ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Peerayut 2553 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Peerayut 2553 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 33: บรรทัด 33:
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 [[ราชกิจจานุเบกษา]]ได้เผยแพร่ "พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2558" มีผลให้มหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ สิ้นสุดสถานะความเป็นสถาบันอุดมศึกษาในวันถัดจากวันที่ประกาศราชกิจจานุเบกษา และเป็นการจัดตั้งมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ขึ้นในวันเดียวกัน
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 [[ราชกิจจานุเบกษา]]ได้เผยแพร่ "พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2558" มีผลให้มหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ สิ้นสุดสถานะความเป็นสถาบันอุดมศึกษาในวันถัดจากวันที่ประกาศราชกิจจานุเบกษา และเป็นการจัดตั้งมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ขึ้นในวันเดียวกัน


== วิสัยทัศน์ ==
==== วิสัยทัศน์ ====
มหาวิทยาลัยท้องถิ่นชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตวิชาชีพ เทคโนโลยี นวัตกรรม และบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาชุมชน สังคมในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและสากล
มหาวิทยาลัยท้องถิ่นชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตวิชาชีพ เทคโนโลยี นวัตกรรม และบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาชุมชน สังคมในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและสากล


==== ตราสัญลักษณ์ ====
ตราสัญลักษณ์ มีความหมายดังต่อไปนี้
# รูปยอดใบเสมา มีที่มาจากรูปทรง ๓ รูป ได้แก่
#* ปลายยอดขององค์พระธาตุยาคู ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธี้คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาฬสินธ์ุ สื่อความหมายถึง ป้ญญาและคุณธรรมอันเป็นสองสิ่งที่ประเสริฐที่สุด
#* ใบเสมา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัดกาฬสินธ์ุ สื่อความหมายถึง ความมีอารยธรรม ความยิ่งใหญ่ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรือง
#* เปลวเทียน สื่อความหมายถึง ความสว่างไสว ความรู้ ปัญญา และคุณธรรม
# รูปมือสองข้างประนมเข้าหากัน สื่อความหมายถึง การบูรณาการร่วมกันของสองสถาบัน คือ มหาวิทยาลัยราซภัฏกาฬสินธ์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธ์ุ ซึ่งเป็นหลัก ในการก่อกำเนิดของมหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ
# รูปหยดนํ้า สื่อความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดกาฬสินธ์ุ
# รูปเปลวเทียน แบ่งเป็น ๓ ส่วน สื่อความหมายถึง การผนวกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นปณิธานและพันธกิจของมหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ ที่มุ่งใช้ เพื่อพัฒนาชุมชนและลังคม
# สีของตราสัญลักษณ์เป็นสีฟัาคราม โดยสีฟ้าครามเข้ม สื่อความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ ของความรู้และปัญญา ความเป็นอิสระ แรงบันดาลใจ และพลังความคิดสร้างสรรค์ และสีฟ้าครามอ่อน สื่อความหมายถึง บัณฑิตผู้มีความอดทน มุ่งมั่น สงบ และอ่อนน้อม


== ทำเนียบนายกสภามหาวิทยาลัย ==
== ทำเนียบนายกสภามหาวิทยาลัย ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:55, 20 มิถุนายน 2560

มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
ไฟล์:มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์.png
คติพจน์ความรู้สร้างคุณค่า ภูมิปัญญาสร้างสังคม
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
สถาปนา9 กันยายน พ.ศ. 2558
อธิการบดีรศ.จิระพันธ์ ห้วยแสน
อธิการบดีรศ.จิระพันธ์ ห้วยแสน
นายกสภามหาวิทยาลัยกำลังสรรหา
ที่ตั้ง
พื้นที่นามน
13 หมู่ 14 ตำบลสงเปลือย อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ 46230
พื้นที่ในเมือง
62/1 ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ 46000
เว็บไซต์www.ksu.ac.th
ไฟล์:มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์(ในเมือง).jpg

มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ (อังกฤษ: Kalasin University) คือสถาบันอุดมศึกษาของรัฐตั้งอยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์

ประวัติ

มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 132 ตอนที่ 86 ก เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ให้ควบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ ตาม กฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ ตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มาจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์มีฐานะเป็นนิติบุคคล และเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ซึ่งการควบรวมมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งนี้จะเป็นการปรับปรุงการดำเนินการ และเป็นการลดความซ้ำซ้อนของสถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน โดยให้บทบาทหน้าที่ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2558 ว่าด้วยให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันทางวิชาการที่ให้ความรู้และความชำนาญในการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพและวิชาชีพชั้นสูง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษาและส่งเสริมงานวิจัยเพื่อสร้างและพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี ให้บริการทางวิชาการแก่ท้องถิ่นและสังคม ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชน ทะนุบำรุงศาสนาศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬา รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมของรัฐและท้องถิ่นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

