ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รถไฟรางเดี่ยว"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
Potapt ย้ายหน้า โมโนเรล ไปยัง รางเดี่ยว
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Monorail Moskau - Einfahrt in Station Telezentrum.jpg|thumb|350px|right|รถโมโนเรลในกรุง[[มอสโก]] [[ประเทศรัสเซีย]]]]
[[ไฟล์:Monorail Moskau - Einfahrt in Station Telezentrum.jpg|thumb|350px|right|รถรางเดี่ยวในกรุง[[มอสโก]] [[ประเทศรัสเซีย]]]]


'''โมโนเรล''' ({{lang-en|monorail}}) เป็นระบบขนส่งทางรางชนิดหนึ่ง ต่างจากระบบเดิมแทนที่จะมีราวเหล็กสองราวประกอบเป็นราง กลับมีลักษณะเป็นราวเหล็กเส้นเดียวให้รถวิ่งผ่าน คำว่าโมโนเรลมีมาตั้งแต่ [[พ.ศ. 2440]]<ref>{{cite web|url=http://www.etymonline.com/index.php?term=monorail |title=Etymology Online entry for monorail |publisher=Etymonline.com |date= |accessdate=2010-09-11}}</ref> โดย[[ออยเกน ลังเกน]] (Eugen Langen) วิศวกรชาวเยอรมัน โดยสมาสคำว่า mono-เดี่ยว และ rail-ราวเหล็กสำหรับประกอบรางรถไฟ เข้าด้วยกัน
'''รางเดี่ยว''' ({{lang-en|monorail}}) เป็นระบบขนส่งทางรางชนิดหนึ่ง ต่างจากระบบเดิมแทนที่จะมีราวเหล็กสองราวประกอบเป็นราง กลับมีลักษณะเป็นราวเหล็กเส้นเดียวให้รถวิ่งผ่าน คำว่า monorail มีมาตั้งแต่ [[พ.ศ. 2440]]<ref>{{cite web|url=http://www.etymonline.com/index.php?term=monorail |title=Etymology Online entry for monorail |publisher=Etymonline.com |date= |accessdate=2010-09-11}}</ref> โดย[[ออยเกน ลังเกน]] (Eugen Langen) วิศวกรชาวเยอรมัน โดยสมาสคำว่า mono-เดี่ยว และ rail-ราวเหล็กสำหรับประกอบรางรถไฟ เข้าด้วยกัน


รถที่ใช้กับโมโนเรล จะวิ่งบนทางที่มีขนาดแคบกว่าตัวรถ<ref>{{cite web|url=http://www.monorails.org/tMspages/WhatIs.html |title=Monorail Society, What is a monorail? |publisher=Monorails.org |date= |accessdate=2010-09-11}}</ref>โดยอาจมีครีบสำหรับกอดรัดให้ตัวรถติดกับทางไว้ก็ได้ นิยมใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดกลาง จำนวนคนไม่มาก ต่างจากระบบรถไฟฟ้ารางหนัก (heavy rail) ซึ่งขนส่งคนได้ในปริมาณที่มากกว่า
รถที่ใช้รางเดี่ยว จะวิ่งบนทางที่มีขนาดแคบกว่าตัวรถ<ref>{{cite web|url=http://www.monorails.org/tMspages/WhatIs.html |title=Monorail Society, What is a monorail? |publisher=Monorails.org |date= |accessdate=2010-09-11}}</ref>โดยอาจมีครีบสำหรับกอดรัดให้ตัวรถติดกับทางไว้ก็ได้ นิยมใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดกลาง จำนวนคนไม่มาก ต่างจากระบบรถรางหนัก (heavy rail) ซึ่งขนส่งคนได้ในปริมาณที่มากกว่า


