเป็น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]]ขนาดเล็ก เช่น [[หนู]], [[กระต่าย]], ลูก[[เก้ง]]และนกเล็ก ๆ ที่หากินตามพื้นดิน ในบางครั้งอาจล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวได้ [[หมูป่า]]ขนาดเล็กและลูก[[กวางป่า]]ได้ด้วย รวมถึงล่า[[ปศุสัตว์]]ที่มนุษย์เลี้ยงได้ด้วย<ref>{{cite web|url=http://www.dailynews.co.th/Content/regional/282280/%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9|title=ตื่นเสือไฟบุกชุมชนขย้ำกินหัวใจหมู|date=20 November 2014|accessdate=21 November 2014|publisher=เดลินิวส์}}</ref> ในต้นปี [[พ.ศ. 2558]] ที่[[อำเภอห้วยยอด]] [[จังหวัดตรัง]]เคยปรากฏข่าวว่าเสือไฟโจมตี[[ช้างเอเชีย|ช้าง]]พังที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้จนล้ม<ref name=ช้าง>{{cite web|work=กรุงเทพธุรกิจ|url=http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/626756|title=เสือไฟกัดช้างตาย|date=2015-01-08|accessdate=2017-07-09}}</ref> มักอาศัยตามลำพัง ยกเว้นช่วงฤดูผสมพันธุ์หรือมีลูกอ่อนที่พบเห็นว่าอยู่ด้วยกัน 2–3 ตัว ใช้เวลาตั้งท้องนาน 95 วัน ออกลูกครั้งละ 1–2 ตัว ตามโพรงไม้ที่มีความปลอดภัย ปกติเสือไฟจะล่าเหยื่อเพียงลำพัง แต่ถ้าเหยื่อมีขนาดใหญ่ ก็อาจล่าเป็นคู่ได้<ref name="ช่อง 7"/> |
||
==ชนิดย่อย== |
==ชนิดย่อย== |
||
บรรทัด 44: | บรรทัด 44: | ||
นอกจากนี้แล้ว ยังมีความเชื่ออีกว่าเสือไฟเป็นตัวการที่ก่อให้เกิด[[ไฟป่า]] ดอยหรือป่าผืนใดที่เสือไฟปรากฏ ไม่ช้าจะเกิดไฟป่า<ref>หน้า ๐๗๒, ''คืนสุขวัยเยาว์ ผืนป่าตะวันตก'' โดย ธเนศ งามสม. อ.ส.ท. พฤศจิกายน ๒๕๕๗: ปีที่ ๕๕ ฉบับที่ ๔</ref> |
นอกจากนี้แล้ว ยังมีความเชื่ออีกว่าเสือไฟเป็นตัวการที่ก่อให้เกิด[[ไฟป่า]] ดอยหรือป่าผืนใดที่เสือไฟปรากฏ ไม่ช้าจะเกิดไฟป่า<ref>หน้า ๐๗๒, ''คืนสุขวัยเยาว์ ผืนป่าตะวันตก'' โดย ธเนศ งามสม. อ.ส.ท. พฤศจิกายน ๒๕๕๗: ปีที่ ๕๕ ฉบับที่ ๔</ref> |
||
ใน[[ภาษาใต้]] เสือไฟถูกเรียกว่า "คางคูด" เชื่อกันว่าเป็นสัตว์ดุร้าย มักใช้เป็นคำขู่หลอกให้เด็ก ๆ กลัว โดยคางคูดนี้เป็นชื่อโดยรวม ๆ ของสัตว์กินเนื้อขนาดเล็กที่ปรากฏตัวในเวลากลางคืน ร่วมกับ[[เสือดำ]], [[มูสัง]] หรือ[[ชะมด]]<ref>{{cite web|url=http://siamensis.org/node/34944|work=สยามเอนซิส|title=คางคูด คืออะไรครับ|date=2012-01-07|author= Lhong |accessdate=2017-07-09}}</ref><ref name=ช้าง/> |
|||
ที่จีน เสือไฟถูกมองว่าเป็น[[เสือดาว]]ชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกว่า "แมวหิน" หรือ "เสือดาวเหลือง" ในตัวที่มีขนสีดำหรือเข้มเรียกว่า "เสือดาวดำ" และตัวที่ปรากฏลายจุดเรียกว่า "เสือดาวงา"<ref name=WCoW/> |
ที่จีน เสือไฟถูกมองว่าเป็น[[เสือดาว]]ชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกว่า "แมวหิน" หรือ "เสือดาวเหลือง" ในตัวที่มีขนสีดำหรือเข้มเรียกว่า "เสือดาวดำ" และตัวที่ปรากฏลายจุดเรียกว่า "เสือดาวงา"<ref name=WCoW/> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:25, 9 กรกฎาคม 2560
เสือไฟ | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Carnivora |
วงศ์: | Felidae |
สกุล: | Pardofelis |
สปีชีส์: | P. temminckii |
ชื่อทวินาม | |
