ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พะโค"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox settlement |
{{Infobox settlement |
||
| native_name = {{nobold|{{my|ပဲခူးမြို့}}}} |
| native_name = {{nobold|{{my|ပဲခူးမြို့}}}} |
||
| official_name = |
| official_name = พะโค |
||
| pushpin_label_position = bottom |
| pushpin_label_position = bottom |
||
| pushpin_map = Burma |
| pushpin_map = Burma |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:17, 25 มิถุนายน 2560
พะโค ပဲခူးမြို့ | |
---|---|
พิกัด: 17°20′12″N 96°28′47″E / 17.33667°N 96.47972°E | |
ประเทศ | พม่า |
เขต | เขตหงสาวดี |
ก่อตั้ง | ?825 |
ความสูง | 13 ฟุต (4 เมตร) |
ประชากร (2012) | |
• ตัวเมือง | 284,179 คน |
• รวมปริมณฑล | 5,739,344 คน |
• ชาติพันธุ์ | พม่า, พม่าเชื้อสายจีน, พม่าเชื้อสายอินเดีย, กะเหรี่ยง |
• ศาสนา | พุทธ |
เขตเวลา | UTC+6.30 (MST) |
พะโค (พม่า: ပဲခူးမြို့, อักษรโรมัน: Bago หรือ Pegu) หรือชื่อในอดีตคือ หงสาวดี (พม่า: ဟံသာဝတီ, [hɔŋsawətɔe] หงสาวะโตย; อักษรโรมัน: Hongsawatoi, Hanthawaddy, Hanthawady, Hanthawadi หรือ Handawaddy) เป็นเมืองหลวงของเขตหงสาวดี ตั้งอยู่ใกล้เมืองเมาะตะมะ ทางตอนใต้ของประเทศพม่า
นครหงสาวดีเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรหงสาวดีของชาวมอญ และอาณาจักรตองอูของชาวพม่า
ประวัติ
หงสาวดีตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำพะโค เป็นเมืองของชาวมอญมาก่อนในอดีต พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เคยเสด็จเข้ามาทำพิธีเจาะพระกรรณที่ฐานพระธาตุมุเตาขณะที่ยังอยู่ในเขตของมอญอยู่ ก่อนที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้จะทำสงครามยึดครองหงสาวดีจากชาวมอญ ในปี พ.ศ. 2082 และสถาปนาเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอู เดิมเมืองหงสาวดีเก่ายุคมอญอยู่บริเวณตะวันออกของพระธาตุมุเตา ต่อมาจึงย้ายและสร้างให้ใหญ่กว่าเดิมในยุคพม่า
หงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง เนื่องจากพระองค์ให้ทรงสร้างพระราชวังของพระองค์ที่ชื่อ กัมโพชธานี ซึ่งนับเป็นพระราชวังใหญ่โตมีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย จนถึงสมัยพระเจ้านันทบุเรงหลังศึกยุทธหัตถีแล้ว นัดจินหน่องได้ผูกมิตรกับเมืองยะไข่และอยุธยาเพื่อเข้าตีหงสาวดี แต่มหาเถรเสียมเพรียมได้ยุยงให้ตองอูไม่เข้ากับอยุธยา ดังนั้นเมื่อทัพตองอูมาถึงหงสาวดีก็ได้เข้าตีและล้อมเมืองเอาไว้ เมื่อทางหงสาวดีทราบข่าวว่าพระนเรศวรปราบทหารตามแนวชายแดนสำเร็จแล้วจึงเปิดประตูเมืองรับทัพตองอู พระเจ้านันทบุเรงมอบสิทธิ์ขาดในการบัญชาการทัพแก่นัดจินหน่องและเชิญพระเจ้านันทบุเรงไปประทับ ณ ตองอู เพื่อเตรียมรับทัพพระนเรศวร ตองอูได้กวาดต้อนพลเรือนและทรัพย์สินไปยังตองอู ทิ้งเมืองให้ยะไข่ปล้นและเผาเมือง ส่วนพระนเรศวรมาถึงหงสาวดีก็เหลือแต่เมืองที่ถูกเผาแล้ว พระนเรศวรจึงยกทัพไปตีตองอูต่อ หลังจากนั้น ศูนย์กลางอำนาจของพม่าได้ย้ายไปยังอังวะ, อมรปุระ และมัณฑะเลย์ตามลำดับ จนถึงวันที่พม่าเสียเอกราชให้แก่อังกฤษ
สัญลักษณ์ของเมือง
สัญลักษณ์เป็นรูปหงส์คู่ มีตำนานของชาวมอญเล่าว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงเมืองหงสาวดีที่สมัยก่อนยังคงเป็นชายหาดริมทะเล พระพุทธเจ้าทรงเห็นหงส์สองตัวว่ายน้ำเล่นกัน จึงทำนายออกมาว่าภายหลังจะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ชาวมอญจึงถือเอาตำนานเรื่องนี้มาเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ตำนานยังกล่าวว่าหงส์คู่นั้นตัวเมียขี่ตัวผู้ จึงมีคำทำนายว่าต่อไปผู้หญิงจะเป็นใหญ่ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือ พระนางเชงสอบู (ตะละแม่ท้าว) กษัตรีย์ของชาวมอญนั่นเอง
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของหงสาวดี คือ พระธาตุชเวมอดอ หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า พระธาตุมุเตา เป็นพระธาตุที่อยู่คู่กับเมืองมานาน เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าภายในได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ เล่ากันว่าเมื่อครั้งใดที่พระเจ้าบุเรงนองจะออกทำศึกจะทรงสักการะขอพรจากพระธาตุนี้ทุกครั้ง และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จมายังที่หงสาวดีนี้ก็ได้ทำการสักการะพระธาตุนี้ด้วย
ปัจจุบัน หงสาวดีเป็นเมืองที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศพม่าด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และศิลปะ วัฒนธรรม
อ้างอิง
ก่อนหน้า | พะโค | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ดอนวุน | เมืองหลวงราชอาณาจักรหงสาวดี (1369 – มกราคม 1539) |
สิ้นสุด | ||
ตองอู | อาณาจักรตองอู (มกราคม 1539 – 30 เมษายน 1550) |
อังวะ | ||
พะโค | เมืองหลวงราชอาณาจักรหงสาวดี (มิถุนายน 1550 – 12 มีนาคม 1552) |
สิ้นสุด | ||
ตองอู | อาณาจักรตองอู (12 มีนาคม 1552 – 19 ธันวาคม 1599) |
อังวะ | ||
อังวะ | อาณาจักรตองอู (14 พฤษภาคม 1613 – 25 มกราคม 1635) |
อังวะ | ||
สถาปนา | เมืองหลวงราชอาณาจักรหงสาวดีใหม่ (พฤศจิกายน 1740 – 6 พฤษภาคม 1757) |
สิ้นสุด |