ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็อง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4: บรรทัด 4:
| image = La princesa Maria d'Orleans, princesa de Dinamarca.jpg
| image = La princesa Maria d'Orleans, princesa de Dinamarca.jpg
| caption =
| caption =
| spouse = ใน[[เจ้าชายวัลเดอร์มาร์แห่งเดนมาร์ก]]
| spouse = ใน[[เจ้าชายวัลเดมาร์แห่งเดนมาร์ก]]
| issue = 5 พระองค์
| issue = 5 พระองค์
| full name = มารี อแมเลีย ฟรองซัวแอแล็น ดอร์เลด็อง
| full name = มารี อแมเลีย ฟรองซัวแอแล็น ดอร์เลด็อง
บรรทัด 23: บรรทัด 23:
เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องเป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ในรอแบร็ต ดยุกแห่งชาทร์ ที่ประสูติแก่เจ้าหญิงฟร็องซัวแห่งออร์เลอ็อง บิดาของพระนางเป็นโอรสองค์รองใน[[Ferdinand Philippe, Duke of Orléans|แฟร์ดีนันด์ ฟีลิปป์ ดยุกแห่งออร์เลอ็อง]] กับ[[Duchess Helene of Mecklenburg-Schwerin|ดัชเชสเฮเลนาแห่งเมคเลนบูร์ก-ชเวริน]] เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องประสูติในช่วงที่รัชสมัยของ[[จักรพรรดินโปเลียนที่ 3]] พระนางซึ่งเกิดมาในตระกูลซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับราชวงศ์โบนาปาร์ต จึงต้องไปเติบโตอยู่ในอังกฤษ ซึ่งครอบครัวของพระนางได้ย้ายไปอังกฤษในปี ค.ศ. 1848 แต่หลังจากราชวงศ์โบนาปาร์ตสิ้นอำนาจ ครอบครัวของพระนางก็ได้ย้ายกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้งในปี 1871
เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องเป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ในรอแบร็ต ดยุกแห่งชาทร์ ที่ประสูติแก่เจ้าหญิงฟร็องซัวแห่งออร์เลอ็อง บิดาของพระนางเป็นโอรสองค์รองใน[[Ferdinand Philippe, Duke of Orléans|แฟร์ดีนันด์ ฟีลิปป์ ดยุกแห่งออร์เลอ็อง]] กับ[[Duchess Helene of Mecklenburg-Schwerin|ดัชเชสเฮเลนาแห่งเมคเลนบูร์ก-ชเวริน]] เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องประสูติในช่วงที่รัชสมัยของ[[จักรพรรดินโปเลียนที่ 3]] พระนางซึ่งเกิดมาในตระกูลซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับราชวงศ์โบนาปาร์ต จึงต้องไปเติบโตอยู่ในอังกฤษ ซึ่งครอบครัวของพระนางได้ย้ายไปอังกฤษในปี ค.ศ. 1848 แต่หลังจากราชวงศ์โบนาปาร์ตสิ้นอำนาจ ครอบครัวของพระนางก็ได้ย้ายกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้งในปี 1871


หลังจากได้รับพระราชานุญาติจากพระสันตะปาปา เธอก็อภิเษกสมรสกับ[[เจ้าชายวัลเดอร์มาร์แห่งเดนมาร์ก]]ในปี ค.ศ. 1885 ซึ่งเป็นพระราชโอรสใน[[พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก]] และพระสวามีของพระนางยังเป็นพระเชษฐาของ[[จักรพรรดินีมารีเยีย ฟอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย|จักรพรรดินีมารีเยียแห่งรัสเซีย]]อีกด้วย ซึ่งเจ้าชายวัลเดอร์มาร์ถือเป็นพระสหายคนสนิทของ[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องมีความคิดแบบหัวสมัยใหม่ ทรงเชื่อในความเท่าเทียมทางสังคม แม้ว่าพระองค์จะเป็นเจ้าแต่พระองค์ก็ไม่โปรดพิธีรีตอง มักจะทำองค์ง่ายๆ ทรงโปรดการถ่ายภาพ, วาดภาพ และขี่ม้า พระนางถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเมืองในเดนมาร์กและฝรั่งเศส ทรงมีส่วนในการจัดตั้งพันธมิตรฝรั่งเศส-รัสเซียในปี 1894 ตลอดจนสนธิสัญญาสันติภาพฝรั่งเศส-เยอรมันจากความขัดแย้งเรื่องอาณานิคมโมร็อกโก และในปี 1902 ทรงคัดค้านราชสำนักเดนมาร์กในการยก[[หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา|อาณานิคมแดนิชอินดีส์]]ให้แก่สหรัฐอเมริกา
หลังจากได้รับพระราชานุญาติจากพระสันตะปาปา เธอก็อภิเษกสมรสกับ[[เจ้าชายวัลเดมาร์แห่งเดนมาร์ก]]ในปี ค.ศ. 1885 ซึ่งเป็นพระราชโอรสใน[[พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก]] และพระสวามีของพระนางยังเป็นพระเชษฐาของ[[จักรพรรดินีมารีเยีย ฟอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย|จักรพรรดินีมารีเยียแห่งรัสเซีย]]อีกด้วย ซึ่งเจ้าชายวัลเดอร์มาร์ถือเป็นพระสหายคนสนิทของ[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องมีความคิดแบบหัวสมัยใหม่ ทรงเชื่อในความเท่าเทียมทางสังคม แม้ว่าพระองค์จะเป็นเจ้าแต่พระองค์ก็ไม่โปรดพิธีรีตอง มักจะทำองค์ง่ายๆ ทรงโปรดการถ่ายภาพ, วาดภาพ และขี่ม้า พระนางถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเมืองในเดนมาร์กและฝรั่งเศส ทรงมีส่วนในการจัดตั้งพันธมิตรฝรั่งเศส-รัสเซียในปี 1894 ตลอดจนสนธิสัญญาสันติภาพฝรั่งเศส-เยอรมันจากความขัดแย้งเรื่องอาณานิคมโมร็อกโก และในปี 1902 ทรงคัดค้านราชสำนักเดนมาร์กในการยก[[หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา|อาณานิคมแดนิชอินดีส์]]ให้แก่สหรัฐอเมริกา