การควบรวมมหาวิทยาลัย

ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2554 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. ..." ซึ่งจะเป็นการควบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์เข้าด้วยกัน[1][2] เป็นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ โดยการผลักดันของนายเดชา ตันติยวรงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และนางบุญรื่น ศรีธเรศ อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีทั้งกลุ่มผู้เห็นด้วยและกลุ่มผู้คัดค้าน โดยให้เหตุผลการคัดค้านว่าจะทำให้สถานที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเดิมถูกทิ้งร้างไป ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหอพักที่เกิดขึ้นโดยรอบมหาวิทยาลัย

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. ..." เพื่อลดความซ้ำซ้อนของสถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน[3]ซึ่งต่อมาในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติในวาระ 3 เห็นชอบให้ "ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. ..." ด้วยคะแนน 173-1 เสียง

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ "พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2558" มีผลให้มหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ สิ้นสุดสถานะความเป็นสถาบันอุดมศึกษาในวันถัดจากวันที่ประกาศราชกิจจานุเบกษา และเป็นการจัดตั้งมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ขึ้นในวันเดียวกัน

วิสัยทัศน์

มหาวิทยาลัยท้องถิ่นชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตวิชาชีพ เทคโนโลยี นวัตกรรม และบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาชุมชน สังคมในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและสากล

ตราสัญลักษณ์

ตราสัญลักษณ์ มีความหมายดังต่อไปนี้

  1. รูปยอดใบเสมา มีที่มาจากรูปทรง ๓ รูป ได้แก่
    • ปลายยอดขององค์พระธาตุยาคู ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธี้คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาฬสินธ์ุ สื่อความหมายถึง ป้ญญาและคุณธรรมอันเป็นสองสิ่งที่ประเสริฐที่สุด
    • ใบเสมา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัดกาฬสินธ์ุ สื่อความหมายถึง ความมีอารยธรรม ความยิ่งใหญ่ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรือง
    • เปลวเทียน สื่อความหมายถึง ความสว่างไสว ความรู้ ปัญญา และคุณธรรม
  2. รูปมือสองข้างประนมเข้าหากัน สื่อความหมายถึง การบูรณาการร่วมกันของสองสถาบัน คือ มหาวิทยาลัยราซภัฏกาฬสินธ์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธ์ุ ซึ่งเป็นหลัก ในการก่อกำเนิดของมหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ
  3. รูปหยดนํ้า สื่อความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดกาฬสินธ์ุ
  4. รูปเปลวเทียน แบ่งเป็น ๓ ส่วน สื่อความหมายถึง การผนวกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นปณิธานและพันธกิจของมหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ ที่มุ่งใช้ เพื่อพัฒนาชุมชนและลังคม
  5. สีของตราสัญลักษณ์เป็นสีฟัาคราม โดยสีฟ้าครามเข้ม สื่อความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ ของความรู้และปัญญา ความเป็นอิสระ แรงบันดาลใจ และพลังความคิดสร้างสรรค์ และสีฟ้าครามอ่อน สื่อความหมายถึง บัณฑิตผู้มีความอดทน มุ่งมั่น สงบ และอ่อนน้อม

ทำเนียบนายกสภามหาวิทยาลัย

นายกสภา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
รายนามนายกสภา วาระการดำรงตำแหน่ง
1. นางสาวอาภรณ์ แก่นวงศ์ พ.ศ. 2558 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559
2. นายบัณฑูร สุภัควณิช 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559 - กันยายน พ.ศ. 2559 [4]

หมายเหตุ คำนำหน้านามของผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย และผู้รักษาการแทนนายกสภามหาวิทยาลัย เป็นคำนำหน้านามตามตำแหน่งทางวิชาการในขณะนั้น

ทำเนียบอธิการบดี

มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
รายนามอธิการบดี วาระการดำรงตำแหน่ง
1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพพร โฆสิระโยธิน พ.ศ. 2558 - 6 มีนาคม 2559 (รักษาราชการแทน)
2. รองศาสตราจารย์ จิระพันธ์ ห้วยแสน 6 มีนาคม พ.ศ. 2559 - 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559 (รักษาราชการแทน)
13 มิถุนายน พ.ศ. 2559 - ปัจจุบัน [5]

หมายเหตุ คำนำหน้านามของผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี และผู้รักษาการแทนอธิการบดี เป็นคำนำหน้านามตามตำแหน่งทางวิชาการในขณะนั้น

การศึกษา

มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ปัจจุบันประกอบด้วยส่วนงานทางวิชาการที่จัดการเรียนการสอนทั้งสิ้น 9 คณะ ดังนี้

โครงสร้างคณะใหม่

มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ได้จัดทำโครงสร้างใหม่ ให้สอดคล้องกับบริบทของมหาวิทยาลัย โดยจะใช้โครงสร้างนี้ในอนาคต

  • คณะเกษตรศาสตร์
  • คณะวิทยาการจัดการ
  • คณะมนุษยศาสตร์
  • คณะสังคมศาสตร์
  • คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์
  • คณะศึกษาศาสตร์
  • คณะสาธารณสุขศาสตร์
  • สถาบันภาษา

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น