== ความแตกต่างจากระบบขนส่งรูปแบบอื่น ==
== ความแตกต่างจากระบบขนส่งรูปแบบอื่น ==
=== ความแตกต่าง ===
=== ความแตกต่าง ===
โมโนเรลแตกต่างจาก[[รถราง]]และระบบ[[รางเบา]] โมโนเรลสมัยใหม่มักจะมีการแบ่งพื้นที่จากช่องทางอื่นและคนเดินเท้าอย่างชัดเจน โมโนเรลสามารถเคลื่อนและรองรับได้ด้วยที่รองรับน้ำหนักเพียงส่วนเดียวแตกต่างจากระบบอื่น นอกจากนี้โมโนเรลยังไม่ต้องมีการรับไฟฟ้าจากเสาสาลี่อีกด้วย
รถรางเดี่ยวแตกต่างจาก[[รถราง]]และระบบ[[รางเบา]] รางเดี่ยวสมัยใหม่มักจะมีการแบ่งพื้นที่จากช่องทางอื่นและคนเดินเท้าอย่างชัดเจน รางเดี่ยวสามารถเคลื่อนและรองรับได้ด้วยที่รองรับน้ำหนักเพียงส่วนเดียวแตกต่างจากระบบอื่น นอกจากนี้รางเดี่ยวยังไม่ต้องมีการรับไฟฟ้าจากเสาสาลี่อีกด้วย


=== รถไฟพลังแม่เหล็ก ===
=== รถไฟพลังแม่เหล็ก ===
[[รถไฟพลังแม่เหล็ก]]บางส่วนใช้ในรูปแบบโมโนเรลเช่น Transrapid และ Linimo แต่มีความแตกต่างจากโมโนเรลรูปแบบอื่นที่รถไฟพลังแม่เหล็กจะไม่มีการสัมผัสกับราวโดยตรง
[[รถไฟพลังแม่เหล็ก]]บางส่วนใช้ในรูปแบบรางเดี่ยวเช่น Transrapid และ Linimo แต่มีความแตกต่างจากรางเดี่ยวรูปแบบอื่นที่รถไฟพลังแม่เหล็กจะไม่มีการสัมผัสกับราวโดยตรง


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
ในปี พ.ศ. 2363 อิวาน เอลมานอฟ (Ivan Elmanov) นักประดิษฐ์ชาวรัสเซีย ได้คิดดัดแปลงรางรถไฟธรรมดาที่เคยมีราวเหล็กสองราว ให้เหลือราวเหล็กเพียงเส้นเดียว ในเวลาต่อมา แนวคิดดังกล่าวถูกนำไปปรับใช้ที่อังกฤษในปีต่อมา โดยได้นำไปใช้ที่ท่าเรือเดปฟอร์ด (Deptford Dockyard) กรุงลอนดอน และทางรถไฟสายเชสฮันต์ (Chesthunt) ซึ่งใช้สำหรับขนส่งหินจากเหมืองขุดหิน พร้อมไปกับการขนส่งคนโดยสารอีกด้วย ทางรถไฟสายเชสต์ฮันต์ ถือเป็นทางรถไฟราวเดี่ยวสายแรกที่ขนส่งคนโดยสารสายแรกของโลก<ref>{{cite web|title=Finchley Society Annual General Meeting Minutes|author=Finchley Society|url=http://www.finchleysociety.org.uk/Newsletters/1990s/1997/6-97.pdf|date=1997-06-26|accessdate=2009-04-03}}</ref><ref>{{cite web|title=June 25 - Today in Science History|author=Today in Science History|url=http://www.todayinsci.com/6/6_25.htm|accessdate=2009-04-03}}</ref>
ในปี พ.ศ. 2363 อิวาน เอลมานอฟ (Ivan Elmanov) นักประดิษฐ์ชาวรัสเซีย ได้คิดดัดแปลงรางรถไฟธรรมดาที่เคยมีราวเหล็กสองราว ให้เหลือราวเหล็กเพียงเส้นเดียว ในเวลาต่อมา แนวคิดดังกล่าวได้รับการนำไปปรับใช้ที่อังกฤษในปีต่อมา โดยได้นำไปใช้ที่ท่าเรือเดปฟอร์ด (Deptford Dockyard) กรุงลอนดอน และทางรถไฟสายเชสฮันต์ (Chesthunt) ซึ่งใช้สำหรับขนส่งหินจากเหมืองขุดหิน พร้อมไปกับการขนส่งคนโดยสารอีกด้วย ทางรถไฟสายเชสต์ฮันต์ ถือเป็นทางรถไฟราวเดี่ยวสายแรกที่ขนส่งคนโดยสารสายแรกของโลก<ref>{{cite web|title=Finchley Society Annual General Meeting Minutes|author=Finchley Society|url=http://www.finchleysociety.org.uk/Newsletters/1990s/1997/6-97.pdf|date=1997-06-26|accessdate=2009-04-03}}</ref><ref>{{cite web|title=June 25 - Today in Science History|author=Today in Science History|url=http://www.todayinsci.com/6/6_25.htm|accessdate=2009-04-03}}</ref>