Pardofelis temminckii (Vigors & Horsfield, 1827) | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ | |
ชื่อพ้อง | |
|
เสือไฟ (อังกฤษ: Asian golden cat; ชื่อวิทยาศาสตร์: Pardofelis temminckii หรือ Catopuma temminckii) เป็นแมวป่าขนาดกลาง มีขนาดเล็กกว่าเสือลายเมฆ แต่ใหญ่กว่าแมวลายหินอ่อน
ลักษณะและพฤติกรรม
มีสีขนหลากหลาย คือ สีน้ำตาลแดง น้ำตาลอมเทา ตลอดจนสีส้ม สีขนบริเวณใบหน้าจะเข้มกว่าลำตัว มีลักษณะเด่นคือ มีแถบขนสีขาวบนใบหน้า เหนือตาและแก้ม หางยาวปลายหางด้านล่างมีสีขาวตลอด ท้องและใต้หางมีสีขาว มีความยาวลำตัวและหัว 76–105 เซนติเมตร ความยาวหาง 43–60 เซนติเมตร น้ำหนักตั้งแต่ 12–33 กิโลกรัม[2]
ขนของเสือไฟมีตั้งแต่สีแดงถึงน้ำตาลทอง น้ำตาลเข้มถึงสีน้ำตาลเหลือง เทาถึงดำ รูปแบบของขนขึ้นอยู่กับความแตกต่างของสีด้วย ขนอาจเป็นจุดหรือลาย สีเส้นขาวดำที่แก้มและพาดขึ้นไปส่วนบนของหัว หูมีสีดำออกเทาบริเวณตรงกลาง[2] พบเสือไฟลายคล้ายเสือดาวในประเทศจีน ซึ่งเป็นลักษณะด้อยของเสือไฟ[3] และบางตัวอาจพบเป็นสีดำทั้งตัว[4]
มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ เอเชียตะวันออก, ภาคเหนือของเอเชียใต้ จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ภาคใต้และภาคตะวันออกของจีน, เนปาล, ภูฏาน, พม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซียและเกาะสุมาตรา[6]
เสือไฟ สามารถปรับตัวให้อยู่ในป่าได้ทุกสภาพ เช่น ป่าดิบแล้ง, ป่าดิบชื้น, ป่าเบญจพรรณ สามารถปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่จะล่าเหยื่อบนพื้นดินมากกว่าล่าบนต้นไม้ และยังพบได้ถึงระดับถึงความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเทือกเขาหิมาลัย[7] เมื่อเวลาเดินจะยกหางขึ้นเหมือนแมวบ้าน อาหารของเสือไฟมักเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น หนู, กระต่าย, ลูกเก้งและนกเล็ก ๆ ที่หากินตามพื้นดิน ในบางครั้งอาจล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวได้ หมูป่าขนาดเล็กและลูกกวางป่าได้ด้วย รวมถึงล่าปศุสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงได้ด้วย[8] ในต้นปี พ.ศ. 2558 ที่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรังเคยปรากฏข่าวว่าเสือไฟโจมตีช้างพังที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้จนล้ม[9] มักอาศัยตามลำพัง ยกเว้นช่วงฤดูผสมพันธุ์หรือมีลูกอ่อนที่พบเห็นว่าอยู่ด้วยกัน 2–3 ตัว ใช้เวลาตั้งท้องนาน 95 วัน ออกลูกครั้งละ 1–2 ตัว ตามโพรงไม้ที่มีความปลอดภัย ปกติเสือไฟจะล่าเหยื่อเพียงลำพัง แต่ถ้าเหยื่อมีขนาดใหญ่ ก็อาจล่าเป็นคู่ได้[4]
ชนิดย่อย
มีด้วยกัน 3 ชนิดย่อย:[10]
- Pardofelis temminckii temminckii พบในเทือกเขาหิมาลัย, แผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาะสุมาตรา
- Pardofelis temminckii dominicanorum พบในตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน
- Pardofelis temminckii tristis พบในตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน
ความเชื่อ