พระนางสิ้นพระชนม์ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1909 ในขณะที่พระสวามีและพระโอรสทั้งสามกำลังประทับอยู่ในอินเดียเพื่อรอเดินทางต่อไปยังสยาม
พระนางสิ้นพระชนม์ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1909 ในขณะที่พระสวามีและพระโอรสทั้งสามกำลังประทับอยู่ในอินเดียเพื่อรอเดินทางต่อไปยังสยาม

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:27, 29 มิถุนายน 2560

มารีดอร์เลอ็อง
พระชายาในเจ้าชายวัลเดอร์มาร์แห่งเดนมาร์ก
ประสูติ13 มกราคม ค.ศ. 1865(1865-01-13)
ลอนดอน, สหราชอาณาจักร
สิ้นพระชนม์4 ธันวาคม ค.ศ. 1909(1909-12-04) (44 ปี)
โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก
คู่อภิเษกในเจ้าชายวัลเดมาร์แห่งเดนมาร์ก
พระราชบุตร5 พระองค์
พระนามเต็ม
มารี อแมเลีย ฟรองซัวแอแล็น ดอร์เลด็อง
ราชวงศ์ออร์เลอ็อง
พระราชบิดารอแบร็ต ดยุกแห่งชาทร์
พระราชมารดาเจ้าหญิงฟร็องซัวแห่งออร์เลอ็อง
ศาสนาโรมันคาทอลิก

เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็อง (ฝรั่งเศส: Marie d'Orléans) เป็นเจ้าหญิงชาวฝรั่งเศสซึ่งอภิเษกสมรสเข้าสู่พระราชวงศ์เดนมาร์ก

เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องเป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ในรอแบร็ต ดยุกแห่งชาทร์ ที่ประสูติแก่เจ้าหญิงฟร็องซัวแห่งออร์เลอ็อง บิดาของพระนางเป็นโอรสองค์รองในแฟร์ดีนันด์ ฟีลิปป์ ดยุกแห่งออร์เลอ็อง กับดัชเชสเฮเลนาแห่งเมคเลนบูร์ก-ชเวริน เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องประสูติในช่วงที่รัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 พระนางซึ่งเกิดมาในตระกูลซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับราชวงศ์โบนาปาร์ต จึงต้องไปเติบโตอยู่ในอังกฤษ ซึ่งครอบครัวของพระนางได้ย้ายไปอังกฤษในปี ค.ศ. 1848 แต่หลังจากราชวงศ์โบนาปาร์ตสิ้นอำนาจ ครอบครัวของพระนางก็ได้ย้ายกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้งในปี 1871

หลังจากได้รับพระราชานุญาติจากพระสันตะปาปา เธอก็อภิเษกสมรสกับเจ้าชายวัลเดมาร์แห่งเดนมาร์กในปี ค.ศ. 1885 ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก และพระสวามีของพระนางยังเป็นพระเชษฐาของจักรพรรดินีมารีเยียแห่งรัสเซียอีกด้วย ซึ่งเจ้าชายวัลเดอร์มาร์ถือเป็นพระสหายคนสนิทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องมีความคิดแบบหัวสมัยใหม่ ทรงเชื่อในความเท่าเทียมทางสังคม แม้ว่าพระองค์จะเป็นเจ้าแต่พระองค์ก็ไม่โปรดพิธีรีตอง มักจะทำองค์ง่ายๆ ทรงโปรดการถ่ายภาพ, วาดภาพ และขี่ม้า พระนางถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเมืองในเดนมาร์กและฝรั่งเศส ทรงมีส่วนในการจัดตั้งพันธมิตรฝรั่งเศส-รัสเซียในปี 1894 ตลอดจนสนธิสัญญาสันติภาพฝรั่งเศส-เยอรมันจากความขัดแย้งเรื่องอาณานิคมโมร็อกโก และในปี 1902 ทรงคัดค้านราชสำนักเดนมาร์กในการยกอาณานิคมแดนิชอินดีส์ให้แก่สหรัฐอเมริกา

พระนางสิ้นพระชนม์ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1909 ในขณะที่พระสวามีและพระโอรสทั้งสามกำลังประทับอยู่ในอินเดียเพื่อรอเดินทางต่อไปยังสยาม

อ้างอิง

  • Bertin, Celia (1982). "A False Happiness". Marie Bonaparte: A Life. New York: Harcourt Brace Jovanovich. pp. 85–86. ISBN 0-15-157252-6. From that day, from that moment on, I loved him and I have never had any other friend but him...You will love him too, when you meet him.
  • Vammen, Tinne (2003). "Marie (1865 - 1909) Marie Amélie Francoise Hélène" (ภาษาDanish). Dansk Kvindebiografisk Leksikon (Kvinfo). สืบค้นเมื่อ 23 June 2013.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  • Bertin, Celia (1982). Marie Bonaparte: A Life. New York: Harcourt Brace Jovanovich. p. 102. ISBN 0-15-157252-6.