ในยุคแรก ๆ ทางรถโมโนเรลเป็นราวเหล็กรูปปากแตรคู่สำหรับให้ครีบล้อเกาะ แทนระบบเดิมที่ให้ล้อวางบนราวเหล็กสองเส้น บางทีอาจนำตู้โดยสารลงไปแขวนไว้กับล้อที่ติดบนราว แล้วให้ไหลไปตามราวก็ได้ เช่นที่เมืองวูปแปร์ตัล (Wuppertal) ประเทศเยอรมนี ในเวลาต่อมา รถโมโนเรลได้มีการพัฒนาให้มีล้อสองชุด ชุดหนึ่งทำหน้าที่ประคองตัวรถ อีกชุดทำหน้าที่ขับเคลื่อน รถโมโนเรลได้มีการใช้แพร่หลายมากขึ้นโดยลำดับ โดยในปี พ.ศ. 2499<ref>[http://books.google.com/books?id=QuEDAAAAMBAJ&pg=PA77&dq=1954+Popular+Mechanics+January&hl=en&sa=X&ei=jLnBT_OmOpT3gAfc2_WlBQ&ved=0CD4Q6AEwAjgy#v=onepage&q&f=true "First U.S. Monorail Has Trial Run."] ''Popular Mechanics'', June 1956, p. 77.</ref>ได้มีการทดสอบรถโมโนเรลที่เมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส ให้หลังจากนั้นก็มีการนำไปติดตั้งที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์<ref name="monoraildisn">{{cite journal|title=Disneyland Adds Submarine and Monorail|journal=Popular Mechanics|year=1959|month=July|url=http://books.google.com/books?id=ttsDAAAAMBAJ&lpg=PA77&dq=monorail&pg=PA77#v=onepage&q=monorail&f=false|accessdate=21 December 2010}}</ref> รวมไปถึงใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนในกรุงโตเกียวอีกด้วย
ในยุคแรก ๆ ทางรถรางเดี่ยวเป็นราวเหล็กรูปปากแตรคู่สำหรับให้ครีบล้อเกาะ แทนระบบเดิมที่ให้ล้อวางบนราวเหล็กสองเส้น บางทีอาจนำตู้โดยสารลงไปแขวนไว้กับล้อที่ติดบนราว แล้วให้ไหลไปตามราวก็ได้ เช่นที่เมืองวูปแปร์ตัล (Wuppertal) ประเทศเยอรมนี ในเวลาต่อมา รถรางเดี่ยวได้มีการพัฒนาให้มีล้อสองชุด ชุดหนึ่งทำหน้าที่ประคองตัวรถ อีกชุดทำหน้าที่ขับเคลื่อน รถรางเดี่ยวได้มีการใช้แพร่หลายมากขึ้นโดยลำดับ โดยในปี พ.ศ. 2499<ref>[http://books.google.com/books?id=QuEDAAAAMBAJ&pg=PA77&dq=1954+Popular+Mechanics+January&hl=en&sa=X&ei=jLnBT_OmOpT3gAfc2_WlBQ&ved=0CD4Q6AEwAjgy#v=onepage&q&f=true "First U.S. Monorail Has Trial Run."] ''Popular Mechanics'', June 1956, p. 77.</ref>ได้มีการทดสอบรถรางเดี่ยวที่เมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส ให้หลังจากนั้นก็มีการนำไปติดตั้งที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์<ref name="monoraildisn">{{cite journal|title=Disneyland Adds Submarine and Monorail|journal=Popular Mechanics|year=1959|month=July|url=http://books.google.com/books?id=ttsDAAAAMBAJ&lpg=PA77&dq=monorail&pg=PA77#v=onepage&q=monorail&f=false|accessdate=21 December 2010}}</ref> รวมไปถึงใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนในกรุงโตเกียวอีกด้วย


