ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระนางอเลนันดอ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20: บรรทัด 20:
'''พระนางอเลนันดอ''' มีพระนามจริงว่า '''ซีนบยูมะชีน''' ({{lang-my|ဆင်ဖြူမရှင်, Hsinbyumashin}} ซึ่งมีความหมายว่า นางพญาช้างเผือก; มีพระนามแรกประสูติว่า '''ศุภยากะเล''') พระราชธิดาใน[[พระเจ้าจักกายแมง]]แห่งพม่า ที่ประสูติแต่[[พระนางนันมาดอ แมนู]] พระมเหสีเอก
'''พระนางอเลนันดอ''' มีพระนามจริงว่า '''ซีนบยูมะชีน''' ({{lang-my|ဆင်ဖြူမရှင်, Hsinbyumashin}} ซึ่งมีความหมายว่า นางพญาช้างเผือก; มีพระนามแรกประสูติว่า '''ศุภยากะเล''') พระราชธิดาใน[[พระเจ้าจักกายแมง]]แห่งพม่า ที่ประสูติแต่[[พระนางนันมาดอ แมนู]] พระมเหสีเอก


ต่อพระนางเป็นพระมเหสีตำหนักกลางใน[[พระเจ้ามินดง]] ซึ่งตำแหน่งพระมเหสีตำหนักกลาง มีคำเรียกเป็น[[ภาษาพม่า]]ว่า ''อะแลน่านดอ'' ด้วยพระนามนี้เองจึงกลายเป็นพระนามที่ชาวไทยรู้จักกันทั่วไป พระองค์เป็นมเหสีที่พระเจ้ามินดงโปรดที่สุดพระองค์หนึ่ง และเป็นที่เกรงอกเกรงใจของพระองค์ พระนางอเลนันดอมีพระราชธิดากับพระเจ้ามินดง 3 พระองค์ ได้แก่ [[พระนางศุภยาคยี]], [[พระนางศุภยาลัต]] และ[[พระนางศุภยากเล]] โดยพระธิดาองค์ที่สองของพระองค์คือ [[พระนางศุภยาลัต]]ซึ่งมีนิสัยทะเยอทะยานเช่นเดียวกับพระองค์ ด้วยความที่พระเจ้ามินดงเกรงในพระนางอเลนันดอ พระเจ้ามินดงจึงมิได้ตั้งองค์รัชทายาทไว้ พระนางศุภยาลัตพระธิดาของพระองค์จึงเลือกเจ้าชายสีป่อซึ่งเป็นคนหัวอ่อน โดยพระนางอเลนันดอได้ให้การสนับสนุน เมื่อพระนางศุภยาลัตพระธิดาได้เสกสมรสกับ[[พระเจ้าธีบอ]] แม้พระนางอเลนันดอได้ให้การช่วยเหลือแก่พระนางศุภยาลัตในเบื้องต้น แต่ภายหลังพระนางอเลนันดอถูกให้ไปประทับที่วังอื่นรวมทั้งพระธิดาคือพระนางศุภยาคยีซึ่งเป็นพระกนิษฐา
ต่อพระนางเป็นพระมเหสีตำหนักกลางใน[[พระเจ้ามินดง]] ตำแหน่งพระมเหสีตำหนักกลางมีคำเรียกเป็น[[ภาษาพม่า]]ว่า ''อะแลน่านดอ'' ด้วยพระนามนี้เองจึงกลายเป็นพระนามที่ชาวไทยรู้จักกันทั่วไป พระองค์เป็นมเหสีที่พระเจ้ามินดงโปรดที่สุดพระองค์หนึ่ง และเป็นที่เกรงอกเกรงใจของพระองค์ พระนางอเลนันดอมีพระราชธิดากับพระเจ้ามินดง 3 พระองค์ ได้แก่ [[พระนางศุภยาคยี]], [[พระนางศุภยาลัต]] และ[[พระนางศุภยากเล]] โดยพระธิดาองค์ที่สองของพระองค์คือ [[พระนางศุภยาลัต]]ซึ่งมีนิสัยทะเยอทะยานเช่นเดียวกับพระองค์ ด้วยความที่พระเจ้ามินดงเกรงในพระนางอเลนันดอ พระเจ้ามินดงจึงมิได้ตั้งองค์รัชทายาทไว้ พระนางศุภยาลัตพระธิดาของพระองค์จึงเลือกเจ้าชายสีป่อซึ่งเป็นคนหัวอ่อน โดยพระนางอเลนันดอได้ให้การสนับสนุน เมื่อพระนางศุภยาลัตพระธิดาได้เสกสมรสกับ[[พระเจ้าธีบอ]] แม้พระนางอเลนันดอได้ให้การช่วยเหลือแก่พระนางศุภยาลัตในเบื้องต้น แต่ภายหลังพระนางอเลนันดอถูกให้ไปประทับที่วังอื่นรวมทั้งพระธิดาคือพระนางศุภยาคยีซึ่งเป็นพระกนิษฐา