เสือไฟ เป็นสัตว์ที่ชาวล้านนาเชื่อว่าเป็นพญาเสือ แม้เสือที่มีขนาดใหญ่กว่ายังกลัว ขน หรือ เล็บ หรือ เขี้ยว เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สามารถป้องกันอันตราย หรือภูตผีปีศาจได้ ซึ่งความเชื่อเรื่อง เขี้ยวเสือไฟ นี้ ได้ถูก มาลา คำจันทร์ นำไปแต่งเป็นนวนิยาย ชื่อ เขี้ยวเสือไฟ ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นประเภทบันเทิงคดีสำหรับเด็กก่อนวัยรุ่น จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2532 และรางวัล IBBY (International Board of Book for Young People) ประจำปี ค.ศ. 1990 ซึ่งในปี พ.ศ. 2544 ได้ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง 9 นำแสดงและร้องเพลงประกอบละคร โดย แอ๊ด คาราบาว[11]
นอกจากนี้แล้ว ยังมีความเชื่ออีกว่าเสือไฟเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดไฟป่า ดอยหรือป่าผืนใดที่เสือไฟปรากฏ ไม่ช้าจะเกิดไฟป่า[12]
ในภาษาใต้ เสือไฟถูกเรียกว่า "คางคูด" เชื่อกันว่าเป็นสัตว์ดุร้าย มักใช้เป็นคำขู่หลอกให้เด็ก ๆ กลัว โดยคางคูดนี้เป็นชื่อโดยรวม ๆ ของสัตว์กินเนื้อขนาดเล็กที่ปรากฏตัวในเวลากลางคืน ร่วมกับเสือดำ, มูสัง หรือชะมด[13][9]
ที่จีน เสือไฟถูกมองว่าเป็นเสือดาวชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกว่า "แมวหิน" หรือ "เสือดาวเหลือง" ในตัวที่มีขนสีดำหรือเข้มเรียกว่า "เสือดาวดำ" และตัวที่ปรากฏลายจุดเรียกว่า "เสือดาวงา"[2]
อ้างอิง
- ↑ Sanderson, J., Mukherjee, S., Wilting, A., Sunarto, S., Hearn, A., Ross, J., Khan, J.A. (2008). "Pardofelis temminckii". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2011.2.
{{cite web}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ 2.0 2.1 2.2 Sunquist, Mel; Sunquist, Fiona (2002). Wild cats of the World. Chicago: University of Chicago Press. pp. 52–56. ISBN 0-226-77999-8.
- ↑ Allen, G.M. (1938) The mammals of China and Mongolia. New York: American Museum of Natural History.
- ↑ 4.0 4.1 ข่าวภาคเที่ยง, ช่อง 7: พฤหัสบดี 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555
- ↑ Pocock, R.I. (1939) The Fauna of British India, including Ceylon and Burma. Mammalia. – Volume 1. Taylor and Francis, Ltd., London. Pp 259–264
- ↑ Nowell, K., Jackson, P. (1996). 'Wild Cats: status survey and conservation action plan. IUCN/SSC Cat Specialist Group, Gland, Switzerland.
{{cite book}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Baral H.S. and Shah K.B. (2008) Wild Mammals of Nepal. Himalayan Nature, Kathmandu.
- ↑ "ตื่นเสือไฟบุกชุมชนขย้ำกินหัวใจหมู". เดลินิวส์. 20 November 2014. สืบค้นเมื่อ 21 November 2014.
- ↑ 9.0 9.1 "เสือไฟกัดช้างตาย". กรุงเทพธุรกิจ. 2015-01-08. สืบค้นเมื่อ 2017-07-09.
- ↑ Grubb, Peter (16 November 2005). Wilson, Don E., and Reeder, DeeAnn M., eds. ed. Mammal Species of the World (3rd ed.). Baltimore: Johns Hopkins University Press, 2 vols. (2142 pp.). ISBN 978-0-8018-8221-0. OCLC 62265494.
- ↑ นวนิยายเขี้ยวเสือไฟ โดย มาลา คำจันทร์ ISBN 974-315-584-8
- ↑ หน้า ๐๗๒, คืนสุขวัยเยาว์ ผืนป่าตะวันตก โดย ธเนศ งามสม. อ.ส.ท. พฤศจิกายน ๒๕๕๗: ปีที่ ๕๕ ฉบับที่ ๔
- ↑ Lhong (2012-01-07). "คางคูด คืออะไรครับ". สยามเอนซิส. สืบค้นเมื่อ 2017-07-09.
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Pardofelis temminckii ที่วิกิสปีชีส์