== ชนิดและลักษณะทางเทคนิค ==
== ชนิดและลักษณะทางเทคนิค ==
[[ไฟล์:Schwebebahn ueber Strasse.jpg|thumb|right|[[Wuppertal Schwebebahn]] โมโนเรลแบบแขวนขบวนแรกของโลก]]
[[ไฟล์:Schwebebahn ueber Strasse.jpg|thumb|right|[[Wuppertal Schwebebahn]] รางเดี่ยวแบบแขวนขบวนแรกของโลก]]
รถโมโนเรล สามารถจำแนกตามการจัดวางได้สองแบบคือแบบวางคร่อมราว (straddle-beam) กับแบบแขวนไว้กับราว (suspended)
รถรางเดี่ยว สามารถจำแนกตามการจัดวางได้สองแบบคือแบบวางคร่อมราว (straddle-beam) กับแบบแขวนไว้กับราว (suspended)


รูปแบบโมโนเรลที่นิยมใช้มากที่สุดในทุกวันนี้คือแบบวางคร่อมราว ซึ่งล้อยางจะติดตั้งไว้ที่ด้านใต้ท้องรถและกะบังข้างตัวรถ เพื่อให้ตัวรถสามารถหนีบยึดไว้กับราวคอนกรีตที่มีความกว้างราว 0.6-0.9 เมตรได้ โดยโมโนเรลรูปแบบนี้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากการนำไปใช้โดยบริษัทของ[[เยอรมนี]]อย่างอัลเวก
รูปแบบรางเดี่ยวที่นิยมใช้มากที่สุดในทุกวันนี้คือแบบวางคร่อมราว ซึ่งล้อยางจะติดตั้งไว้ที่ด้านใต้ท้องรถและกะบังข้างตัวรถ เพื่อให้ตัวรถสามารถหนีบยึดไว้กับราวคอนกรีตที่มีความกว้างราว 0.6-0.9 เมตรได้ โดยรางเดี่ยวรูปแบบนี้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากการนำไปใช้โดยบริษัทของ[[เยอรมนี]]อย่างอัลเวก


สำหรับรถแบบแขวนไว้กับราว จะมีแคร่ล้อเหล็กซึ่งวิ่งบนราวเหล็ก ใต้แคร่จะแขวนตู้โดยสารไว้ ระบบดังกล่าวถูกบุกเบิกและนำไปใช้แพร่หลายโดยกลุ่มองค์กรเพื่อการศึกษาธุรกิจแห่งฝรั่งเศส (SAFEGE) และมีการใช้ที่เมืองวูปแปร์ตัล บาร์เมน และเอเบอร์เฟล ประเทศเยอรมนี
สำหรับรถแบบแขวนไว้กับราว จะมีแคร่ล้อเหล็กซึ่งวิ่งบนราวเหล็ก ใต้แคร่จะแขวนตู้โดยสารไว้ ระบบดังกล่าวถูกบุกเบิกและนำไปใช้แพร่หลายโดยกลุ่มองค์กรเพื่อการศึกษาธุรกิจแห่งฝรั่งเศส (SAFEGE) และมีการใช้ที่เมืองวูปแปร์ตัล บาร์เมน และเอเบอร์เฟล ประเทศเยอรมนี