ต่อมาเมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของ[[อังกฤษ]] [[พระเจ้าธีบอ]] พระนางนางศุภยาลัต รวมถึงพระองค์ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมือง[[บอมเบย์]] ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า และใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง[[มะละแหม่ง]]จนสิ้นพระชนม์<ref>[http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%95_%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2---2131 สุภยาลัต ราชินีโหดองค์สุดท้ายแห่งพม่า]</ref>
ต่อมาเมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของ[[อังกฤษ]] [[พระเจ้าธีบอ]] พระนางนางศุภยาลัต รวมถึงพระองค์ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมือง[[บอมเบย์]] ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า และใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง[[มะละแหม่ง]]จนสิ้นพระชนม์<ref>[http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%95_%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2---2131 สุภยาลัต ราชินีโหดองค์สุดท้ายแห่งพม่า]</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:05, 2 กรกฎาคม 2560

พระนางอเลนันดอ
พระบรมฉายาลักษณ์พระนางซีนบยูมะชีน จัดแสดงที่พระราชวังมัณฑะเลย์ ถ่ายด้วยกระบวนการดาแกโรไทป์
พระมเหสีตำหนักกลางในพระเจ้ามินดง
ประสูติ22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2364
พระราชวังอมรปุระ อมรปุระ ราชอาณาจักรคองบอง
สวรรคต26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2443
ย่างกุ้ง พม่าภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร
(สิริพระชนมายุ 79 พรรษา)
พระราชสวามีพระเจ้ามินดง
พระราชบุตรพระนางศุภยาคยี
พระนางศุภยาลัต
พระนางศุภยากเล
ศรีบวรดิลกสุริยมหาราเชนทรรัตนเทวี[1]
ราชวงศ์อลองพญา
พระราชบิดาพระเจ้าจักกายแมง
พระราชมารดาพระนางนันมาดอ แมนู

พระนางอเลนันดอ มีพระนามจริงว่า ซีนบยูมะชีน (พม่า: ဆင်ဖြူမရှင်, Hsinbyumashin ซึ่งมีความหมายว่า นางพญาช้างเผือก; มีพระนามแรกประสูติว่า ศุภยากะเล) พระราชธิดาในพระเจ้าจักกายแมงแห่งพม่า ที่ประสูติแต่พระนางนันมาดอ แมนู พระมเหสีเอก

ต่อพระนางเป็นพระมเหสีตำหนักกลางในพระเจ้ามินดง ตำแหน่งพระมเหสีตำหนักกลางมีคำเรียกเป็นภาษาพม่าว่า อะแลน่านดอ ด้วยพระนามนี้เองจึงกลายเป็นพระนามที่ชาวไทยรู้จักกันทั่วไป พระองค์เป็นมเหสีที่พระเจ้ามินดงโปรดที่สุดพระองค์หนึ่ง และเป็นที่เกรงอกเกรงใจของพระองค์ พระนางอเลนันดอมีพระราชธิดากับพระเจ้ามินดง 3 พระองค์ ได้แก่ พระนางศุภยาคยี, พระนางศุภยาลัต และพระนางศุภยากเล โดยพระธิดาองค์ที่สองของพระองค์คือ พระนางศุภยาลัตซึ่งมีนิสัยทะเยอทะยานเช่นเดียวกับพระองค์ ด้วยความที่พระเจ้ามินดงเกรงในพระนางอเลนันดอ พระเจ้ามินดงจึงมิได้ตั้งองค์รัชทายาทไว้ พระนางศุภยาลัตพระธิดาของพระองค์จึงเลือกเจ้าชายสีป่อซึ่งเป็นคนหัวอ่อน โดยพระนางอเลนันดอได้ให้การสนับสนุน เมื่อพระนางศุภยาลัตพระธิดาได้เสกสมรสกับพระเจ้าธีบอ แม้พระนางอเลนันดอได้ให้การช่วยเหลือแก่พระนางศุภยาลัตในเบื้องต้น แต่ภายหลังพระนางอเลนันดอถูกให้ไปประทับที่วังอื่นรวมทั้งพระธิดาคือพระนางศุภยาคยีซึ่งเป็นพระกนิษฐา

ต่อมาเมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ พระเจ้าธีบอ พระนางนางศุภยาลัต รวมถึงพระองค์ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมืองบอมเบย์ ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองมะละแหม่งจนสิ้นพระชนม์[2]

อ้างอิง

  1. Christopher Buyers. "The Konbaung Dynasty Genealogy". royalark.net. สืบค้นเมื่อ 2009-09-26.
  2. สุภยาลัต ราชินีโหดองค์สุดท้ายแห่งพม่า