=== พลังงาน ===
=== พลังงาน ===
รถโมโนเรล ขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าที่ส่งผ่านรางที่สามหรือรางไฟ (third rail) แต่บางครั้งอาจใช้เครื่องยนต์ดีเซลขับเคลื่อน<ref>{{cite web|url=http://www.monorails.org/tMspages/Metrail1.html |title=Metrail Test Track Photo Essay - page one of three |publisher=Monorails.org |date=2002-10-18 |accessdate=2010-09-11}}</ref> นอกจากนี้บางระบบในอดีตยังมีการใช้พลังงานในรูปแบบของรถจักรไอน้ำเช่น [[Lartigue Monorail]]
รถรางเดี่ยว ขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าที่ส่งผ่านรางที่สามหรือรางไฟ (third rail) แต่บางครั้งอาจใช้เครื่องยนต์ดีเซลขับเคลื่อน<ref>{{cite web|url=http://www.monorails.org/tMspages/Metrail1.html |title=Metrail Test Track Photo Essay - page one of three |publisher=Monorails.org |date=2002-10-18 |accessdate=2010-09-11}}</ref> นอกจากนี้บางระบบในอดีตยังมีการใช้พลังงานในรูปแบบของรถจักรไอน้ำเช่น [[Lartigue Monorail]]


=== แรงแม่เหล็ก ===
=== แรงแม่เหล็ก ===
ในรถโมโนเรลที่ทันสมัยขึ้นอาจใช้สนามแม่เหล็กยกรถให้ลอยเหนือราวแล้วผลักให้วิ่งไป เรียกว่า[[รถไฟพลังแม่เหล็ก]]หรือแมกเลฟ (MAGLEV) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นระบบรางที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก โดย JR-Maglev ของญี่ปุ่นเป็นเจ้าของสถิติอยู่ที่ 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ราวเกาะสำหรับรถไฟแมกเลฟอาจจะกว้างมากจนไม่อาจเรียกว่าราวเกาะแบบโมโนเรลก็ได้<ref>{{cite web|last=Svensson|first=Einar|title=Definition and Description of Monorail|url=http://www.urbanaut.com/Definition%2520and%2520Description%2520of%2520Monorail.pdf|accessdate=16 August 2012}}</ref><ref>{{cite web|last=society|first=monorail|title=definition of monorail|url=http://www.monorails.org/tmspages/WhatIs.html|publisher=monorail society|accessdate=16 August 2012}}</ref> นอกจากนี้รถไฟพลังแม่เหล็กที่มีความเร็วต่ำกว่านี้มักจะถูกใช้ในเมืองเป็นหลักเช่น Linimo ของญี่ปุ่น
ในรถรางเดี่ยวที่ทันสมัยขึ้นอาจใช้สนามแม่เหล็กยกรถให้ลอยเหนือราวแล้วผลักให้วิ่งไป เรียกว่า[[รถไฟพลังแม่เหล็ก]]หรือแมกเลฟ (MAGLEV) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นระบบรางที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก โดย JR-Maglev ของญี่ปุ่นเป็นเจ้าของสถิติอยู่ที่ 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ราวเกาะสำหรับรถไฟแมกเลฟอาจจะกว้างมากจนไม่อาจเรียกว่าราวเกาะแบบรางเดี่ยวก็ได้<ref>{{cite web|last=Svensson|first=Einar|title=Definition and Description of Monorail|url=http://www.urbanaut.com/Definition%2520and%2520Description%2520of%2520Monorail.pdf|accessdate=16 August 2012}}</ref><ref>{{cite web|last=society|first=monorail|title=definition of monorail|url=http://www.monorails.org/tmspages/WhatIs.html|publisher=monorail society|accessdate=16 August 2012}}</ref> นอกจากนี้รถไฟพลังแม่เหล็กที่มีความเร็วต่ำกว่านี้มักจะถูกใช้ในเมืองเป็นหลักเช่น Linimo ของญี่ปุ่น


== สถิติที่น่าสนใจ ==
== สถิติที่น่าสนใจ ==
* สายรถโมโนเรลที่มีคนโดยสารมากที่สุด: กรุง[[โตเกียว]] มีผู้โดยสาร 311,856 คนต่อวันทำงาน (ปี 2553)<ref>http://www.tokyo-monorail.co.jp/company/profile.html</ref>
* สายรถรางเดี่ยวที่มีคนโดยสารมากที่สุด: กรุง[[โตเกียว]] มีผู้โดยสาร 311,856 คนต่อวันทำงาน (ปี 2553)<ref>http://www.tokyo-monorail.co.jp/company/profile.html</ref>
* สายรถโมโนเรลที่ยาวที่สุด: เมือง[[ฉงชิ่ง]] (สาย 2 และ 3) ระยะทาง 55.6 กิโลเมตร
* สายรถรางเดี่ยวที่ยาวที่สุด: เมือง[[ฉงชิ่ง]] (สาย 2 และ 3) ระยะทาง 55.6 กิโลเมตร
* สายรถไฟพลังแม่เหล็กที่ยาวที่สุด: เมือง[[เซี่ยงไฮ้]] ระยะทาง 30.5 กิโลเมตร
* สายรถไฟพลังแม่เหล็กที่ยาวที่สุด: เมือง[[เซี่ยงไฮ้]] ระยะทาง 30.5 กิโลเมตร
* สายรถโมโนเรลแบบคร่อมราวที่ยาวที่สุด: เมืองฉงชิ่ง สาย 3 ระยะทาง 39.1 กิโลเมตร
* สายรถรางเดี่ยวแบบคร่อมราวที่ยาวที่สุด: เมืองฉงชิ่ง สาย 3 ระยะทาง 39.1 กิโลเมตร
* สายรถโมโนเรลแบบแขวนที่ยาวที่สุด: เมืองชิบะ, ระยะทาง 15.2 กิโลเมตร
* สายรถรางเดี่ยวแบบแขวนที่ยาวที่สุด: เมืองชิบะ, ระยะทาง 15.2 กิโลเมตร
* สายรถโมโนเรลที่เก่าแก่ที่สุดและยังใช้งานอยู่: ชเวเบบาห์น วูปแปร์ตัล (Schwebebahn Wuppertal) สร้าง พ.ศ. 2444
* สายรถรางเดี่ยวที่เก่าแก่ที่สุดและยังใช้งานอยู่: ชเวเบบาห์น วูปแปร์ตัล (Schwebebahn Wuppertal) สร้าง พ.ศ. 2444


== โครงการโมโนเรลในประเทศไทย ==
== โครงการรถรางเดี่ยวในประเทศไทย ==
* โมโนเรลเชียงใหม่
* โมโนเรลเชียงใหม่
* โมโนเรลพัทยา
* โมโนเรลพัทยา

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:39, 17 มิถุนายน 2560

รถรางเดี่ยวในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

รางเดี่ยว (อังกฤษ: monorail) เป็นระบบขนส่งทางรางชนิดหนึ่ง ต่างจากระบบเดิมแทนที่จะมีราวเหล็กสองราวประกอบเป็นราง กลับมีลักษณะเป็นราวเหล็กเส้นเดียวให้รถวิ่งผ่าน คำว่า monorail มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2440[1] โดยออยเกน ลังเกน (Eugen Langen) วิศวกรชาวเยอรมัน โดยสมาสคำว่า mono-เดี่ยว และ rail-ราวเหล็กสำหรับประกอบรางรถไฟ เข้าด้วยกัน

รถที่ใช้รางเดี่ยว จะวิ่งบนทางที่มีขนาดแคบกว่าตัวรถ[2]โดยอาจมีครีบสำหรับกอดรัดให้ตัวรถติดกับทางไว้ก็ได้ นิยมใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดกลาง จำนวนคนไม่มาก ต่างจากระบบรถรางหนัก (heavy rail) ซึ่งขนส่งคนได้ในปริมาณที่มากกว่า

ความแตกต่างจากระบบขนส่งรูปแบบอื่น

ความแตกต่าง

รถรางเดี่ยวแตกต่างจากรถรางและระบบรางเบา รางเดี่ยวสมัยใหม่มักจะมีการแบ่งพื้นที่จากช่องทางอื่นและคนเดินเท้าอย่างชัดเจน รางเดี่ยวสามารถเคลื่อนและรองรับได้ด้วยที่รองรับน้ำหนักเพียงส่วนเดียวแตกต่างจากระบบอื่น นอกจากนี้รางเดี่ยวยังไม่ต้องมีการรับไฟฟ้าจากเสาสาลี่อีกด้วย

รถไฟพลังแม่เหล็ก

รถไฟพลังแม่เหล็กบางส่วนใช้ในรูปแบบรางเดี่ยวเช่น Transrapid และ Linimo แต่มีความแตกต่างจากรางเดี่ยวรูปแบบอื่นที่รถไฟพลังแม่เหล็กจะไม่มีการสัมผัสกับราวโดยตรง

ประวัติ

ในปี พ.ศ. 2363 อิวาน เอลมานอฟ (Ivan Elmanov) นักประดิษฐ์ชาวรัสเซีย ได้คิดดัดแปลงรางรถไฟธรรมดาที่เคยมีราวเหล็กสองราว ให้เหลือราวเหล็กเพียงเส้นเดียว ในเวลาต่อมา แนวคิดดังกล่าวได้รับการนำไปปรับใช้ที่อังกฤษในปีต่อมา โดยได้นำไปใช้ที่ท่าเรือเดปฟอร์ด (Deptford Dockyard) กรุงลอนดอน และทางรถไฟสายเชสฮันต์ (Chesthunt) ซึ่งใช้สำหรับขนส่งหินจากเหมืองขุดหิน พร้อมไปกับการขนส่งคนโดยสารอีกด้วย ทางรถไฟสายเชสต์ฮันต์ ถือเป็นทางรถไฟราวเดี่ยวสายแรกที่ขนส่งคนโดยสารสายแรกของโลก[3][4]

ในยุคแรก ๆ ทางรถรางเดี่ยวเป็นราวเหล็กรูปปากแตรคู่สำหรับให้ครีบล้อเกาะ แทนระบบเดิมที่ให้ล้อวางบนราวเหล็กสองเส้น บางทีอาจนำตู้โดยสารลงไปแขวนไว้กับล้อที่ติดบนราว แล้วให้ไหลไปตามราวก็ได้ เช่นที่เมืองวูปแปร์ตัล (Wuppertal) ประเทศเยอรมนี ในเวลาต่อมา รถรางเดี่ยวได้มีการพัฒนาให้มีล้อสองชุด ชุดหนึ่งทำหน้าที่ประคองตัวรถ อีกชุดทำหน้าที่ขับเคลื่อน รถรางเดี่ยวได้มีการใช้แพร่หลายมากขึ้นโดยลำดับ โดยในปี พ.ศ. 2499[5]ได้มีการทดสอบรถรางเดี่ยวที่เมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส ให้หลังจากนั้นก็มีการนำไปติดตั้งที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์[6] รวมไปถึงใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนในกรุงโตเกียวอีกด้วย

ชนิดและลักษณะทางเทคนิค

Wuppertal Schwebebahn รางเดี่ยวแบบแขวนขบวนแรกของโลก

รถรางเดี่ยว สามารถจำแนกตามการจัดวางได้สองแบบคือแบบวางคร่อมราว (straddle-beam) กับแบบแขวนไว้กับราว (suspended)

รูปแบบรางเดี่ยวที่นิยมใช้มากที่สุดในทุกวันนี้คือแบบวางคร่อมราว ซึ่งล้อยางจะติดตั้งไว้ที่ด้านใต้ท้องรถและกะบังข้างตัวรถ เพื่อให้ตัวรถสามารถหนีบยึดไว้กับราวคอนกรีตที่มีความกว้างราว 0.6-0.9 เมตรได้ โดยรางเดี่ยวรูปแบบนี้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากการนำไปใช้โดยบริษัทของเยอรมนีอย่างอัลเวก

สำหรับรถแบบแขวนไว้กับราว จะมีแคร่ล้อเหล็กซึ่งวิ่งบนราวเหล็ก ใต้แคร่จะแขวนตู้โดยสารไว้ ระบบดังกล่าวถูกบุกเบิกและนำไปใช้แพร่หลายโดยกลุ่มองค์กรเพื่อการศึกษาธุรกิจแห่งฝรั่งเศส (SAFEGE) และมีการใช้ที่เมืองวูปแปร์ตัล บาร์เมน และเอเบอร์เฟล ประเทศเยอรมนี

พลังงาน

รถรางเดี่ยว ขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าที่ส่งผ่านรางที่สามหรือรางไฟ (third rail) แต่บางครั้งอาจใช้เครื่องยนต์ดีเซลขับเคลื่อน[7] นอกจากนี้บางระบบในอดีตยังมีการใช้พลังงานในรูปแบบของรถจักรไอน้ำเช่น Lartigue Monorail

แรงแม่เหล็ก

ในรถรางเดี่ยวที่ทันสมัยขึ้นอาจใช้สนามแม่เหล็กยกรถให้ลอยเหนือราวแล้วผลักให้วิ่งไป เรียกว่ารถไฟพลังแม่เหล็กหรือแมกเลฟ (MAGLEV) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นระบบรางที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก โดย JR-Maglev ของญี่ปุ่นเป็นเจ้าของสถิติอยู่ที่ 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ราวเกาะสำหรับรถไฟแมกเลฟอาจจะกว้างมากจนไม่อาจเรียกว่าราวเกาะแบบรางเดี่ยวก็ได้[8][9] นอกจากนี้รถไฟพลังแม่เหล็กที่มีความเร็วต่ำกว่านี้มักจะถูกใช้ในเมืองเป็นหลักเช่น Linimo ของญี่ปุ่น

สถิติที่น่าสนใจ

  • สายรถรางเดี่ยวที่มีคนโดยสารมากที่สุด: กรุงโตเกียว มีผู้โดยสาร 311,856 คนต่อวันทำงาน (ปี 2553)[10]
  • สายรถรางเดี่ยวที่ยาวที่สุด: เมืองฉงชิ่ง (สาย 2 และ 3) ระยะทาง 55.6 กิโลเมตร
  • สายรถไฟพลังแม่เหล็กที่ยาวที่สุด: เมืองเซี่ยงไฮ้ ระยะทาง 30.5 กิโลเมตร
  • สายรถรางเดี่ยวแบบคร่อมราวที่ยาวที่สุด: เมืองฉงชิ่ง สาย 3 ระยะทาง 39.1 กิโลเมตร
  • สายรถรางเดี่ยวแบบแขวนที่ยาวที่สุด: เมืองชิบะ, ระยะทาง 15.2 กิโลเมตร
  • สายรถรางเดี่ยวที่เก่าแก่ที่สุดและยังใช้งานอยู่: ชเวเบบาห์น วูปแปร์ตัล (Schwebebahn Wuppertal) สร้าง พ.ศ. 2444

โครงการรถรางเดี่ยวในประเทศไทย

  • โมโนเรลเชียงใหม่
  • โมโนเรลพัทยา
  • โมโนเรลหาดใหญ่

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. "Etymology Online entry for monorail". Etymonline.com. สืบค้นเมื่อ 2010-09-11.
  2. "Monorail Society, What is a monorail?". Monorails.org. สืบค้นเมื่อ 2010-09-11.
  3. Finchley Society (1997-06-26). "Finchley Society Annual General Meeting Minutes" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2009-04-03.
  4. Today in Science History. "June 25 - Today in Science History". สืบค้นเมื่อ 2009-04-03.
  5. "First U.S. Monorail Has Trial Run." Popular Mechanics, June 1956, p. 77.
  6. "Disneyland Adds Submarine and Monorail". Popular Mechanics. 1959. สืบค้นเมื่อ 21 December 2010. {{cite journal}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |month= ถูกละเว้น (help)
  7. "Metrail Test Track Photo Essay - page one of three". Monorails.org. 2002-10-18. สืบค้นเมื่อ 2010-09-11.
  8. Svensson, Einar. "Definition and Description of Monorail" (PDF). สืบค้นเมื่อ 16 August 2012.
  9. society, monorail. "definition of monorail". monorail society. สืบค้นเมื่อ 16 August 2012.
  10. http://www.tokyo-monorail.co.jp/company/profile.html